ขอถามความเห็นเรื่องเงินสด

[jaychou]

สมมุติว่ามีคนเอาสินค้ามาขายให้คุณ เป็นกล่องแก้วศักดิ์สิทธิมีฤทธิวิเศษ มีเงินข้างใน 1 ล้านบาท ที่วิเศษก็เพราะว่า ในภาวะปกติ มันสามารถดลบันดาลให้เงินงอกขึ้นมาเป็น 6% ต่อปี แต่คุณไม่สามารถเอาเงินออกมาได้ เพราะถ้าเจาะหรือทุบกล่องนี้แตก เงินก็จะอันตรธานหายไปหมด

ปีที่คุณโชคดี และกล่องจะคายเงินออกมาบ้าง

ปีทึ่คุณโชคไม่ดี กล่องก็จะละลายเงินในกล่อง บางครั้งก็ทำให้กล่องนั้นขนาดใหญ่ขึ้น บางครั้งก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ทุกอย่างนั้นแล้วแต่กำลังศรัทธาของคุณ และสภาพเศรษฐกิจ

คำถามคือ คุณจะซื้อกล่องนี้พร้อมเงินสดข้างใน 1 ล้านบาท ในราคาเท่าไหร่

[MarginofSafety]

แต่คุณไม่สามารถเอาเงินออกมาได้

จากเงื่อนไขนี้ผมจะมองข้ามเงิน 1 ล้านที่อยู่ในกล่องไป
6% ที่มันดลบันดาล ผมก็ไม่สามารถนำออกมาได้อีก
เพราะฉะนั้นกล่องใบนี้ไม่สามารถสร้าง Passive Income ให้ผมได้เลย

ก็เหลืออีกประเด็นที่ผมต้องการทราบว่า
ผมสามารถนำมันไปขายต่อได้มั้ย ในราคาเท่าไหร่
ความผันผวนของราคาขายต่อสูงมากน้อยแค่ไหน
เพื่อที่จะนำมาเป็นปัจจัยร่วมในการพิจารณา

ถ้าจะเปรียบกล่องนี้เป็นอสังหา ผมว่าไม่น่าจะถูก
กล่องนี้จะมีลักษณะคล้ายกับของประดับมี่ค่า ที่ราคามีแนวโน้มขึ้นตามเวลา
แต่มีความผันผวนบ้าง ...
กระแสเงินสดที่ผมจะได้รับและผลตอบแทนจากการลงทุนมีเพียงอย่างเดียว
ก็คือต่อเมื่อขายกล่องนี้ออกไปในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา

สรุปคือ
ผมคงเลือกที่จะไม่ซื้อกล่องนี้ครับ ไม่ถูกกับจริตการลงทุน

[Reminiscence of 3 Dogs]

6แสน ขอซื้อ10กล่อง

[Accidental Hero]

ถ้าไม่สามารถเอาเงิน 1 ล้าน ออกมาได้ ก็เหมือนกับมันไม่มีอยู่
จึงมองแค่ผลตอบแทน ปีละ 60,000 บาทเท่านั้น

หรือแม้มันจะมีเงินอยู่แค่ 1 แสนบาท แต่ถ้ามันให้ผลตอบแทน ปีละ 60,000 บาท ก็ไม่แตกต่างจากกรณีแรก
เพราะเราไม่สามารถเอาเงินออกจากกล่องได้

ผมขอผลตอบแทน เริ่มต้น 15% ต่อปี ขอซื้อที่ 400,000 บาท ขาดตัว vat included + tax included

[Accidental Hero]

ไม่แน่ใจโจทย์
ผลตอบแทน 6 % คายออกมาหรืออมเอาไว้ครับ

[contrarian]

ปีที่แล้วผมซื้อกล่องใบนี้ ที่ราคา 640,000 เขาให้ผลประโยชน์ 3.5% แต่มีคนมาขอซื้อที่ราคา 800,000 ผมก็เลยไม่รับผลประโยชน์


มาปีนี้ กล่องใบนี้เขาขายที่ 580,000  ผมกำลังต่อราคาอยู่

[yoyo]

6% ที่บอก .... มันเป็นการเพิ่มเงิน 1 ล้านให้เพิ่มขึ้น
แต่เงินก้อนนี้ถ้าไม่คายออกมา ผมก็ไม่ได้อะไรเลย .. สมมติว่าเงินไม่ละลาย และไม่คายออกมา ..
เงิน 1 ล้านจะทบต้นที่อัตรา 6% ต่อปีไปเรื่อย .. ซึ่งถือไปนานๆ เงินจาก 1 ล้านก็คงมากขึ้นเรื่อยๆได้

ผมมองกล่องนี้เหมือนเป็นหุ้น asset play ครับ คืนมันอาจจะมีมูลค่าที่มาก ถ้าเราซื้อมาในราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ก็จะมี  Margin of safety แตกต่างกันไปตามราคาที่ซื้อมา ..

