งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
max77
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หลักทรัพย์ TOP  
 หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)  
 วันที่/เวลา 11 พ.ค. 2550 19:36:57  
 
 
 
                 สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
                                 บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                           สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
งบการเงินรวม
                                                 ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2550             2549

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    5,758,875         4,052,898
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          2.82              1.99


 งบการเงินเฉพาะกิจการ
                                                  ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2550              2549

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    3,663,105          2,381,876
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          1.80               1.17

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต


 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
               ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

 "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
  การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
  ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"

                              ลงลายมือชื่อ _______________________
                                        ( นายนิทัศน์ ครองวานิชยกุล )
                              ตำแหน่ง   ผู้จัดการฝ่ายสำนักกรรมการอำนวยการ
                                       ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ



---------------------------------------------------------------------------------------
หลักทรัพย์ TOP  
 หัวข้อข่าว คำอธิบายงบการเงินไตรมาสที่ 1/2550  
 วันที่/เวลา 11 พ.ค. 2550 19:12:21  
 
 
 
     
               ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาส 1 ปี 2550
   
   1 ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ
           ข้อมูลทางการเงินที่บ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทและบริษัทฯย่อย
   สำหรับไตรมาส 1 ปี 2550 สามารถสรุปได้ ดังนี้
   
               ผลการดำเนินงาน           ไตรมาส    ไตรมาส       +/- / %
            (ล้านบาท)                    1/50      1/49(3)
   Integrated Margin(US$/bbl)(1)       10.40       7.03       3.37      48%
   รายได้จากการขาย                      64,428     64,859     (431)     (1%)
   EBITDA(2)                           8,380      5,334      3,046     57%
   กำไร/(ขาดทุน) อัตราแลกเปลี่ยน           687        1,673      (986)     (59%)
   กำไรก่อนภาษีเงินได้                     7,252      4,780      2,472     52%
   ภาษีเงินได้(4)                         (1,493)    (727)      766       105%
   กำไรสุทธิ                             5,759      4,053      1,706     42%
         กำไรสุทธิของบริษัทฯ               3,663      2,382      1,281     54%
         กำไรสุทธิของบริษัทย่อย             2,096      1,671      425       25%
   กำไรต่อหุ้น(บาท)(5)                    2.82       1.99       0.83
   
   หมายเหตุ
   (1) กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม(Integrated Margin เป็นกำไรขั้นต้นจากการผลิตรวมของ
   TOP,TPX และ TLB
   (2) EBITDA = กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและรายจ่ายตัดบัญชี
   (3) ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2549 ปรับปรุงตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับ
   การบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมเป็นวิธีราคาทุน และ การเปลี่ยนวิธีการคำนวณราคาทุน
   ของต้นทุนน้ำมันดิบ และ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมตามราคาทุนเป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
   (4) Effective Tax rate ในไตรมาส 1/50 = 20% และในไตรมาส 1/49 = 15%
   (5) กำไรต่อหุ้นในตารางข้างบนคำนวณจากจำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยในไตรมาส 1/50 และไตรมาส 1/49
   คำนวณที่ 2,040.03 ล้านหุ้น
   
          สถานะทางการเงิน         31มี.ค.50   31ธ.ค.49(1)      +/-        %
            (ล้านบาท)
   สินทรัพย์รวม                     139,467     125,200       14,267      13%
   หนี้สินรวม                        60,598      52,003        8,595      17%
   ส่วนของผู้ถือหุ้น-สุทธิ                78,869      73,197        5,672       8%
   
   หมายเหตุ    (1) งบแสดงฐานะการเงินปี 2549
   ปรับปรุงตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อย และ บริษัทร่วม
   เป็นวิธีราคาทุน และ การเปลี่ยนวิธีการคำนวณราคาทุนของต้นทุนน้ำมันดิบ และ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
   ตามราคาทุนเป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเพื่อใช้เปรียบเทียบ
   
