ไอซีทีรื้อSATTEL สัมปทานมีพิรุธ

[sarote]

สรุปข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
Source - สรุปข่าวหนังสือพิมพ์
Monday, 29 January 2007 06:10

SATTEL มีสิทธิไม่รอด "สิทธิชัย"สั่งสอบสัญญาสัมปทานดาวเทียม รู้ผล 2 สัปดาห์ พบตุกติกหลายเรื่องไม่มีดาวเทียมสำรอง แก้สัดส่วน SHIN ถือหุ้นไม่ผ่านครม.รวมถึงได้เงินชดเชยไทยคม 3 แต่ไม่เข้ารัฐ

-- พอเป็นเหตุผลให้ยึดสัมปทานได้ไหมคับ แล้วถ้าสมมติว่าได้
--ทางรัฐจะจัดการกับหนี้ก้อนใหญ่อย่างไงคับ
--รัฐจะเข้าไปจัดการบริหารเองหรือจะประมูลขายเจ้าอื่น
--รูปแบบการเชื่อมโยงสัญญาณเป็นลิขสิทธิของบริษัทฯ เจ้าอื่นทำแทนได้ไหมคับ

อยากทราบความคิดเห็นของเพื่อนๆคับ จะได้ช่วยกันประเมินความเสี่ยงได้บ้าง

[sarote]

ผมสังสัยอยู่เรื่องนึง เหมือนเคยอ่านประมาณว่า

--ดาวเทียมเป็นของรัฐตั้งแต่วันแรก เอกชนเป็นผู้เช่าสัมปทาน(แต่ต้องลงทุนซื้อเอง ดวงหนึ่งใช้ได้ประมาณ 15 ปี)

--แล้วแบบนี้ถ้าดาวเทียมเกิดตกตอน 5 ปีแรก บริษัทได้เงินประกัน แต่เงินประกันต้องมอบให้รัฐทั้งหมดไหมคับ ถ้าตีความตามข้างบน (แทนที่บรษัทจะเอาไปซื้อดวงใหม่)

ปล. ผมมีหุ้น 1000 หุ้น กำลังขอต่อราคาอยู่คับ

[sarote]

