อิจฉาจัง ตอนนี้ ดร.นิเวศน์ กำลังเที่ยว เชียงใหม่ อยู่คับ
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
อิจฉาจัง ตอนนี้ ดร.นิเวศน์ กำลังเที่ยว เชียงใหม่ อยู่คับ
โพสต์ที่ 3
ตอน ดร. โทรมาเข้ารายการคุณสุนัน
ก็แค่ถามว่าวันนี้ตลาดเปิดมาเป็นยังไงบ้างครับ?
ด้วยน้ำเสียงเนิบๆ สบายๆ ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหลังจากที่ดัชนีหุ้นตกเป็นประวัติศาสตร์ 108 จุด
ท่ามกลางเสียงโอดโอยของนักลงทุนทั่วประเทศ
แต่ ดร. พาครอบครัวเที่ยวภาคเหนือแบบชิวๆ
หัวใจท่านมั่นคงดั่งภูผาจริงๆเลยครับ
[/u]
ก็แค่ถามว่าวันนี้ตลาดเปิดมาเป็นยังไงบ้างครับ?
ด้วยน้ำเสียงเนิบๆ สบายๆ ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหลังจากที่ดัชนีหุ้นตกเป็นประวัติศาสตร์ 108 จุด
ท่ามกลางเสียงโอดโอยของนักลงทุนทั่วประเทศ
แต่ ดร. พาครอบครัวเที่ยวภาคเหนือแบบชิวๆ
หัวใจท่านมั่นคงดั่งภูผาจริงๆเลยครับ
[/u]
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
อิจฉาจัง ตอนนี้ ดร.นิเวศน์ กำลังเที่ยว เชียงใหม่ อยู่คับ
โพสต์ที่ 7
ดีต้อง
เราเอกนะ เป็นไงมั่งเห็นนายโพสกระทู้ ได้ช้อนมั่งมั้ย เราตุนไว้เพียบตอนบ่ายๆ EIEI นายคงสบายดีนะ บ้านเราอากาศหนาว
โคตร ตั้งแต่ตอน Thai Investor Day ที่เจอนายครั้งแรกหลังจากเรียนจบ เราก็พึ่งเข้าเว็บมาดูวันนี้ว่า ชาว VI ทั้งพันธุ์แท้หรือพันธุ์ผสมแบบเราเป็นไงกันมั่งดูละวีนแตกกันน่าดู ส่วนเรานั่งดูจอคอมด้วยความกระหาย รอซื้อตอนหลุด 600 จุด นี่แสดงว่าคนที่ลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบเดิมๆแทบไม่เปลี่ยนเลย แต่หุ้นตัวเก่าเราก็ยังไม่ได้ขายนา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการขายหุ้นตอนได้ราคาดีๆ และซื้อกลับตอนราคาถูกๆเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่ซึ่งใช้ได้ดีในยุครัฐบาลปัจจุบันเป็นอันมาก คิดได้ไงคนไม่จบสูงแต่อ่านวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจเป็นประจำยังรู้เลย กรรมของประเทศไทยว่ะ :wall:
เราเอกนะ เป็นไงมั่งเห็นนายโพสกระทู้ ได้ช้อนมั่งมั้ย เราตุนไว้เพียบตอนบ่ายๆ EIEI นายคงสบายดีนะ บ้านเราอากาศหนาว
โคตร ตั้งแต่ตอน Thai Investor Day ที่เจอนายครั้งแรกหลังจากเรียนจบ เราก็พึ่งเข้าเว็บมาดูวันนี้ว่า ชาว VI ทั้งพันธุ์แท้หรือพันธุ์ผสมแบบเราเป็นไงกันมั่งดูละวีนแตกกันน่าดู ส่วนเรานั่งดูจอคอมด้วยความกระหาย รอซื้อตอนหลุด 600 จุด นี่แสดงว่าคนที่ลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบเดิมๆแทบไม่เปลี่ยนเลย แต่หุ้นตัวเก่าเราก็ยังไม่ได้ขายนา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการขายหุ้นตอนได้ราคาดีๆ และซื้อกลับตอนราคาถูกๆเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่ซึ่งใช้ได้ดีในยุครัฐบาลปัจจุบันเป็นอันมาก คิดได้ไงคนไม่จบสูงแต่อ่านวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจเป็นประจำยังรู้เลย กรรมของประเทศไทยว่ะ :wall:
-
- Verified User
- โพสต์: 255
- ผู้ติดตาม: 0
อิจฉาจัง ตอนนี้ ดร.นิเวศน์ กำลังเที่ยว เชียงใหม่ อยู่คับ
โพสต์ที่ 9
เราก็ความรู้น้อยเราเอกนะ เป็นไงมั่งเห็นนายโพสกระทู้ ได้ช้อนมั่งมั้ย เราตุนไว้เพียบตอนบ่ายๆ EIEI นายคงสบายดีนะ บ้านเราอากาศหนาว
