การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:26 pm
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ต้องถามว่ามันไหลมาหลัง กย 06 เพราะตอนนั้นปฏิวัติ เลยไม่มีเวลาไปสู้ค่าเงินหรือเปล่าครับ ??????
เพราะตอนนั้น คมช ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย สรุปตอนนั้น เหมือนสูญญากาศ
แต่เงินบาทไหล .....
หรือว่า .... ปฏิวัติ เลยไม่ได้สู้ค่าเงินต่อครับ พักไปชั่วคราว ???
ที่จริงนักเก็งกำไรอ่านเกมออกตั้งแต่เราไม่มีเลือกตั้งทันตุลาแล้วครับ
เหตุผลเพราะไม่มีรัฐบาลมาผ่านงบปี 50 ซึ่งจะต้องผ่านก่อนสิ้นกันยาทุกปี
ธปท.จึงต้องออกพันธบัตรเอาเงินมาใช้ก่อน
หลังจากมีคมช.แล้วจึงผ่านงบให้ย้อนหลัง
ขนาดผมแก่ๆแบบนี้ยังรู้ แล้วจาไปเหลือนักเก็งกำไรต่างชาติเหรอครับ
เงิน Dollar จึงไหลมาเป็นโจ๊กเพื่อดอกเบี้ย 6.15 % ใครจาไม่อาว
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:30 pm
[quote="matrix"]
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ต้องถามว่ามันไหลมาหลัง กย 06 เพราะตอนนั้นปฏิวัติ เลยไม่มีเวลาไปสู้ค่าเงินหรือเปล่าครับ ??????
เพราะตอนนั้น คมช ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย สรุปตอนนั้น เหมือนสูญญากาศ
แต่เงินบาทไหล .....
หรือว่า .... ปฏิวัติ เลยไม่ได้สู้ค่าเงินต่อครับ พักไปชั่วคราว ???
ที่จริงนักเก็งกำไรอ่านเกมออกตั้งแต่เราไม่มีเลือกตั้งทันตุลาแล้วครับ
เหตุผลเพราะไม่มีรัฐบาลมาผ่านงบปี 50 ซึ่งจะต้องผ่านก่อนสิ้นกันยาทุกปี
ธปท.จึงต้องออกพันธบัตรเอาเงินมาใช้ก่อน
หลังจากมีคมช.แล้วจึงผ่านงบให้ย้อนหลัง
ขนาดผมแก่ๆแบบนี้ยังรู้
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:33 pm
คัดท้าย เขียน:
ต้องถามว่ามันไหลมาหลัง กย 06 เพราะตอนนั้นปฏิวัติ เลยไม่มีเวลาไปสู้ค่าเงินหรือเปล่าครับ ??????
เพราะตอนนั้น คมช ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย สรุปตอนนั้น เหมือนสูญญากาศ
แต่เงินบาทไหล .....
หรือว่า .... ปฏิวัติ เลยไม่ได้สู้ค่าเงินต่อครับ พักไปชั่วคราว ???
ท่านคัดฯ สมมุติฐานหรือว่าเป็น fact
ถ้าสมมุติฐาน ผมก็เดามั่วๆ ได้บ้างว่าที่ไหลตอนนั้น เพราะ
1. กองทุนอีแร้งเริ่มหนีตายจากอเมริกา
2. กองทุนอีแร้งกระจายไปทั่วเอเซีย แต่จำนวนเงินที่ไหลมามันมาก เมื่อเทียบกับตลาดเงินเมืองไทย
3. ธนาคารแห่งประเทศไทยเจ๊ง เพราะไปสู้ตามใบสั่ง คมช ยิ่งสู้ อีแร้งยิ่งเข้า เพราะเห็นช่องทางชนะใสๆ ได้ทั้งค่าเงิน ได้ทั้ง forword มันเลยไหลเร็ว
4. ประเทศอื่นเค้าไม่ได้แทรกแซงมั้ง เลยไหลตามสเตป แต่เทรนด์รวม คือ ไหลเหมือนกันหมด
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:37 pm
buglife เขียน:
ท่านคัดฯ สมมุติฐานหรือว่าเป็น fact
ถ้าสมมุติฐาน ผมก็เดามั่วๆ ได้บ้างว่าที่ไหลตอนนั้น เพราะ
1. กองทุนอีแร้งเริ่มหนีตายจากอเมริกา
2. กองทุนอีแร้งกระจายไปทั่วเอเซีย แต่จำนวนเงินที่ไหลมามันมาก เมื่อเทียบกับตลาดเงินเมืองไทย
3. ธนาคารแห่งประเทศไทยเจ๊ง เพราะไปสู้ตามใบสั่ง คมช ยิ่งสู้ อีแร้งยิ่งเข้า เพราะเห็นช่องทางชนะใสๆ ได้ทั้งค่าเงิน ได้ทั้ง forword มันเลยไหลเร็ว
4. ประเทศอื่นเค้าไม่ได้แทรกแซงมั้ง เลยไหลตามสเตป แต่เทรนด์รวม คือ ไหลเหมือนกันหมด
***** Fact คือ ธปท สู้ค่าเงินมาตั้งแต่ รัฐบาล ทักษิณ แล้วครับ ******
และที่ว่า เงินไหลไปทั่วเอเซีย แต่จำนวนเงินที่ไหลมามันมาก เมื่อเทียบกับตลาดเงินเมืองไทย นั้น ต้องถามว่า แล้วฟิลิปปินส์ มาเล อินโด เค้าใหญ่กว่าไทยมากนักหรือครับ ทำไมเค้าไม่ค่าเงินแข็งเหมือนเรา ???
