๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 1
...ไม่ทราบ TVIท่านใด ซื้อLTFบ้างครับ...???... :lol:
...สถานการณต่อจากนี้ พี่ๆว่า ระหว่างเอาเงินมาลงทุนเองกับซื้อLTFอย่างไหนดีกว่ากันครับ...
...โดยเฉพาะ ถ้าเปอร์เซนต์ภาษีไปถึง30%แล้ว...
...ขอบคุณครับ...
...สถานการณต่อจากนี้ พี่ๆว่า ระหว่างเอาเงินมาลงทุนเองกับซื้อLTFอย่างไหนดีกว่ากันครับ...
...โดยเฉพาะ ถ้าเปอร์เซนต์ภาษีไปถึง30%แล้ว...
...ขอบคุณครับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 3
คิดตัวเลขแบบคร่าวๆ แล้ว ก็อย่าลืมต้องหารจำนวนปีที่จะลงทุนกับภาษีที่ประหยัดได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่นฐานภาษีระดับ 10% ต้องลงทุนอย่างต่ำ 3 ปี กับอีกไม่กี่วัน ก็เท่ากับว่าจะต้องเอา 10% หาร 3 ดังนั้น LTF จะมีแต้มต่อเหลือเพียง 3% กว่าๆ ต่อปีเท่านั้นpoppo เขียน:ผมซื้อครับแม้ฐานภาษีผมเพียง 10%ผมก็ยังซื้อ
คุณ trillionaire ถ้าฐานภาษี 30% ผมว่าซื้อเถอะครับ ปกติการลงทุนของเราก็ไม่แน่ว่าจะได้ 30% return เสมอไปนะครับ
Impossible is Nothing
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 4
woody wrote
ที่มีควาทรู้ในการลงทุนมากกว่าบริหารให้เราไม่ต้องปวดหัว แถมมีกำไรสำรอง 10 %เป็นต้นทุนแบบที่ชอบเรียกว่า margin of safety ก็น่าจะดีกว่า
ตอนนี้ผมนี้ก็ซื้อ LTF อยูและก็ศึกษาการลงทุนอยู่ เพราะคิดว่าอนาคตเราคงต้องหาปลากินเอง ช่วยเหลือตนเอง่
ผมว่าต้องเอาส่วนต่างราคามาคิดด้วยนะครับ ถ้าคิดแบบการลงทุนแต่ถ้าคิดว่าเป็นการออมเงินแบบให้มืออาชีพคิดตัวเลขแบบคร่าวๆ แล้ว ก็อย่าลืมต้องหารจำนวนปีที่จะลงทุนกับภาษีที่ประหยัดได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่นฐานภาษีระดับ 10% ต้องลงทุนอย่างต่ำ 3 ปี กับอีกไม่กี่วัน ก็เท่ากับว่าจะต้องเอา 10% หาร 3 ดังนั้น LTF จะมีแต้มต่อเหลือเพียง 3% กว่าๆ ต่อปีเท่านั้น
ที่มีควาทรู้ในการลงทุนมากกว่าบริหารให้เราไม่ต้องปวดหัว แถมมีกำไรสำรอง 10 %เป็นต้นทุนแบบที่ชอบเรียกว่า margin of safety ก็น่าจะดีกว่า
ตอนนี้ผมนี้ก็ซื้อ LTF อยูและก็ศึกษาการลงทุนอยู่ เพราะคิดว่าอนาคตเราคงต้องหาปลากินเอง ช่วยเหลือตนเอง่
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 5
3% กว่าๆ ต่อปี
เท่าๆ กับฝากแบงค์ หรือประกันแบบออมเงินเลยครับ
เท่าๆ กับฝากแบงค์ หรือประกันแบบออมเงินเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 7
ผมเชียร์ให้ซื้อ ยิ่งถ้า bracket 30% ยิ่งต้องซื้อtrillionaire เขียน:...ไม่ทราบ TVIท่านใด ซื้อLTFบ้างครับ...???... :lol:
...สถานการณต่อจากนี้ พี่ๆว่า ระหว่างเอาเงินมาลงทุนเองกับซื้อLTFอย่างไหนดีกว่ากันครับ...
...โดยเฉพาะ ถ้าเปอร์เซนต์ภาษีไปถึง30%แล้ว...
...ขอบคุณครับ...
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 8
...คิดไม่ตกจริงๆ เดือนนี้ภาษีเอาไปกินอีกตั้งห้าหมื่น...
...เนี่ยได้เงินincentiveมาสองแสน แอบเอาไปเข้าSTPIวันเดียวได้มาแล้ว4%...
...แต่มันจะได้ยังงี้บ่อยๆรึนี่...คิดไม่ตกๆ
...เนี่ยได้เงินincentiveมาสองแสน แอบเอาไปเข้าSTPIวันเดียวได้มาแล้ว4%...
