รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 1
ผมเป็น VI มือใหม่ครับ ตอนนี้มีอยู่ใน port สองตัว มีตัวหนึ่งถือมา 2 ปีกว่าอยากเก็บเพิ่มแต่ไม่กล้าเพราะราคาขึ้นมามากแล้วเลยถือเฉยๆ รอปันผล ส่วนอีกตัวเป็น SCC ครับ กะเอาไว้ทยอยเก็บเพิ่มแบบ dollar cost average อยู่
ส่วนตัวที่อยู่ในใจตอนนี้มีตามนี้ครับ
sauce , makro , pranda , se-ed , aprint , roh , shang
แต่เก็บไม่ได้สักตัวครับ เพราะราคาเพิ่มไปกันไกล ก็รอจังหวะอยู่
=======
พอดีสนใจเลยเลือกออกมาสองตัวเป็นกลุ่ม โรงแรมทั้งคู่คือ shang กับ roh , ก็กำลังตัดสินใจเลือกระหว่างสองตัวนี้ครับ
เท่าที่ผมศึกษาจาก excel ของพี่ครรชิต (ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ครับ) พอจะได้ข้อดีเสียตามนี้ครับ
ROH
pro - กำไรต่อเนื่องยาวนาน, ไม่เคยขาดทุน , ROE > 12 ต่อเนื่อง , ปันผลสม่ำเสมอ , มีโรงแรมในไทยแห่งเดียว น่าจะวิเคราะห์ได้ง่าย ,
con - ปันผลไม่มากเท่าไหร่ , ทำเลไม่ได้เปรียบโรงแรมรอบข้าง , ไม่อยู่ใน list ร้อยคนร้อยหุ้น (ไม่ทราบว่าจัดเป็นข้อเสียหรือไม่)
SHANG
pro - ปันผลมากต่อเนื่อง , ทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า (ซึ่งน่าจะเป็นผลถ้าต่อขยายเพิ่มในอนาคต ) , สืบจากใกล้ รถไฟฟ้า ทำให้ผมทราบมาว่า ได้ลูกค้ากลุ่มที่มาอบรมสัมนากันด้วย
con - ราคาย้อนหลังแกว่งมาก? , ROE ต่ำกว่า roh , เคยมีขาดทุนช่วง 1998-1999 , มีอีกโรงที่ย่างกุ้ง ทำให้ต้องออกแรงวิเคราะห์เพิ่มขึ้น
================
อยากถามพี่ๆดังนี้ครับ
1. ทำเลของ shang คิดว่าจะมีผลทำให้ได้เปรียบ โรงแรม รอบข้างเยอะไหมครับ
2. อะไรคือ KPI ของการวิเคราะห์ ธุรกิจ โรงแรม ครับ
3. ถ้าถือกลุ่ม โรงแรมยาว 1-2 ปีช่วงนี้ถือว่าเสี่ยงไหมครับ เพราะสถานการณ์การเมืองไม่มีที่ท่าจะสงบสักที
4. กลุ่มลูกค้าของ shang กับ roh นี่เป็นประเภทไหนครับ ถ้ามีใครทราบจะช่วยผมได้มาก เพราะผมเองกำลังวางแผนเดินทางไปสำรวจทั้งสอง โรงแรมช่วงว่างๆอยู่ (อยากไปเห็นภายในชัดๆครับ เพราะไหนๆจะเป็นหุ้นส่วนแล้ว) เผื่อผมจะได้ไม่ต้องเดินทางไปสำรวจเอง
5. และสุดท้ายถ้าทำได้ช่วยฟันธง ระหว่าง roh , shang พี่ๆจะเลือกตัวไหนดีครับ
============
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
ส่วนตัวที่อยู่ในใจตอนนี้มีตามนี้ครับ
sauce , makro , pranda , se-ed , aprint , roh , shang
แต่เก็บไม่ได้สักตัวครับ เพราะราคาเพิ่มไปกันไกล ก็รอจังหวะอยู่
=======
พอดีสนใจเลยเลือกออกมาสองตัวเป็นกลุ่ม โรงแรมทั้งคู่คือ shang กับ roh , ก็กำลังตัดสินใจเลือกระหว่างสองตัวนี้ครับ
เท่าที่ผมศึกษาจาก excel ของพี่ครรชิต (ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ครับ) พอจะได้ข้อดีเสียตามนี้ครับ
ROH
pro - กำไรต่อเนื่องยาวนาน, ไม่เคยขาดทุน , ROE > 12 ต่อเนื่อง , ปันผลสม่ำเสมอ , มีโรงแรมในไทยแห่งเดียว น่าจะวิเคราะห์ได้ง่าย ,
con - ปันผลไม่มากเท่าไหร่ , ทำเลไม่ได้เปรียบโรงแรมรอบข้าง , ไม่อยู่ใน list ร้อยคนร้อยหุ้น (ไม่ทราบว่าจัดเป็นข้อเสียหรือไม่)
SHANG
pro - ปันผลมากต่อเนื่อง , ทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า (ซึ่งน่าจะเป็นผลถ้าต่อขยายเพิ่มในอนาคต ) , สืบจากใกล้ รถไฟฟ้า ทำให้ผมทราบมาว่า ได้ลูกค้ากลุ่มที่มาอบรมสัมนากันด้วย
con - ราคาย้อนหลังแกว่งมาก? , ROE ต่ำกว่า roh , เคยมีขาดทุนช่วง 1998-1999 , มีอีกโรงที่ย่างกุ้ง ทำให้ต้องออกแรงวิเคราะห์เพิ่มขึ้น
================
อยากถามพี่ๆดังนี้ครับ
1. ทำเลของ shang คิดว่าจะมีผลทำให้ได้เปรียบ โรงแรม รอบข้างเยอะไหมครับ
2. อะไรคือ KPI ของการวิเคราะห์ ธุรกิจ โรงแรม ครับ
3. ถ้าถือกลุ่ม โรงแรมยาว 1-2 ปีช่วงนี้ถือว่าเสี่ยงไหมครับ เพราะสถานการณ์การเมืองไม่มีที่ท่าจะสงบสักที
4. กลุ่มลูกค้าของ shang กับ roh นี่เป็นประเภทไหนครับ ถ้ามีใครทราบจะช่วยผมได้มาก เพราะผมเองกำลังวางแผนเดินทางไปสำรวจทั้งสอง โรงแรมช่วงว่างๆอยู่ (อยากไปเห็นภายในชัดๆครับ เพราะไหนๆจะเป็นหุ้นส่วนแล้ว) เผื่อผมจะได้ไม่ต้องเดินทางไปสำรวจเอง
5. และสุดท้ายถ้าทำได้ช่วยฟันธง ระหว่าง roh , shang พี่ๆจะเลือกตัวไหนดีครับ
============
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
Kritsada
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 2
โรงแรมที่จัดสัมมนาบ่อยแล้วใกล้รถไฟฟ้านอกจาก SHANG ยังมีอีกหลายแห่งเช่น InterCon, Dusit Thani แล้วปีนี้ Convention Hall ของโรงแรมเซ็นทรัลเวิร์ลก็จะเสร็จแล้ว ผมว่าทำเลของเซ็นทรัลได้เปรียบกว่ามากครับ อยู่ใจกลางเมือง เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวกkit556 เขียน:
SHANG
pro - ปันผลมากต่อเนื่อง , ทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า (ซึ่งน่าจะเป็นผลถ้าต่อขยายเพิ่มในอนาคต ) , สืบจากใกล้ รถไฟฟ้า ทำให้ผมทราบมาว่า ได้ลูกค้ากลุ่มที่มาอบรมสัมนากันด้วย
ทำเลของ shang คิดว่าจะมีผลทำให้ได้เปรียบ โรงแรม รอบข้างเยอะไหมครับ
ส่วน ROH และ SHANG สภาพคล่องน้อยมาก ซื้อขายหุ้นทำได้ลำบาก โดยเฉพาะ ROH มี free float แค่ 2.2 %
