ข่าวดีต่อตลาด MAI
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 1
เมืองไทยฯลุย หุ้นเอ็มเอไอ ปีนี้ลง500ล.
โพสต์ทูเดย์ เมืองไทยประกันชีวิต รับคำเชิญ ตลท. เข้าลงทุนในตลาดหุ้นเอ็มเอไอ เผยบอร์ดอนุมัติ 500 ล้านบาท
นางภคินีนาถ ติยะชาติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทรับคำเชิญของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการเข้าร่วมลงทุนในตลาดหุ้นเอ็มเอไอ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว โดยได้กันเงินไว้สำหรับการลงทุนในตลาดเอ็มเอไอ 500 ล้านบาท ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหุ้นที่จะเข้าไปลงทุน
ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานมีอัตราการเติบโตและมีประวัติการจ่ายปันผลดีต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ปี มีสภาพคล่องสูง และที่สำคัญต้องเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับแผนการลงทุนของบริษัทด้วย
ปัจจุบันบอร์ดอนุมัติให้เราลงทุนในตลาดหุ้นได้ 12% หรือ 4.2 พันล้านบาท ของสินทรัพย์ลงทุน ทั้งหมด แม้ว่ากรมการประกันภัยจะให้ลงทุนได้สูงถึง 20% ของสินทรัพย์ แต่ถ้าโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นดี เราก็สามารถขอบอร์ดลงทุนเพิ่มได้ นางภคินีนาถ กล่าว
นางภคินีนาถ กล่าวว่า จาก เหตุการณ์ที่หุ้นตกกว่า 100 จุดเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยมูลค่าทางบัญชีลดลงเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น เพราะลงทุนในตราสารอนุพันธ์ ประเภทตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (สตรักเจอร์โน้ต) มากถึง 2 พันล้านบาท ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมากถึง 6%
ทั้งนี้ ในปี 2550 นี้ บริษัท ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการทุนจำนวน 2.1 พันล้านบาท หรือ 5.5% ของสินทรัพย์ลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท
++ ถ้าลงทั้งจำนวนตามนี้จริง จะมีผลต่อราคาหุ้นในตลาด mai แน่
เพราะเงินตรงนี้ใหญ่ถึง 2% ของ mkt.cap
เพื่อนๆ ที่ถือหุ้นดีๆ ในตลาดนี้เตรียมยิ้มได้แล้วครับ
โพสต์ทูเดย์ เมืองไทยประกันชีวิต รับคำเชิญ ตลท. เข้าลงทุนในตลาดหุ้นเอ็มเอไอ เผยบอร์ดอนุมัติ 500 ล้านบาท
นางภคินีนาถ ติยะชาติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทรับคำเชิญของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการเข้าร่วมลงทุนในตลาดหุ้นเอ็มเอไอ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว โดยได้กันเงินไว้สำหรับการลงทุนในตลาดเอ็มเอไอ 500 ล้านบาท ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมด 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหุ้นที่จะเข้าไปลงทุน
ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานมีอัตราการเติบโตและมีประวัติการจ่ายปันผลดีต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ปี มีสภาพคล่องสูง และที่สำคัญต้องเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับแผนการลงทุนของบริษัทด้วย
