ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Buffett เพิ่งตัดสินใจซื้อ Posco บริษัทเหล็กของเกาหลี เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งที่หุ้นตัวนี้ราคาปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 80% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ลุงแกมั่นใจขนาดนั้นต้องมีอะไรดีแน่ๆ ไม่ซื้อตามก็บ้าแล้ว

http://www.forbes.com/2007/03/02/buffet ... r=yahootix

ก่อนหน้านี้แกก็ซื้อ PetroChina บริษัทน้ำมันของจีนแถวๆ $20 แค่สามปี ตอนนี้ $112 เข้าไปแล้วครับ

แหะ อันนี้ "ฟันธง" เพราะนักลงทุนไทยอยากซื้อก็คงซื้อไม่ได้  :lovl:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อ้าวเพิ่ง disclose แต่ไม่ใช่เพิ่งซื้อแหะ ต้นทุนของลุงแกตอนนี้กำไรกว่าเท่าตัวแล้ว  :evil:

http://biz.yahoo.com/rb/070302/posco_buffett.html?.v=1

ทำไมลุงแก่ๆ คนนี้จึงมักรู้อะไรก่อนคนอื่นอยู่เสมอ  :?:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ซื้อก็ซื้อไม่ได้
แต่ซื้อได้คือเหล็กเมืองไทย
กลุ่มนี้ไม่กล้าซื้อซักกะตัว เพราะถือที่ไรหลังหักทุกที

แต่ต้องขอบคุณข้อมูลของพี่สุมาอี้ครับ
:)
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ซื้อก็ซื้อไม่ได้
แต่ซื้อได้คือเหล็กเมืองไทย
กลุ่มนี้ไม่กล้าซื้อซักกะตัว เพราะถือที่ไรหลังหักทุกที
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 5

โพสต์

:lol:  :lol:  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Bizweek ของสัปดาห์ก่อน มีพูดถึงว่าบริษัทเหล็กในไทยกำลังจะเจออะไรบ้างในไม่ช้านี้ถ้าไม่รีบปรับตัว อ่านแล้วได้ประโยชน์เหมือนกัน
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
nearly_vi
Verified User
โพสต์: 743
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 7

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:Bizweek ของสัปดาห์ก่อน มีพูดถึงว่าบริษัทเหล็กในไทยกำลังจะเจออะไรบ้างในไม่ช้านี้ถ้าไม่รีบปรับตัว อ่านแล้วได้ประโยชน์เหมือนกัน
ไม่ได้อ่านน่ะสิครับ สัปดาห์ที่แล้ว

แสดงว่าไม่ดี?

แล้วทำไมเหล็กเกาหลีถึงจะดี่เนี่ย
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 8

โพสต์

หลังๆ  รู้สึกปู่แกจะเน้นลงทุนในเอเชีย  ลงทุนในบริษัท Commodity นะ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 9

โพสต์

[quote="chatchai"]หลังๆ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
boonprak
Verified User
โพสต์: 153
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 10

โพสต์

พูดถึง POSCO คงพูดเพียงแค่เกาหลีใต้ไม่ได้ เพราะเป็นระดับโลก มี Economy of Scale เป็นอาวุธในการแข่งขัน

ผมอยากไปลงทุนข้างนอกเหมือนกัน  :D  แต่ยังเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็เลยควานๆ หาในเมืองไทยก่อนแล้วกัน  :D
Capo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คิดใหญ่ (ใจเล็ก) วิทย์ วิริยประไพกิจ ผุดโรงถลุงเหล็ก 5 แสนล.ฟุ้งปั้นยอดขายเทียบ"SCG"

ช็อกความรู้สึกคนในแวดวงเหล็กไปมากพอดู เมื่อเครือสหวิริยาประกาศลงทุนอภิมหาโปรเจค ผุดโรงถลุงเหล็กมูลค่า 5 แสนล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของเครือสหวิริยาถูกจับจ้องไม่คลาดสายตา ยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเศรษฐกิจและการเมือง วงการต่างรอดูว่า อภิโปรเจคจะถูกเก็บเข้าลิ้นชักสลักกลอนหรือไม่





ล่าสุด สหวิริยาปรับแผนลงทุน เลื่อนระยะเวลาลงทุนในเฟสแรกออกไปอีก 1 ปี จากปี 2551 เป็น 2552 และปรับการลงทุนเป็น 3 ระยะ ทำให้ต้องกลับมา "นับหนึ่งใหม่" ในการขอบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไออีกครั้ง