   2 สรุปภาพรวมผลการดำเนินงาน
         ในไตรมาส 1/50 การผลิตของกลุ่มอยู่ในระดับสูง บริษัทฯใช้กำลังการกลั่นที่ 106% และ
   บริษัทย่อยสามารถใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่มากกว่า 90% ซึ่งเป็นผลจากการบริหารงานเป็น
   กลุ่มที่มีการเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งโรงกลั่นน้ำมันโรงงานผลิตสาร PX และ โรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่น
   พื้นฐาน โดยในไตรมาสนี้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวสูงขึ้นเร็วกว่าราคาน้ำมันดิบส่งผลให้บริษัทมี GRM
   อยู่ในระดับสูงประกอบกับมีปัจจัยบวกจากราคาผลิตภัณฑ์ PX และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ปรับตัวอยู่ในระดับ
   สูงต่อเนื่องจากปี 2549 ทำให้มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (Integrated Margin) อยู่ที่10.40
   เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 3.37 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ดังนั้น
   EBITDA ในไตรมาส 1/50 เพิ่มขึ้น 3,046 ล้านบาทมาอยู่ที่ 8,380 ล้านบาท นอกจากนี้
   จากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2549 จำนวน 1.09 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯมาปิดที่ 35.14
   บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯณ สิ้นไตรมาส 1/50 ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 687 ล้านบาท
   ดังนั้น บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/50 ทั้งสิ้นจำนวน 5,759 ล้านบาmเพิ่มขึ้นจาก
   ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 1,706 ล้านบาทหรือร้อยละ 42 โดยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/50
   คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.82 บาทเพิ่มขึ้น 0.84 บาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
   
   3. วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมาส 1/50
   
   งบการเงินรวมของบริษัทฯ รวมผลการดำเนินงานและงบการเงินของบริษัทย่อยของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
   1. บริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด (TPX) : บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด
   2. บริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด (มหาชน)(TLB) : บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด
   3. บริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด(TM) : บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด
   4. บริษัท ไทยออยล์เพาเวอร์ จำกัด (TP) : บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 55
   5. บริษัทผลิตไฟฟ้าอิสระ (ประเทศไทย)(IPT) : บริษัทฯถือหุ้นร้อยละ 24 และ TP ถือหุ้นร้อยละ 56
   
   สำหรับบริษัทร่วม ได้แก่ บริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่น จำกัด (PTTICT) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 20
   และ บริษัทแม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด (แม่สอด) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 30 โดยบริษัทฯ
   รับรู้ส่วนแบ่งกำไร/(ขาดทุน)จากผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมทั้งสองไว้ในงบกำไรขาดทุนรวมของ
   บริษัทฯ และรับรู้เงินลงทุนในบริษัทร่วมทั้งสองไว้ในงบดุล โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3/49 (PTT ICT)
   และตั้งแต่ไตรมาส 4/49 (แม่สอด)
   
   4. ผลกระทบการเปลี่ยนนโยบายบัญชีต่องบการเงินรวมและงบการเงินของบริษัทฯ
         ตั้งแต่ไตรมาส 1/50 บริษัทฯและบริษัทย่อยเปลี่ยนนโยบายบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุน
   ในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม และเกี่ยวกับการคำนวณราคาทุนของน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
   ตามรายละเอียดดังนี้
   
   4.1   การเปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมเป็นวิธีราคาทุนเดิม
         (Historical Cost)
         ตามประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 26/2549 และฉบับที่ 32/2549 เรื่องการเปลี่ยนแปลง
   วิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมของกิจการในงบการเงินเฉพาะของกิจการ
   จากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุนโดยบริษัทฯได้เปลี่ยนใช้วิธีราคาทุนเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550
   เป็นต้นไป และปรับปรุงงบการเงินย้อนหลังโดยปรับปรุงกำไรสะสมยกมาต้นปี 2550 และ ข้อมูลในงบ
   การเงินทุกงวดที่นำเสนอในงวดปัจจุบัน
         การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้กำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการแตกต่างจากกำไรสุทธิ
   ของงบการเงินรวม
        ในส่วนงบการเงินปี 2549 ที่จะนำมาใช้เปรียบเทียบนั้น การเปลี่ยนวิธีบันทึกเงินลงทุนใน
   บริษัทย่อย และบริษัทร่วม เป็นวิธีราคาทุนเดิม ทำให้กำไรสุทธิของงบเฉพาะกิจการซึ่งแสดงกำไรสุทธิ
   ของโรงกลั่นบวกเงินปันผลจ่ายจากบริษัทในเครือ ลดลง 7,409 ล้านบาท และปรับปรุงสินทรัพย์ และ
   ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 18,103 ล้านบาทจากการไม่บันทึกส่วนได้เสียในเงินลงทุนในบริษัทย่อย และ
   บริษัทร่วม โดยบันทึกเฉพาะเงินปันผลรับ
   