ปัจจุบันบอร์ดอนุมัติให้เราลงทุนในตลาดหุ้นได้ 12% หรือ 4.2 พันล้านบาท ของสินทรัพย์ลงทุน ทั้งหมด แม้ว่ากรมการประกันภัยจะให้ลงทุนได้สูงถึง 20% ของสินทรัพย์ แต่ถ้าโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นดี เราก็สามารถขอบอร์ดลงทุนเพิ่มได้ นางภคินีนาถ กล่าว
นางภคินีนาถ กล่าวว่า จาก เหตุการณ์ที่หุ้นตกกว่า 100 จุดเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยมูลค่าทางบัญชีลดลงเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น เพราะลงทุนในตราสารอนุพันธ์ ประเภทตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (สตรักเจอร์โน้ต) มากถึง 2 พันล้านบาท ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมากถึง 6%
ทั้งนี้ ในปี 2550 นี้ บริษัท ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการทุนจำนวน 2.1 พันล้านบาท หรือ 5.5% ของสินทรัพย์ลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท
++ ถ้าลงทั้งจำนวนตามนี้จริง จะมีผลต่อราคาหุ้นในตลาด mai แน่
เพราะเงินตรงนี้ใหญ่ถึง 2% ของ mkt.cap
เพื่อนๆ ที่ถือหุ้นดีๆ ในตลาดนี้เตรียมยิ้มได้แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 8
ในตลาดใหม่เป็นตลาดที่มีกองทุนน้อย
ต่างชาติมองไม่เห็นอีกต่างหาก
เพราะหุ้นหลายตัวมีสภาพคล่องก็จริง
แต่ปริมาณหุ้นน้อยกว่าในSETเมื่อเทียบกับ
พวกที่สภาพคล่องมากๆๆ
จุดนี้เป็นจุดเด่นของตลาดนี้
ส่วนเมืองไทยประกันชีวิตจะมาอยู่ที่ตลาดใหม่
ในความคิดของผมนั้น ว่าเข้าผิดตลาดหรือเปล่า
เนื่องจากเมื่อเทียบกับประกันภัยหรือประกันชีวิตแล้ว
เมืองไทยประกันชีวิตก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน น่าจะเข้าที่SETจะดีกว่า จะได้เปรียบเทียบกับอีกตัวหนึ่ง
เปรียบเทียบได้ทั้งประสิทธิภาพในด้านต่างๆๆ
ช่องทางการจัดจำหน่าย การเข้าถึงประชาชนผู้ที่จะทำประกันชีวิตหรือประกันอื่นๆๆ รวมไปถึงการตรวจสอบที่เข้มข้นมากกว่า
น่าคิดอยู่ว่า ทำไมเมืองไทยประกันชีวิตถึงไม่เข้าที่SET ล่ะ ถ้าเข้าSET มันจะดีกว่าในแง่ต่างๆๆ
แปลกเป็นCASEที่น่าศึกษาอีกอย่างว่า เลือกตลาดที่เข้าจดทะเบียนมีผลหรือไม่ในการดำเนินกิจการและการดำรงอยู่ของความเป็นเจ้าของกิจการ
ต่างชาติมองไม่เห็นอีกต่างหาก
เพราะหุ้นหลายตัวมีสภาพคล่องก็จริง
แต่ปริมาณหุ้นน้อยกว่าในSETเมื่อเทียบกับ
พวกที่สภาพคล่องมากๆๆ
จุดนี้เป็นจุดเด่นของตลาดนี้
ส่วนเมืองไทยประกันชีวิตจะมาอยู่ที่ตลาดใหม่
ในความคิดของผมนั้น ว่าเข้าผิดตลาดหรือเปล่า
เนื่องจากเมื่อเทียบกับประกันภัยหรือประกันชีวิตแล้ว
เมืองไทยประกันชีวิตก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน น่าจะเข้าที่SETจะดีกว่า จะได้เปรียบเทียบกับอีกตัวหนึ่ง
เปรียบเทียบได้ทั้งประสิทธิภาพในด้านต่างๆๆ
ช่องทางการจัดจำหน่าย การเข้าถึงประชาชนผู้ที่จะทำประกันชีวิตหรือประกันอื่นๆๆ รวมไปถึงการตรวจสอบที่เข้มข้นมากกว่า
น่าคิดอยู่ว่า ทำไมเมืองไทยประกันชีวิตถึงไม่เข้าที่SET ล่ะ ถ้าเข้าSET มันจะดีกว่าในแง่ต่างๆๆ