สะท้อนให้เห็นปัญหาทางการเงินของโครงการนี้อย่างชัดเจน

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek พาไปหาคำตอบแบบถอดเปลือกว่า คนคิดการใหญ่ "วิทย์ วิริยประไพกิจ" มีโมเดลธุรกิจ และเป้าหมายอย่างไร จึงกล้าผุดโปรเจคยักษ์ที่มีแต่ปัญหาปวดหัว

เป้าหมายแรกต้องเทียบฟอร์มยอดขาย 2 แสนล้านบาท กับเครือซิเมนต์ไทย

เป้าหมายที่สอง สหวิริยาต้องไต่อันดับไปสู่ 1 ใน 5 ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก โดยมีโครงการ "โรงถลุงเหล็ก" เป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ในภาคต่อธุรกิจจาก Local สู่ Global

แต่จะเข็นโครงการนี้ไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า...อาการน่าเป็นห่วง

*****************************


เปิดโมเดลธุรกิจ"สหวิริยา"

แปลงกองสต็อกเป็น"ทุน"

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหวิริยากลายเป็นข่าวฮอตในหน้าหนังสือพิมพ์ เริ่มตั้งแต่ความไม่พร้อมทางการเงินของโครงการ เห็นได้จากการจัดตั้งบริษัทโรงถลุงเหล็กสหวิริยาเข้ามาดำเนินโครงการ 9 หมื่นล้าน แต่กลับมีทุนจดทะเบียนแค่ 2 พันล้าน นำไปสู่การปลดล็อกด้วยการปรับแผนการลงทุน ไม่แน่ว่าบีโอไอจะอนุมัติตามแผนใหม่หรือไม่ ทำให้หนทางที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้ผลิตเหล็กโลกห่างออกไปทุกที

เครือสหวิริยา (Sahaviriya Group) คือกลุ่มธุรกิจเหล็กขนาดใหญ่ของเมืองไทย ที่ยืนหยัดมาได้กว่า 50 ปี เป็นเหมือน 'พี่เบิ้ม' เพราะเมื่อเทียบจากยอดขายเครือสหวิริยาปีละเกือบแสนล้านบาท ก็ต้องถือว่า "ใหญ่ที่สุด"

แต่ก็ยังไม่มีใครคิดว่าเครือสหวิริยาจะช็อกวงการเหล็ก โดยประกาศแผนผุดโครงการ "โรงถลุงเหล็ก" มูลค่า 5 แสนล้านบาท จำนวน 5 เฟส กำลังการผลิตเหล็กรวม 30 ล้านตัน ระยะเวลาโครงการ 15 ปี

ถามกันให้ควั่กว่า เครือสหวิริยา เอาเงินมาจากไหน ?

ถามกันถึงขนาดว่า วิทย์ วิริยประไพกิจ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเครือสหวิริยา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือสหวิริยา กำลังทำอะไร "เกินตัว" สุ่มเสี่ยงต่อการพลาดพลั้ง หรือเปล่า

เพราะจนถึงขณะนี้ แผนการจัดหาเงินกู้วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท จากวงเงินลงทุนทั้งหมด 9 หมื่นล้านบาทในเฟสแรก ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากสถาบันการเงิน จนเลยกำหนดเดิมที่ควรจะดิวกับสถาบันการเงินให้จบภายในสิ้นปี 2549

ส่งผลให้โปรเจคยักษ์มูลค่า 5 แสนล้านบาท ออกอาการสะดุดตั้งแต่ยังไม่ได้ออกสตาร์ท !

อนุวัต ชัยกิตติวนิช ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนวิสาหกิจ บริษัทเครือสหวิริยา ผู้บริหารคนนอก ที่ได้รับความไว้วางใจจากวิทย์ วิริยประไพกิจ ให้เข้ามาดูแลงานด้านการวางแผนธุรกิจ ถ่ายทอดวิถีคิดของบอสใหญ่ "เสือเฒ่าที่ไม่ชมชอบเป็นข่าว" ว่า แท้แล้วเสี่ยวิทย์ได้วาง "โมเดลธุรกิจ" ของเครือสหวิริยาไว้เป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งธุรกิจ มาจนถึงทุกวันนี้ การลงทุนครั้งใหม่จึงไม่ใช่เรื่องบุ่มบ่ามอย่างที่หลายคนคิด