และ ที่บอกว่า ประเทศอื่นเค้าไม่ได้แทรกแซงมั้ง เลยไหลตามสเตป แต่เทรนด์รวม คือ ไหลเหมือนกันหมด ..... อันนี้ เป็น Fact หรือ สมมุติฐาน ครับ ??
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:40 pm
เป็นสมมุติฐานครับ
เพราะท่านคัดไม่ได้บอกตอนแรกว่า เป็น fact
จะไปหา fact ดูได้จากไหนครับ
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:49 pm
buglife เขียน: เป็นสมมุติฐานครับ
เพราะท่านคัดไม่ได้บอกตอนแรกว่า เป็น fact
จะไปหา fact ดูได้จากไหนครับ
ผมหาเอกสารที่ผมอ่านตอนแรกไม่เจอแล้วนะ แต่ว่าเมื่อกี้ใช้ Google Search ให้คุณ Bug ไปเจอของไทยรัฐ อาจจะไม่น่าเชื่อถือมากนักนะ แต่ผมว่าก็คงพอบอกอะไรได้บ้าง
บทความนี้เป็นของวันที่ 22 ธ.ค. 49
http://www.thairath.co.th/offline.php?s ... tent=30933
เผย ธปท.เจ๊งซื้อขายเงิน 75,000 ล้าน
วันเดียวกัน นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธปท. สายเสถียรภาพการเงิน ได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการการเงินการคลังการธนาคาร สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่า ธปท.มีผลขาดทุนจากซื้อขายเงินตราต่างประเทศทันที 75,000 ล้านบาท เพื่อเข้าแทรกแซงลดความผันผวนของค่าเงินบาทในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา โดย ธปท.ยังมีผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นได้ จากการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าด้วยการซื้อดอลลาร์และมีสัญญาที่จะขายคืนกับนักลงทุนต่างประเทศ
11 เดือนบักโกรก 138,500 ล้านบาท
โดยมียอดคงค้างล่าสุด ณ วันที่ 15 ธ.ค. จำนวน 8,700 ล้านเหรียญฯ หากคิดยอดขาดทุนเท่ากับการซื้อ ขายทันที คือประมาณ 5 บาทต่อเหรียญฯ ธปท.จะมีผลขาดทุนจากส่วนนี้เพิ่มเติมอีก 43,500 ล้านเหรียญฯ รวมทั้งในช่วงเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ธปท.ได้มีการแทรกแซงค่าเงินบาทด้วยการซื้อดอลลาร์ทันที เพิ่มเข้ามาในทุน สำรองอีกจำนวนมาก คาดว่าประมาณ 1 เดือนครึ่ง ธปท.มีผลขาดทุนเพิ่มอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท ทำให้ ธปท. มีผลขาดทุนทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ อยู่
จริงๆมันมีเอกสารที่ชัดกว่านี้นะ ไว้ผมหาเจอจะเอามาโพสต์ให้ดูอีกครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:50 pm
[quote="matrix"]
วิธีแก้ควรจะแก้โดยการปล่อยเงิน Dollar ออกไปโดยการเพิ่มผลผลิตในการแข่งขันแบบยั่งยืน
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:51 pm
ได้ความรู้จากท่าน matrix มากเลย ขอบคุณครับ
ผมคิดแต่แรกว่าเราไม่ควรไปสู้ค่าเงิน แต่ให้ใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆแทน แต่ผมไม่มีตวามรู้เรื่องเครื่องมือทางการเงินพวกนั้น
ทำไปก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เหมือนการไปซื้อหุ้นสู้เวลาเจ้ามือทุบ หรือการขายสวนเวลาเจ้ามือลาก ฉันใดฉันนั้น