ไอซีทีรื้อSATTEL สัมปทานมีพิรุธ
Source - ข่าวหุ้น
Monday, 29 January 2007 04:05

SATTEL มีสิทธิไม่รอด "สิทธิชัย"สั่งสอบสัญญาสัมปทานดาวเทียม รู้ผล 2 สัปดาห์ พบตุกติกหลายเรื่องไม่มีดาวเทียมสำรอง แก้สัดส่วน SHIN ถือหุ้นไม่ผ่านครม.รวมถึงได้เงินชดเชยไทยคม 3 แต่ไม่เข้ารัฐ "กฤษฎีกา"ตีความถ้าผิดถึงขั้นแก้สัญญา
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็วๆ นี้ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการอสาร(ไอซีที)ได้เรียกผู้บริหารบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด(มหาชน) หรือ SATTEL มาชี้แจงสัญญาสัมปทานดาวเทียม เนื่องจากกระทรวงไอซีทีพบข้อมูลว่าเนื้อหาในสัญญาสัมปทานของ SATTEL ไม่ถูกต้องหลายประการ
         ประการแรก คือ ดาวเทียมสำรองของดาวเทียมไทยคม 3 ซึ่งเป็นดาวเทียมหลักชุดที่ 2 และดาวเทียมสำรองของดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ซึ่งเป็นดาวเทียมหลักชุดที่ 3 ตามสัญญา กลับไม่มี ทั้งๆ ที่สัญญาสัมปทานระบุว่าต้องมีดาวเทียมสำรองดังกล่าวซึ่งการที่ไม่มีดาวเทียมสำรอง ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
         ประการที่ 2 พบว่ามีการแก้ไขสัญญาสัมปทานดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ในประเด็นทางเทคนิคของดาวเทียมไทยคม 4 เดิม ให้เป็นดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์)ซึ่งถือเป็นการแก้ไขสาระสำคัญ เพราะเป็นการเปลี่ยนเทคโนโลยีทั้งหมด โดยการแก้ไขดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมการงานพ.ศ.2535ซึ่งอาจมีผลให้การแก้ไขสัญญาไม่ผูกพันกับรัฐตามกฎหมาย
         นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SHIN ที่ถือใน SATTEL จาก 51% เป็น 40% ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสัญญาในสาระสำคัญเช่นกัน ซึ่งต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความเห็นชอบ รวมถึงต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องดังกล่าว
         สำหรับการแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้น SHIN นั้น บริษัทเคยชี้แจงว่า เพราะ SATTELต้องการเงินลงทุนในดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 5 ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จำเป็นต้องระดมทุนจากในประเทศและนอกประเทศ จึงต้องแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้นเพื่อรองรับการลงทุนดังกล่าว
         ส่วนอีกประเด็นคือกรณี SATTELได้รับค่าสินไหมชดเชยจำนวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัทประกัน กรณีที่ดาวเทียมไทยคม 3 เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ แต่ SATTELไม่นำเงินดังกล่าวเข้าประเทศเพื่อส่งคืนกระทรวงการคลัง จึงอาจผิดหลักเกณฑ์การนำเงินส่งคืนรัฐ
         ขณะที่กระทรวงไอซีทีได้ทำหนังสือเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546 ให้เอกชนนำเงินประกันที่ได้จำนวน 26.2 ล้านเหรียญสหรัฐไปสร้างดาวเทียมไทยคม 5 และอีก 6.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้เป็นค่าเช่าช่องสัญญาณ Intelsat ทดแทนระหว่างรอสร้างดาวเทียมดวงใหม่ ทั้งๆที่ SATTEL ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง
         ส่วนกรณีสุดท้าย คือ สัญญาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์)ของบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) พบว่ามีการใช้อำนาจทางการเมืองบังคับให้ทีโอทีต้องทำสัญญาเช่าช่องสัญญาณ โดยไม่มีแผนธุรกิจหรือแผนการตลาดมาก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานของโครงการตั้งแต่กุมภาพันธ์-กันยายน 2549 ทำได้เพียง 12.86% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้เท่านั้น
         ทั้งนี้หากผู้บริหาร SATTEL ไม่สามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าว กระทรวงไอซีทีจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงคาดว่าจะรู้ผลภายใน 2 สัปดาห์
         นายสิทธิชัย รมว.ไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงได้ส่งสัญญาสัมปทานดาวเทียมของSATTEL ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบว่าถูกต้องตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 หรือไม่ โดยส่งไปพร้อมสัญญาสัมปทานโทรคมนาคมอื่นหลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว หากพบว่าไม่เป็นไปตามสัญญา กระทรวงจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

[lekmak333]

นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ SHIN ที่ถือใน SATTEL จาก 51% เป็น 40% ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสัญญาในสาระสำคัญเช่นกัน ซึ่งต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความเห็นชอบ รวมถึงต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องดังกล่าว

ไม่เห็นต้องรื้อขึ้นมาเลย    

ส่วนอีกประเด็นคือกรณี SATTELได้รับค่าสินไหมชดเชยจำนวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัทประกัน กรณีที่ดาวเทียมไทยคม 3 เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ แต่ SATTELไม่นำเงินดังกล่าวเข้าประเทศเพื่อส่งคืนกระทรวงการคลัง จึงอาจผิดหลักเกณฑ์การนำเงินส่งคืนรัฐ

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546 ดาวเทียมไทยคม 3 เกิดเหตุขัดข้องในระบบพลังงานส่งผลให้มีพลังงานไม่เพียงพอในการเปิดช่องสัญญาณดาวเทียมทุกช่องได้ ซึ่งจากเหตุขัดข้องในระบบพลังงานดังกล่าวบริษัทรับประกันภัยได้ตกลงชำระค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามมูลค่าประกันภัยดังกล่าวไม่ครอบคลุมผลเสียหายจากการสูญเสียรายได้อันสืบเนื่องมาจากการเสียหายของดาวเทียมครั้งนี้ โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของดาวเทียม และเป็นผู้ร่วมรับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยได้ตกลงที่จะนำเงินค่าสินไหมทดแทนเก็บไว้ในบัญชี Escrow โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้บริษัทฯ นำไปดำเนินการจัดหาช่องสัญญาณดาวเทียม และ/หรือจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่เพื่อทดแทนช่องสัญญาณดาวเทียมที่เสียหายต่อไป ซึ่งบริษัทฯ และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้   ลงนามในสัญญา Escrow  Account เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2547 และ ในปี 2548 บริษัทฯ ได้คัดเลือกให้ Alcatel เป็นผู้จัดสร้างดาวเทียมไทยคม 5 และ ให้ Arianespace เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งดาวเทียมสู่วงโคจร โดยแหล่งเงินทุนบางส่วนจะมาจากเงินค่าสินไหมทดแทนดาวเทียมไทยคม 3