แปลกเป็นCASEที่น่าศึกษาอีกอย่างว่า เลือกตลาดที่เข้าจดทะเบียนมีผลหรือไม่ในการดำเนินกิจการและการดำรงอยู่ของความเป็นเจ้าของกิจการ
- nam
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1437
- ผู้ติดตาม: 1
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 11
เขาจะมาซื้อหุ้น มาลงทุนในตลาดใหม่เด้อmiracle เขียน: ส่วนเมืองไทยประกันชีวิตจะมาอยู่ที่ตลาดใหม่
ในความคิดของผมนั้น ว่าเข้าผิดตลาดหรือเปล่า
เนื่องจากเมื่อเทียบกับประกันภัยหรือประกันชีวิตแล้ว
เมืองไทยประกันชีวิตก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน น่าจะเข้าที่SETจะดีกว่า จะได้
แต่ผมสงสัยว่าคงต้องซื้อเป็นปีกว่า เงิน 500 ล้านจะหมด และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไปด้วยแน่เลย
- moo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 14
ทำไมพี่ อีโต้ มองว่าเป็นข่าวร้ายอะครับ
ใช่หรือไม่ว่า ด้วยกำลังเงิน
เค๊าจะสามารถควบคุมทิศทางใน mai ได้เลย
กำหนดทิศทางตลาดได้เลย
ราวกับกองทุนต่างชาติ ที่มีอิทธิพลต่อ set
อย่างนั้นเหรอครับพี่
ใช่หรือไม่ว่า ด้วยกำลังเงิน
เค๊าจะสามารถควบคุมทิศทางใน mai ได้เลย
กำหนดทิศทางตลาดได้เลย
ราวกับกองทุนต่างชาติ ที่มีอิทธิพลต่อ set
อย่างนั้นเหรอครับพี่
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 16
บริษัทประกันภัยและบริษัทประกันชีวิตลงทุนตามอำเภอใจไม่ได้
ซื้อหุ้นก็ซื้อได้ไม่เกินสิบเปอร์เซนต์ของทุนจดทะเบียนบริษัทที่ถูกซื้อ และสิบเปอร์เซนต์ดังกล่าวยังถูกล็อคไว้อีกขั้นว่าต้องไม่เกินกี่เปอร์เซนต์ของเงินลงทุนของบริษัทประกันนั้นๆ (คล้ายๆข้อจำกัดการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์)
โอกาศที่จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทไหนคงไม่ง่าย (มั้ง) เพราะเต็มที่ได้แค่สิบเปอร์เซนต์
แต่น่าจะเป็นข่าวดี (มั้ง อีกที)
เพราะถ้ามีซัพพลายเงินทุนเข้ามาเยอะๆ กิจการดีๆ อาจนำเข้ามาระดมทุนในตลาด mai มากขึ้น เลยเป็นเหตุให้ตลาดดีขึ้น ได้ p/e สูงขึ้น(มั้ง ขออภัย ครั้งที่สาม ก็ไม่มั่นใจนี่นา)
ผู้รู้ช่วยแนะนำจะขอบคุณมาก
ซื้อหุ้นก็ซื้อได้ไม่เกินสิบเปอร์เซนต์ของทุนจดทะเบียนบริษัทที่ถูกซื้อ และสิบเปอร์เซนต์ดังกล่าวยังถูกล็อคไว้อีกขั้นว่าต้องไม่เกินกี่เปอร์เซนต์ของเงินลงทุนของบริษัทประกันนั้นๆ (คล้ายๆข้อจำกัดการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์)
โอกาศที่จะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทไหนคงไม่ง่าย (มั้ง) เพราะเต็มที่ได้แค่สิบเปอร์เซนต์
แต่น่าจะเป็นข่าวดี (มั้ง อีกที)
เพราะถ้ามีซัพพลายเงินทุนเข้ามาเยอะๆ กิจการดีๆ อาจนำเข้ามาระดมทุนในตลาด mai มากขึ้น เลยเป็นเหตุให้ตลาดดีขึ้น ได้ p/e สูงขึ้น(มั้ง ขออภัย ครั้งที่สาม ก็ไม่มั่นใจนี่นา)
ผู้รู้ช่วยแนะนำจะขอบคุณมาก
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 17
ซื้อไว้หมดแล้วเป็นข่าวดี ยังซื้อไม่ครบเป็นข่าวร้าย หรือเปล่าครับ?สงสัยจะมีแต่ผมคนเดียว ที่มองว่าเป็นข่าวร้ายครับ
I do not sleep. I dream.