   4.2  การเปลี่ยนวิธีการคำนวณราคาทุนของต้นทุนน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคงเหลือตามราคาทุน
        เป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average)
        ตามที่สภาวิชาชีพบัญชีได้ปรับปรุงมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 31 เรื่องสินค้าคงคลัง กล่าวถึงการยกเลิก
   การตีราคาสินค้าคงเหลือตามราคาทุนด้วยวิธี LIFO ให้คงเหลือเฉพาะการคำนวณมูลค่าต้นทุนตามวิธี
   เข้าก่อนออกก่อน (FIFO) และ วิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก โดยร่างมาตรฐานดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จ
   และประกาศใช้ในปี 2550 การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความโปร่งใสเพิ่มขึ้น
   จากการแสดงผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทฯสอดคล้องกับสภาพธุรกิจและการปฏิบัติ
   ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
        บริษัทฯ และ บริษัทผลิตไฟฟ้าอิสระ (ประเทศไทย) ได้เปลี่ยนวิธีการตีราคาวัตถุดิบคงเหลือ
   จากวิธีเข้าหลังออกก่อน (LIFO) เป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average) และ บริษัท
   ไทยลู้บเบส จำกัด (มหาชน)ได้เปลี่ยนวิธีการคำนวณราคาวัตถุดิบคงเหลือจากวิธีเข้าก่อนออกก่อน
   (FIFO) เป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Weighted Average) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550
   เป็นต้นไป และปรับปรุงงบการเงินย้อนหลัง โดยปรับปรุงบัญชีวัตถุดิบคงเหลือ- น้ำมันดิบและกำไรสะสม
   ยกมาต้นปี 2550
        ผลกระทบจากการเปลี่ยนวิธีการคำนวณราคาทุนของต้นทุนน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
   คงเหลือตามราคาทุนเป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักกระทบทั้งงบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวม
   ในปี 2549 กำไรสุทธิในงบการเงินเฉพาะกิจการลดลง 409 ล้านบาทและงบการเงินรวมลดลง 317
   ล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป
   
   ตารางแสดงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีต่องบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวม
   ของปี 2549
                                                                 หน่วย :ล้านบาท
                           ผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวม
         ปี 2549        Equity to cost        LIFO to WA          รวมผลกระทบ
                       งบเฉพาะ  งบรวม     งบเฉพาะ   งบรวม     งบเฉพาะ    งบรวม
   งบกำไรขาดทุน กำไรสุทธิ  (7,409)     0      (409)    (317)     (7,817)    (317)
   งบดุล        สินทรัพย์  (18,103)     0       397      518     (17,706)     518
               หนี้สิน          0      0        99      134           99     134
               Equity  (18,103)     0       298      384     (17,805)     384
   
   
   5. รายละเอียดผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
   
   ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมาส 1/50
   
                 TOP    TPX    TLB   TM   TP  IPT    รายการ   รวม    + /(-)จาก
   (ล้านบาท)                                          ระหว่าง
                                                     กัน     ไตรมาส  ไตรมาส   %
                                                     /MI      1/50   1/49(1)
   รายได้จากการขาย62,592 9,519  5,102 190  890 2,559 (16,424) 64,428 (431) (1%)
   EBITDA        5,474  1,492  777   18   187  435    (3)    8,380  3,046  57%
   ดอกเบี้ยจ่ายฯ    (379)  (3)    (0)   (0) (10)  (81)    0     (474)  (11)  (2%)
   กำไร/(ขาดทุน)FX 611   (12)   (10)  (1)   0    99     0      687  (986) (59%)
   กำไรก่อนภาษีเงินได้4,905 1,352  702    4   113  345  (169)    7,252 2,472   52%
   ภาษีเงินได้     (1,242)  0     (212)  0   (34)  (6)     0   (1,493 (766)  105%
   กำไรสุทธิ      3,663  1,352   490    4    79  339  (169)    5,759 1,706   42%
   
   หมายเหตุ  1) ปรับปรุงตามการเปลี่ยนวิธีการคำนวณราคาทุนของต้นทุนน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
   ตามราคาทุนเป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเพื่อใช้เปรียบเทียบ
   