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 6
metro เขียน:น่าจะออกนะครับ รุ้สึกว่า Mint จะเป้นคน Delist ออกไปนะครับ
ตัวที่จะ delist จากตลาดน่าจะเป็น RHC (โรงแรมราชดำริ) นะครับไม่ใช่ ROH (โรงแรมรอยัลออคิด)
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 8
ตอนแรกตัวผมเองยังเข้าใจว่าเป็นโรงแรมราชดำริเหมือนกันครับ จนกระทั่งคุณ metro ทักเรื่อง delist :oops:metro เขียน:ขอโทด้วยครับ ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ
เขินเลย
เท่าที่สังเกตุ หุ้น ROH และ RHC ขึ้นเครื่องหมาย CM ทั้งคู่ จะซื้อขายได้เฉพาะช่วง Call Market เท่านั้นนะครับ
- dr_norr
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 9
หลักทรัพย์ RHC
หัวข้อข่าว แจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550
วันที่/เวลา 17 เม.ย. 2550 08:30:37
ที่ RH 006/2007
วันที่ 12 เมษายน 2550
เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุม
สามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 ที่ประชุมได้
มีมติในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1) รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2549
ประชุมเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2549
2) รับทราบผลประกอบการในรอบปี 2549
3) อนุมัติงบดุลและงบกำไรขาดทุนประจำปี สิ้นสุดวันที่
31 ธันวาคม 2549 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว
4) อนุมัติการงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน
ประจำปี 2549
5) แต่งตั้งกรรมการที่ต้องออกตามวาระกลับเข้ามาเป็น
กรรมการตามเดิมดังนี้
นายไมเคิล เซลบีย์ นายไมเคิล ซากิลด์ นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์
- คณะกรรมการของบริษัทประกอบด้วย
1. พลเรือตรี ม.ล. อัศนี ปราโมช
2. นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค
3. นายอานิล ธาดานี
4. นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์
5. นายไมเคิล เซลบีย์
6. นายสุจินต์ หวั่งหลี
7. นายสุรินทร์ โอสถานุเคราะห์
8. พลโท ชยุติ สุวรรณมาศ
9. นายไมเคิล ซากิลด์
6) มีมติจ่ายเงินค่าตอบแทนกรรมการ, กรรมการตรวจสอบ,
กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประจำปี 2550 รวมเป็น
จำนวนเงินทั้งสิ้น 2,680,000.- บาท
7) แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ประจำปี 2550 และกำหนด
ค่าตอบแทนดังนี้
นายณรงค์ พันตาวงษ์ เลขที่ใบรับอนุญาต 3315 สำนักงานเอินส์ท แอนด์ ยัง
นายศุภชัย ปัญญาวัฒโน เลขที่ใบรับอนุญาต 3930 สำนักงานเอินส์ท แอนด์ ยัง
นางสาวศิราภรณ์ เอื้ออนันต์กุล เลขที่ใบรับอนุญาต 3834 สำนักงานเอินส์ท แอนด์ ยัง
กำหนดค่าสอบบัญชีของบริษัทฯ เป็นเงิน 610,000.- บาท ( หรือ
880,000.- บาทเมื่อรวมค่าสอบบัญชีของบริษัทย่อย)
8) อนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็น
หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน)
(นางองค์อร สมประสงค์)
ผู้จัดการใหญ่
หัวข้อข่าว แจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550
วันที่/เวลา 17 เม.ย. 2550 08:30:37
ที่ RH 006/2007
วันที่ 12 เมษายน 2550
เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุม
สามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 ที่ประชุมได้
มีมติในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1) รับรองรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2549
ประชุมเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2549
2) รับทราบผลประกอบการในรอบปี 2549
3) อนุมัติงบดุลและงบกำไรขาดทุนประจำปี สิ้นสุดวันที่
31 ธันวาคม 2549 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว
4) อนุมัติการงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน
ประจำปี 2549
5) แต่งตั้งกรรมการที่ต้องออกตามวาระกลับเข้ามาเป็น
กรรมการตามเดิมดังนี้
นายไมเคิล เซลบีย์ นายไมเคิล ซากิลด์ นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์
- คณะกรรมการของบริษัทประกอบด้วย
1. พลเรือตรี ม.ล. อัศนี ปราโมช
2. นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค
3. นายอานิล ธาดานี
4. นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์
5. นายไมเคิล เซลบีย์
6. นายสุจินต์ หวั่งหลี
7. นายสุรินทร์ โอสถานุเคราะห์
8. พลโท ชยุติ สุวรรณมาศ
9. นายไมเคิล ซากิลด์
6) มีมติจ่ายเงินค่าตอบแทนกรรมการ, กรรมการตรวจสอบ,
กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประจำปี 2550 รวมเป็น
จำนวนเงินทั้งสิ้น 2,680,000.- บาท
7) แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ประจำปี 2550 และกำหนด
ค่าตอบแทนดังนี้
นายณรงค์ พันตาวงษ์ เลขที่ใบรับอนุญาต 3315 สำนักงานเอินส์ท แอนด์ ยัง
นายศุภชัย ปัญญาวัฒโน เลขที่ใบรับอนุญาต 3930 สำนักงานเอินส์ท แอนด์ ยัง