พอผมเห็นมาตรการ 30 % ออกมาผมถึงเรียกว่า สู้แบบหมาจนตรอกแล้ว เพราะที่ท่านๆทำกันมานั้นมันไม่ได้ผลและเห็น ทางแพ้อยู่ข้างหน้าถึงได้ทำ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:53 pm
คัดท้าย
Verified User
โพสต์: 2917
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 10:55 pm
CEO เขียน: ได้ความรู้จากท่าน matrix มากเลย ขอบคุณครับ
ผมคิดแต่แรกว่าเราไม่ควรไปสู้ค่าเงิน แต่ให้ใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆแทน แต่ผมไม่มีตวามรู้เรื่องเครื่องมือทางการเงินพวกนั้น
ทำไปก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เหมือนการไปซื้อหุ้นสู้เวลาเจ้ามือทุบ หรือการขายสวนเวลาเจ้ามือลาก ฉันใดฉันนั้น
พอผมเห็นมาตรการ 30 % ออกมาผมถึงเรียกว่า สู้แบบหมาจนตรอกแล้ว เพราะที่ท่านๆทำกันมานั้นมันไม่ได้ผลและเห็น ทางแพ้อยู่ข้างหน้าถึงได้ทำ
ครับ เห็นด้วยมากๆเลยครับ ว่ามาตรการ 30% เป็นการสู้แบบ
หมาจนตรอก ครับ
ทำให้ผมโกรธหม่อมอุ๋ยแบบกลางๆ ทำให้หลายๆท่านคิดว่าผมเข้าข้าง คมช ทำให้ผมอภัยให้หม่อมอุ๋ย จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ
ผมมองว่า วันที่ประกาศมาตรการ 30% ธปท และ หม่อมอุ๋ย จะต้องเลือดเข้าตาพอสมควรครับ แต่ที่ผมว่าน่าด่า คือ ปากหมาๆของธปท และหม่อมอุ๋ย ที่พูดจาแบบมะนาวไม่มีน้ำมากกว่าครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
j_abac
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:08 pm
เอาทีละข้อ แบบง่ายๆนะครับ อาจจะผิดก็เป็นได้
- ค่าเงินบาท ปีนี้ที่แข็งค่าขึ้นมามากกว่าประเทศอื่นในเอเชีย เพราะ deal shin ครับ
- เหตุผลที่ค่าเงินบาท เราไหลเร็วเพราะเรามิได้มีอะไร restrict นอกจากการแทรกแซงค่าเงิน ซึ่งต่างจากประเทศอื่นใน อาเซียน ที่ใช้ระบบ basket
- สนับสนุนให้มีการไปลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศเช่นเดียวกับ ประเทศจีน สิงคโปร์เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ยังไม่มีองค์กรที่จะทำได้ชัดเจน ถ้ารัฐจะทำก็ต้องผ่านนโยบายอะไรจำนวนมากมาย ซึ่งกว่าจะทำอะไรได้ก็ช้าเกินไป จำเป็นต้องมีอย่าง พวก เทมาเชค หรือ ซิติก แห่งประเทศไทยบ้างแล้ว ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอิสระในการตัดสินใจ แต่กว่าจะมีพวกนี้ได้ก็คงต้องใช้เวลาในการพัฒนา
- การไปสนับสนุนให้ไปซื้อสินค้าระยะยาว หรือสิ่งที่จำเป็นต่อประชาชนของชาติ เห็นด้วยครับ แต่ว่าจะนำเงินที่ไหนไปซื้อ แต่หนี้เดิมๆ ก็refinance กันตลอด หนี้ใหม่ก็ต้องมาsupport ในการแทรกแซงค่าเงิน
- แล้วถามว่าถ้าไม่แทรกแซงจะเป็นเช่นไร ไม่เป็นเช่นไรหรอกครับ เอกชนไทยที่ไม่ปรับตัวตาย แต่พวกบริษัทต่างประเทศหรือบริษัทไทยที่ปรับตัวได้นั้นเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ดูได้จากการที่พวกเค้า post กำไรจากค่าเงินได้เลยครับ