   5.1   ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ (ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน)
   
         ราคาน้ำมันเฉลี่ย   ไตรมาส   ม.ค    ก.พ    มี.ค    ไตรมาส    ไตรมาส     +/-
   (เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล) 4/49                          1/50      1/49  จากQ1/49
   น้ำมันดิบ
   โอมาน                 58.0    52.1   56.0   59.2    55.8      59.0    (3.2)
   ทาปีส                  63.3    58.9   64.1   67.9    63.6      67.6    (4.0)
   น้ำมันสำเร็จรูป
   น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว    64.2    61.6   66.8   76.6    68.3      67.2      1.1
   น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน/
   น้ำมันก๊าด               75.0    69.7   71.8   75.0    72.2      75.9    (3.8)
   น้ำมันดีเซล              70.3    66.1   70.6   73.5    70.1      69.2      0.8
   น้ำมันเตา               42.7    41.6   45.3   47.3    44.7      49.6    (4.9)
   
   ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4/49 จนถึงเดือนมกราคม 2550
   เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศเขตหนาวเช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปอบอุ่นกว่าปกติ ส่งผลให้
   ความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมลดลง อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ต่อเนื่อง
   ถึงมีนาคม 2550 จากสภาพอากาศในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกามีอากาศหนาวขึ้น อีกทั้ง
   ปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐฯที่ลดลงเนื่องจากใกล้เข้าสู่ฤดูร้อนและการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี
   ของโรงกลันน้ำมันหลายแห่งในประเทศสหรัฐฯที่จะมีในช่วงไตรมาส 2  ส่งผลให้ตลาดมีความกังวล
   เกี่ยวกับอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปที่เริ่มตึงตัว นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดของอิหร่านและประเทศ
   ในตะวันตกในการระงับโครงการนิวเคลียร์รวมทั้งความไม่สงบในไนจีเรียก็ยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อ
   ความผันผวนของราคาน้ำมันในไตรมาส
   
   
                              TOP        ไตรมาส         ไตรมาส        + /(-)
                                         1 / 50       1 / 49 (1)
   การใช้กำลังการกลั่น(%)(2)                   106%           106%           0%
   GRM (เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล)                8.28           4.81         3.47
   (ล้านบาท)
   รายได้จากการขาย                         62,592         66,870      (4,278)
   EBITDA                                  5,474          3,089        2,385
   ดอกเบี้ยจ่ายฯ                              (379)          (318)           61
   กำไร /(ขาดทุน) FX                          611          1,328        (717)
   ภาษีเงินได้                              (1,242)          (729)          514
   กำไรสุทธิก่อนเงินปันผลรับจากบ.ย่อย             3,663          2,189        1,474
   เงินปันผลรับจากบริษัทย่อย                         0            193        (193)
   กำไรสุทธิ                                 3,663          2,382        1,281
   
   หมายเหตุ 1) ตั้งแต่ไตรมาส 1/50 TOPเปลี่ยนนโยบายบัญชีวิธีการคำนวณราคาวัตถุดิบคงเหลือ
   จากวิธีเข้าหลังออกก่อน (LIFO)เป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
   จึงปรับผลการดำเนินงานของไตรมาส 1/49 ให้ใช้วิธีเดียวกันเพื่อใช้เปรียบเทียบ
           2) บริษัทฯมีกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 225,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/49
   
   ในไตรมาส 1/50 การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันสำเร็จรูปโดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและดีเซลในขณะที่
   ราคาน้ำมันดิบปรับตัวน้อยกว่าทำให้ค่าการกลั่นของบริษัทฯ (GRM) ในไตรมาส 1/50 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา
   อยู่ที่ 8.28 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ณ ระดับ 4.81
   เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลหลังปรับปรุงวิธีคำนวณต้นทุนวัตถุดิบ และส่งผลให้มี EBITDA จำนวน 5,474
   ล้านบาท แม้ว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสำหรับไตรมาส 1/50 มีผลส่วนหนึ่งทำให้รายได้จากการขายลดลง
   แต่ก็ทำให้ ต้นทุนขายของบริษัทฯ ลดลงด้วย  อีกทั้งบริษัทฯ รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 611
   ล้านบาทโดยค่าเงินบาทแข็งขึ้นจาก 36.23 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯณ สิ้นปี 2549 มาอยู่ที่ 35.14
   บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯณ สิ้นไตรมาส นอกจากนี้  ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550  บริษัทฯ สามารถปรับลด
   อัตราดอกเบี้ยของสัญญาเงินกู้เดิมที่มีอยู่กับกลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงินในประเทศและได้แปลงหนี้
   สกุลเงินดอลลาร์ 65 ล้านเหรียญสหรัฐฯเป็นสกุลเงินบาทจำนวน 2,327 ล้านบาทตามที่กำหนดในสัญญา
   เงินกู้ดังกล่าว แต่จากการที่อัตราดอกเบี้ย LIBOR และ MLR ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1
   จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจึงทำให้ ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 1/2550 เพิ่มสูงขึ้น 61ล้านบาทบริษัทฯ
   มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/50 จำนวน 3,663 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1,281 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกัน
   ของปีก่อน
   