...แต่มันจะได้ยังงี้บ่อยๆรึนี่...คิดไม่ตกๆ
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 9
ผมเป็นนักลงทุนเชิงรับ ฝีมือไม่ค่อยดี ถ้าเอามาลงเองหมดอาจจอสะระเอ๊งก็ได้ เลยไปลง ltfไว้บ้าง แบบDCAเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัว
แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองเก่งกว่ากองทุนอยู่แล้วก็อาจจะไม่คุ้ม
สรุปแล้วต้อง titrate เองว่าตัวเองน่าจะเหมาะกับแบบไหน
แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองเก่งกว่ากองทุนอยู่แล้วก็อาจจะไม่คุ้ม
สรุปแล้วต้อง titrate เองว่าตัวเองน่าจะเหมาะกับแบบไหน
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 10
สมมุติว่า
1. ได้เงินคืน 3.5 ปีให้หลัง (แบบว่าเงินเยอะ ลืมถอนกันมั่ง)
2. NAV ไม่เปลี่ยนเลย
ฐานภาษี ผลตอบแทนทบต้น
10% 2.76%
20% 5.35%
30% 7.78%
NAV น่าจะเพิ่มบ้างเพราะยังไงปันผลก็โดน Reinvest ใหม่
ถ้าไม่เพิ่มเลยก็ไล่ Fund Manager ออกเถอะครับ
1. ได้เงินคืน 3.5 ปีให้หลัง (แบบว่าเงินเยอะ ลืมถอนกันมั่ง)
2. NAV ไม่เปลี่ยนเลย
ฐานภาษี ผลตอบแทนทบต้น
10% 2.76%
20% 5.35%
30% 7.78%
NAV น่าจะเพิ่มบ้างเพราะยังไงปันผลก็โดน Reinvest ใหม่
ถ้าไม่เพิ่มเลยก็ไล่ Fund Manager ออกเถอะครับ
I do not sleep. I dream.
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 11
เคยฟังงานเสวนา ...
ดร.นิเวศน์ท่านยังซื้อกอง LTF ทุกปีเลยครับ
ส่วนใหญ่ท่านจะซื้อช่วงปลายๆปี
เพราะจะได้ครบ 5 ปีปฏิทินเร็วหน่อย
ดร.นิเวศน์ท่านยังซื้อกอง LTF ทุกปีเลยครับ
ส่วนใหญ่ท่านจะซื้อช่วงปลายๆปี
เพราะจะได้ครบ 5 ปีปฏิทินเร็วหน่อย
"Winners never quit, and quitters never win."
- Banchap
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 12
ผมก็ซื้ออยู่ครับ วิเคราะห์ไม่ค่อยเก่ง หาหุ้นเจ๋ง ๆไม่ค่อยเจอ
นอกจากการวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน ก็อยากหัดวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วย
เอาภาษีที่ได้คืนมา มาหัดอยู่ครับ เจ๊งหมดก็ไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่ คิดว่าเป็นค่ายกครู
นอกจากการวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน ก็อยากหัดวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วย
เอาภาษีที่ได้คืนมา มาหัดอยู่ครับ เจ๊งหมดก็ไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่ คิดว่าเป็นค่ายกครู
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
คลังเลิกหนุนภาษีLTF
โพสต์ที่ 13
รู้สึกยังไงกับข่าวนี้คะ
http://www.posttoday.com/newsdet.php?se ... &id=135532
คลังเลิกหนุนภาษีLTF
โพสต์ทูเดย์ — ข่าวร้ายนักลงทุน กระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษี “LTF” ทำให้ผู้ลงทุนหมดสิทธิได้ลดหย่อนภาษี 15% หรือไม่เกิน 3 แสนบาทต่อคนต่อปี
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เห็นชอบที่จะไม่ต่ออายุมาตรการภาษีสำหรับกองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF ซึ่งจะครบกำหนดมาตรการ ในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2550 ทำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไม่สามารถขอตั้งกองทุนใหม่ได้เพื่อรับสิทธิดังกล่าวได้อีกต่อไป
สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุนซื้อหน่วยลงทุนกองทุน LTF จะสามารถนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้ 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อคนต่อปี
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหน่วยลงทุนจะต้องถือหน่วยให้ครบ 5 ปี หากขายหน่วยลงทุนก่อน 5 ปี จะต้องคืนภาษีที่ได้รับ ลดหย่อน พร้อมกับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 1.5% ของภาษีที่ได้รับการลดหย่อน คืนให้กับกรมสรรพากร
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ากองทุนดังกล่าวเน้นส่งเสริมการลงทุนในทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์มากกว่าจะเน้นให้ประชาชนออมระยะยาว
