แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 1
ตั้งแต่เมื่อวานผมนั่งงมโข่งอยู่หน้าโปรแกรม EXCEL
พยายามเขียนบัญชีสำหรับหุ้น ตัวนี้ 3rd Ed. แล้วครับ
ปรับปรุงปีละครั้ง ไม่ถูกใจซะทีครับ คาดว่าคงปรับปรุงอีกสักสองปี ถึงจะเข้าที่ :lol:
ปีนี้เอา IRR ที่พี่หวีสอนมาใส่ใน Sheet ครับ
แล้วก็ตัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ให้รกหน้าจอ
เลยอยากจะมาถามท่าน ๆ ครับว่า มีแนวคิดในการทำบัญชี สำหรับหุ้นอย่างไรกันบ้างครับ
แล้วปัญหาที่ประสบในการทำบัญชีของแต่ละท่านมีอะไรกันบ้างครับ
ของผมแบ่ง Port ตามสินทรัพย์เป็น 3 ส่วนครับ
ส่วนของเงินสด ส่วนของหุ้น และส่วนของลูกหนี้ (ยืมเงินตัวเองครับ)
ผลตอบแทนจะคิดเป็นสองแบบ คือคิดจากฐานต้นทุน กับคิดจาก Growth เป็นปีต่อปี (IRR) ตัวหลังนี่จะเอามาใช้ในปีหน้าครับ
ปัญหาที่เจอตอนนี้ก็
- สับสนใน Concept การคิด % ผลตอบแทน เช่น ผลตอบแทนที่รับรู้แล้ว(Capital Gain/Loss + Dividend) นั้นจะเอาต้นทุนเฉพาะส่วนที่ขายหรือต้นทุนทั้งหมดที่มีของหุ้นตัวนั้นมาเป็นตัวหาร
- สับสนใน Concept ของทุน ว่าผมควรจะนับเอาผลตอบแทนที่เกิดขึ้นระหว่างปี มารวมเป็นทุนด้วยหรือไม่ ตอนนี้เลยมี Capital สามค่าให้ตัวเองงงเล่นครับ :lol: คือส่วนที่ไม่รวมผลตอบแทน ส่วนที่รวมผลตอบแทน กับส่วนที่รวมกำไรทางบัญชีด้วย
- ยังคิดไม่ออกว่าจะยกยอดสินทรัพย์สุทธิของปีก่อนมาอย่างไรจึงจะถูกหลัก แล้วอันนี้ก็กลัวการนับซ้ำด้วยครับ
ดูบัญชีตัวเองแล้วอาการสาหัสจริง ๆ
ยังไม่ได้เขียนส่วน IRR
ถ้าได้ลองใช้จริงคงต้องปรับอีกเป็นพะเรอเกวียน :oops:
บัญชีของแต่ละท่านเป็นอย่างไรกันบ้างครับ :D
พยายามเขียนบัญชีสำหรับหุ้น ตัวนี้ 3rd Ed. แล้วครับ
ปรับปรุงปีละครั้ง ไม่ถูกใจซะทีครับ คาดว่าคงปรับปรุงอีกสักสองปี ถึงจะเข้าที่ :lol:
ปีนี้เอา IRR ที่พี่หวีสอนมาใส่ใน Sheet ครับ
แล้วก็ตัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ให้รกหน้าจอ
เลยอยากจะมาถามท่าน ๆ ครับว่า มีแนวคิดในการทำบัญชี สำหรับหุ้นอย่างไรกันบ้างครับ
แล้วปัญหาที่ประสบในการทำบัญชีของแต่ละท่านมีอะไรกันบ้างครับ
ของผมแบ่ง Port ตามสินทรัพย์เป็น 3 ส่วนครับ
ส่วนของเงินสด ส่วนของหุ้น และส่วนของลูกหนี้ (ยืมเงินตัวเองครับ)
ผลตอบแทนจะคิดเป็นสองแบบ คือคิดจากฐานต้นทุน กับคิดจาก Growth เป็นปีต่อปี (IRR) ตัวหลังนี่จะเอามาใช้ในปีหน้าครับ
ปัญหาที่เจอตอนนี้ก็
- สับสนใน Concept การคิด % ผลตอบแทน เช่น ผลตอบแทนที่รับรู้แล้ว(Capital Gain/Loss + Dividend) นั้นจะเอาต้นทุนเฉพาะส่วนที่ขายหรือต้นทุนทั้งหมดที่มีของหุ้นตัวนั้นมาเป็นตัวหาร