   5.2) ผลการดำเนินงานของ TPX (ธุรกิจผลิตสารพาราไซลีน)
   
                           TPX         ไตรมาส         ไตรมาส          + /(-)
                                        1 / 50         1 / 49
   อัตราการนำวัตถุดิบเข้าผลิตในหน่วยผลิต PX      100%             99%             1%
   
   (ล้านบาท)
   รายได้จากการขาย                        9,519           9,432            87
   EBITDA                                1,492           1,360           132
   ดอกเบี้ยจ่าย และ ค่าใช้จ่ายทางการเงิน          (3)            (38)          (34)
   กำไร /(ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน          (12)              88         (100)
   กำไร / (ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้            1,352           1,284            68
   ภาษีเงินได้                                  0               0             0
   กำไร / (ขาดทุน) สุทธิ                    1,352           1,284            68
   
               ในไตรมาส 1/50  TPX ดำเนินการผลิตได้เต็มกำลังการผลิต จากราคา PX
   ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากความต้องการ PX ที่สูงขึ้นเพื่อป้อนโรงงาน PTA ที่สร้างใหม่ทั้งในประเทศจีน
   และประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้จากการขายจำนวน 9,519 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท
   จากไตรมาส 1/49 และจากการแข็งค่าของเงินบาท แม้จะมีผลทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไม่มากแต่ก็ทำให้
   ต้นทุนลดลงด้วย ทำให้ EBITDA ในไตรมาส 1/50 มี จำนวน 1,492 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 132 ล้านบาท
   จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากการที่ TPX ชำระคืนเงินกู้ระยะยาวเดิมหมดทั้ง
   จำนวนเมื่อไตรมาส 4/49 อย่างไรก็ดี TPX มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 12 ล้านบาทซึ่ง
   ส่วนใหญ่เกิดจากการซื้อขายสินค้า กำไรสุทธิในไตรมาส 1/50 มีจำนวน 1,352 ล้านบาท
   เพิ่มขึ้นจำนวน 68 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
   
   5.3) ผลการดำเนินงานของ TLB (ธุรกิจผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน)
   
                     TLB            ไตรมาส             ไตรมาส
                                    1 / 50         1 / 49 (1)            +/(-)
   อัตราการใช้กำลังการผลิต Base Oil(%)     90%               64%              26%
   (ล้านบาท)
   รายได้จากการขาย                    5,102              3,598           1,504
   EBITDA                              777                379             398
   กำไร/(ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน       (10)                (3)               7
   กำไร/(ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้            702                297             405
   ภาษีเงินได้                          (212)                  0             212
   กำไร/(ขาดทุน) สุทธิ                    490                297             193
   หมายเหตุ   1) ตั้งแต่ไตรมาส 1/50 TLB เปลี่ยนนโยบายบัญชีวิธีการคำนวณราคาวัตถุดิบคงเหลือ
   จากวิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO) เป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก จึงปรับผลการดำเนินงานของไตรมาส
   1/49 ให้ใช้วิธีเดียวกันเพื่อใช้เปรียบเทียบ
   
