คิดซักนิด ก่อนการลงทุนใน Fixed Income Fund

[Frankie]

ผมเห็นกระทู้ในเว็บพันทิป โดยคุณ Mr.Messenger น่าสนใจครับ และกระทู้นี้กลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 28498.html

อันนี้เอาไว้เรียกน้ำย่อยครับ อ่านฉบับเต็มตามลิ้งค์ข้างบนครับ
$$คิดซักนิด ก่อนการลงทุนใน Fixed Income Fund$$
วันนี้ คุณ Q และ คุณ A ว่างอีกแว้ววว มาฟังแกคุยเรื่องกองทุนกันนะครับ

Q : ช่วงนี้ คนสับเปลี่ยนกองทุน MMF เข้า Fixed Income Fund กันเยอะจังเลย เกิดอะไรขึ้นหรอ
A : ตามทฤษฏีว่าด้วยพันธุกรรมของเมนเดลนั้น กล่าวไว้ว่า ...

Q : เฮ้ย... เมนเดล มาเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย?
A : อ้าว อ้างผิดคน -*- งั้นเอาใหม่ พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ฉันใด มนุษย์ก็แสวงหาสิ่งที่ดีกว่าเพื่อตอบสนองกิเลสตัวเองฉันนั้น

Q : งั้นไม่ถามล่ะ จะกลับบ้านแล้ว....
A : อย่างเพิ่งครับ จะรีบไปไหนเนี่ย มันเป้นอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะแนวโนมดอกเบี้ยในบ้านเรา น่าจะปรับลดอย่างน้อย 1% แน่ๆ ภายในครึ่งปีแรกนี้ และขุนคลังคนใหม่ก็ให้ sign ไว้ว่า ประชุมคราวหน้านี้ อาจจะให้ยาแรงกับตลาดเงิน โดยลดทันที 0.5% เห็นอย่างนี้ ใครที่ถือตราสารระยะสั้นๆ และไม่พอใจผลตอบแทน ก็วิ่งหนีหาแหล่งเงินลงทุนใหม่นะสิครับ

Q : ค่อยน่าฟังหน่อย อย่างนี้ คนไม่ย้ายหนี MMF หมดหรอครับ??
A : MMF ยังมีข้อดีคือ สภาพคล่องสูงกว่า Fixed Income Fund และความเสี่ยงของการลงทุนก็ต่ำกว่า ทั้งในแง่การเคลื่อนไหวของ NAV และผลตอบแทนที่ไม่ผันผวนมากครับ เพราะฉะนั้น นักลงทุนนี่ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงเพิ่ม ก็ยังคงลงทุนใน MMF แทนเงินฝากออมทรัพย์อยู่เหมือนเดิม และนักลงทุนบางคนที่รับความเสี่ยงได้บาง ก็แนะนำให้ใช้วิธีการกระจายลงทุนครับ อย่าไปลงทุนในกองทุนที่เราไม่แน่ใจทั้งหมด เพราะความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนของเราจะเพิ่มขึ้น

Q : Fixed Income Fund มีความเสี่ยงมากกว่า Money Market Fund?
A : แม้นแล้วครับ ความเสี่ยงที่ว่านี้ มีหลายด้านเลยที่มากกว่า เอา 2 ด้านหลักๆนะครับ
1. ความเสี่ยงด้านความสามารถในการชำระคืนเงินต้น ของผู้ออกตราสารที่กองทุนไปลงทุน ก็มากขึ้น เนื่องจาก กองทุนนำเงินไปลงทุนในตราสารระยะยาวขึ้น และกองทุนส่วนใหญ่ในตลาด ก็เพิ่มผลตอบแทนด้วยการสรรหาตราสารหนี้ภาคเอกชน เพราะผลตอบแทนดีกว่าพันธบัตร หรือตราสารหนี้ภาครัฐ
2. ความเสี่ยงด้านความผันผวนของผลตอบแทนเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk) ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น กองทุน Fixed Income จะให้ผลตอบแทนที่ลดลง เนื่องจากล็อคผลตอบแทนไว้ยาวไว้แล้ว (ลงทุนในตราสารอายุยาวๆ) อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ล็อตใหม่ๆในตลาดช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
แต่ในภาวะดอกเบี้ยขาลงอย่างปัจจุบัน กองทุนนี้ก็เป้นอย่างที่เห็นครับ เด้งเอาๆ