คุณวิทย์บอกเสมอว่าเขาทำตรงนี้ (เครือสหวิริยา) มากว่า 50 ปี ไม่ใช่จุดที่เขาจะพลาด ทุกก้าวที่เขาเดินต้องมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาคิดใหญ่ แต่เขาใจเล็ก หมายถึง ไม่ประมาท มั่นใจ ทุกก้าวที่เดิน ซึ่งเชื่อมโยงไปกับทุกโครงการที่เราจะทำ

เริ่มตั้งแต่การวางโลเคชันที่จะเป็นฐานการผลิตเหล็ก ซึ่งมีอยู่ 3 โลเคชันหลักคือ อ.พระประแดง อ.บางปะกง และ อ.บางสะพาน ซึ่งถูกเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำระหว่างกัน และถือเป็นยุทธศาสตร์ในการขนส่งสินค้า (โลจิสติกส์)

นอกจากนี้ที่ อ.บางสะพาน ยังถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่รองรับกับการเกิดขึ้นของโครงการโรงถลุงเหล็ก เพราะบริเวณดังกล่าวมีร่องน้ำลึกตามธรรมชาติ สามารถรองรับการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบระวางบรรทุกสูงสุด 1 แสนเดทเวทตัน

ไม่อย่างน้น เมื่อ 10 กว่าปีก่อน "ใครจะบ้า" ไปตั้งโรงงานเหล็กที่บางสะพาน ห่างจากกรุงเทพฯตั้ง 400 กว่ากิโล เขาเผย

ไม่ใช่ว่านึกอยากทำโรงถลุงเหล็กเป็นแฟชั่นก็ทำ แต่ทุกอย่างถูกเซตไว้ตั้งแต่ต้น ผ่านการมองจากภาพรวม "อนุวัต" อธิบายถึงต้นทางของโครงการโรงถลุงเหล็ก

ส่วนสาเหตุที่ต้องประกาศ โครงการมหึมาขนาด 5 เฟส และใช้เงินลงทุนมากถึง 5 แสนล้านบาท เขาอธิบายว่า เพราะต้องการจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง (ซัพพลายเชน) ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายวัตถุดิบ ลูกค้า ผู้ลงทุนสาธารณูปโภค สาธารณูปการ เห็นภาพการลงทุนในอนาคตที่ชัดเจน เพื่อเตรียมแผนรองรับกับกำลังการผลิตเหล็กถลุง ที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเฟส

เวลาเราคุยว่าเราจะทำนิดหน่อย 5 ล้านตัน คนก็ไม่เห็นภาพ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในซัพพลายเชนก็จะไม่ได้เตรียมความพร้อม แต่ถ้าเราประกาศไปเลยว่าเราจะทำ 30 ล้านตัน ก็จะต้องเตรียมสาธารณูปโภคให้พร้อม ไฟฟ้า ท่าเรือ

ซัพพลายเออร์ด้านการก่อสร้าง เมื่อรู้ว่าเราแบ่งเป็น 5 เฟส เขาก็จะให้ราคาดีในเฟสแรก เพราะเขาอยากให้เราใช้เขาต่อในเฟสที่สองและสาม

หรือไปคุยกับคนทำเหมือง เราจะซื้อสินแร่เหล็กก็ต้องวางว่าจะซื้อจากใคร เขาจะต้องทำเหมืองอีกเท่าไหร่ เพื่อรองรับกำลังการผลิตของเราที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคงด้านวัตถุดิบและการขาย

แต่เวลาเราทำจริงๆ เราเริ่มต้นทีละเฟส แต่ละเฟสจะเป็นอิสระต่อกัน หากทำเฟสแรกสถานการณ์ไม่ดี เราก็หยุดไม่ทำเฟสสอง เขา กล่าว

เมื่อก้าวถึงจุดของการทำเหล็กครบวงตร ต้นทุนการผลิตเหล็กจะลดลง สามารถผลิตเหล็กที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นได้ นำไปสู่การสร้างความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม ทั้งในเชิงกำลังการผลิตที่มีความประหยัดจากขนาด (Economy of Scale) และในเชิงรายได้จากการขาย หากโครงการไม่ล้มครืนลงมาซะก่อน

"อนุวัต" ยังถ่ายทอดอีกว่า โรงถลุงเหล็กคือจิ๊กซอว์สำคัญของ 2 เป้าหมายใหญ่ของกลุ่มสหวิริยา และ วิทย์ วิริยประไพกิจ