นางสาวศิราภรณ์ เอื้ออนันต์กุล เลขที่ใบรับอนุญาต 3834 สำนักงานเอินส์ท แอนด์ ยัง
กำหนดค่าสอบบัญชีของบริษัทฯ เป็นเงิน 610,000.- บาท ( หรือ
880,000.- บาทเมื่อรวมค่าสอบบัญชีของบริษัทย่อย)
8) อนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็น
หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน)
(นางองค์อร สมประสงค์)
ผู้จัดการใหญ่
แมงเม่าวันนี้ จะตัวใหญ่ขึ้นในวันหน้า
- dr_norr
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 10
หลักทรัพย์ RHC
หัวข้อข่าว แบบคำขอถอนหุ้น(F10-7)
วันที่/เวลา 17 เม.ย. 2550 08:59:37
แบบคำขอถอนหุ้น
ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 12 เมษายน 2550
เรียน คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้าพเจ้าบริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") มีชื่อภาษาอังกฤษว่า
Rajadamri Hotel Public Company Limited ขอยื่นคำขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ประเภทหลักทรัพย์ของบริษัท ฯ
1.1 หุ้นสามัญ/หุ้นบุริมสิทธิ
1.1.1 จำนวน 45,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม
450,000,000 บาท
1.1.2 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 9
เมษายน 2533
1.1.3 ราคาซื้อขายหุ้นครั้งหลังสุด 65 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2550
1.2 หุ้นกู้/หุ้นกู้แปลงสภาพ
1.2.1 จำนวนที่ออก - หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ - บาท
รวม - ล้านบาท มีผู้ไถ่ถอน/แปลงสภาพแล้ว จำนวน -
หุ้น คงเหลือ - หุ้น
1.2.2 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ - ต่อปี ราคาแปลงสภาพ
- บาท เงื่อนไขการจ่ายดอกเบี้ย/แปลงสภาพ -
1.2.3 เสนอขายต่อ - เมื่อวันที่ - อายุ
- ปี ครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ -
1.2.4 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่
-
1.2.5 ราคาซื้อขายครั้งหลังสุด - บาท/หุ้น เมื่อวันที่ -
1.3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
1.3.1 จำนวนที่ออก - หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ - บาท
รวม - ล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นแล้ว จำนวน
- หน่วย คงเหลือ - หน่วย
1.3.2 ใบสำคัญแสดงสิทธิ - หน่วย ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นได้
- หุ้น ในราคาหุ้นละ - บาท เงื่อนไขการใช้สิทธิ
-
1.3.3 เสนอขายต่อ - เมื่อวันที่ -
1.3.4 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ -
1.3.5 ราคาซื้อขายครั้งหลังสุด - บาท/หน่วย เมื่อวันที่ -
1.4 หลักทรัพย์ประเภทอื่น (ระบุ) - ไม่มี -
2. การได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์
จดทะเบียนที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่12 เมษายน 2550 ได้มีมติ
ให้ถอนหุ้นของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยมี
รายละเอียดดังนี้
2.1 จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 813 ราย 45,000,000 หุ้น
2.2 จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นไม่เกินกว่า 5 ใน 1,000 ของทุนเรียกชำระ
แล้วแต่ไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 787 ราย.1,261,612 หุ้น คิดเป็นร้อย
ละ 2.80 ของทุนเรียกชำระแล้ว
2.3 จำนวนผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง 22 ราย
2.4 จำนวนผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมและมอบฉันทะ 49 ราย 43,409,066 หุ้น คิด
เป็นร้อยละ 96.46 ของทุนเรียกชำระแล้ว
2.5 จำนวนผู้ถือหุ้นที่เห็นชอบให้ถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน 43 ราย 43,401,466 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 96.45 ของทุน
เรียกชำระแล้ว
2.6 จำนวนผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน 4 ราย 2,500 หุ้น คิดเป็นร้อยละ0.01 ของทุนเรียกชำระแล้ว และจำนวนผู้ถือหุ้น
ที่งดออกเสียงมีจำนวน 2 ราย 5,100 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของทุนเรียกชำระแล้ว
3. เหตุผลและข้อเท็จจริงของการขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน
3.1 บริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกันน้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระ
แล้วของบริษัทฯ ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กำหนดไว้ ทำให้บริษัทฯขาดคุณสมบัติในการดำรงสถานะเป็นบริษัทจด
ทะเบียนตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ใน
ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯไม่มีความประสงค์ที่จะลดสัดส่วน
การถือหุ้นของบริษัทฯ ลง
3.2 ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทฯ มีปริมาณการซื้อขายใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยน้อยมาก การขอเพิกถอนหุ้นออกจาก
การเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จึงเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ผู้ถือหุ้นของ