         ในไตรมาส 1/50 TLB มีอัตราการใช้กำลังการผลิต Base Oil ร้อยละ 90 เพิ่มขึ้นร้อยละ26
   จากไตรมาส 1/49 ที่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ ราคาเฉลี่ยน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
   ในขณะที่ราคาวัตถุดิบซึ่งอิงจากราคาน้ำมันเตามีราคาลดลงมากกว่าทำให้ส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่น
   พื้นฐานหลักและ HSFO เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ TLB มีรายได้จากการขายและ EBITDA ในไตรมาส 1/50
   เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่จำนวน 5,102 ล้านบาทและ 777 ล้านบาทตามลำดับ TLBมีกำไรสุทธิหลังภาษีในไตรมาส
   1/50 ทั้งสิ้นจำนวน 490 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 193 ล้านบาทจากไตรมาส 1/49
   
   5.4) ผลการดำเนินงานของ TM (ธุรกิจขนส่งน้ำมันปิโตรเลียม และ ปิโตรเคมี)
   
                                 TM            ไตรมาส       ไตรมาส
                                                1/50          1/49      +/(-)
   อัตราการใช้เรือ                                  91%           91%        0%
   (ล้านบาท)
   รายได้จากการให้บริการ                            190           122        68
   EBITDA                                         18            21       (3)
   ดอกเบี้ยจ่ายฯ                                    (0)           (1)         1
   กำไร/(ขาดทุน) จาก FX                           (1)           (1)         0
   กำไร/(ขาดทุน) สุทธิ                                4             7       (3)
   
         ในไตรมาส 1/50 TM มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 190 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 68
   ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการให้บริการเช่าช่วงเรือ (Sub Charter)
   ซึ่งเป็นการให้บริการในกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 51 ของรายได้รวม อย่างไรก็ตาม TM
   มีค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงรักษา (Dry Docking) ของเรือสถิตธาราในไตรมาส 1/50 จำนวน 8 ล้านบาท
   ส่งผลให้ EBITDA ลดลง และทำให้มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/50 จำนวน 4 ล้านบาทลดลงจำนวน 3
   ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
   
   
   5.5) ผลการดำเนินงานของ TP และ IPT (ธุรกิจผลิตไฟฟ้า)
   
                                 TP      ไตรมาส        ไตรมาส
                                           1/50          1/49      +/(-)
   อัตราการใช้กำลังการผลิต (%)                  94%           89%        5%
   (ล้านบาท)
   รายได้จากการขาย                           890           81         80
   EBITDA                                   187          180          7
   ดอกเบี้ยจ่ายฯ                              (10)         (15)        (5)
   กำไร/(ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้                 113          103         10
   ภาษีเงินได้                                (34)            0         34
   กำไร/(ขาดทุน) สุทธิ                          79          103       (24)
   
         ในไตรมาส 1/50 TP มีอัตราความพร้อมในการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5จากไตรมาสเดียวกัน
   ของปีก่อนโดยในไตรมาส 1/49 TP ดำเนินการหยุดซ่อมเพื่อตรวจสอบและ ซ่อมบำรุงส่วนที่ได้รับ
   ความร้อนสูง(Hot Gas Path Inspection) สำหรับเครื่อง GT 5015 เป็นระยะเวลา 10 วัน  TP
   จึงมีรายได้จากการขายในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 80 ล้านบาท เป็น 890 ล้านบาท และ มี EBITDA เพิ่มขึ้น
   7 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ จำนวน 187 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
   จากการคืนหนี้เงินกู้ระยะยาวทั้งก่อนกำหนดและตามกำหนด TP มีภาระภาษีเงินได้ในไตรมาส 1/50
   จำนวน 34 ล้านบาทในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อน TP ยังได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
   จากสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุน ดังนั้น TP มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/50 จำนวนทั้งสิ้น 79
   ล้านบาท ลดลง 24  ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
   
                           IPT             ไตรมาส         ไตรมาส
                                            1 / 50        1 / 49(1)      +/(-)
   อัตราความพร้อมในการผลิต(%)                   99%            57%            42%
   (ล้านบาท)
   รายได้จากการขาย                          2,559           1,632           927
   EBITDA                                    435             311           124
   ดอกเบี้ยจ่ายฯ                               (81)            (96)          (15)
   กำไร/(ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน               99             261         (162)
   กำไร/(ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้                  345             362          (17)
   ภาษีเงินได้                                  (6)               2             8
   กำไร/(ขาดทุน) สุทธิ                          339             364          (25)
   