เป้าหมายแรกก็คือ ปั้นเครือสหวิริยาให้ เทียบฟอร์ม (Benchmark) กับเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ด้วยยอดขาย 2 แสนล้านบาท และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ภายในไม่เกิน 5-10 ปีนับจากนี้

เห็นได้จากความพยายามจัดกลุ่มธุรกิจ และเปิดตัวความเป็น เครือสหวิริยา" ออกสู่สาธารณะมากขึ้น โดยใช้ชื่อย่อว่า เอสวีจี เกือบจะพ้องกับเครือซิเมนต์ไทย ที่ใช้ชื่อย่อว่า เอสซีจี

เครือสหวิริยายังพยายามสื่อสารว่า โครงการโรงเหล็กถลุง ไม่ได้ลงทุนทางตรง โดยบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างเอสเอสไอ ที่มีข้อสับสนอยู่มาก แต่โครงการนี้ดำเนินการโดยบริษัทโรงถลุงเหล็กสหวิริยา ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท โดยมีเครือสหวิริยาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีกรรมการผู้มีอำนาจ 2 ท่านคือ ดร.ประภา วิริยประไพกิจ ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ เครือสหวิริยา และ วิทย์ วิริยประไพกิจ

"หากทำไม่ได้ภายใน 5 ปี ก็ต้องทำให้ได้ภายใน 10 ปี" อนุวัตโค้ดคำพูดเสี่ยวิทย์ที่เคยพูดไว้ในที่ประชุมผู้บริหารเครือ

อย่างไรก็ตาม หากเครือสหวิริยาสามารถผุดโรงงานถลุงเหล็กได้ จากปัจจุบันที่เครือมีกำลังการผลิตเหล็กในกลุ่มเหล็กรีดร้อน ปีละ 7.6 ล้านตัน ด้วยยอดขายปีละเกือบแสนล้านบาท หากขยับกำลังการผลิตเป็น 30 ล้านตัน ภายใน 15 ปี หรือมีกำลังการผลิตเหล็กเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว ยอดขายปีละสองแสนล้านบาท คงไม่ใช่ตัวเลขที่ไกลเกินเอื้อม

แต่นั่นหมายความว่า ทีมการตลาดของเครือสหวิริยา จะต้องทำงานอย่างหนัก

อีกหนึ่งเป้าหมายของเครือสหวิริยา จากการถ่ายทอดของ "อนุวัต" คือ ต้องการให้เครือสหวิริยา ก้าวขึ้นเป็นบริษัทเหล็กใหญ่อันดับ 1 ใน 5 ของโลก ที่เป็นเจ้าของเดียว (Single Owned Company) ไม่นับรวมบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการ ภายหลังการผุดโรงถลุงเหล็กครบทั้ง 5 เฟส ภายในระยะเวลา 15 ปี

"คนไม่มั่นใจว่าไทยจะทำเหล็กถลุงได้ แต่หากเทียบในแง่ของกำลังการบริโภคเหล็กในอาเซียนที่ปีละ 30 ล้านตัน ขณะที่ไทยบริโภคเหล็กปีละ 14 ล้านตัน เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

พอถึงเวลาจริงๆ เราเชื่อมั่นว่าเราทำได้ และสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ตอนนี้เครือสหวิริยามีกำลังการผลิตเหล็กปีละ 7.6 ล้านตัน เราทำเฟสแรกกำลังการผลิต 5 ล้านตัน แปลว่าเราไม่มีความเสี่ยงด้านการตลาดเลย อนุวัตพูดถึงศักยภาพทางธุรกิจของโรงถลุงเหล็ก

ถ้าสงสัยว่าสหวิริยาจะเอาเงินมาจากไหน ? "อนุวัต" ตอบให้ดังนี้

"เงินที่นำมาใช้ลงทุน เฟสแรกจะเป็นเงินในส่วนทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากเงินที่จมอยู่กับกองวัตถุดิบมูลค่าสูง และสต็อกวัตถุดิบนาน 3-6 เดือน ผมชี้ภาพให้เห็นง่ายๆ วันนี้กำลังการผลิตเราปีละ 7.6 ล้านตัน เราใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ปีละ 6 ล้านตัน หรือเท่ากับเดือนละ 5 แสนตัน วันนี้เราซื้อ Slab กับ Billet มารีด ราคา 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ต้นทุนที่เราทำเอง (โรงถลุงเหล็ก) ออกมาเป็น Slab ยังไงก็ไม่เกิน 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ยังงั้นเท่ากับต้นทุนต่อตันเราจะถูกลง 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