- แล้วการแข็งค่าของค่าเงินบาทกระทบอะไรอีก ก็จะทำให้ ประโยชน์เรื่องสกุลเงินตกไป ทำให้ FDI ต่ำลงแน่นอน เพราะเราจะมีcost สูงขึ้น เพราะcost of capital ในประเทศไม่ได้ลดลง
- ในการแทรกแซงค่าเงิน นั้นก็จะมีปริมาณเงินต่างประเทศแปลงมาเป็นเงินบาทจำนวนมาก และรัฐก็ทำการดูดซับเงินออกจากระบบ โดยการออกพันธบัตร แล้วนำเงินไปแทรกแซงค่าเงินบาทอีกที จะเห็นได้ว่า จำนวนเงินสำรองในรูปสกุลดอลล่าเพิ่มขึ้น พร้อมสัดส่วนหนี้รัฐที่เพิ่มขึ้นมาเช่นกัน และเมื่อ รัฐจำเป็นต้องออกพันธบัตรมาก เพื่อที่จะดูดซับเงินออกจากระบบได้ จำเป็นที่ดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้น และรัฐขายพันธบัตรให้ใคร ก็ไม่ใช่ใครเลยครับ พวก bank พาณิชย์ต่างๆ ที่โร่ระดม เงินดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงๆล่อใจคนไปฝาก และนำเงินพวกนี้ไปซื้อพันธบัตรกินดอกเบี้ยไว้ ซึ่งเริ่มเห็นชัดตั่งแต่ปลายปีก่อนแล้วครับ
- จริงๆไม่อยากจะโทษ คมช มากนักเพราะปัญหานี้ก็ลามมาตั้งนานแล้ว แต่ที่จะบอกว่าเพราะ คมช ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะป้องกันและรับมือปัญหานี้ได้ต่างหาก เพราะขนาดคนมีความสามารถยังบอกว่ายาก แล้วยิ่งชุดนี้ก็คงยากฮะ
- ถ้าจำเป็นจริงๆ อาจจะมีมาตราการอันโหดร้ายออกมาเพิ่มอีก ซึ่งอาจจะจำเป็นถึงขึ้น การจำกัดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระหว่างวันได้เลยทีเดียว
- หรือว่าจะมองโลกในแง่ดี เมื่อระบบพังไป ก็จะเกิดระบบใหม่ขึ้นมาเวียนไปเรื่อยๆ ดั่งเช่นระบบ ในหนังเรื่อง matrix จนไปกว่าเราจะเจอ นีโอ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทย หลุดจากวัฐจักรพวกนี้ ซึ่งผมมองว่า นีโอ นั้นก็คือ การที่เรายืนได้ด้วยเงินออมของตัวเอง และพัฒนาต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- และผมอยากจะโทษ ระบบของคนไทยดีกว่าครับ ที่ผิดพลาดตลอดมา ผมไม่ได้ไม่สนับสนุนเงินต่างประเทศ แต่ก็รับไม่ได้ ถ้าเป็นทาสมัน
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:08 pm
ถ้าเปรียบเทียบบริษัทกับประเทศไทย
บริษัทก็มี ยอดขาย สินค้าที่จะขาย สต๊อกไว้เผื่อสินค้าขาด เงินทุน เงินหมุน ลูกหนี้ เจ้าหนี้ พนักงาน เป้าหมายการทำงาน และอื่นๆ
ผมคิดว่า ตอนนี้บริษัทนี้ มีการเปลี่ยน MD ที่ ปรับนโยบาย ทั้งหมด แบบ 180 องศาครับ
ผลคือ คนทำงาน ก็ต้องปรับตามครับ
เพราะฉะนั้น บริษัทประเทศไทย กำลังอยู่ในสภาวะเสี่ยงจริงๆ เพราะเรากำลังโดนโจมตีค่าเงิน
อย่างคัดท้ายว่า ตอนนี้เมืองไทย ไม่เห็นมีอะไรดี ทำไมค่าเงินต้องแข็ง
ฟังพี่แมทริก กลายเป็น เราตั้งดอกเบี้ยไว้สูง ทำให้เงินไหลเข้ามาเพื่อกินดอกเบี้ย
ฟังคุณมน แกก็บอกว่า เอาเงินมาพักแบบนี้ เป็นแกแกก็ทำ
แสดงว่าเงินเหล่านี้ หรือการแข็งค่าของเงิน เหล่านี้ เป็นเรื่องชั่วคราว
ซึ่ง เคยไปฟังดร.นิเวศน์ แกบอกว่า แกไม่แน่ใจ
เพราะว่า ถ้าเงินบาทต้องแข็งจริงๆ ตามเศรษฐกิจ แล้วถ้าไปกั้นไว้ หรือไปมีมาตรการต่างๆ จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
matrix
Verified User