ทั้งนี้ มาตรการภาษีกองทุน LTF เกิดขึ้นสมัย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนในตลาดหุ้นโดยผ่านกองทุนรวม
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้สนับสนุนให้ออกกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อส่งเสริมการออม และส่งเสริมการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมุ่งเน้นให้นักลงทุนลงทุนในตลาดหุ้นผ่านนักลงทุนสถาบัน โดยภายหลังจากยกเลิกกองทุน LTF แล้ว กระทรวงการคลังจะ ยังคงสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกองทุน RMF ไว้เหมือนเดิม สามารถ นำเงินที่ลงทุนลดหย่อนภาษีได้จนผู้ถือหน่วยอายุครบ 55 ปี
แหล่งข่าวกล่าวว่า การยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกองทุน LTF จะกระทบต่อ บลจ.ที่เปิดขายหน่วยลงทุนกองทุน LTF ในปัจจุบัน ซึ่งอาจถึง ขั้นต้องปิดกองทุนเนื่องจากขาดความ น่าสนใจในการลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนรวมทั่วไปที่ลงทุนในหุ้น ที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
ปัจจุบัน กองทุน LTF มีทั้งสิ้น 32 กองทุน อยู่ภายใต้การบริหาร บลจ. จำนวน 18 แห่ง มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 2 หมื่นกว่าล้านบาท สำหรับนโยบายของกองทุน LTF ประกอบด้วยการลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งผู้ลงทุนจะ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขถึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และไม่สามารถโอนหน่วยลงทุนเป็นหลักประกันได้
http://www.posttoday.com/newsdet.php?se ... &id=135532
คลังเลิกหนุนภาษีLTF
โพสต์ทูเดย์ — ข่าวร้ายนักลงทุน กระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษี “LTF” ทำให้ผู้ลงทุนหมดสิทธิได้ลดหย่อนภาษี 15% หรือไม่เกิน 3 แสนบาทต่อคนต่อปี
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เห็นชอบที่จะไม่ต่ออายุมาตรการภาษีสำหรับกองทุนหุ้นระยะยาว หรือ LTF ซึ่งจะครบกำหนดมาตรการ ในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2550 ทำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไม่สามารถขอตั้งกองทุนใหม่ได้เพื่อรับสิทธิดังกล่าวได้อีกต่อไป
สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับนักลงทุนซื้อหน่วยลงทุนกองทุน LTF จะสามารถนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้ 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อคนต่อปี
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหน่วยลงทุนจะต้องถือหน่วยให้ครบ 5 ปี หากขายหน่วยลงทุนก่อน 5 ปี จะต้องคืนภาษีที่ได้รับ ลดหย่อน พร้อมกับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 1.5% ของภาษีที่ได้รับการลดหย่อน คืนให้กับกรมสรรพากร
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ากองทุนดังกล่าวเน้นส่งเสริมการลงทุนในทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์มากกว่าจะเน้นให้ประชาชนออมระยะยาว
ทั้งนี้ มาตรการภาษีกองทุน LTF เกิดขึ้นสมัย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนในตลาดหุ้นโดยผ่านกองทุนรวม
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้สนับสนุนให้ออกกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อส่งเสริมการออม และส่งเสริมการลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมุ่งเน้นให้นักลงทุนลงทุนในตลาดหุ้นผ่านนักลงทุนสถาบัน โดยภายหลังจากยกเลิกกองทุน LTF แล้ว กระทรวงการคลังจะ ยังคงสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกองทุน RMF ไว้เหมือนเดิม สามารถ นำเงินที่ลงทุนลดหย่อนภาษีได้จนผู้ถือหน่วยอายุครบ 55 ปี
แหล่งข่าวกล่าวว่า การยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกองทุน LTF จะกระทบต่อ บลจ.ที่เปิดขายหน่วยลงทุนกองทุน LTF ในปัจจุบัน ซึ่งอาจถึง ขั้นต้องปิดกองทุนเนื่องจากขาดความ น่าสนใจในการลงทุน เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนรวมทั่วไปที่ลงทุนในหุ้น ที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