...........นึกว่า สัญญาตรงนี้จะโอเคแล้วซะอีก จริงๆไปเรียกร้องกับ sattel ไม่ได้ ICT สมัยนายกคนก่อนเป็นคนเขียนสัญญา


สรุปครับ ใครมีขายทิ้งเหอะ ต้องเชื่อแล้วน่ะครับว่ารัฐบาลชุดนี้ทำอะไรได้ทุกอย่าง  :?

[กระทิงแดง]

[quote="lekmak333"][quote]สรุปครับ ใครมีขายทิ้งเหอะ ต้องเชื่อแล้วน่ะครับว่ารัฐบาลชุดนี้ทำอะไรได้ทุกอย่าง

[lekmak333]

ทำไม ITV รัฐบาลใช้คำว่า "สัญญาต้องเป็นสัญญา"

แต่พอมาถึง sattel เป็น สัญญาไม่เป็นธรรม
และใช้เวลานานน่ะครับ กว่าจะควานหาเหตุผลมาได้  :lol:  

และ sattel ก็ถือหุ้นโดยสัญชาติไทย 50 กว่าเปอร์เซ็น

ผมก็คิดว่า รัฐบาลชุดนี้จะเลงถึงประโยชน์โดยภาพรวมซะอีก

โชคดีน่ะครับ สำหรับทุกท่านที่ถือ sattel อยู่ รวมทั้งผมด้วย  

[lekmak333]

อันนี้เป็นความเห็นโบรกเกอร์ครับ

บล.นครหลวงไทย : SATTEL แนะนำ ซื้อเก็งกำไรมูลค่าที่เหมาะสม ที่ 10.98 บาท
         
        SATTEL สัญญาสัมปทานดาวเทียม รู้ผล 2 สัปดาห์ พบตุกติกหลายเรื่องไม่มีดาวเทียม
สำรอง แก้สัดส่วน SHIN ถือหุ้นไม่ผ่านครม.รวมถึงได้เงินชดเชยไทยคม 3 แต่ไม่เข้ารัฐ
(ข่าวหุ้น)
          ความเห็นนักวิเคราะห์ : SCIBS มีความเห็นเป็น Neutral ต่อประเด็นดังกล่าว
เพราะเป็นประเด็นที่ภาครัฐพยายามหยิบยกขึ้นมาตีความสัมปทานที่ให้ SATTEL โดยเฉพาะสัด
ส่วนผู้ถือหุ้นที่ SHIN ถือหุ้น 41% ซึ่งไม่เข้าข่ายผิดร่างกฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว ดังนั้นประเด็น
ดังกล่าวจึงไม่น่าจะมีน้ำหนัก สำหรับเงินประกันจากไทยคม 3 ที่SATTEL ได้มาเกือบ 2 พันล้าน
บาทนั้น คงต้องพิจารณาในเงื่อนไขสัญญาสัมปทานว่าได้ครอบคลุมประเด็นเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งหาก
เข้าข่ายส่วนแบ่งรายได้ SATTEL จะต้องปรับปรุงส่วนผู้ถือหุ้นในจำนวนดังกล่าวอย่างไรก็ตาม
ประเด็นที่น่าสนใจและควรให้น้ำหนักการลงทุนคือ รัฐบาลอินเดียอาจจะพิจารณาอนุมัติให้
iPSTARติดตั้งเกตเวย์ 2 แห่ง ที่บอมเบย์และนิวเดลีภายใน Q1/50 นี้ หลังจากที่เดินเรื่องต่างๆ
มาเป็นเวลานาน และคาดว่าiPSTAR จะติดตั้งเกตเวย์เสร็จภายใน Q2/50 และเปิดให้บริการ
อย่างเป็นทางการใน 2H/50 ซึ่งจะเป็นส่วนที่นอกเหนือจากที่ SCIBS ประเมินผลการดำนินงาน
ของ SATTEL ซึ่งตลาดอินเดียถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากจีน ซึ่งได้เปิด
อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมา อีกทั้งลักษณะการทำธุรกิจ iPSTAR
ในอินเดีย จะเป็นการแต่งตั้งตัวแทน ซึ่งจะรับซื้อแบนด์วิทไปทั้งจำนวน และตัวแทนเป็นคนดำเนิน
การด้านการตลาดเอง ทำให้ iPSTAR ไม่มีความเสี่ยงด้านการตลาด

     คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน : SCIBS ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2550 ที่
10.98 บาท ด้วยวิธี Sum-of-Parts ที่รวมมูลค่าเหมาะสมของ CSL เข้าไว้ด้วย ด้วยทิศทางการ
ทำธุรกิจ iPSTAR ที่ชัดเจนมาขึ้นเป็นลำดับ และโอกาสที่จะเปิดให้บริการในอินเดียเริ่มมีน้ำหนัก
มากขึ้น ดังนั้น SCIBS คงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร

       มุมมองทางเทคนิค : มีแนวโน้มปรับขึ้นระยะสั้น หลังจากผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
10 วัน แนะนำ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นแนวรับ 6.1 แนวต้าน 6.5


สำหรับผม มีข่าว รัฐบาลเล่นงานแบบนี้ ให้หุ้นตัวนี้ติดลบครับ  :lol:

[sarote]

มูลค่าเอาประกันภัยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

โครงการดาวเทียม วงเงินประกัน (ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ระยะเวลา
ไทยคม 1A 20.52 มิถุนายน 2548 - มิถุนายน 2549
ไทยคม 2 20.55 มิถุนายน 2548 - มิถุนายน 2549
ไทยคม 3 32.99 มิถุนายน 2548 - มิถุนายน 2549
ไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) 300.00 สิงหาคม 2548 สิงหาคม 2549

ที่มา : งบประจำปี 2548

-- ถ้าไอพีสตาร์ตกตอนนี้ ได้เงินประกันตั้ง 300*36 = 10,800ล้านบาท !!!

เทียบกับ Market Cap ที่ราคา 6 บาท = 6,000 บาท

--- แบบนี้คุ้มกับความเสี่ยงไหมคับ  :D

ปล. โดนรัฐยึดไม่อยู่ในสัญญาประกันนะคับ

[chaiyos]

ยังงี้ลงขันกันไปจ้างจีนยิง IPStar ให้ตกดีมั้ยครับ

ได้กำไรเหนาะ 4 พันล้าน

^.^


WASHINGTON (CNN) -- China last week successfully used a missile to destroy an orbiting satellite, U.S. government officials told CNN on Thursday, in a test that could undermine relations with the West and pose a threat to satellites important to the U.S. military.

According to a spokesman for the National Security Council, the ground-based, medium-range ballistic missile knocked an old Chinese weather satellite from its orbit about 537 miles above Earth. The missile carried a "kill vehicle" and destroyed the satellite by ramming it.

The test took place on January 11.

[lekmak333]

สัญญาก็เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
แต่รัฐมองว่าไม่เป็นธรรม หรือ ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรก็แล้วแต่

แต่สำหรับ ITV ถึงแม้สัญญาไม่เป็นธรรม แต่รัฐมองว่า สัญญาต้องเป็นสัญญา  :lol:

มา weight กันดีกว่า ได้มากกว่าเสีย หรือ เสียมากกว่าได้

[sarote]