บริษัทฯ สามารถที่จะขายหุ้นของบริษัทฯ ได้ในราคาที่กำหนดตามคำ
เสนอซื้อหุ้น
3.3 การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย ทำให้บริษัทฯ มีภาระหน้าที่และค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าธรรมเนียม
ประจำปี ค่าธรรมเนียมผู้สอบบัญชีสำหรับการสอบทานงบการเงินราย
ไตรมาส และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลต่างๆของ
บริษัทฯ เป็นต้น ดังนั้นการที่บริษัทไม่ดำรงสถานะการเป็นบริษัทจด
ทะเบียน จะทำให้บริษัทไม่ต้องมีภาระหน้าที่และค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจะทำ
ให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทลดลงและจะเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้น
3.4 บริษัทฯ มีผลประกอบการและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะ
ใช้หมุนเวียนภายในบริษัทและเพื่อขยายงานในอนาคต โดยไม่มีความ
จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการระดมเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้
หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องการระดมเงินทุนในอนาคต บริษัทฯ
สามารถจัดหาจากแหล่งเงินทุนอื่นได้
4. การดำเนินการเสนอซื้อหุ้นและหลักทรัพย์อื่นที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็น
หุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือหลักทรัพย์เป็นการทั่วไป
4.1 ชื่อผู้เสนอซื้อหรือกลุ่มผู้เสนอซื้อ พร้อมความสัมพันธ์กับบริษัท
ชื่อผู้เสนอซื้อ
บริษัท หัวหิน รีซอร์ท จำกัด
ความสัมพันธ์กับบริษัท
บริษัท หัวหิน รีซอร์ท จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นใน
บริษัทฯ จำนวน 18,687,590 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.53 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น
บริษัทในกลุ่มของผู้ทำคำเสนอซื้อ (ถือหุ้นในผู้ทำคำเสนอซื้อร้อยละ 100)
ถือหุ้นในบริษัทฯ จำนวน 24,424,465 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 54.28 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
4.2 ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์
ราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญเท่ากับ 64.02 บาทต่อหุ้น
4.3 ชื่อที่ปรึกษาทางการเงินของผู้เสนอซื้อ
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
4.4 ชื่อที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด
4.5 กำหนดการเสนอซื้อหลักทรัพย์
ภายหลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้น
ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัท
หัวหิน รีซอร์ท จำกัด จะยื่นประกาศเจตนาในการทำคำเสนอซื้อ หรือคำ
เสนอซื้อหลักทรัพย์ ภายใน 3 วันทำการ โดยมีระยะเวลาทำคำเสนอซื้อ
ทั้งสิ้น 45 วันทำการ ทั้งนี้คาดว่าการทำคำเสนอซื้อจะแล้วเสร็จประมาณ
เดือนมิถุนายน 2550
5. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายแรก ณ วันประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีมติให้ถอนหุ้นของบริษัท
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน (วันที่ 23 มีนาคม 2550)
ชื่อ สัญชาติ อาชีพ จำนวนหุ้น % การถือหุ้น
1. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด (มหาชน) ไทย ธุรกิจให้บริการ 24,424,465 54.28
และสันทนากา5
2. บริษัท หัวหิน รีซอร์ท จำกัด ไทย ธุรกิจโรงแรม 18,687,590 41.53
3. State Street Bank and Trust Company อเมริกัน สถาบันการเงิน 381,900 0.85
4. ท่านผู้หญิง เหมือนจิต ภิรมย์ภักดี ไทย บุคคลธรรมดา 243,600 0.54
5. ม.ร.ว. สำอางวรรณ ล่ำซำ ไทย บุคคลธรรมดา 132,500 0.29
6. นายพิสิฐ พฤกษ์ไพบูลย์ ไทย บุคคลธรรมดา 88,000 0.20
7. นางบุญสม บุณยนิตย์ ไทย บุคคลธรรมดา 80,000 0.18
8. UOB Kay Hian Private Limited สิงคโปร์ ธุรกิจหลักทรัพย์ 74,900 0.17
9. DBS Vickers Securities (Singapore) Pte. สิงคโปร์ ธุรกิจหลักทรัพย์ 62,400 0.14
10. Goldman Sachs International อังกฤษ ธุรกิจลงทุน 44,900 0.10
รวม 44,220,255 98.28
6. คณะกรรมการของบริษัท ณ วันที่ 8 มีนาคม 2550
ชื่อ ตำแหน่ง % การถือหุ้น
1. พลเรือตรี ม.ล.อัศนี ปราโมช ประธานกรรมการ -
2. นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค กรรมการ -
3. นายอานิล ธาดานี กรรมการ -
4. นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์ กรรมการ -
5. นายไมเคิล เดวิด เซลบีย์ กรรมการ -
6. นายไมเคิล ซากิลด์ กรรมการ -
7. นายสุจินต์ หวั่งหลี กรรมการอิสระ, ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ -
8. นายสุรินทร์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ -
9. พลโทชยุติ สุวรรณมาศ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ -
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบคำขอนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ
...........................................................