- สับสนใน Concept ของทุน ว่าผมควรจะนับเอาผลตอบแทนที่เกิดขึ้นระหว่างปี มารวมเป็นทุนด้วยหรือไม่ ตอนนี้เลยมี Capital สามค่าให้ตัวเองงงเล่นครับ :lol: คือส่วนที่ไม่รวมผลตอบแทน ส่วนที่รวมผลตอบแทน กับส่วนที่รวมกำไรทางบัญชีด้วย
- ยังคิดไม่ออกว่าจะยกยอดสินทรัพย์สุทธิของปีก่อนมาอย่างไรจึงจะถูกหลัก แล้วอันนี้ก็กลัวการนับซ้ำด้วยครับ
ดูบัญชีตัวเองแล้วอาการสาหัสจริง ๆ
ยังไม่ได้เขียนส่วน IRR
ถ้าได้ลองใช้จริงคงต้องปรับอีกเป็นพะเรอเกวียน :oops:
บัญชีของแต่ละท่านเป็นอย่างไรกันบ้างครับ :D
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- Verified User
- โพสต์: 320
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 3
เอาแบบผมก็ได้นะครับ
แบ่งทรัพย์สินมาจากสามแหล่ง -- เริ่มต้นถูกแล้ว
เงินสุทธิซื้อขาย หรือ ปันผลงอก เพิ่มลดที่ส่วนเงินสดของพอร์ต, daily unrealized ของ outstanding หุ้นสิ้นวัน กระทบส่วนหุ้น, เอาตังออกจากพอร์ต(ถือว่ายืมพอร์ต) บวกให้พอร์ตเป็นเจ้าหนี้เท่ากับเงินต้นจนกว่าเอาตังมาลงทุนเพิ่มถือว่าพอร์ตกู้ต้องลบด้วยเงินต้น (จะคิดดอกค่าเสียโอกาสจากเงินต้นหรือไม่ก็ตามใจ)
ไม่ต้องสนใจต้นทุน หรือ realize gain/loss ของ individual stock อีกแล้ว -- สับสนสับสน
เก็บค่า NAV สิ้นวัน เก็บ SET index สิ้นวัน อยากรู้ผลตอบแทนเทียบ NAV ระหว่างเวลาเอาเลยว่าได้ผลตอบแทนเพิ่มหรือลด -- คิดว่าไม่มีนับซ้ำนะ
ถ้าการลงทุนเป็นแบบเงินเข้าเรื่อยๆไม่ค่อยออก ต้องการปัด balance ส่วนเงินให้พอร์ตยืม เข้าบัญชีเงินสดเป็นช่วงๆก็ทำได้ - เดบิตเครดิตกันไปให้มันดุลย์
แบ่งทรัพย์สินมาจากสามแหล่ง -- เริ่มต้นถูกแล้ว
เงินสุทธิซื้อขาย หรือ ปันผลงอก เพิ่มลดที่ส่วนเงินสดของพอร์ต, daily unrealized ของ outstanding หุ้นสิ้นวัน กระทบส่วนหุ้น, เอาตังออกจากพอร์ต(ถือว่ายืมพอร์ต) บวกให้พอร์ตเป็นเจ้าหนี้เท่ากับเงินต้นจนกว่าเอาตังมาลงทุนเพิ่มถือว่าพอร์ตกู้ต้องลบด้วยเงินต้น (จะคิดดอกค่าเสียโอกาสจากเงินต้นหรือไม่ก็ตามใจ)
ไม่ต้องสนใจต้นทุน หรือ realize gain/loss ของ individual stock อีกแล้ว -- สับสนสับสน
เก็บค่า NAV สิ้นวัน เก็บ SET index สิ้นวัน อยากรู้ผลตอบแทนเทียบ NAV ระหว่างเวลาเอาเลยว่าได้ผลตอบแทนเพิ่มหรือลด -- คิดว่าไม่มีนับซ้ำนะ
ถ้าการลงทุนเป็นแบบเงินเข้าเรื่อยๆไม่ค่อยออก ต้องการปัด balance ส่วนเงินให้พอร์ตยืม เข้าบัญชีเงินสดเป็นช่วงๆก็ทำได้ - เดบิตเครดิตกันไปให้มันดุลย์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณครับพี่อีโต้ จะลอง Apply NAV ในอีก Sheet หนึ่งดูครับ อยากเห็นรูปแบบของ Returns หลาย ๆ แบบครับ
ขอบคุณพี่ Phobenius ครับ จะลองไปขโมยใช้ดูครับ เผื่อจะเอามาปรับ Interface ด้วย