- Zhang Fei
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 18
พี่อีโต้ คงมองว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในตลาด mai มั้งครับ ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าของหุ้นก็เป็นไปได้Viewtiful Investor เขียน: ซื้อไว้หมดแล้วเป็นข่าวดี ยังซื้อไม่ครบเป็นข่าวร้าย หรือเปล่าครับ?
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 22
จริงอยู่บริษัทประกันภัยใหญ่สามารถลงทุนในหุ้นได้น้อย
แต่ก็แล้วแต่ยอดที่บริษัทนั้นcoverด้วย
ห้ามลืมไปว่า อาวุธของบริษัทประกันภัยมีน่าครับ
คือUnit linkที่เชื่อมกับราคาหลักทรัพย์
ตัวนี้ล่ะเป็นตัวที่ทุกคนไม่ค่อยรู้กันว่ามันมี
ตัวนี้เชื่อมโยงกับอะไร คือเชื่อมโยงกับราคาหุ้น
ผู้ที่เอาประกันภัยสามารถเลือกหุ้นได้ว่า
เอาเงินประกัยภัยไปลงทุนอะไรต่อ
ทำให้บริษัทประกันภัยเป็นเหมือน บริษัทจัดการกองทุนเลยล่ะ
อ้างอิงกับหนังสือเปิดโลกประกันภัย ที่ได้ reviewไปแล้ว
แต่ก็แล้วแต่ยอดที่บริษัทนั้นcoverด้วย
ห้ามลืมไปว่า อาวุธของบริษัทประกันภัยมีน่าครับ
คือUnit linkที่เชื่อมกับราคาหลักทรัพย์
ตัวนี้ล่ะเป็นตัวที่ทุกคนไม่ค่อยรู้กันว่ามันมี
ตัวนี้เชื่อมโยงกับอะไร คือเชื่อมโยงกับราคาหุ้น
ผู้ที่เอาประกันภัยสามารถเลือกหุ้นได้ว่า
เอาเงินประกัยภัยไปลงทุนอะไรต่อ
ทำให้บริษัทประกันภัยเป็นเหมือน บริษัทจัดการกองทุนเลยล่ะ
อ้างอิงกับหนังสือเปิดโลกประกันภัย ที่ได้ reviewไปแล้ว
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 24
ดูรายงานประจำปีของ SCBLT3 มันไม่สมกับเป็นกองทุนเอ็มเอไอเลย ในความเห็นผม เพราะเห็นซื้อหุ้นในตลาดหลักมากกว่าเยอะเลยทั้งที่ขนาดกองทุนแค่ สามร้อยกว่าล้านบาท
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- Doramon007
- Verified User
- โพสต์: 110
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 25
ในความคิดผมก็เห็นด้วยกับคุณอีโต้ครับ เขาคงไม่บอกเราก่อนถ้าเขาจะซื้อแน่ครับ นอกจากซื้อแล้วออกข่าวให้รายย่อยเข้าไปเพื่อขายครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 26
เคยอ่านที่ดร.เขียนว่าหมายเหตุ: กองทุนที่ว่า อาจจะซื้อไปเรียบร้อยแล้ว
ค่อยมาออกข่าวก็ได้ พอรายย่อยเข้าไปซื้อดักรอ
กลายเป็นกองทุนขายทำกำไรออกมาเสียนี่
ถ้า fund manager บอกว่าหุ้นไทยน่าสนใจ ราคาถูกน่าซื้อ
แปลว่าเค้าซื้อไว้หมดแล้ว
-_-'
I do not sleep. I dream.