(นางองค์อร สมประสงค์)
ผู้จัดการใหญ่
หัวข้อข่าว แบบคำขอถอนหุ้น(F10-7)
วันที่/เวลา 17 เม.ย. 2550 08:59:37
แบบคำขอถอนหุ้น
ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
บริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 12 เมษายน 2550
เรียน คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้าพเจ้าบริษัท โรงแรมราชดำริ จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") มีชื่อภาษาอังกฤษว่า
Rajadamri Hotel Public Company Limited ขอยื่นคำขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ประเภทหลักทรัพย์ของบริษัท ฯ
1.1 หุ้นสามัญ/หุ้นบุริมสิทธิ
1.1.1 จำนวน 45,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม
450,000,000 บาท
1.1.2 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 9
เมษายน 2533
1.1.3 ราคาซื้อขายหุ้นครั้งหลังสุด 65 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2550
1.2 หุ้นกู้/หุ้นกู้แปลงสภาพ
1.2.1 จำนวนที่ออก - หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ - บาท
รวม - ล้านบาท มีผู้ไถ่ถอน/แปลงสภาพแล้ว จำนวน -
หุ้น คงเหลือ - หุ้น
1.2.2 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ - ต่อปี ราคาแปลงสภาพ
- บาท เงื่อนไขการจ่ายดอกเบี้ย/แปลงสภาพ -
1.2.3 เสนอขายต่อ - เมื่อวันที่ - อายุ
- ปี ครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ -
1.2.4 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่
-
1.2.5 ราคาซื้อขายครั้งหลังสุด - บาท/หุ้น เมื่อวันที่ -
1.3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น
1.3.1 จำนวนที่ออก - หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ - บาท
รวม - ล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นแล้ว จำนวน
- หน่วย คงเหลือ - หน่วย
1.3.2 ใบสำคัญแสดงสิทธิ - หน่วย ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นได้
- หุ้น ในราคาหุ้นละ - บาท เงื่อนไขการใช้สิทธิ
-
1.3.3 เสนอขายต่อ - เมื่อวันที่ -
1.3.4 เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ -
1.3.5 ราคาซื้อขายครั้งหลังสุด - บาท/หน่วย เมื่อวันที่ -
1.4 หลักทรัพย์ประเภทอื่น (ระบุ) - ไม่มี -
2. การได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้ถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์
จดทะเบียนที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันที่12 เมษายน 2550 ได้มีมติ
ให้ถอนหุ้นของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยมี
รายละเอียดดังนี้
2.1 จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 813 ราย 45,000,000 หุ้น
2.2 จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือหุ้นไม่เกินกว่า 5 ใน 1,000 ของทุนเรียกชำระ
แล้วแต่ไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 787 ราย.1,261,612 หุ้น คิดเป็นร้อย
ละ 2.80 ของทุนเรียกชำระแล้ว
2.3 จำนวนผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง 22 ราย
2.4 จำนวนผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมและมอบฉันทะ 49 ราย 43,409,066 หุ้น คิด
เป็นร้อยละ 96.46 ของทุนเรียกชำระแล้ว
2.5 จำนวนผู้ถือหุ้นที่เห็นชอบให้ถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน 43 ราย 43,401,466 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 96.45 ของทุน
เรียกชำระแล้ว
2.6 จำนวนผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน 4 ราย 2,500 หุ้น คิดเป็นร้อยละ0.01 ของทุนเรียกชำระแล้ว และจำนวนผู้ถือหุ้น
ที่งดออกเสียงมีจำนวน 2 ราย 5,100 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของทุนเรียกชำระแล้ว
3. เหตุผลและข้อเท็จจริงของการขอถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียน
3.1 บริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกันน้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระ
แล้วของบริษัทฯ ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กำหนดไว้ ทำให้บริษัทฯขาดคุณสมบัติในการดำรงสถานะเป็นบริษัทจด
ทะเบียนตามประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ใน
ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯไม่มีความประสงค์ที่จะลดสัดส่วน
การถือหุ้นของบริษัทฯ ลง
3.2 ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทฯ มีปริมาณการซื้อขายใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยน้อยมาก การขอเพิกถอนหุ้นออกจาก
การเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จึงเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ผู้ถือหุ้นของ
บริษัทฯ สามารถที่จะขายหุ้นของบริษัทฯ ได้ในราคาที่กำหนดตามคำ
เสนอซื้อหุ้น
3.3 การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย ทำให้บริษัทฯ มีภาระหน้าที่และค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าธรรมเนียม