ยังงี้ลงขันกันไปจ้างจีนยิง IPStar ให้ตกดีมั้ยครับ

ได้กำไรเหนาะ 4 พันล้าน

อนึ่ง กรมธรรม์ประกันภัยของกิจการดาวเทียม จะไม่ครอบคลุมเหตุการณ์ต่อไปนี้
1.ภาวะสงคราม การคุกคาม หรือการป้องกัน หรือการกระทำอันนำไปสู่สงครามโดยรัฐบาล หรือการใช้กำลังทางทหาร
2.อุปกรณ์ต่อต้านดาวเทียม หรืออุปกรณ์เกี่ยวข้องกับระเบิดปรมาณูหรือนิวเคลียร์
3.การก่อกบฏ การก่อความไม่สงบ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ สงครามกลางเมือง
4.การยึดทรัพย์โดยหน่วยงานรัฐบาล
5.ปฏิกิริยาตอบสนองของนิวเคลียร์ กัมมันตภาพรังสีของนิวเคลียร์ที่ตกค้าง โดยทางตรงหรือทางอ้อม    อันทำให้เกิดการสูญเสีย/เสียหายต่อดาวเทียม ยกเว้นกัมมันตภาพรังสีที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
6.คลื่นกระแสไฟฟ้า หรือคลื่นความถี่รบกวน ยกเว้นการสูญเสียหรือความเสียหายต่อดาวเทียมโดยตรง
7.ความตั้งใจ หรือเจตนาในการกระทำของผู้ประกันหรือผู้มีอำนาจในการกระทำ อันก่อให้เกิดการสูญเสียหรือเสียหายของดาวเทียม ยกเว้นการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

--ลงขันจ้างจีนยิงดาวเทียมก็ไม่เป็นผลคับ พี่ chaiyos ขัดกับสัญญาข้อ2,7

[sarote]

SATTEL มีสิทธิไม่รอด "สิทธิชัย"สั่งสอบสัญญาสัมปทานดาวเทียม รู้ผล 2 สัปดาห์ พบตุกติกหลายเรื่องไม่มีดาวเทียมสำรอง แก้สัดส่วน SHIN ถือหุ้นไม่ผ่านครม.รวมถึงได้เงินชดเชยไทยคม 3 แต่ไม่เข้ารัฐ

...แต่บริษัทฯ ก็ได้จัดเตรียมแผนการในการรองรับผลเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นกับลูกค้าหากเกิดกรณีที่เกิดความเสียหายขั้นรุนแรงขึ้นกับดาวเทียมดวงใดดวงหนึ่งจนหมดสภาพการใช้งาน โดยบริษัทฯ สามารถดำเนินการให้ผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งย้ายมาใช้ช่องสัญญาณที่ยังคงว่างอยู่ในดาวเทียมไทยคมที่เหลือ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ทำสัญญาร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่นเช่น ดาวเทียม ST-1 และ Intelsat เพื่อให้บริการในประเทศไต้หวัน ลาว ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในการเช่าช่องสัญญาณจากดาวเทียมอื่นชั่วคราว เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถโอนการใช้งานไปได้ในระหว่างที่บริษัทฯ เร่งดำเนินการสร้างดาวเทียมขึ้นเพื่อทดแทน ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลาประมาณ 15 18 เดือน

--อย่างนี้ถือว่ามีดาวเทียมสำรองได้ป่าว!!??  คำว่า "ดาวเทียมสำรอง" หมายถึงต้องมีดาวเทียมอีกดวงของเราเอง สำรองไว้รึป่าวคับ

[lekmak333]

ชินแซท แจงสัมปทานดาวเทียม รมว.ไอซีที ตั้งทีมรื้อข้อบกพร่อง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2550 09:30 น.


      ชินแซท วิ่งโร่แจงปัญหาสัมปทาน รมว.ไอซีที ยันไม่ยกเลิก-ยึดสัมปทาน รัฐยังคงไม่เสียประโยชน์  ขอเวลา 60 วัน มอบปลัดไอซีทีตั้งคณะกรรมการคนนอก 5-6 คน ดูประเด็นปัญหาบกพร่อง ปรับแก้ใหม่ให้ถูกต้อง   ส่วนเรื่องนอมินี ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณา  ด้าน นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ หวั่น ผู้ถือหุ้นรายย่อยสับสน หลังเจอข่าวสอบสัมปทาน เทหุ้นทิ้งกระจาย  ขณะที่บอร์ดใหม่ทีโอที รออีกนิด สพรั่ง ขอคัดชื่อให้เหมาะสม นำเสนอให้ ครม. แต่งตั้งได้สัปดาห์หน้า ด้านกระทรวงการคลังเปิดรายชื่อบอร์ดใหม่ทีโอทีแล้ว
     
      นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยหลังการเข้าพบของ นางสาวนงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ เพื่อชี้แจงข้อสงสัยในข้อสัญญาสัมปทานดาวเทียมว่า ข้อสัญญาที่รัฐทำร่วมกับชินแซทฯ ไม่ได้มีข้อผิดพลาด หรือ มีสาระสำคัญที่ส่งผลให้ประเทศชาติเสียหาย และไม่ส่งผลให้ลูกค้าที่ใช้บริการเดือดร้อนในการใช้บริการ  ซึ่งมีเพียงไม่กี่ประเด็นเท่านั้น ที่ กระทรวงไอซีที มีข้อสงสัย ในทางปฏิบัติตามข้อสัญญา
     