ปัจจุบัน กองทุน LTF มีทั้งสิ้น 32 กองทุน อยู่ภายใต้การบริหาร บลจ. จำนวน 18 แห่ง มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 2 หมื่นกว่าล้านบาท สำหรับนโยบายของกองทุน LTF ประกอบด้วยการลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งผู้ลงทุนจะ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขถึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และไม่สามารถโอนหน่วยลงทุนเป็นหลักประกันได้
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
- tatandchin
- Verified User
- โพสต์: 775
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 15
คาดว่าผลกระทบจากคลังเลิกหนุนภาษี น่าจะทำให้กองทุน LTF ไม่โตแล้วและจะเล็กลงด้วยหลังจากที่หน่วยลงทุนที่ซื้อไปในปีแรกๆ เริ่มครบกำหนดไถ่ถอนได้ (5ปี หรือ 3ปีปฏิทิน) ซึ่งผลที่ตามมาคือ
1.บลจ. อาจไม่ให้ความสำคัญกับกองทุนที่มีขนาดเล็กลง
2. ถ้าเงินที่ลงทุนในหน่วยลงทุนทั้ง 100% ที่ไถ่ถอนออกไป ยังคงกลับมาลงทุนใน ตลท. คิดว่าไม่น่าจะมีผลต่อมูลค่าหน่วยลงทุน (แต่มูลค่าอาจลดลงซึ่งเป็นผลมาจากข้อ1)
ลองคิดเล่นๆ ดูครับ
1.บลจ. อาจไม่ให้ความสำคัญกับกองทุนที่มีขนาดเล็กลง
2. ถ้าเงินที่ลงทุนในหน่วยลงทุนทั้ง 100% ที่ไถ่ถอนออกไป ยังคงกลับมาลงทุนใน ตลท. คิดว่าไม่น่าจะมีผลต่อมูลค่าหน่วยลงทุน (แต่มูลค่าอาจลดลงซึ่งเป็นผลมาจากข้อ1)
ลองคิดเล่นๆ ดูครับ
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 16
เสียดายที่จะยกเลิก LTF ปกติผมจะซื้อไว้ค่อนข้างมาก ทั้ง RMF และ LTF ลดภาษีได้อย่างมีนัยสำคัญครับ โดยเฉพาะ LTF ถ้าถือ ครบห้าปีแล้วไม่ได้ Capital Gain เลย ขายไป ก็ยังได้กำไรจากภาษีคิดง่ายๆก็ประมาณ อัตราภาษีที่จ่ายอยู่หารด้วยห้า ถ้าอัตราภาษี 30% ก็ 6% ต่อปี ถ้าภาษี 20% ก็ 4% ต่อปี (แต่ก็อาจจะมี Capital Loss ก็ได้นะครับ)
กำลังจะคิดเอา LTF มาวนลดภาษีอยู่ทีเดียวเชียว (ถ้าครบห้าปี ขาย แล้ว ซื้อใหม่) จะได้ไม่ต้องเอาเงินมาลงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ได้ลดภาษี สงสัยรัฐบาล เห็นว่า เป็นการให้ผลประโยชน์ทางภาษีอย่างต่อเนื่อง ก็เลยยกเลิก ตอนแรกผมยังสงสัยเลยว่า รัฐทำไมใจดีอย่างนี้ ถือแค่ห้าปีก็ได้ (ตามวิธีนับจริงไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำ)
It is, finally, too good to be true.
กำลังจะคิดเอา LTF มาวนลดภาษีอยู่ทีเดียวเชียว (ถ้าครบห้าปี ขาย แล้ว ซื้อใหม่) จะได้ไม่ต้องเอาเงินมาลงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ได้ลดภาษี สงสัยรัฐบาล เห็นว่า เป็นการให้ผลประโยชน์ทางภาษีอย่างต่อเนื่อง ก็เลยยกเลิก ตอนแรกผมยังสงสัยเลยว่า รัฐทำไมใจดีอย่างนี้ ถือแค่ห้าปีก็ได้ (ตามวิธีนับจริงไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำ)
It is, finally, too good to be true.
Everything I do, I do it for you.
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
๑๑๑...TVI กับ LTF...๑๑๑
โพสต์ที่ 19
เมื่อวานดูคุณวิเชฐ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ มาอธิบายดังนี้
กองทุน LTF ใหม่:
หลังมิถุนายน 2550 เปิดไม่ได้
กองทุน LTF เก่า รวมทั้ง ที่เปิดภายในมิถุนายน 2550:
เงินที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเหล่านี้ ภายในธันวาคม 2559 (ดูวันที่ซื้อ) จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี แต่ต้องถือไว้ 5 ปีหลังจากซื้อ (วิธีนับปี ทุกท่านคงทราบกันอยู่แล้ว)
กองทุน LTF ใหม่:
หลังมิถุนายน 2550 เปิดไม่ได้
กองทุน LTF เก่า รวมทั้ง ที่เปิดภายในมิถุนายน 2550:
เงินที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเหล่านี้ ภายในธันวาคม 2559 (ดูวันที่ซื้อ) จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี แต่ต้องถือไว้ 5 ปีหลังจากซื้อ (วิธีนับปี ทุกท่านคงทราบกันอยู่แล้ว)
Everything I do, I do it for you.