ประจำปี ค่าธรรมเนียมผู้สอบบัญชีสำหรับการสอบทานงบการเงินราย
ไตรมาส และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลต่างๆของ
บริษัทฯ เป็นต้น ดังนั้นการที่บริษัทไม่ดำรงสถานะการเป็นบริษัทจด
ทะเบียน จะทำให้บริษัทไม่ต้องมีภาระหน้าที่และค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจะทำ
ให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทลดลงและจะเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้น
3.4 บริษัทฯ มีผลประกอบการและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะ
ใช้หมุนเวียนภายในบริษัทและเพื่อขยายงานในอนาคต โดยไม่มีความ
จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการระดมเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้
หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องการระดมเงินทุนในอนาคต บริษัทฯ
สามารถจัดหาจากแหล่งเงินทุนอื่นได้
4. การดำเนินการเสนอซื้อหุ้นและหลักทรัพย์อื่นที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็น
หุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นและผู้ถือหลักทรัพย์เป็นการทั่วไป
4.1 ชื่อผู้เสนอซื้อหรือกลุ่มผู้เสนอซื้อ พร้อมความสัมพันธ์กับบริษัท
ชื่อผู้เสนอซื้อ
บริษัท หัวหิน รีซอร์ท จำกัด
ความสัมพันธ์กับบริษัท
บริษัท หัวหิน รีซอร์ท จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นใน
บริษัทฯ จำนวน 18,687,590 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.53 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น
บริษัทในกลุ่มของผู้ทำคำเสนอซื้อ (ถือหุ้นในผู้ทำคำเสนอซื้อร้อยละ 100)
ถือหุ้นในบริษัทฯ จำนวน 24,424,465 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 54.28 ของ
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
4.2 ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์
ราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญเท่ากับ 64.02 บาทต่อหุ้น
4.3 ชื่อที่ปรึกษาทางการเงินของผู้เสนอซื้อ
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
4.4 ชื่อที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด
4.5 กำหนดการเสนอซื้อหลักทรัพย์
ภายหลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอนุมัติการขอเพิกถอนหุ้น
ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัท
หัวหิน รีซอร์ท จำกัด จะยื่นประกาศเจตนาในการทำคำเสนอซื้อ หรือคำ
เสนอซื้อหลักทรัพย์ ภายใน 3 วันทำการ โดยมีระยะเวลาทำคำเสนอซื้อ
ทั้งสิ้น 45 วันทำการ ทั้งนี้คาดว่าการทำคำเสนอซื้อจะแล้วเสร็จประมาณ
เดือนมิถุนายน 2550
5. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายแรก ณ วันประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีมติให้ถอนหุ้นของบริษัท
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน (วันที่ 23 มีนาคม 2550)
ชื่อ สัญชาติ อาชีพ จำนวนหุ้น % การถือหุ้น
1. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
จำกัด (มหาชน) ไทย ธุรกิจให้บริการ 24,424,465 54.28
และสันทนากา5
2. บริษัท หัวหิน รีซอร์ท จำกัด ไทย ธุรกิจโรงแรม 18,687,590 41.53
3. State Street Bank and Trust Company อเมริกัน สถาบันการเงิน 381,900 0.85
4. ท่านผู้หญิง เหมือนจิต ภิรมย์ภักดี ไทย บุคคลธรรมดา 243,600 0.54
5. ม.ร.ว. สำอางวรรณ ล่ำซำ ไทย บุคคลธรรมดา 132,500 0.29
6. นายพิสิฐ พฤกษ์ไพบูลย์ ไทย บุคคลธรรมดา 88,000 0.20
7. นางบุญสม บุณยนิตย์ ไทย บุคคลธรรมดา 80,000 0.18
8. UOB Kay Hian Private Limited สิงคโปร์ ธุรกิจหลักทรัพย์ 74,900 0.17
9. DBS Vickers Securities (Singapore) Pte. สิงคโปร์ ธุรกิจหลักทรัพย์ 62,400 0.14
10. Goldman Sachs International อังกฤษ ธุรกิจลงทุน 44,900 0.10
รวม 44,220,255 98.28
6. คณะกรรมการของบริษัท ณ วันที่ 8 มีนาคม 2550
ชื่อ ตำแหน่ง % การถือหุ้น
1. พลเรือตรี ม.ล.อัศนี ปราโมช ประธานกรรมการ -
2. นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค กรรมการ -
3. นายอานิล ธาดานี กรรมการ -
4. นางปรารถนา มโนมัยพิบูลย์ กรรมการ -
5. นายไมเคิล เดวิด เซลบีย์ กรรมการ -
6. นายไมเคิล ซากิลด์ กรรมการ -
7. นายสุจินต์ หวั่งหลี กรรมการอิสระ, ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ -
8. นายสุรินทร์ โอสถานุเคราะห์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ -
9. พลโทชยุติ สุวรรณมาศ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ -
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบคำขอนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ
...........................................................
(นางองค์อร สมประสงค์)
ผู้จัดการใหญ่
แมงเม่าวันนี้ จะตัวใหญ่ขึ้นในวันหน้า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 554
- ผู้ติดตาม: 1
