SPSU กรณีน่าศึกษา

[chatchai]

ในอดีต  SPSU เคยเป็นบริษัทที่ดูน่าสนใจ  บางครั้ง  ราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่าเงินสดลบเงินกู้ซะอีก

ลองดูงบการเงินงวด มี.ค. 48

บริษัทมีเงินสด จำนวน 1,332.26 ล้านบาท

มีหนี้เงินกู้ยืมเพียง 40.58 ล้านบาท

จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 160 ล้านหุ้น

เงินสด-เงินกู้ ต่อหุ้น เท่ากับ 8.07 บาท

เพียงระยะเวลาเพียง 2 ปี

จากงบการเงินงวดล่าสุด

บริษัทมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นเหลืออยู่เพียง 226.11 ล้านบาท

อีกทั้งมีหนี้เงินกู้เพิ่มขึ้นเป็น 209.45 ล้านบาท

เงินสดหักเงินกู้  จากที่มีเป็นพันล้านบาท  หายวับไปกับตา

เงินสดหายไปไหน

[ManInBlack]

เหมือนเคยอ่านผ่านๆตา ว่ามีข่าวลูกหนี้เช่าซื้อจักรยานยนต์เบี้ยวหนี้เยอะ  ไม่แน่ใจนะครับ
แต่ที่เห็นคือเงินกู้ระดับ 3-50,000 บาทนี่แข่งขันสูงมาก ทั้งเช่าซื้อเอง ยังมีพวก GE อิออน มาแข่งทางอ้อมอีกด้วย

รอฟังพี่ฉัตรชัยมาเฉลยครับ

[naris]

อ้า.ผมได้หลักฐานแล้ว

เคยบอกคุณลูกอิสาน ว่าเมื่อก่อนspsuมีเงินสด-หนี้ มากกว่าMC คุณลูกอิสานไม่เชื่อ ว่าผมฝอย เพราะคุณลูกอิสานไปดูงบปัจจุบัน(ปลายปี49)ว่าไม่น่าจะใช่ เงินไม่ค่อยเยอะเลย

ผมก็บอกว่าฝอยไม่ฝอยก็เคยซื้อเพราะเงี้ย(เผื่อทรัพย์สินมาก แล้วทางspsuญี่ปุ่นจะมาเทคเอา) และขาดทุนโอกาสไปตั้งครึ่งปีแนะ พอดูงบแล้ว หนีดีกว่า ไม่อ่าวดีกว่า

แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตามเลยพี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเงินหายไปไหน
:lol:

[Reminiscence of 3 Dogs]

คงแปลได้ว่าการดูtrendธุรกิจนั้นสำคัญมาก สำหรับการมองไปข้างหน้า
เต่ากระดองแข็งๆก็อาจตายได้ถ้าเจอทุบหนักๆ
ศพเน่าๆก็ฟื้นได้ ถ้ายาดีพอ   8)

[Ryuga]

กลุ่มพรประภาอยู่ในธุรกิจนี้มานานแต่ทำไปทำมาก็ดูไม่ค่อยรุ่ง รถของเขาคงไม่ค่อยเป็นที่นิยม(ต้อง Honda สิ) อัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนทั้งสิ้นตั้งแต่ปี 42 เป็นต้นมาอยู่ในระดับต่ำมาตลอด กำไรมาฟื้นเอาตอน 45-46 ที่กำลังการซื้อรถเกิดบูมขึ้นมา จนราคาหุ้นเคยทะลุ 20 บาท ตอนนี้สาละวันเตี้ยลงๆ ทำนิวโลว์ใหม่อยู่เรื่อยๆ

ตอนต้นปี 48 เงินสดต่อหุ้นไปพีกที่ 7.88 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาตลาดที่อยู่แถวๆ 7 บาท แต่ถ้ารวมเงินลงทุนระยะสั้นด้วยจะเป็น 8.43 บาทต่อหุ้น netnet 12.40 บาท ด้วยปริมาณเงินสด 1,245 ล้าน เงินลงทุนระยะสั้น 87 ล้าน

ครั้นถึงสิ้นปี 49 เงินสดเหลือแค่ 173 ล้าน เงินลงทุนระยะสั้น 52 ล้าน คิดต่อหุ้นคือ 1.10 บาท กับ 1.43 บาท ตามลำดับ แต่ netnet ยังคงสูงที่ 9.54 บาทต่อหุ้น netnet ของเขาในอดีตจะเชื่อถือได้แค่ไหนก็อยู่ที่พอร์ตลูกหนี้ของเขา จากการตัดหนี้สูญมโหฬารเมื่อ Q1/49 ก็พอบอกคร่าวๆ ได้ว่าเราควรระวังอะไรบ้างกับธุรกิจประเภทนี้

บริษัทมีภาระดอกเบี้ยจ่ายอยู่ในระดับต่ำมาตลอด เงินสดด้านเดบิตลดลง ในด้านเครดิตก็มีเจ้าหนี้การค้าลดลง (netnet จึงยังสูงอยู่) ณ สิ้นปี 49 บริษัทบันทึกว่าจ่ายเงินสดชำระหนี้ให้เจ้าหนี้การค้า 961 ล้าน มียอดเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน 653 ล้าน (เจ้าหนี้การค้า Q1/48=1,538 ล้าน Q4/49=219 ล้าน)  :lol:

[chatchai]

เจ้าหนี้การค้าที่บริษัทเร่งชำระในไตรมาสที่ 4  เป็นบริษัทอะไร  ใครถือหุ้นอยู่บ้างครับ

ทำไมถึงต้องเร่งชำระหนี้กัน

[jaychou]

เรื่อง netnet ผมว่าหลังจากที่ Graham เขียนหนังสือออกมาก็ปิดช่องว่างการลงทุนแบบนี้แล้ว เพราะรู้กันทั่วโลก ถ้าบริษัทไม่ผ่องถ่าย หุ้นก็ไม่มีทางหล่นมาระดับนี้ ทางใดทางหนึ่ง

[Ryuga]

เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจครับ เพราะสามารถสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นหุ้นถูกถ้าหากมองไม่เห็นแจ้งแทงตลอดธุรกิจของเขา กำไรของบริษัทอิงอยู่กับกำลังการซื้อรถ

มอเตอร์ไซค์ (ยี่ห้อไม่เป็นที่นิยมอีกด้วย) ซึ่งมีการขยายตัวมากบ้างน้อยบ้างบางครั้งหดตัวสลับกันไป ในขณะที่ประสิทธิภาพการดำเนินงานก็อยู่ในระดับต่ำ การบูมปี

45-46 ดูดซับกำลังซื้อส่วนใหญ่ไปแล้ว หลังๆ มาน้ำมันแพง ดอกเบี้ยขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกตลอด กำไรไม่ตกก็แปลกแล้ว ถ้าข่าวยังไม่ร้ายที่สุดก็อย่าไปซื้อนะครับ