แต่ปัญหาคือ หุ้น asset play ตัวนี้ก็บอกไม่ได้ว่าจะเกิดการ unlock value เมื่อใด เหมือนถือหุ้น asset play ที่มีสินทรัพย์สุทธิมากกว่าราคาหุ้นมาก แต่เงินปันผลก็จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง คาดเดาอะไรไม่ได้ และจะขายต่อได้ราคาเท่าไหร่ก็ไม่รู้

สรุปแล้วผมว่าผมไม่ซื้อดีกว่า หรือถ้าจะให้ซื้อจริงๆก็ต้องถูกมากๆ คิดซะว่าถ้าขาดทุนไปทั้งก้อนก็คงไม่เสียดายอะไร ... ซัก 1 แสนก็พอแล้วครับ

[artvr4]

ไม่ซื้อครับ

สั้นๆ ไม่ชอบ อะไรที่เอาเงินออกไม่ได้
ต่อให้กล่องจะใหญ่ขึ้นหรือไม่ก็ตาม

[โอ@]

ผมคงมองแค่ 6% ที่คายออกมา 1 ล้านน่าจะคายออกมา 60 000 บาท
สำหรับสิ่งที่ไม่แน่นอนคิด P/E = 6 เท่าน่าจะโอเค
ซื้อ 360 000 บาทครับ

[สุมาอี้]

ถ้ากล่องใบนี้คายเงินออกมา 6% ทุกปีอย่างแน่นอน และการเอาเงิน 1 ล้านไปซื้อพันธบัตรก็ให้ผลตอบแทน 6% ทุกปีเท่ากัน

ผมก็จะตีราคากล่องใบที่ 1 ล้านบาท

แต่เนื่องจากกล่องใบนี้ไม่ได้คายเงินออกมาทุกปีอย่างแน่นอน และเงินที่ใส่กลับเข้าไปยังมีโอกาสละลายอีก ผมจึงต้องขอซื้อกล่องใบนี้ที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทไว้ก่อนเพื่อชดเชยความไม่แน่ไม่นอนของมัน แต่จะต่ำกว่า 1 ล้านบาทขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของผมที่มีต่อกล่องใบนั้น

[keng56]

รู้สึกเหมือนเสี่ยงโชคเลย....ขอบายครับ....บายนี่คือไม่ซื้อนะครับ..

[สุมาอี้]

ไม่รู้สึกแปลกหรือครับ ทีจริงแล้ว การซื้อหุ้นมีลักษณะเหมือนกล่องใบนั้นเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่อยากซื้อหุ้นแต่ไม่อยากซื้อกล่องใบนั้น  8)

[007-s]

[quote="สุมาอี้"]ไม่รู้สึกแปลกหรือครับ ทีจริงแล้ว การซื้อหุ้นมีลักษณะเหมือนกล่องใบนั้นเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่อยากซื้อหุ้นแต่ไม่อยากซื้อกล่องใบนั้น

[contrarian]

yoyo wrote

ผมมองกล่องนี้เหมือนเป็นหุ้น asset play ครับ คืนมันอาจจะมีมูลค่าที่มาก ถ้าเราซื้อมาในราคาที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ก็จะมี  Margin of safety แตกต่างกันไปตามราคาที่ซื้อมา ..

แต่ปัญหาคือ หุ้น asset play ตัวนี้ก็บอกไม่ได้ว่าจะเกิดการ unlock value เมื่อใด เหมือนถือหุ้น asset play ที่มีสินทรัพย์สุทธิมากกว่าราคาหุ้นมาก แต่เงินปันผลก็จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง คาดเดาอะไรไม่ได้ และจะขายต่อได้ราคาเท่าไหร่ก็ไม่รู้

เห็นด้วยกับคุณ yoyo ครับ และ ในเมื่อคุณ jaychou บอกว่า ข้างในมีเงิน 1 ล้าน ควรจะซื้อที่เท่าไร น่าจะหมายถึง discount (margin of safety)