Q : แล้วอย่างนี้คนที่สับเปลี่ยน หรือย้ายแหล่งเงินลงทุนเขาจะรู้ไหมครับเนี่ย ว่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
A : ก็พยายามบอกอยู่นี่ไงครับ ที่พยายามบอกเนี่ย ก็เพราะว่า มีนักลงทุนบางราย ไม่เคยลงทุนในกองทุนรวมเลย หรือลงทุนในกองทุนอย่างทหารไทยธนรัฐ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำที่สุดในประเทศ แล้วอยู่ดีๆกระโดดย้ายมากองทุนที่มีความเสี่ยงขึ้นอย่าง AYFSMUL ที่เคยเจอตั๋ว default ตอนปี 48 แล้วไม่ยอมศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน หรือลงทุนใน NFF ที่ถือหุ้นกู้เอกชนถึง 46% (จะมีใครรู้ไหมเนี่ย Mr.Messenger เคยโพส Pie Chart ไว้ให้ดูแล้วครั้งหนึ่ง ^^)

ที่นี้ พอลงทุนไปแล้ว แล้วมาเจอหุ้นกู้เอกชนในพอร์ตทีหลัง ก็ตกใจสิครับ แล้วนักลงทุนบางรายเงินลงทุนก้อนใหญ่ หากขายคืนทันที ก็กระทบกับผู้ถือหน่วยท่านอื่นๆ หากกองทุนเตรียมสภาพคล่องไว้ไม่ทัน เพราะฉะนั้น เพื่อความมั่นใจของนักลงทุนทุกคน เราควรได้รับข้อมูลกองทุนที่เท่าเทียมกันก่อน จะได้ไม่มี Panic sell ทีหลังครับ

Q : เด๋วๆ ที่คุณอ้างว่า นักลงทุนบางราย ไม่เคยลงทุนในกองทุนมาก่อน แล้วทำไม มันผิดหรอ ถ้าเขาจะลงทุนในกองทุน Fixed Income ทันที
A : ป่าวๆ ผมไม่ได้ว่าว่าผิดเลยครับ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตุว่า ที่เข้ามาลงทุน เพียงเพราะผลตอบแทนจูงใจ หรือเปล่า? หรือว่าใครชวนมา แล้วยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลกองทุนให้แน่ชัด เพราะหากนักลงทุนกลุ่มนี้ เคยศึกษาข้อมูลมาก่อน หรือรับความเสี่ยงได้อยู่แล้ว แล้วทำไมถึงเพิ่งมาลงทุนเอาตอน Fixed Income Fund บูมๆช่วงนี้ล่ะ ตอบผมได้ไหมล่ะเออ....

Q : ทำไงได้ ข่าวกองทุนรวมบ้านเรา ไม่ Update และไม่มีแหล่งข้อมูลที่เข้าถึงง่ายๆ อีกอย่างการเปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่าง บลจ. ก็เกิด conflict ได้ง่าย ไม่มีใครเขาทำกันหรอก
A : จริงๆแล้ว นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุน และทำการเปรียบเทียบข้อมูลกองทุนข้าม บลจ. ด้วยครับ เอกสารแจก ที่สมาคม AIMC เคยแจก ก็ระบุไว้ชัดเจน ว่า ให้เปรียบเทียบกับกองทุนอื่นๆ ด้วย เพื่อผลประโยชน์ของนักลงทุนเอง นะครับ

Q : ดูจะเป็นงานที่ยากลำบากนะ หาข้อมูลเปรียบเทียบเนี่ย แถมไม่ค่อยมีเวลาด้วยสิ
A : ก็จะพยายามเอามาเปรียบเทียบสุดแต่ความสามารถอันน้อยนิดจะทำได้ในเบื้องต้นให้ดูนะครับ ว่าที่ไหนเป็นยังไงกันบ้าง แล้วอยากรู้ประเด็นอะไรเพิ่มเติม ก็ไปหามาอีกที น่าจะช่วยย่นระยะเวลาได้เยอะเลย

ศึกษาข้อมูลความรู้กันเยอะๆนะครับ ต่อไป เราก็จะสามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ตัวเราเองรับได้ แล้วเงินเราก็จะทำงานผ่านกองทุนรวม ช่วยเราอีกแรง

------------------------
โชคดีในการลงทุนครับ

จากคุณ : Mr.Messenger