imf คิดขายทองเพื่อเพิ่มเงินในตลาดโลก

[hot]

อืมคิดว่าไงกันคับ

[007-s]

ทองก็ลงจิงั้นคะ

[hot]

แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้ขายในตลาดนี่คับ
ท่าต้องการให้มาซื้อเหมือนbit lot
ว่าแต่ใครมีเงินขนาดนั้นหว๋า

[lekmak333]

เหตุผลที่ขายเอาเงินไปทำอะไรครับ ???

[krittapon_r]

 งงครับ...

ไม่ทราบว่า IMF ขายทองแล้วเงินในตลาดในตลาดน่าจะลดลงมากกว่า
เพราะเงินย้ายจากตลาดไปอยู่ที่ IMF

...หรือผมเข้าใจผิดอะไร...

[stp]

[quote="krittapon_r"]

[lekmak333]

น้ำมันขึ้นแรงในช่วงนี้

ปัจจัยที่น่าจะมีผลกับราคาทองมากที่สุด ก็น่าจะเป็นราคาน้ำมันในตลาดโลกเนี่ยล่ะครับ

ถ้าน้ำมันรักษาระดับราคา ไม่ต่ำกว่า 60$ ได้ + สถานการณ์ค่าเงิน us
น่าจะได้เห็น ทอง ไป 700$ อีก ในไม่ช้า  :D

[ลูกอิสาน]

ตอนนี้ IMF ไม่ค่อยมีรายได้
เพราะประเทศต่างๆที่เคยกู้เงิน ก็ทยอยคืนเงินกู้กันหมด
ก็เลยคิดจะนำทอง 400 ตัน จากประมาณ 3,500 ตันออกขาย
เพื่อนำเงินที่ได้ประมาณ 6,000 ล.เหรียญไปหาผลตอบแทน

เป็นการเสนอจากคณะทำงาน
แต่ดูเหมือนประเทศที่มีสิทธการโหวตเสียงของ IMF
ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ครับ

อาจจะเป็น big lot เหมือนที่เพื่อนแสดงความเห็นมาก็ได้ครับ
เพราะแค่จีนก็มีทุนสำรองถึง 1,000,000 ล้านเหรียญแล้ว
แค่ซื้อ 6,000 ล.เหรียญเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก

[Kuruni]

IMFเคยขายทองออกมาก่อนหน้านี้มั๊ยครับ  ผมจำไม่ค่อยได้
แต่รู้สึกว่ามีผลให้ราคาทองลงมาพอควร

[007-s]

[quote="Kuruni"]IMFเคยขายทองออกมาก่อนหน้านี้มั๊ยครับ

[ลูกอิสาน]

นำมาจาก www.ausiris.co.th ครับ

Central Bank  การขายทองคำของธนาคารกลาง
          ธนาคารกลาง และสถาบันที่มีการแต่งตั้งขึ้นพิเศษอย่างเช่น (IMF) และThe Bank for International Settlements (BIS) ซึ่งในปัจจุบันได้มีการสำรองทองคำประมาณ 1 ใน 5 ส่วนของทองคำทั่วโลกโดยถือประมาณ 32,000 ตัน  การสำรองทองคำของแต่ละประเทศส่วนใหญ่มีประมาณ 10% ของเงินสำรองทั้งหมด ส่วนในยุโรปมีประมาณ 45% อเมริกาประมาณ 60%

การสำรองทองคำของธนาคารกลางเป็นการสำรองในระยะยาวเพื่อป้องกันความเสี่ยงของการแลกเปลี่ยนของค่าเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพไว้โดยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของแต่ล่ะประเทศ  ซึ่งในประเทศแถบอเมริกาและยุโรปเริ่มมีการสำรองทองคำตั้งแต่ปี 1880 ซึ่งทองคำแท่งเริ่มได้มาตรฐานและเริ่มมีการแลกเปลี่ยนโดยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงตามสภาพการเมืองและเศรษฐกิจในตอนนั้น   นอกจากนั้นธนาคารกลางยังดำเนินธุระกรรมการให้กู้ทองคำแก่เหมืองแร่และผู้ผลิตรายใหญ่และรายย่อยอีกด้วย

Official  Gold Sales and the Central Bank Gold Areement(CBGA)
          เมื่อสมาชิกของธนาคารกลางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยมีการเริ่มมีการนำทองออกจากธนาคารกลางโดยการขายในปี 1989 รวมไปถึงการบริจาดหรือเป็นกองทุน
          การกำหนดอัตราการขายทองคำของธนาคารกลางเริ่มขึ้นในช่วงปี1996-1999เพราะราคา ทองคำเริ่มตกต่ำสืบเนื่องมาจากมีการเทขายเป็นจำนวนมากทำให้มีการควบคุมการขายทองโดย GFMS ของธนาคารกลาง  โดยให้มีสัญญาควบคุมการขายทองคำขึ้น แบ่งเป็น  ฉบับที่ 1 และ 2
Central Bank  Gold agreement (CBGA)
        ฉบับที่ 1 (CBGA1)  เริ่มเซ็นสัญญาในเดือนกันยายนปี 1999     โดยมีประเทศ กลุ่ม ECB  และประเทศในแถบยุโรปโดยยกเว้น ประเทศกรีซ โดยเพิ่มประเทศ  Sweden ,Switzerland และ UK ในสัญญามีการกำหนดให้ขายทองคำแต่ละประเทศได้ไม่เกิน    529 ตันต่อปี ในปี 2000-2004
       ฉบับที่  2 (CBGA2)     เริ่มเซ็นสัญญาในเดือนมีนาคมปี 2004  โดยในสัญญาเพิ่มประเทศกรีซแต่ไม่รวม UK ในฉบับที่ 2 ราคาทองมีความผันผวนมากล่าสุดในเดือนกันยายน(GFMS)ของธนาคารกลางประกาศให้แต่ละประเทศขายทองคำมากสุดได้แค่500ตันต่อปีจนถึงปี 2009 โดยให้เน้นที่การสำรองทองคำมากยิ่งขึ้น

การประมาณการณ์การซื้อขายทองคำของธนาคารกลางปี 2006
               การขายทองคำของธนาคารกลางประมาณการตัวเลขไว้ที่ 500 ตันต่อปีตามที่สัญญา Central Bank Gold Agreement  (CBGA)  ระบุไว้ เป็นผลทำให้supply ในตลาดยังคงน้อยลงต่อไป ส่วนประเทศนอกสัญญาก็พยายามที่จะเพิ่มการสำรองทองคำเพิ่มมากขึ้นเพื่อที่จะสร้างเสถียรภาพของเงินสำรองระหว่างประเทศจากการผันผวนของเงินดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมาธนาคารกลางส่วนใหญ่ได้มีการซื้อทองคำเฉลี่ยที่ 43 ตันต่อปีตั้งแต่ปี2001 ซึ่งมีจำนวนน้อยมากและแนวโน้มการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นคาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับ supplyในตลาดทองคำ

[lekmak333]

นึกถึงหุ้นทองคำ ตัวหนึ่ง
THL เมื่อไหร่ทำการซื้อขายได้ครับ