ขอเพิ่มเติมว่า เราไม่รู้ว่าจะ unlock value เมื่อไร
แต่จะถูกทดแทนด้วย กล่องใบนี้มีวัฏจักร ,จ่ายปันผลสม่ำเสมอในอัตรา80% ของ eps, แม้จะซื้อขายกันที่ discountมากๆ ก็ยังมีbeta สูง
พอจะน่าสนใจหรือยังครับ[/quote]

[สุมาอี้]

ประเด็นคือ ถ้าเป็นหุ้น สามารถเอาเงินออกมาได้ทันที ในวันที่ตลาดเปิดทำการ

ถ้าอย่างนั้นแล้วหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์มีค่าหรือเปล่า ค่าของหุ้นอยู่ที่ FCF ในอนาคตของมันโดยไม่ขึ้นอยู่กับว่ามีตลาดซื้อขาย หรือว่าค่าของหุ้นขึ้นอยู่กับว่าเราจะขายหุ้นนั้นออกไปในตลาดได้ทีราคาเท่าไร



หุ้นไม่ได้สัญญาว่าจะต้องจ่ายเงินปันผล การที่ปีที่แล้วจ่ายปันผล 6% ไม่ได้แปลว่าปีหน้าจะต้องจ่ายปันผล จะไม่จ่ายเลยสักบาทก็ได้ กรรมการบริษัทไม่มีความผิดถ้าไม่ปฏิบัติตามนโยบายจ่ายเงินปันผล ที่จริงแล้ว ความแน่นอนของเงินปันผลของหุ้นไม่ต่างกับกล่องใบนั้นเลยครับ   8)

[007-s]

อ่าค่ะ พี่สุมาอี้
ความเสี่ยงนั้น จะเหมือนหรือต่างกะหุ้นมากน้อยแค่ไหนไม่ทราบได้อ่าค่ะ(แล้วแต่คนมองมั้งคะ)
แต่สิ่งที่ไม่เหมือน (และเป็นจุดสำคัญของความไม่เหมือน) คือ
กล่องใบนั้น กำหนดมาเลยว่า ความคล่องตัวในการตัดสินใจ น้อยมากๆ
ไม่เหมือนหุ้น (ซึ่งดิฉันหมายถึงหุ้นในตลาดที่เทรดๆกันอยู่อ่าค่ะ)

สำหรับดิฉัน ความคล่องตัวในการตัดสินใจ มีส่วนสำคัญ อาจะเพราะเป็นคนค่อนข้างขี้เบื่อเป็นนิสัย หรือชอบความอิสระมากๆ ไม่ชอบอะไรที่ต้องคงที่มากเกินไป

ซึ่งทั้งๆที่ บางที่สามารถถือหุ้นตัวนึงนานๆก็ได้ ไม่เกี่ยวกะว่าต้องการคล่องตัวเพื่ออยากจะเปลี่ยนใจได้ทุกวัน
แต่คือ มันเป็นความรู้สึก ที่ว่า เงินยัดใส่ในไหนแล้ว ต้องไม่รู้สึกถูกกัก ถูกห้ามนั่นนี่ มากเกินไป (ยิ่งกักเก็บกดเยอะ ย่อมต้องการผลตอบแทนคาดหวังที่เยอะ ไม่ใช่แค่ 6%)

ไม่สนุก
ไม่เป็นสุข

ไม่รู้จะได้ใช้เงินเมื่อไหร่ เงินโตแน่ทุกปี แต่ใช้ได้เมื่อไหร่ยังไม่มีคำตอบเลย
อย่างนี้ก็งงๆ ก็เป็นความเสี่ยงอย่างนึง เพราะกฏบอกไว้ว่า ถ้าเต๊าะเงินออกมาใช้ กล่องจะแตกได้และเงินจะหายแว๊บไปเลย

ไม่แน่ใจว่า ให้ราคาเท่าล๊อตตารี่ใบนึงจะเหมาะหรือป่าวเลยอ่าค่ะ

เพราะกฏบอกแค่ว่า 6% ที่งอกนั้น ไม่ได้จ่ายออกมาเป็นตังค์สดๆ
ต้องอาศัยโชคดีเท่านั้น บางปีกล่องจึงจะคายเงินออกมาบ้าง ...บ้างน่ะ ก็ไม่แน่ว่าเท่าไหร่

สรุป เป็นสัญญาที่ถ้าจรดปากกาเซ็นต์ไปแล้ว หวิวหวั่นมาก

...อะไรทำนองนี้ อ่าค่ะ

[jaychou]

[quote="สุมาอี้"]ไม่รู้สึกแปลกหรือครับ ทีจริงแล้ว การซื้อหุ้นมีลักษณะเหมือนกล่องใบนั้นเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่อยากซื้อหุ้นแต่ไม่อยากซื้อกล่องใบนั้น