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 11
จะมีผลกับเฉพาะลูกค้าบางกลุ่มครับ เช่นกลุ่มลูกค้าที่มาประชุมสัมมนาที่เป็นคนไทย หรือลูกค้าที่เป็น corporate ที่มาพักแล้วนั่งรถไฟฟ้าไปทำงานที่ออฟฟิต1. ทำเลของ shang คิดว่าจะมีผลทำให้ได้เปรียบ โรงแรม รอบข้างเยอะไหมครับ
สำหรับกลุ่มอื่นๆเช่นลูกค้าต่างชาติที่มาเที่ยว (Leisure),แขกต่างชาติที่มาจัดประชุม+ห้องพัก, ลูกค้าที่มาทานอาหาร..... ทำเลของShangก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจสำหรับแขกที่ตัองการมาพักโรงแรมแถบริมแม่น้ำเท่าไหร่ครับ อย่าง Bangkok Mariott & Spa ของ Mint ทำเลไกลขนาดนั้นก็ขายดีทั้งในส่วนของห้องพักและห้องอาหาร
แต่สิ่งที่Shangได้เปรียบROHอย่างเห็นได้ชัดคือตัว product ครับ public area ของShangดีกว่ามาก ทำให้Shang สามาถขายห้องพักได้ในราคาที่สูงกว่าROH
KPI คืออะไรครับ2. อะไรคือ KPI ของการวิเคราะห์ ธุรกิจ โรงแรม ครับ
อยูที่ประเภทของโรงแรมครับ3. ถ้าถือกลุ่ม โรงแรมยาว 1-2 ปีช่วงนี้ถือว่าเสี่ยงไหมครับ เพราะสถานการณ์การเมืองไม่มีที่ท่าจะสงบสักที
โรงแรม5ดาวที่มีสาขาเดียวที่กรุงเทพ ผมว่าโอกาสที่จะในเติบโตในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่องผมว่าเป็นเรื่องที่ยากครับ capacity มีเท่าเดิมซึ่งโรงแรมส่วนใหญ่ ก็ run ใน occupancy ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว การที่จะทำให้โตได้ก็มีแต่การขึ้นราคาหรือลดค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมาโรงแรม5ดาวในกรุงเทพสามารถขึ้นราคาได้อย่างต่อเนื่อง เพราะ
1. ราคาโรงแรม5ดาวในกรุงเทพถ้าเทียบกับโรงแรมประเภทเดียวกันในเมืองหลวงของประเทศอื่นในเอเชียด้วยกันยังถือว่าถูกกว่ามาก
2. โรงแรม4-5ดาวในอดีตก่อนการแข่งขันยังไม่มากนัก
แต่ตอนนี้ราคาห้องพักตอนนี้ถ้าเทียบกับเมื่อ 4-5ปีที่แล้วปรับขึ้นมาสูงมาก ประกอบกับในช่วง 1-3ปีต่อจากนึ้โรงแรมในกรุงเทพจะเปิดขึ้นอีกมาก การจะปรับราคาขายขึ้นไปเรื่อยๆคงทำได้ยาก
โรงแรมในต่างจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดที่ติดทะเล เช่นที่ภูเก็ต,หัวหิน, กระบี่..... ปีนี้ดีขึ้นและน่าจะดีต่อเนื่องครับ
กำลังจะมี Shangri-La ในเมืองไทยอีก 2ที่คือ ที่ เชียงใหม่ปลายปีนี้กับที่ภูเก็ตในปี2008 เข้าใจว่าShangถือหุ้นด้วยแต่ไม่แน่ใจว่าShangจะมีสัดส่วนการถือหุ้นมากเท่าไหร่ครับ
แบ่งแบบคร่าวๆได้ประมาณนี้ครับ4. กลุ่มลูกค้าของ shang กับ roh นี่เป็นประเภทไหนครับ ถ้ามีใครทราบจะช่วยผมได้มาก เพราะผมเองกำลังวางแผนเดินทางไปสำรวจทั้งสอง โรงแรมช่วงว่างๆอยู่ (อยากไปเห็นภายในชัดๆครับ เพราะไหนๆจะเป็นหุ้นส่วนแล้ว) เผื่อผมจะได้ไม่ต้องเดินทางไปสำรวจเอง
1. ที่ผ่าน Travel agency มา อาจมีทั้งมาเป็น group หรือ individual
2. ที่ผ่าน corporate company อาจมีทั้งมาเป็น group หรือ individual หรือที่มาประชุมสัมมนา
3. International Association
4. ที่จองมาโดยตรงผ่านwebsite หรือ reservation ของโรงแรม
5. ลูกค้ามาจัดงานแต่ง
สองตัวนี้ผมชอบShangมากกว่าครับ แต่ที่ไม่ได้ซื้อเพราะสงสัยเรื่องธรรมาภิบาล เห็นตัวเลขค่าเผื่อผลขาดทุนจากเงินให้กู้ยืมของกิจการที่เกี่ยวข้องกันในหมายเหตุประกอบงบการเงินแล้วรู้สึกไม่ชอบมาพากลยังไงไม่รู้5. และสุดท้ายถ้าทำได้ช่วยฟันธง ระหว่าง roh , shang พี่ๆจะเลือกตัวไหนดีครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 13
ขอตอบจุดแข็งของ Shang อีกเรื่องนะครับ ในฐานะที่เป็นลูกค้าบ่อยๆ คือ เรื่องห้อง function room ครับ ถ้าจะจัดงานเลี้ยงระดับ 700-900 คนโต๊ะจีน และเป็นระดับ 5 ดาวนี่ นอกจาก Shang แล้วนึกไม่ออกครับ..
อย่าง Athinee นี่ก็ใส่คนไม่ลงใน ballroom เดียว
ROH นี่แค่เจอเรื่องที่จอดรถสลบแล้ว ก็ไม่ไหวอีก
ตัว OHTL ก็ไม่มี
DTC ก็ไม่พอ
MANRIN ก็ไม่ถึง 5 ดาว..
เซลห้อง Function ที่ Shang นี่ ต้องบอกว่า เชิดและหยิ่งมาก (ทำไงได้ก็ไม่มีตัวเลือกเลย)
แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อ Shang เหมือนกัน เพราะไม่ค่อยสบายใจเรื่องการดูแลผู้ถือหุ้รายย่อย รู้สึกยังไงก็ไม่รู้ (ความเห็นส่วนตัวครับ)
อย่าง Athinee นี่ก็ใส่คนไม่ลงใน ballroom เดียว
ROH นี่แค่เจอเรื่องที่จอดรถสลบแล้ว ก็ไม่ไหวอีก
ตัว OHTL ก็ไม่มี
DTC ก็ไม่พอ
MANRIN ก็ไม่ถึง 5 ดาว..
เซลห้อง Function ที่ Shang นี่ ต้องบอกว่า เชิดและหยิ่งมาก (ทำไงได้ก็ไม่มีตัวเลือกเลย)
แต่ผมก็ไม่ได้ซื้อ Shang เหมือนกัน เพราะไม่ค่อยสบายใจเรื่องการดูแลผู้ถือหุ้รายย่อย รู้สึกยังไงก็ไม่รู้ (ความเห็นส่วนตัวครับ)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
ขอบคุณพี่ๆครับ
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณพี่ๆมากครับ
ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีใครช่วยตอบซะแล้ว
----
ผมได้ รายชื่อทั้ง roh และ shang จากการตาม p/e , pbv , roe คร่าวๆน่ะครับ (พูดจริงๆก็ได้จาก blog พี่ครรชิตครับ) ก็เก็บไว้ใน port จำลองที่เล่นผ่านเกมหุ้นอยู่นาน