โคตร ตั้งแต่ตอน Thai Investor Day ที่เจอนายครั้งแรกหลังจากเรียนจบ เราก็พึ่งเข้าเว็บมาดูวันนี้ว่า ชาว VI ทั้งพันธุ์แท้หรือพันธุ์ผสมแบบเราเป็นไงกันมั่งดูละวีนแตกกันน่าดู ส่วนเรานั่งดูจอคอมด้วยความกระหาย รอซื้อตอนหลุด 600 จุด นี่แสดงว่าคนที่ลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังมีอารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบเดิมๆแทบไม่เปลี่ยนเลย แต่หุ้นตัวเก่าเราก็ยังไม่ได้ขายนา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการขายหุ้นตอนได้ราคาดีๆ และซื้อกลับตอนราคาถูกๆเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่ซึ่งใช้ได้ดีในยุครัฐบาลปัจจุบันเป็นอันมาก คิดได้ไงคนไม่จบสูงแต่อ่านวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจเป็นประจำยังรู้เลย กรรมของประเทศไทยว่ะ
ลองอ่านอันนี้ดูนะ
เราว่ามีประโยชน์มากเลยละ :D
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=21794
บทความจากคุณ IH ครับ
ตอนสุดท้าย
ส่วนคำถามยอดฮิตว่าในภาวะตลาดหุ้นเช่นนี้ควรทำอย่างไร ตามหัวข้อกระทู้ครับคือพื้นฐานของหุ้นในแต่ละบริษัทโดยส่วนใหญ่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนจากมาตรการดังกล่าวนัก ยกเว้นหุ้นที่อาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินหรือภาวะดัชนีโดยตรง เช่น กลุ่มส่งออก กลุ่มหลักทรัพย์
ดังนั้นผมคิดว่าก็เป็นโอกาสหนึ่งที่จะได้สะสมหุ้น value เข้าพอร์ต โดยให้พิจารณาไม่ใช่แค่ว่าหุ้นไหนลงมากแล้วน่าซื้อทุกตัว คงจะต้องดูพื้นฐานของหุ้น p/e ratio และแนวโน้มธุรกิจในอีก 5-10 ปีข้างหน้าประกอบด้วยครับ ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปซื้อหุ้นที่ยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนแล้วหวังว่าในปีต่อๆ ไปจะดีเพราะในตลาดหุ้นตอนนี้ก็ยังมีหุ้นจำนวนมากที่มีผลการดำเนินงานที่มีกำไรครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีหุ้นเต็มพอร์ตแล้วก็คงต้องทำใจและอดทนถือต่อไปโดยเฉพาะหากเชื่อว่าหุ้นที่เลือกมาเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในระยะยาวแล้ว แต่หากจะปรับพอร์ตก็คงทำได้คือการขายหุ้นที่ beta ต่ำๆ ( ลงน้อยกว่าตลาดมาก ) มาซื้อหุ้นที่มี beta สูงกว่า โดยมีข้อแม้ว่าหุ้นทั้ง 2 ตัวต้องมีคุณภาพใกล้เคียงกัน คือ ไม่ควรขายตัวดึที่ลงน้อยกว่ามาซื้อหุ้นเน่าที่ลงมากกว่า แต่จะต้องขายหุ้นดีที่ลงน้อยกว่ามาซื้อหุ้นดีเช่นกันแต่ลงมากกว่า
ผมคิดว่าหากรักจะลงทุนในหุ้น ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคารค่อนข้างมาก เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวที่ตลาดลงแรงๆ แบบนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนจะต้องประสบอยู่เป็นระยะครับ ครั้งก่อนๆ ก็จะเป็นเหตุการณ์ 911 ที่ดัชนีลงจาก 350 จุดเหลือ 260 จุดภายในไม่กี่วัน คิดเป็นการลง 25% หรือเท่ากับการลง 180 จุดหากคิดเทียบเท่าดัชนี 740 ซึ่งเป็นดัชนีของปีนี้ ดังนั้นหวังว่านักลงทุนทุกคนจะได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์จากการลงทุนในอนาคตครับ แม้ว่านักลงทุนหลายคนอาจจะขาดทุนหรือตัดสินใจผิดพลาดในการซื้อขายในวันนี้ เช่น ขายแล้วยังไม่ได้ซื้อกลับ ฯลฯ แต่ก็ขอให้คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้แม้อาจจะมีราคาแพงแต่ก็จะเป็นบทเรียนที่ดีครับ เพราะอนาคตข้างหน้า การปรรับลดลงของดัชนีที่มากกว่านี้อาจจะเกิดขึ้นก็ได้ ยกตัวอย่างในช่วงทศววรษ 1930 ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 90% จากระดับสูงสุดทีเดียวครับ
เรื่องนี้อาจจะสอนอย่างหนึ่งได้ว่า ซื้อหุ้นเวลาหุ้นลงหนักๆ มือเท้าเย็น บางคนเคาะไปมือสั่นไปเติม 0 เกินมาตัว อาจจะได้กำไรมากกว่าซื้อหุ้นเวลาเรามั่นใจสุดขีดครับ