   หมายเหตุ   1) ตั้งแต่ไตรมาส 1/50 IPT เปลี่ยนนโยบายบัญชีวิธีการคำนวณราคาวัตถุดิบคงเหลือ
   (น้ำมันสำรองเพื่อการผลิตไฟฟ้า) จากวิธีเข้าหลังออกก่อน (LIFO) เป็นวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
   จึงปรับผลการดำเนินงานของไตรมาส 1/49 ให้ใช้วิธีเดียวกัน เพื่อใช้เปรียบเทียบ
   
             ในไตรมาส 1/50 IPT สามารถดำเนินการผลิตได้ร้อยละ 99 เพิ่มขึ้นร้อยละ 42
   จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในเดือนมกราคม 2549 เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรภายใน
   หม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Transformer) ที่ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าของ
   เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซ CT-1 ส่งผลให้ต้องลดกำลังการผลิตลงเหลือเพียง 320 MW ซึ่ง IPT
   สามารถแก้ไขและซ่อมแซมเสร็จและเริ่มเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 700 MW ในเดือนมิถุนายน 2549
   ดังนั้นแม้ว่าอัตราค่าความพร้อมในการผลิตจะลดลงจากปีก่อนตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า แต่จากกำลังการผลิต
   ที่เดินได้เต็มที่ ทำให้ IPT มีรายได้จากการให้บริการในไตรมาส 1/50 จำนวน 2,559 ล้านบาท
   เพิ่มขึ้น 927 ล้านบาท และมีEBITDA จำนวน 435 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 124 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกัน
   ของปีก่อน ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 15 ล้านบาทจากการคืนหนี้เงินกู้ตามกำหนด อย่างไรก็ตามจากการ
   ที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1.09 บาทต่อเหรียญสหรัฐจากสิ้นปี 2549 เปรียบเทียบกับค่าเงินแข็งค่าขึ้น
   2.23 บาทต่อเหรียญสหรัฐจากสิ้นปี 2548 ทำให้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 162 ล้านบาท
   จากไตรมาส 1/49 IPT จึงมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 1/50 จำนวน 339 ล้านบาทลดลง 25
   ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
   
   
   6.  วิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
   
   สรุปฐานะทางการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 เปรียบเทียบกับ ณ
   วันที่ 31 ธันวาคม 2549 (หลังจากปรับปรุงตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี) ได้ดังนี้
   
                 TOP    TPX    TLB    TM   TP   IPT    รายการ    รวม       +/-
   (ล้านบาท)                                          ระหว่างกัน   31 มี.ค.
                                                                 50        จาก
                                                                      31ธ.ค.49
   สินทรัพย์รวม 109,066 18,579  10,275  658 5,286 12,381 (16,779)  139,467 14,267
   หนี้สินรวม   (54,927) (3,962)(1,480) (64)(883) (5,943) 6,660   (60,598)  8,595
   ส่วนของผู้ถือ
   หุ้น-สุทธิ   (54,140)(14,617)(8,796) (594)(4,403) (6,438)10,119 (78,869)  5,672
   
   สินทรัพย์รวม
         ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 139,467 ล้านบาท
   เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 จำนวน 14,267 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากสินค้าคงเหลือ
   เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน
   
   หนี้สินรวม
         ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 บริษัทฯ และ บริษัทย่อยมีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 60,598 ล้านบาท
   เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 จำนวน 8,595 ล้านบาท เนื่องจากเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น
   
   หนี้เงินกู้ระยะยาวของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 จำนวน 30,048 ล้านบาท
   ลดลงจากไตรมาส 4/49 จำนวน 404 ล้านบาท สาเหตุหลักจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น และบริษัทย่อย
   จ่ายคืนเงินกู้ตามกำหนด บริษัทฯดำเนินการแปลงสัญญาเงินกู้ระยะยาว (Syndicated Loan
   Facility Agreement) 65 ล้านเหรียญฯสหรัฐ จากเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสกุลบาท
   เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ก่อนที่จะครบกำหนดตามสัญญาในวันที่ 3 มิถุนายน 2550เพื่อให้ได้ประโยชน์.
   ในการปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ หลังคืนเงินกู้ทั้งหมดตามสัญญาเงินกู้เดิมในเดือนตุลาคม 2549 TPX
   เบิกเงินกู้งวดแรกตามสัญญากู้เงินวงเงิน 3,750 ล้านบาทและเทียบเท่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
   ในเดือนมกราคม 2550 ดังนั้นหนี้เงินกู้ระยะยาวประกอบด้วย
   