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 27
ผมว่าคิดมากเกินไปแล้ว.....
ตลาด mai ยังเล็กมาก ยังมีหุ้นเข้าใหม่อีกเยอะและ mkt.cap จะสูงขึ้น
บริษัทประกัน และ บลจ.ต่างๆ ก็คงเอาเงินเข้าลงทุนบางส่วนอยู่แล้ว
ทั้งปัจจุบันและอนาคต
ในที่สุด MAI ก็คงคล้ายๆ กับ NASDAQ นั่นแหละ
ยังไงบริษัทที่บริหารเงินทุนเหล่านี้ ก็ต้องเข้าลงทุนอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว
บริษัทที่มีวิสัยทัศน์ จะเข้าลงทุนไว้ก่อนเพื่อครองตำแหน่ง "เจ้าพ่อ"
ซึ่งเมืองไทยประกันชีวต น่าจะได้เครดิตตรงนี้
รวมทั้ง SCBLT3 ด้วย
ตลาด mai ยังเล็กมาก ยังมีหุ้นเข้าใหม่อีกเยอะและ mkt.cap จะสูงขึ้น
บริษัทประกัน และ บลจ.ต่างๆ ก็คงเอาเงินเข้าลงทุนบางส่วนอยู่แล้ว
ทั้งปัจจุบันและอนาคต
ในที่สุด MAI ก็คงคล้ายๆ กับ NASDAQ นั่นแหละ
ยังไงบริษัทที่บริหารเงินทุนเหล่านี้ ก็ต้องเข้าลงทุนอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว
บริษัทที่มีวิสัยทัศน์ จะเข้าลงทุนไว้ก่อนเพื่อครองตำแหน่ง "เจ้าพ่อ"
ซึ่งเมืองไทยประกันชีวต น่าจะได้เครดิตตรงนี้
รวมทั้ง SCBLT3 ด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าวดีต่อตลาด MAI
โพสต์ที่ 29
พิจารณาได้ในลักษณะเดียวกันกับ
ในอดีตกองทุนยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเช่น CALPER
ประกาศเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไทย
ในระยะสั้น ราคาหุ้นอาจจะได้รับผลดีจากข่าวดังกล่าว
แต่อีกไม่นานก็อาจจะมีข่าว ประกาศลดการลงทุนจากสารพัดเหตุผลตามมา
โดยส่วนตัว ผมชอบข่าวดีในลักษณะประมาณว่า
ได้งานเพิ่ม ยอดขายเพิ่ม กำไรเพิ่ม มาร์จิ้นเพิ่ม ปันผลเพิ่ม
มากกว่า กองทุนใหญ่น้อย จะมาลงทุน ... :lol:
แต่ก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ในพอร์ทมีหุ้น mai อยู่บ้างเหมือนกัน ... :D
ปล. mai ใช้ตัวเล็กครับ
ในอดีตกองทุนยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเช่น CALPER
ประกาศเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในไทย
ในระยะสั้น ราคาหุ้นอาจจะได้รับผลดีจากข่าวดังกล่าว
แต่อีกไม่นานก็อาจจะมีข่าว ประกาศลดการลงทุนจากสารพัดเหตุผลตามมา
โดยส่วนตัว ผมชอบข่าวดีในลักษณะประมาณว่า
ได้งานเพิ่ม ยอดขายเพิ่ม กำไรเพิ่ม มาร์จิ้นเพิ่ม ปันผลเพิ่ม
มากกว่า กองทุนใหญ่น้อย จะมาลงทุน ... :lol:
แต่ก็ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ในพอร์ทมีหุ้น mai อยู่บ้างเหมือนกัน ... :D
ปล. mai ใช้ตัวเล็กครับ
"Winners never quit, and quitters never win."