ขอบคุณพี่อองตวนครับ ผมลืมไปเลยนะว่ากลางปีกะว่าจะทำ Index ด้วย แต่ Update รายวันนี่ ฮี่ ๆ ๆ (ปาดเหงื่อ)
ขอบคุณพี่ Phobenius ครับ จะลองไปขโมยใช้ดูครับ เผื่อจะเอามาปรับ Interface ด้วย
ขอบคุณพี่อองตวนครับ ผมลืมไปเลยนะว่ากลางปีกะว่าจะทำ Index ด้วย แต่ Update รายวันนี่ ฮี่ ๆ ๆ (ปาดเหงื่อ)
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 5
ขอถามพี่อีโต้เพิ่มเติมครับEto Demerzel เขียน:ผ่านไปครึ่งปี กำไร 100,000 ก็ลงบัญชีเป็น
Total NAV = 1,100,000 บาท
Total Units = 100,000 unit
NAV = 1,100,000/100,000 = 11.00 บาท
แล้วเอาเงินลงเพิ่มอีก 110,000 บาท ก็ลงบัญชีเป็น
Total NAV = 1,210,000 บาท
Total Units = 100,000 + (110,000 / 11) = 110,000
(หารด้วย NAV วันสุดท้ายก่อนเพิ่มเงิน)
NAV = 1,210,000/110,000 = 11.00 บาท
ว่าที่พี่สมมติผ่านไปครึ่งปี "กำไร" 100,000 นั้น
เอาเป็นกำไรจากข้อใดครับ
ก. Realized
ข. Unrealize
ค. ข้อก.+ข.
ขอบคุณครับพี่
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 6
พอดีพี่อีโต้ตอบมาแล้วNAV = Market Value + Cash
Market Value คือมูลค่าหุ้นที่ราคาตลาด ไม่ต้องหักคอมฯ
ส่วน Cash คือเงินสดคงเหลือที่ไม่ได้ซื้อหุ้น
รวมไปถึงเงินที่จะได้รับจากปันผล (xd แล้ว แต่ยังไม่เข้าบัญชี)
เงินได้จากดอกเบี้ยและเครดิตภาษี
เลยขออนุญาตนำมาลงในกระทู้ด้วยครับ
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 7
เรานำราคาหุ้นปัจจุบันมาคิดผลตอบแทนครับ ไม่ว่าเราจะซื้อมีต้นทุนที่เท่าไหร่ก็ตามCapo เขียน: ขอถามพี่อีโต้เพิ่มเติมครับ
ว่าที่พี่สมมติผ่านไปครึ่งปี "กำไร" 100,000 นั้น
เอาเป็นกำไรจากข้อใดครับ
ก. Realized
ข. Unrealize
ค. ข้อก.+ข.
ขอบคุณครับพี่
เราซื้อหุ้น ก 5 บาทต่อหุ้น
1 ปีต่อมาราคา 10 บ.
เรายังไม่ขายหุ้น ก (ยังไม่ realize)
แต่เวลาคิดผลตอบแทน เราก็ต้องนำราคาปัจจุบันมาคิด กรณีนี้คือ (10-5)/5= 100%
จำได้ว่าเคยตอบกระทู้ของคุณ capo ทำนองนี้มาแล้ว..
ส่วนการคิดผลตอบแทนของพอร์ต
หลักการก็คือ (กำไรหรือขาดทุน)/ทุน แค่นี้เองครับ
กำไรหรือขาดทุน คงคิดไม่ยาก
แต่ทุน ในความเป็นจริงเรามักจะถอนเงินมาใช้ หรือใส่เพิ่มในพอร์ตบ่อยๆ ทำให้ทุนเราเปลี่ยนแปลงไปจากต้นปี ดังนั้นหากเราถอนหรือใส่เงินเพิ่มในพอร์ตสม่ำเสมอตลอดปี เราก็หาทุนเพิ่ม-ลดเฉลี่ยทั้งปี คือนำเงินถอนหรือเงินเพิ่มสุทธิมาหาร 2 แล้วจึงนำไปบวกหรือลบจากทุนต้นปี
ตัวอย่างเช่น
เงินต้นปี(ทุน) 1,000,000 บาท
กรณีเพิ่มเงินในพอร์ตสม่ำเสมอทั้งปี 100,000
ปลายปีพอร์ตรวมเป็น 1,300,000 บ.
นั้นคือกำไร (1,300,000-100,000-1,000,000) = 200,000 บ.
ทุนเพิ่ม-ลดเฉลี่ย คือ 100,000/2 = 50,000 บ.
ทุนเฉลี่ยทั้งปี คือ 1,000,000+50,000 บ = 1,050,000 บ.