[nearly_vi]

6แสน ขอซื้อ10กล่อง

พอร์ต โตไวจังท่าน  :D

[MarginofSafety]

เห็นด้วยกับพี่ 007 คนสวยในประเด็น ..  :lol:
พฤติกรรมของกล่องใบนั้นกับหุ้นที่เราๆท่านๆเลือกลงทุนกัน
มีหลายจุดที่แตกต่างกันพอสมควร

ทั้งความใสของกล่อง ที่มองเห็นอะไรข้างใน คาดการณ์หรือวิเคราะห์ได้
ทั้งเรื่องการเปลี่ยนกล่องเป็นเงินสด
และความสม่ำเสมอ และจับต้องได้ของเงินปันผล

ถ้าหุ้นทุกตัวมีพฤติกรรมแบบกล่องใบนั้น ผมคงเลิกลงทุนในหุ้นครับ

[thawattt]

แล้วถ้าเราเปลี่ยนมุมมองของกล่องเป็น เงิน Float ที่ต้องไปหาประโยชน์ครับ

วิธีการก็คือ มันจะมีมูลค่าเพิ่มได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถเอา FLoat นั้นไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่า พันธบัตรที่ไม่มีความเสี่ยงได้หรือไม่ เหมือนการคำนวณผลตอบแทนที่ บัฟเฟท เอามาใช้พิจารณาความสามารถของบริษัทประกันครับ

ถ้าหากไปหาผลตอบแทนที่ต่ำกว่า แสดงว่าเงินสดที่บริษัทถืออยู่นั้น จะทำลาย Value ขององค์กรในระยะยาวต่อไป เพราะค่าเงินสดในวันนี้จะเล็กลงเรื่อย ๆ ตามอัตราเงินเฟ้อ และค่าเสียโอกาสของเงินครับ

ดังนั้น เราจะซื้อกล่องเงินสดในราคาส่วนลดที่มี Margin of Safety ที่เท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับว่า บริษัทสามารถเอาเงินสดไปสร้างผลตอบแทนได้มากเท่าไรด้วยเหมือนกัน

เพราะค่าเงินสดในวันนี้จะเสื่อมค่าลงเรื่อย ๆ ตามเงินเฟ้อและค่าเสียโอกาสของการใช้เงิน ณ ปัจจุบันครับ

[007-s]

[quote="HVI"]เห็นด้วยกับพี่ 007 คนสวยในประเด็น ..

[Ryuga]

ผมอ่านแล้วนึกถึงเรื่อง Buffett ตีกอล์ฟขึ้นมาทันที (ขอขำอีกที   )

อย่างไรก็ตามผมก็ไม่ได้อนุรักษ์นิยมเกินไปนั่นหมายความว่าหากมีใครเอากล่องนี้มาให้ฟรีๆ ก็เอาอยู่แต่หากจะให้ซื้อละก้อบาทเดียว สลึงเดียวก็ไม่ให้ เพราะเงินแม้เพียง 1 บาท ในมือของชาว VI ย่อมมีอานุภาพมาก การจะสร้างอัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีให้มากกว่า 6% นั้น เป็นเรื่อง    

หมายเหตุ : ถ้ากล่องแก้วใบนี้มีดีไซน์สวยเก๋เท่ห์บาดใจ ผมอาจจะใจอ่อนยอมจ่ายเงินซื้อสัก 200-300 บาท มาประดับบ้าน  :mrgreen:

[ksnk]

สุมาอี้

ไม่รู้สึกแปลกหรือครับ ทีจริงแล้ว การซื้อหุ้นมีลักษณะเหมือนกล่องใบนั้นเป็นอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่อยากซื้อหุ้นแต่ไม่อยากซื้อกล่องใบนั้น  

ครับ ถ้ามีนายตลาดมาคอยเสนอราคาซื้อ-ขายให้ทุกวัน...ใช่เลย :lol:
เอแล้วผมจะซื้อที่ราคาเท่าไรดี

มันสามารถดลบันดาลให้เงินงอกขึ้นมาเป็น 6% ต่อปี

เท่ากับให้ผลตอบแทนทบต้น 6% ต่อปี แถมผลงานลุ่มๆดอนๆ และปันผลไม่สม่ำเสมอ...อืมต่ำกว่า 400000 ค่อยพิจารณาครับ :lol:

[Reminiscence of 3 Dogs]

พอร์ต โตไวจังท่าน