เวลาเรานำเข้า Slab , Billet จะมีหลายเกรด ทำให้เราจำเป็นต้องสต็อกวัตถุดิบหลายๆ แบบ นานถึง 3 เดือน แต่ถ้าเกิดโครงการโรงถลุงเหล็กเราก็ลดสต็อกแค่เดือนเดียวพอ เพราะเราบรรทุกเรือใหญ่ และเราผลิตเอง

เมื่อเราประหยัดราคาวัตถุดิบได้ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เมื่อลดสต็อกเหลือแค่เดือนเดียว แสดงว่าเราลดสต็อกลงไป 2 เดือน

เรามีกำลังการผลิตเดือนละ 5 แสนตัน ถ้าเอา 2 เดือนคูณ ก็คือ 1 ล้านตัน เอา 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันมาคูณ แล้วคูณด้วยอัตราแลกเปลี่ยน เราก็ประหยัดได้เป็นหมื่นล้านบาทแล้ว เขา คำนวณเงินทุนคร่าวๆ พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถจัดหาเงินทุน 3 หมื่นล้านบาทจนได้

"นี่คือลอจิกที่จะบอกว่า เราไม่ได้คิดเกินตัว ทำเกินตัว เมื่อเครือสหวิริยาบอกจะทำโรงถลุงเหล็ก ไหนคุณโชว์สิว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ แต่จริงๆ เรามีเครือข่ายธุรกิจในเครืออยู่แล้ว เงินทุนไปจมอยู่กับกองวัตถุดิบ ก็ต้องเปลี่ยนรูปกองวัตถุดิบนั้นเป็นโรงงาน"

ทั้งหมดนี้คือ "ปากคำ" ของผู้บริหารสหวิริยา ที่พยายามถ่ายทอด "ศักยภาพ" ของโครงการให้สาธารณชนได้รับทราบ ส่วนโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ คงต้องรอ "ลุ้น" กันต่อไป

/////


"วิทย์ วิริยประไพกิจ" พี่เบิ้มวงการเหล็กผู้นี้ นิยามแนวทางการทำธุรกิจของตัวเองว่า "คิดใหญ่ แต่ใจเล็ก" หมายถึง ไม่ประมาท และ มั่นใจ ในทุกก้าวที่เดิน"

******************
น่าจะเป็นอันนี้ละมังครับ
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
Capo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ลืมลิงค์ครับ

http://www.bangkokbizweek.com/20070204/ ... 25699.html
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
javidol
Verified User
โพสต์: 442
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 13

โพสต์

สุมาอี้ เขียน: ทำไมลุงแก่ๆ คนนี้จึงมักรู้อะไรก่อนคนอื่นอยู่เสมอ  :?:
ผมว่าส่วนนึงก็เพราะคนอื่นมั่นใจและซื้อตามๆกันนี่แหล่ะครับ

แถมดีไม่ดียังเป็นการกดดันบ.นั้นๆทางอ้อมให้ตั้งใจทำผลงานให้ได้ตามเป้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
value_invester_man
Verified User
โพสต์: 47
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 14

โพสต์

อันนี้บริษัทเหล็กของไทย
----------------------------------
หุ้น ssscปันผล 4.2 บาท = 12% ต่อหุ้น  
XD  9 เมย.50ครับ  จ่ายเงินปันผล 4.2 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นปัจจุบัน 37.25 บาท = กำไร 12% ต่อหุ้น  
---------------------------------
SSSC :สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ประจำปี(F45-1)  


--SET
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ประจำปี(F45-1)
        บริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน)

           ตรวจสอบ
         (หน่วย : พันบาท)
        สิ้นสุดวันที่  31 ธันวาคม
           งวด 1 ปี
    ปี        2549  2548

กำไร (ขาดทุน) สุทธิ     416,961   392,976
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)     8.69   8.19

 ประเภทของความเห็นของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน :
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
 

 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
     ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

 "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้
  จัดส่งงบการเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต ้น
  ฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"

     ลงลายมือชื่อ _______________________
          ( นายสุรศักดิ์  คุณานันทกุล )
     ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ
     ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
ภาพประจำตัวสมาชิก
value_invester_man
Verified User
โพสต์: 47
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 15