ผลตอบแทนพอร์ต ( 200,000/1,050,000)x 100 = 19%
กรณีเป็นการถอนเงินก็นำเงินลดเฉลี่ยไปลบจากเงินต้นปีครับ
ไม่ถูกต้อง 100% แต่ก็เกือบๆ แต่หากมีการเพิ่มเงินหรือถอนไม่สม่ำเสมอจะคลาดเคลื่อนพอสมควร
วิธีการที่น่าจะถูกต้องที่สุดคือ หาส่วนทุนทุกวัน แล้วนำมาหาร 365 วัน จะได้ทุนเฉลี่ยแท้จริง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- bigshow
- Verified User
- โพสต์: 730
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 8
ขอลองวิธีของพี่ลูกอีสานหน่อย
เงินต้นปี(ทุน) 2,350,000 บ.
กรณีเพิ่มเงินในพอร์ตสม่ำเสมอทั้งปี 140,000 บ.
ปลายปีพอร์ตรวมเป็น 3,713,000 บ.
นั้นคือกำไร ( 3,713,000-140,000-2,350,000)=1,223,000 บ.
ทุนเพิ่ม-ลดเฉลี่ย คือ 140,000/2 = 70,000 บ.
ทุนเฉลี่ยทั้งปี คือ 2350000 + 70000 บ. = 2,420,000 บ.
ผลตอบแทนพอร์ต ( 1,22,3000 / 2,420,000 )x 100 = 50.53 %
เยี่ยมครับวิธีนี้
เงินต้นปี(ทุน) 2,350,000 บ.
กรณีเพิ่มเงินในพอร์ตสม่ำเสมอทั้งปี 140,000 บ.
ปลายปีพอร์ตรวมเป็น 3,713,000 บ.
นั้นคือกำไร ( 3,713,000-140,000-2,350,000)=1,223,000 บ.
ทุนเพิ่ม-ลดเฉลี่ย คือ 140,000/2 = 70,000 บ.
ทุนเฉลี่ยทั้งปี คือ 2350000 + 70000 บ. = 2,420,000 บ.
ผลตอบแทนพอร์ต ( 1,22,3000 / 2,420,000 )x 100 = 50.53 %
เยี่ยมครับวิธีนี้
เป็นคนเลว ในสายตาคนอื่น ดีกว่าโกหกตัวเอง ให้เทิดทูนบูชา ติดกับมายาคติ ที่กะลาครอบ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 9
ตอนคิดว่า ใส่เงินใน port เท่าไหร่ ผมคิดเลยว่า จำนวนเงินเท่านี้มีอยู่ใน port กีวันแล้วหาค่าเฉลี่ย Invested Capital = SUM(Day x Amount)/ 365
I do not sleep. I dream.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1257
- ผู้ติดตาม: 0
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 10
หาซื้อได้ที่ไหนครับphobenius เขียน:ส่วนตัวผมใช้โปรแกรม Fund Manager เวอร์ 7 ใช้ดีครับ เสียอย่างเดียวดาวโหลดราคาอัพเดตได้แต่ของเมกาของไทย ต้องmanual
"Price is what you pay. Value is what you get."
- nam
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1437
- ผู้ติดตาม: 1
แต่ละท่านมีแนวคิดในการทำบัญชีหุ้นอย่างไรบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 11
ผมทดลองคิดด้วย xirr ใน exel โดยสมมุติให้เพิ่มเงิน 140000 กลางปีbigshow เขียน:ขอลองวิธีของพี่ลูกอีสานหน่อย
เงินต้นปี(ทุน) 2,350,000 บ.
กรณีเพิ่มเงินในพอร์ตสม่ำเสมอทั้งปี 140,000 บ.
ปลายปีพอร์ตรวมเป็น 3,713,000 บ.
นั้นคือกำไร ( 3,713,000-140,000-2,350,000)=1,223,000 บ.
ทุนเพิ่ม-ลดเฉลี่ย คือ 140,000/2 = 70,000 บ.
ทุนเฉลี่ยทั้งปี คือ 2350000 + 70000 บ. = 2,420,000 บ.
ผลตอบแทนพอร์ต ( 1,22,3000 / 2,420,000 )x 100 = 50.53 %
เยี่ยมครับวิธีนี้
cash date
-2350000 1/1/2006
-140000 1/7/2006
3713000 31/12/2006
xirr 50.85% (ถ้าเป็น port จริงของคุณ bigshow ยินดีด้วยครับ )
ผมคิดแบบนี้โดยใส่วันที่จริงที่เพิ่มหรือถอนเงินทุน ก็สะดวกดี เพื่อนในเวปนี้เคยแนะนำไว้ครับ
(แต่ปีหน้าควรจดวันที่มีระเบิดด้วยก็ดี )