โพสต์: 1717
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:26 pm
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ขอถามหน่อยครับ น่าสนใจมาก
1. ถ้าขาย dollar ทิ้งออกไป จะเสี่ยงกับการถูกโจมตีค่าเงิน เหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่าครับ ถึงแม้จะต่างตรงที่เราได้ดุลย์การค้ามาตลอดหลายปีก็ตาม เพราะเห็นเอเชียได้รับบทเรียน เรื่องทุนสำรองจากต้มยำกุ้งคราวที่แล้ว
ญี่ปุ่นเค้าเกินดุลมากกว่าเราหลายพันเท่า เค้าทำไงไปดูครับ
ยุทธการ " ห่านบิน "
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:36 pm
ผมบังเอิญไปฟังเฮียคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า
ในกราฟค่าเงินบาทแสดงภาพการสู้กันของแบงค์ชาติกะกองทุนอีแร้ง แต่ผมความรู้น้อยดูไม่ค่อยออกว่า ที่เอาตังค์ไปเจ๊ง เอ้ย ไปสู้กันเยอะๆ นะช่วงไหน กราฟคงพอบอกอะไรได้บ้าง ท่านคัดช่วยไขดาวินชีโค้ดด้วยฮับ
เรื่องของเรื่องไม่ใช่ใบสั่งรัฐชุดไหน แต่แบงค์ชาติทำแบบเดิม ไม่เข็ด หมกเม็ด แล้วยังปัดขยะเข้าใต้พรม ด้วยมาตรการจนตรอก แบบไม่สามารถลดการขาดทุนของแบงค์ชาติได้ แต่อาจสร้างความร่ำรวยให้กับใครบางคน... [/img]
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:38 pm
ยุทธการ ห่านบิน นี่แหละคำตอบที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเราควรทำอย่างไรดีกับเงินที่ได้มามากจาการเกินดุลการค้าของภาคส่งออก
:D :D
งั้นที่อดีตนายกไปบุกเบิกให้เงินกู้พม่า ก็คงจะมองแนวทางนี้ไว้แล้วเหมือกัน
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
ROGER
Verified User
โพสต์: 609
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:49 pm
ธปท นี่เรียนตำราไหนมาเนี๊ยะ ไม่ได้เรื่องเลย
ส่งออกเยอะๆๆ ได้เงินดอลล์มามากขึ้นๆๆๆ ยังไงบาทก็ต้องแข็งขึ้น จนเมื่อถึงจุดหนึ่ง แข็งจนไปไม่ไหว ส่งออกลด ค่าเงินมันก็ลด ทฤษฎีพื้นๆๆๆ แต่ดันทะลึ่งไปฝืนหลักความจริงของธรรมชาติ มันก็เจ๊งเท่านั้นเองแหละ
อยากให้บาทอ่อนง่ายมาก อัดให้เงินมันเฟ้อสิครับ เพิ่มสัก 4-5 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวบาทมันก็อ่อนเอง เรียนกล้วยๆๆแค่นี้ทำเป็นคิดไม่ออก (คุณเฟยหง เคยบอกมานะครับ ตามตำราเป๊ะเลย)
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:49 pm
[quote="matrix"]
ญี่ปุ่นเค้าเกินดุลมากกว่าเราหลายพันเท่า
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ม.ค. 18, 2007 11:54 pm
ขอบคุณ คุณ matrix ที่ให้ความกระจ่าง
ดู กราฟไม่เป็น แต่เดาว่า volumn น่าจะมากน่ะครับ
buglife
Verified User
โพสต์: 942
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 12:10 am
lekmak333 เขียน: ดู กราฟไม่เป็น แต่เดาว่า volumn น่าจะมากน่ะครับ
เฮียแกบอกว่า กราฟมันบิดรูปนะครับ
ค่าเงินมีแต่ราคาอย่างเดียว ไม่เห็น vol ไม่งั้นจะชัดว่า เจ๊งตอนไหน
ประมาณยืนแลกหมัด ยิงแท่งเทียนสวนกัน
แบบเอ็งที ข้าที สุดท้าย...