พอดี เดือนที่แล้วมีโอกาสใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา สังเกตว่าลูกค้าโรงแรมก็มีพอสมควร เลยเกิดไอเดียว่าการติดตามหุ้นกลุ่มโรงแรมที่มีสินค้าคือห้องพักและบริการ และภัตตาคาร น่าจะง่ายในการติดตามคุณภาพหรือยอดขายของสินค้าสำหรับมือใหม่ครับ
ส่วนที่ OHTL ไม่อยู่ในใจผม ก็คงเพราะ p/e สูงมากครับ , ผมพอทราบเหมือนกันว่า OHTL เป็นเบอร์ 1 แน่นอน แต่ราคาหุ้นก็เบอร์ 1 คือแพงตามไปด้วยครับ
ผมมองว่าลุกค้า shang , roh น่าจะเป็นคนละกลุ่มกับ OHTL นะครับ ไม่น่าจะเป็นคู่แข่งกันสักเท่าไหร่สำหรับ OHTL กับอีกสอง โรงแรมครับ
--------------
สำหรับ shang ตอนนี้ผมพอจะทราบจุดเด่นของหุ้นตัวนี้จากพี่ๆพอสมควรแล้วครับ แต่ข้อเสียเท่าที่อ่านมาคือ
- สภาพคล่องต่ำ ติด CM (มันคืออะไรครับ)
- ผู้บริหารไม่น่าไว้ใจ (ผมจะตรวจสอบได้อย่างไรครับ)
เผื่อมีพี่ๆใจดีช่วยไขข้อข้องใจเพิ่มอีก
=======
พอดีผมใจร้อนเลยนำไป post ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ห้อง shang ด้วย ไว้ตอบกันที่นี่จนตกผลึกได้ idea จะขอรวบรวมส่วนของหุ้น shang ไปไว้ในห้อง ร้อยคนร้อยหุ้นด้วยละกันครับ
ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีใครช่วยตอบซะแล้ว
----
ผมได้ รายชื่อทั้ง roh และ shang จากการตาม p/e , pbv , roe คร่าวๆน่ะครับ (พูดจริงๆก็ได้จาก blog พี่ครรชิตครับ) ก็เก็บไว้ใน port จำลองที่เล่นผ่านเกมหุ้นอยู่นาน
พอดี เดือนที่แล้วมีโอกาสใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา สังเกตว่าลูกค้าโรงแรมก็มีพอสมควร เลยเกิดไอเดียว่าการติดตามหุ้นกลุ่มโรงแรมที่มีสินค้าคือห้องพักและบริการ และภัตตาคาร น่าจะง่ายในการติดตามคุณภาพหรือยอดขายของสินค้าสำหรับมือใหม่ครับ
ส่วนที่ OHTL ไม่อยู่ในใจผม ก็คงเพราะ p/e สูงมากครับ , ผมพอทราบเหมือนกันว่า OHTL เป็นเบอร์ 1 แน่นอน แต่ราคาหุ้นก็เบอร์ 1 คือแพงตามไปด้วยครับ
ผมมองว่าลุกค้า shang , roh น่าจะเป็นคนละกลุ่มกับ OHTL นะครับ ไม่น่าจะเป็นคู่แข่งกันสักเท่าไหร่สำหรับ OHTL กับอีกสอง โรงแรมครับ
--------------
สำหรับ shang ตอนนี้ผมพอจะทราบจุดเด่นของหุ้นตัวนี้จากพี่ๆพอสมควรแล้วครับ แต่ข้อเสียเท่าที่อ่านมาคือ
- สภาพคล่องต่ำ ติด CM (มันคืออะไรครับ)
- ผู้บริหารไม่น่าไว้ใจ (ผมจะตรวจสอบได้อย่างไรครับ)
เผื่อมีพี่ๆใจดีช่วยไขข้อข้องใจเพิ่มอีก
=======
พอดีผมใจร้อนเลยนำไป post ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ห้อง shang ด้วย ไว้ตอบกันที่นี่จนตกผลึกได้ idea จะขอรวบรวมส่วนของหุ้น shang ไปไว้ในห้อง ร้อยคนร้อยหุ้นด้วยละกันครับ
Kritsada
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 15
OHTL มี PE ที่สูง
เป็นหุ้นที่ไม่ค่อย growth
dividend ก็ให้ไม่มาก
สภาพคล่องต่ำเรี่ยเตี้ยดิน
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีต ราคาหุ้นของ OHTL ในช่วง1-2ปีที่ผ่านซึ่งตลาดหุ้นซบเซามาก กลับไต่เขาขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้ผมสงสัยน่ะครับ ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงแต่อยากทราบความคิดเห็นจากคนอื่นๆ ไหนๆก็กลุ่มโรงแรมเหมือนกันน่ะครับ
(ขอรบกวนอาศัยกระทู้ของคุณ kit556 ไปเลยนะครับ) 8)
เป็นหุ้นที่ไม่ค่อย growth
dividend ก็ให้ไม่มาก
สภาพคล่องต่ำเรี่ยเตี้ยดิน
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีต ราคาหุ้นของ OHTL ในช่วง1-2ปีที่ผ่านซึ่งตลาดหุ้นซบเซามาก กลับไต่เขาขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้ผมสงสัยน่ะครับ ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงแต่อยากทราบความคิดเห็นจากคนอื่นๆ ไหนๆก็กลุ่มโรงแรมเหมือนกันน่ะครับ
(ขอรบกวนอาศัยกระทู้ของคุณ kit556 ไปเลยนะครับ) 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวน ถามเรื่องกลุ่มโรงแรมครับ
โพสต์ที่ 16
ชอบ OHTL เนื่องจากชื่อเสียงของตัวโรงแรมเองด้านการบริการระดับเฟิร์สคลาส ซึ่ง differentiate ไปจากโรงแรมอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ กลุ่มลูกค้าของ OHTL จึงค่อนข้างชัดเจน นอกจากธุรกิจโรงแรมแล้ว ยังมีธุรกิจในส่วนของสปา ร้านอาหารตามห้าง, บริษัทนำเที่ยว (บริษัทย่อย) และการทำอาหารส่งให้สายการบินด้วยครับ : DBelffet เขียน:OHTL มี PE ที่สูง
เป็นหุ้นที่ไม่ค่อย growth
dividend ก็ให้ไม่มาก
สภาพคล่องต่ำเรี่ยเตี้ยดิน
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีต ราคาหุ้นของ OHTL ในช่วง1-2ปีที่ผ่านซึ่งตลาดหุ้นซบเซามาก กลับไต่เขาขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้ผมสงสัยน่ะครับ ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงแต่อยากทราบความคิดเห็นจากคนอื่นๆ ไหนๆก็กลุ่มโรงแรมเหมือนกันน่ะครับ
(ขอรบกวนอาศัยกระทู้ของคุณ kit556 ไปเลยนะครับ) 8)
(เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ตัวผมซื้อ OHTL เมื่อปีที่แล้ว แถว 370 ตอนนี้ดูราคาแล้ว ไม่กล้าซื้อเพิ่มเหมือนกัน)