โพสต์

01/03/2007  
SSSC :จ่ายเงินปันผลและกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น  


--SET
ที่ ศบ.กม. 048/2550
       28 กุมภาพันธ์ 2550
เรื่อง     แจ้งมติคณะกรรมการเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล,
  และกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
เรียน กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เนื่องด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2550 ของบริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด
(มหาชน) ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 28  กุมภาพันธ์  2550  ระหว่างเวลา 15.00 น. ถึงเวลา 17.30 น.
ได้มีมติดังนี้
1) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งกรรมการที่ต้องออกตามวาระ 2 ท่านคือ
นายพิศาล คงสำราญ และ  นายวิจารณ์ ขวัญจันทร์ กลับเข้ามาดำรงตำแหน่ง
กรรมการของบริษัทฯ ใหม่อีกวาระหนึ่ง และแต่งตั้งให้ นายมาซาฟูมิ โอคุโบะ
และนางนภาพร หุณฑนะเสวี เป็นกรรมการใหม่แทนกรรมการเดิมที่ต้องออกตามวาระอีก
2 ท่าน คือ นายมาซาอากิ ซาคากิบาร่า และ นายอนันตชัย คุณานันทกุล รวมทั้งแต่งตั้ง
ให้นายพิศาล คงสำราญ, นายวิจารณ์  ขวัญจันทร์ และนายพงษ์ศักดิ์ อังสุพันธ์
เป็นกรรมการอิสระของบริษัทฯ เช่นเดียวกับปีก่อน และกำหนดผลประโยชน์ตอบแทนกรรมการ
ประจำปี 2550 ดังนี้ กรรมการบริหารได้รับเงินเดือนไม่เกิน 17,000,000.-บาท ต่อปี
ส่วนกรรมการที่ไม่ได้รับเงินเดือน รวมทั้งกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ
จะได้รับเบี้ยประชุมคนละ 25,000.-บาท ต่อครั้งที่มาประชุม
2) ให้จ่ายเงินปันผลประจำปี สำหรับผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 47,999,991 หุ้น ในอัตราหุ้นละ 4.20 บาท
รวมเป็นจำนวนเงิน 201,599,962.20 บาท โดยกำหนดจ่ายจากกำไรสะสมของบริษัทฯ
การจ่ายเงินปันผลนั้น ให้กระทำในวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 และให้ตั้งสำรองตามกฎหมาย
เพิ่มขึ้นอีกจำนวนเงิน 16,000,000 บาท รวมเป็นตั้งสำรองตามกฎหมายเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น
48,000,000 บาท
3) กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่
9  เมษายน 2550  ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ
4) กำหนดประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ครั้งที่   1/2550 ในวันที่ 27 เมษายน 2550
เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 51/3 หมู่ 2 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย
ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีระเบียบวาระ
การประชุมดังนี้

1/3


1) พิจารณารับรองรายงานการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 ซึ่ง
   ประชุมเมื่อวันที่ 28   เมษายน  2549
2) พิจารณารับรองรายงานการดำเนินกิจการของคณะกรรมการในรอบปี 2549
ที่ผ่านมาและแผนการดำเนินกิจการของบริษัทฯในปี 2550
3) พิจารณาอนุมัติงบดุลและงบกำไรขาดทุนสำหรับรอบปีบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม
2549 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549
4) พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผล และการตั้งสำรองตามกฎหมาย สำหรับผลการ
  ดำเนินงานประจำปี 2549
5) พิจารณาเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระและกำหนด
 ผลประโยชน์ตอบแทนกรรมการประจำปี 2550
6) พิจารณาเลือกตั้งผู้สอบบัญชี และกำหนดค่าตอบแทน
7) พิจารณารับทราบการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบ
พิจารณาเรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)
 5) กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น   เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุม
สามัญประจำปีผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 9 เมษายน 2550
ถึงวันที่ 27 เมษายน 2550
6) แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ จำนวน 3 ท่านดังนี้
 นายพงษ์ศักดิ์  อังสุพันธ์   ประธานกรรมการตรวจสอบ
 นายพิศาล  คงสำราญ  กรรมการตรวจสอบ
 นายวิจารณ์    ขวัญจันทร์  กรรมการตรวจสอบ
 วาระการดำรงตำแหน่ง
1. ประธานกรรมการตรวจสอบ 2 ปี นับแต่วันที่ 19 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
2. กรรมการตรวจสอบ  2 ปี นับแต่วันที่ 19 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
   (รวมทั้งการแต่งตั้งเพิ่มเติม และถอดถอนจากกรรมการตรวจสอบ)
 และแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจากบริษัท บริษัท แกรนท์ ธอนตัน จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของ
บริษัทฯ ประจำปี 2550 โดยมีนายสมคิด เตียตระกูล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่
2785 หรือนางสุมาลี โชคดีอนันต์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ทะเบียนเลขที่ 3322
โดยกำหนดค่าตอบแทน เป็นเงินจำนวน 1,070,000.- บาท
2/3