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4246
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 12:22 am
ถามแบบคนไม่รู้เรื่องครับ
เราเกินดุลมาเยอะๆ รัฐก็ไปกู้ต่างชาติ มาสร้าง Megaproject ทั้งหลาย ให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนไม่ได้หรอครับ
หรือว่า รัฐบาลหน่ะถังแตก แต่ภาคส่งออกนะกำไรอู้ฟู่เลยกลายเป็น เงินคนละส่วน
_________
tachikoma
Verified User
โพสต์: 140
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 10:22 am
เห็นด้วยกับพี่เมตริกครับ
อยากให้บาทอ่อนก็แค่เอาเงินไปดอลที่เก็บไว้ ไปใช้เท่านั้นเอง แถมเรื่องจะไปใช้ก็มีเยอะแยะ เช่น เอาไปลงทุนในต่างประเทศ, ซื้อเครื่องจักร อย่างที่พี่เมตริกบอก
ส่วนผมเห็นว่าเมืองไทยน่าจะลงทุนเรื่อง Infra-structure ของประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น ถนน หนทาง เขตอุตสาหกรรม ไฟฟ้า การสื่อสาร อินเตอร์เน็ต
ยิ่งตอนนี้มีอินเตอร์เน็ตที่ใช้สายไฟฟ้าเป็นสื่อในการส่งข้อมูล ความเร็วสูงมาก และแทบไม่ต้องลงทุนต่ำ เพราะใช้สายไฟเนี่ยแหละในการเดิน แต่กระนั้นอินเตอร์เน็ตก็อาจเข้าไม่ถึงทุกหมู่บ้าน ผมมีคนรู้จักเคยทำงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เขาเคยไปดูตามหมู่บ้านต่างจังหวัด ที่ว่าไฟฟ้าเข้าไม่ถึงไม่ได้เป็นเพราะสายไฟเดินเข้าไปไม่ถึง สายไฟเดินพาดข้ามกลางหมู่บ้าน แต่การไฟฟ้าไม่ต่อลงมาให้ เหตุผลง่ายๆ คือ ไม่คุ้มที่จะทำตู้ไฟ... ในความคิดของผมคือ ของที่เป็น Infra-Structure จะต้องทำถึงแม้จะขาดทุนในตอนแรก พอมีแล้วคนจะแห่มาเอง เทียบง่ายๆ คือ ใครจะอยากไปอยู่ในที่ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ แต่พอน้ำ ไฟเข้าถึง คนก็แห่ไปอยู่แทบนั้นเอง สมัยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงก็เหมือนกันครับ
san
Verified User
โพสต์: 1675
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 10:56 am
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เห็นด้วยกับพี่เมตริกครับ
อยากให้บาทอ่อนก็แค่เอาเงินไปดอลที่เก็บไว้ ไปใช้เท่านั้นเอง แถมเรื่องจะไปใช้ก็มีเยอะแยะ เช่น เอาไปลงทุนในต่างประเทศ, ซื้อเครื่องจักร อย่างที่พี่เมตริกบอก
ขอถามอย่างคนไม่รู้ได้ป่าวครับว่า......
ไอ้เงินดอลที่ว่าเนี้ย....มันเงินของเราจริงเท่าไรเหรอครับ
แล้วเป็นของ ตปท เท่าไรเหรอครับ
เอไปใช้ได้ กี่เปอร์เซ็น ครับ
เพราะว่าที่ค้าขายเกินดูลมานั้น รู้สึกว่า ช่วง ปี 2 ปีหลัง นี่ เราเกินแค่ จิ๊บๆ จ๊อยๆ เองนี่นา
เพราะว่าที่เอามานับว่าเรามีเท่าไรนี่ มันต้องหักของที่เราไปกูเขามาอีกเท่าไร หรือว่า เขาเอามาฝากไว้เท่าไร
สรุป อยากรู้ว่า เรามี เงิน ดอล ของเราแท้ๆ ที่เก็บอยู่ net ๆ เท่าไรครับ
คนไม่รู้อ่ะครับ อิอิอิ
tachikoma
Verified User
โพสต์: 140
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 12:10 pm
san เขียน: โค้ด: เลือกทั้งหมด
เห็นด้วยกับพี่เมตริกครับ
อยากให้บาทอ่อนก็แค่เอาเงินไปดอลที่เก็บไว้ ไปใช้เท่านั้นเอง แถมเรื่องจะไปใช้ก็มีเยอะแยะ เช่น เอาไปลงทุนในต่างประเทศ, ซื้อเครื่องจักร อย่างที่พี่เมตริกบอก
ขอถามอย่างคนไม่รู้ได้ป่าวครับว่า......