      ปัญหาในข้อสัญญาไม่มีอะไรผิดมากมายจนถึงขั้นยึดหรือยกเลิกสัมปทาน ปัญหามีเพียงอยู่ไม่กี่จุด เป็นเพราะสัญญาบางข้อมีความไม่ชัดเจนในแง่มุมทางปฏิบัติ
     
      ประเด็นที่กระทรวงไอซีที ได้สอบถาม 3 ข้อ คือ 1. ทำไมถึงไม่มีดาวเทียมสำรอง เมื่อดาวเทียมไทยคม 3 ได้ปลดระวางไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา 2. การนำเงินประกันที่ได้จากการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 3 จำนวน 500 ล้านบาทไปใช้ในกรณีใดบ้างและ 3. โครงสร้างสัดส่วนผู้ถือหุ้นว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดหรือไม่
     
      อย่างไรก็ตามการตรวจสอบเรื่องสัญญาสัมปทานดังกล่าว ตนจะมอบหมายให้ นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงไอซีที ไปจัดตั้งคณะกรรมการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ประมาณ 5-6 คน เพื่อเร่งตรวจสอบรายละเอียดในข้อสัญญาและคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 60 วัน ถึงข้อสรุปและการเปลี่ยนแปลงในเรื่องข้อสัญญา เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
     
      นางสาวนงลักษณ์ กล่าวว่า การเข้าแจงของชินแซทครั้งนี้ได้ตอบในทุกประเด็นในข้อสงสัยกับทาง รมว.ไอซีที ซึ่งในบางประเด็นในข้อสัญญา ไม่มีข้อที่แสดงถึงผลกระทบต่อผลประโยชน์ของรัฐ หรือการดำเนินธุรกิจ ที่ขัดต่อข้อสัญญาสัมปทาน  อย่างกรณี การปฏิบัติตามเงื่อนไข ในการลงทุนสร้างดาวเทียมสำรอง หรือ ทดแทน   การใช้เงินจากการค้ำประกันค่าเสียหาย เพื่อนำไปสร้างดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนดาวเทียมไทยคม 3 ที่มีความเสียหายมากกว่าครึ่ง และต้องหาดาวเทียมสำรอง ซึ่งในข้อสัญญาได้ระบุถึงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งทางชินแซท ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข
     
      1.เรื่องการจัดหาดาวเทียมสำรองมาทดแทนดาวเทียมไทยคม3  บริษัทฯ ได้เตรียมรูปแบบสำรองไว้หลายวิธี อาทิ การหาช่องสัญญาณดาวเทียมดวงอื่นสำรองไว้หนึ่งดวงเมื่อเกิดปัญหาขึ้น  ซึ่งตามสัญญาไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าจำเป็นต้องมีดาวเทียมสำรองเท่านั้น ซึ่งชินแซทก็ได้เช่าช่องสัญญาณและนำดาวเทียมไทยคม 5 มาให้บริการแก่ลูกค้า โดยยืนยันว่าลูกค้าที่ใช้บริการไม่ได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างใด  อย่างในช่วงปีก่อน ที่ช่องสัญญาณดาวเทียมชำรุด ทาง บริษัท ก็ได้โอนย้ายไปใช้ร่วมกับดาวเทียมดวงอื่น และใช้ดาวเทียมไทย 4 เข้ามาช่วยสำรอง เป็นต้น
     
      2. เงินประกันไทยคม 3 ที่ได้มาประมาณ 500 ล้านบาทเมื่อปลดระวางไป เนื่องจากกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการให้บริการนั้น ตนขอชี้แจงว่า เมื่อไทยคม 3 เริ่มเสียบางส่วน ชินแซทก็ได้ทยอยเบิกเงินดังกล่าวมา สร้างไทยคม 5 ขึ้นมาทดแทน โดยตามสัญญาที่ทำกับบริษัท ประกันก็ระบุชัดเจนแล้วว่า เงินดังกล่าวจะต้องนำมาเพื่อจัดหาดาวเทียมทดแทน ไม่ให้นำไปใช้ในกรณีอื่น