7) ให้แต่งตั้งกรรมการคือ นายสุรพล คุณานันทกุล ดำรงตำแหน่ง กรรมการรองผู้อำนวย
การ และให้นายโนบูโอะ โคชิบะ ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการแทน
นายมาซาอากิ ซาคากิบาร่า
 กำหนดอำนาจกรรมการของบริษัทใหม่เป็นดังนี้ ?ชื่อและจำนวนกรรมการ
ซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทฯ คือกรรมการคนใดคนหนึ่งในกลุ่ม ก.ลงลายมือชื่อ
ร่วมกันกับกรรมการในกลุ่ม ข. อีกคนหนึ่ง และประทับตราของบริษัท โดยกรรมการกลุ่ม ก.
มี 3 นายคือ นายวันชัย คุณานันทกุล, นายสุรศักดิ์ คุณานันทกุล และนายสุรพล คุณานันทกุล
กรรมการกลุ่ม ข. มี 3 นาย คือนายอากิฮิโกะ ซึโบอูชิ,นายโนบูโอะ โคชิบะ
และนายมาซาอากิ ทาคิซาว่า?

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ


(นายสุรศักดิ์  คุณานันทกุล)
กรรมการผู้อำนวยการ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 16

โพสต์

อุตสาหกรรมเหล็กของไทยอยู่ได้ด้วยการกีดกันเหล็กนำเข้า ผมไม่สนใจหรอกครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 17

โพสต์

3 Steel Company Execs Kidnapped in India
Saturday May 12, 2:07 am ET  
3 Officials From South Korean Steel Company Taken Hostage in Eastern India


NEW DELHI (AP) -- Three Indian officials working for a South Korean steel company were taken hostage Friday by activists who contend that the company's plan to build a plant in eastern India would displace thousands of people.
ADVERTISEMENT


The Posco officials had traveled to the village of Gobindapur in the eastern state of Orissa to meet with farmers about acquiring land when they were kidnapped, police said.

Abhay Sahu, the president of an activist group dedicated to fighting the Posco project, told the Press Trust of India news agency the hostages would not be released until the company pledged not to develop the site. But they were released after the villagers received assurances from Posco that they would not enter their village, PTI quoted Sahu as saying.

One of the officials, a woman, was released Friday and the other two were freed on Saturday, said Deputy Superintendent S. K. Upadhaya. "No harm has come to them," Upadhaya told The Associated Press by telephone.

Posco officials could not immediately be reached for comment.

Posco's steel plant, which would be the largest single foreign investment in India, was approved by the Indian government last year as a special economic zone, making it eligible for tax breaks and exempt from some government duties.

Posco has said it will invest about $10.8 billion to build the plant and develop the special economic zone, which will also allow other export-oriented activities.

Many residents are strongly opposed to the project because they say it would require the displacement of about 20,000 people.

Patra said the Posco officials had been warned by residents not to enter their villages without permission, but the three did not heed the warning.

The development of special economic zones in India has sparked fierce protests in recent months.

Farmers in the eastern state of West Bengal, where several special economic zones are planned, held violent demonstrations accusing the government of displacing them without proper compensation. Last month, the Indian government lifted a three-month freeze on establishing special economic zones.