ไอ้เงินดอลที่ว่าเนี้ย....มันเงินของเราจริงเท่าไรเหรอครับ
แล้วเป็นของ ตปท เท่าไรเหรอครับ
เอไปใช้ได้ กี่เปอร์เซ็น ครับ
เพราะว่าที่ค้าขายเกินดูลมานั้น รู้สึกว่า ช่วง ปี 2 ปีหลัง นี่ เราเกินแค่ จิ๊บๆ จ๊อยๆ เองนี่นา
เพราะว่าที่เอามานับว่าเรามีเท่าไรนี่ มันต้องหักของที่เราไปกูเขามาอีกเท่าไร หรือว่า เขาเอามาฝากไว้เท่าไร
สรุป อยากรู้ว่า เรามี เงิน ดอล ของเราแท้ๆ ที่เก็บอยู่ net ๆ เท่าไรครับ
คนไม่รู้อ่ะครับ อิอิอิ
นั่นสิฮับ อยากรู้ด้วยคน ผมก็ไม่ใช่ธปท. ซะด้วย เลยไม่ต้องมานั่งคิดเรื่องพวกนี้ อิๆๆ
อยากรู้เหมือนกันว่า ธปท. มีหลักเกณฑ์การสำรองเงินอย่างไร ต้องสำรองเท่าไรถึงจะเหมาะสม การนำเงินออกมาใช้ เพื่อให้ค่าเงินอ่อนลงต้องเอาออกมาใช้สัดส่วนเท่าไร เมื่อเทียบกับเงินที่มีอยู่ และเงินขาเข้า รวมถึงเงินที่เอาไปใช้หนี้ต่างประเทศต้องทยอยแลกออกไปในอัตราปีละเท่าไร
เงินเฟ้อกี่ % ถึงมา กี่ % ถึงน้อยไป ใช้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจมาเป็นปัจจัยในการคำนวนหรือไม่?
bajjo
Verified User
โพสต์: 152
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 7:12 pm
[quote="ROGER"]ธปท นี่เรียนตำราไหนมาเนี๊ยะ ไม่ได้เรื่องเลย
ส่งออกเยอะๆๆ ได้เงินดอลล์มามากขึ้นๆๆๆ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1
ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 7:38 pm
CEO เขียน: ผมคิดแต่แรกว่าเราไม่ควรไปสู้ค่าเงิน แต่ให้ใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆแทน แต่ผมไม่มีตวามรู้เรื่องเครื่องมือทางการเงินพวกนั้น
ทำไปก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เหมือนการไปซื้อหุ้นสู้เวลาเจ้ามือทุบ หรือการขายสวนเวลาเจ้ามือลาก ฉันใดฉันนั้น
ผมไม่เห็นด้วยกับการเปรียบเทียบกับหุ้นเหมือนของคุณ CEO
เพราะผมว่า เหมือนการไปขายหุ้นเพื่อกดราคาไม่ให้ขึ้น ทั้งๆที่ผลการดำเนินงานก็ดีมาโดยตลอด
สิ่งที่น่าคิดจากเหตุการครั้งนี้ ก็คือ บุคคลากรของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น เอกชน ภาครัฐ และประชาชน มีความพร้อมกับการลอยตัวค่าเงินมากน้อยแค่ไหน
ทั้งๆที่เราก็ลอยตัวค่าเงินบาทมา 10 ปีแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครคิดปรับตัว
หรือว่าเหมือนกับอุตสาหกรรมต่างๆที่รัฐบาลไทยมักจะปกป้องเพื่อคนไทย ทำให้ไม่มีการแข่งขัน เวลาผ่านไปนานเท่าไร ก็ไม่มีการพัฒนาปรับปรุง หวังเพียงวิ่งเต้นให้รัฐบาลออกกฎมาป้องกันให้ก็เท่านั้น
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
khanchang
Verified User
โพสต์: 10
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ม.ค. 20, 2007 1:23 am
ท่านผู้ว่าคนปัจจุบันจบ ป.โท ม.เคโอะ (1 ใน 2 มหาวิทยาลัยเอกชนที่ดังที่สุด) จากญี่ปุ่นโดยทุนรัฐบาลญี่ปุ่นครับ
สงสัยลืมไปเทคคอร์ส เลยออกมาเป็นแบบนี้
iambuffet
Verified User
โพสต์: 337
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ม.ค. 20, 2007 4:46 pm
[quote="chatchai"][quote="สามัญชน"]ทำไมคุณ CEO ถึงเรียกเขาว่า หมาจนตรอกครับ
ROGER
Verified User
โพสต์: 609
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ม.ค. 20, 2007 5:19 pm
ท่านผู้ว่าคนปัจจุบันจบ ป.โท ม.เคโอะ (1 ใน 2 มหาวิทยาลัยเอกชนที่ดังที่สุด) จากญี่ปุ่นโดยทุนรัฐบาลญี่ปุ่นครับ
สงสัยลืมไปเทคคอร์ส เลยออกมาเป็นแบบนี้
แย่จัง ทำไมไม่เอาพวกที่จบจาก NYU หรือ U of Chic มาให้คำปรึกษาละ ดร เมืองไทยรุ่นใหม่ๆๆๆ ที่จบจาก มหาลัยเหล่านี้มีอยู่หลายคน สงสัยพวกนี้เก่งเกินไปมั๊ง เลยพูดกับคนแบงค์ชาติไม่รู้เรื่อง
jody4003
Verified User
โพสต์: 372
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ม.ค. 20, 2007 8:52 pm
เพื่อน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1832
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ม.ค. 20, 2007 9:06 pm
chatchai wrote:
สิ่งที่น่าคิดจากเหตุการครั้งนี้ ก็คือ บุคคลากรของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น เอกชน ภาครัฐ และประชาชน มีความพร้อมกับการลอยตัวค่าเงินมากน้อยแค่ไหน
ทั้งๆที่เราก็ลอยตัวค่าเงินบาทมา 10 ปีแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครคิดปรับตัว
จริงด้วยครับ
ผมมองแบบนอกกรอบ(ของการพยายามแก้ปัญหา) แล้วรู้สึกว่า เรื่องทั้งหมดนี้กลายเป็นเกมทางการเงินมากกว่าเรื่องธรรมชาติทางธุรกิจ
ค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลง เป็นเกมที่ถูกกดดันมาจากผู้เล่นในการซื้อขายเงินหวังกำไรจากแนวโน้ม และบางกลุ่มมีอิทธิพลพลักดันชี้ทิศของแนวโน้มให้แรงและเร็วขึ้น....ซึ่งสาเหตุของแนวโน้มก็มีมากมาย เช่นเรื่องของการเกินดุล เรื่องของแนวโน้มในการลดดอกเบี้ยตามอัตตราเงินเฟ้อที่ลดลง การกระพือข่าวแนวโน้ม ฯลฯ
มองดูแล้ว การแทรกแทรง การลดดอกเบี้ย การพยายามทำให้ตัวเองเสียดุล การสู้กับค่าเงิน เพื่อเอาชนะ ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริง.....แก้แบบนี้คงไม่มีทางชนะตลอด หรืออาจจะชนะบ้างแต่แล้วก็จะต้องคอยแก้ไปเรื่อยๆในรูปแบบของการเก็งกำไรรูปแบบใหม่ๆ เพราะเกมนี้เกิดขึ้นจากนักเก็งกำไรค่าเงินเป็นคนกำหนดเกมขึ้นมาให้เราอยู่ในวังวนของการแก้ปัญหา และต้องคอยตามแก้เกมไปเรื่อยๆ(เพื่อพยายามที่จะไม่แพ้)
หาทางที่จะไม่เข้าไปอยู่ในเกมของเค้า หรือหาทางให้นักเล่นเกมเหล่านี้ไม่มาสนใจเล่นเกมกับเรา น่าจะเป็นทางออกที่ตรงกว่า
......ความรู้ผมเองคงมีไม่มากพอที่จะเสนอแนะ แต่ผมคิดว่ามีวิธีครับ.....คงต้องค้นหาวิธีการที่เหมาะสม ค่อยๆดูผลกระทบ ค่อยๆปรับแก้จากผลกระทบ ให้เหลือเฉพาะเรื่องของการทำธุระกิจปราศจากการเก็งกำไร หรือจะเหลืออยู่บ้างก็ให้น้อยที่สุดพอที่จะดูแลได้.....เวลาผ่านมา10กว่าปี น่าจะมีประสพการณ์มากพอเพื่อจะหาวิธีแก้ใข.....ทำยังไงให้นักเก็งถอยออกจากระบบการทำธุรกิจไป.....(นอกจากว่าตัวเองอยากจะเล่นเสียเอง...ก็คงแก้ยากเหมือนกัน)