8)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bmw2681
Verified User
โพสต์: 710
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ข้อมูลแบบนี้ น่าสนใจครับ อยากขออนุเคราะห์แหล่งข้อมูล (ลิ๊งค์ หรือเว็บไซต์) การลงทุนของ buffett ไว้ตามเอง
Every passing minute is a chance to turn it all around
http://bmw2681.wordpress.com
WEB
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1139
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 19

โพสต์

มีคนถาม Charlie Munger เกี่ยวกับ Posco ที่ Wesco Annual Meeting ซึ่งจัดขึ้นที่ Pasedena เหมือนกันครับ  ถ้าผมจำไม่ผิด Munger ตอบว่า Posco ไม่ใช่บริษัท Commodity ครับ   Munger บอกว่า Posco เป็น The most advanced steel company และ สินค้าที่ Posco ผลิตเป็นสินค้าที่ผลิตได้ยากมากครับ
ทุ่มเททุกสิ่งให้แก่ความฝันซึ่งมีแต่คุณเท่านั้นที่มองเห็น

http://WarrenBuffettFan.blogspot.com/
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 20

โพสต์

[quote="WEB"]มีคนถาม Charlie Munger เกี่ยวกับ Posco ที่ Wesco Annual Meeting ซึ่งจัดขึ้นที่ Pasedena เหมือนกันครับ
Impossible is Nothing
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 21

โพสต์

[quote="woody"][quote="WEB"]มีคนถาม Charlie Munger เกี่ยวกับ Posco ที่ Wesco Annual Meeting ซึ่งจัดขึ้นที่ Pasedena เหมือนกันครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 22

โพสต์

[quote="woody"][quote="WEB"]มีคนถาม Charlie Munger เกี่ยวกับ Posco ที่ Wesco Annual Meeting ซึ่งจัดขึ้นที่ Pasedena เหมือนกันครับ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 23

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:อุตสาหกรรมเหล็กของไทยอยู่ได้ด้วยการกีดกันเหล็กนำเข้า ผมไม่สนใจหรอกครับ
ผมว่าน่าจะลองกลับไปทบทวนความคิดนี้ใหม่นะครับ

เพราะโลกเราเปลี่ยนไปแล้ว
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 24

โพสต์

อ่านตอนแรกนึกว่า คุณสุมาอี้ เชียร์ inox ซะอีก  :lol:
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
krittapon_r
Verified User
โพสต์: 156
ผู้ติดตาม: 0

ตัวนี้ต้องซื้อด่วนขอ "ฟันธง"

โพสต์ที่ 25

โพสต์

สำหรับผมยังมองไม่เห็น อนาคตผู้ผลิตเหล็กไทย(SSI, GSTEEL,ฯลฯ) เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะไปสู้เจ้าใหญ่ๆ ในตลาดโลกได้อย่างไร เพราะ...

- ขนาดเล็กกว่า พวก กลุ่ม Mittal, Nippon steel หรือ Tata เยอะมาก

- ประเทศไทยไม่มีเหมืองแร่เหล็ก(ต้นทุนการอันดับ 1), และถ่านหิน (แอนทราไซด์) ของตัวเอง ใกล้สุดก็จีนกับออสเตรเลีย ซึ่งถ้าจะนำเข้ามาถลุงเอง ก็ต้องเสียเปรียบคู่แข่งเรื่องค่าขนส่ง

- ค่าพลังงานก็เเพงกว่าประเทศผู้ผลิตเหล็กอื่นๆ อย่าง รัสเชีย, จีน หรือ ออสเตรเลีย (ต้นทุนการผลิตอันดับ 2)

ส่วนข้อที่จะพอได้เปรียบเค้าบางก็...

- เรื่องทำเลที่ตั้งที่ใกล้ผู้ใช้ ... ซึ่งตลาดประเทศไทยและอาเซียน ยังมีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี (เป็นตลาดเหล็กคุณภาพสุงและเหล็กก่อสร่าง เป็นหลัก)

ซึ่งหากดูข้อเสียแล้ว จะเห็นได้ว่า ผู้ผลิตเหล็กไทยค่อนข้างเสียเปรียบเรื่องต้นทุนการผลิตและราคา ซึ่งเป็นกลยุทธ์เด่นของตลาด Community
ซึ่งเมื่อตลาดกลับเป็นขาลง แล้วต้องกลับไปสู้กันด้วยราคาเมื่อไร ผู้ผลิตไทยต้องตกที่นั่งลำบากแน่

ซึ่งอาจจะยังไม่ได้เห็นในเร็ววันหรอก เพราะยังได้อาศัยการบริโภคเหล็กที่มากผิดปกติของจีนที่ยังพยุงตลาดให้อยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ (กลับมาเป็น net-import ได้ครังแรกในรอบหลายสิบปี)

ผมออกจะมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อย แต่อยากตั้งข้อสังเกตให้คนที่สนใจลองกับเอาไปลองคิดดู  :mrgreen:
โพสต์โพสต์