   
         (ล้านบาท)                  TOP       TPX       TP        IPT       รวม
   สกุลเงินบาท/ดอลลาร์ สหรัฐ-หุ้นกู้      17,785                                17,785
   สกุลเงินดอลลาร์ สหรัฐ                         707                2,689    3,395
   สกุลเงินบาท                       6,684              566       1,618    8,868
   รวม                            24,469     707      566       4,307   30,048
   ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549           24,934       0      682       4,836   30,452
   เพิ่ม / (ลด)                      (465)     707    (116)       (529)    (404)
   
   ส่วนของผู้ถือหุ้น-สุทธิ
         ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 บริษัทฯ และ บริษัทย่อยมีส่วนของผู้ถือหุ้น-สุทธิรวมทั้งสิ้น 78,869
   ล้านบาทเพิ่มขึ้นจำนวน 5,672 ล้านบาทจากวันที่ 31 ธันวาคม 2549 เนื่องจากผลประกอบการ
   ที่มีกำไรตามที่รายงานข้างต้น
   
   
   7.  วิเคราะห์กระแสเงินสดและอัตราส่วนทางการเงิน
   
   กระแสเงินสด
         ณ สิ้นไตรมาส 1/2550 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีเงินสดสุทธิจำนวน 14,216 ล้านบาท
   รายละเอียดกระแสเงินสดแต่ละกิจกรรม มีดังนี้
   
   (ล้านบาท)      T OP   TPX    TLB    TM     TP      IPT    รายการ  31 มี.ค. 50
                                                           ระหว่างกัน
                                                             /MI
   เงินสดสุทธิ ณ
   วันต้นงวด      1,393   1,719  1,712   87    408    1,205       0       6,525
   เงินสดสุทธิได้รับ/
   (ใช้ไป)จาก
   กิจกรรมดำเนินงาน
                8,462   1,849  1,720   31   (15)     727       27       12,801
   เงินสดสุทธิได้รับ/
   (ใช้ไป)ใน
   กิจกรรมลงทุน  (2,146) (1,583)  (82)   (1)   (0)   (149)     (27)      (3,987)
   เงินสดสุทธิ
   (ใช้ไป)ใน
   กิจกรรมจัดหาเงิน
               (1,151)    723     0     0  (126)   (568)      (0)      (1,123)
   เงินสดสุทธิ ณ
   วันปลายงวด     6,558  2,708 3,351   117    266   1,215       0        14,216
   
   บริษัทฯและบริษัทย่อยมีเงินสดสุทธิ ณ วันต้นงวดจำนวน 6,525 ล้านบาท โดยในไตรมาส1/50 บริษัทฯ
   และบริษัทย่อยได้รับเงินสดสุทธิในกิจกรรมดำเนินงานรวมจำนวน 12,801 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสด
   รับจากการดำเนินงานจำนวน 8,645 ล้านบาท และเงินสดรับจากการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน
   อีกจำนวน 4,156 ล้านบาทเนื่องจากเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น บริษัทฯและบริษัทย่อย
   ใช้เงินสดสุทธิในกิจกรรมลงทุน จำนวน 3,987 ล้านบาทส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินสำหรับโครงการต่างๆ
   ประกอบไปด้วย
                                             ไตรมาส
                                             1/2550
   โครงการขยายกำลังการผลิต CDU-3                  825
   โครงการ SBM                                  829
   โครงการ New GT                               305
   โครงการขยายกำลังการผลิตของ  TPX              1,582
   
   บริษัทฯและบริษัทย่อยใช้เงินสดสุทธิในกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 1,123 ล้านบาทซึ่งบริษัทฯ จ่ายชำระคืน
   เงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 1,000 ล้านบาท บริษัทย่อยชำระคืนเงินกู้ระยะยาวตามกำหนดจำนวน 561
   ล้านบาท ทั้งนี้ TPX ได้เบิกเงินงวดแรกตามสัญญากู้เงินในเดือนมกราคม 2550 จำนวน 723 ล้านบาท
   ดังนั้น บริษัทฯและบริษัทย่อยจึงมีเงินสดคงเหลือปลายงวดจำนวน 14,216 ล้านบาท
   
   อัตราส่วนทางการเงิน
          จากผลประกอบการและการบริหารการคลังที่ได้ดำเนินการไปในระหว่างไตรมาส 1/2550
   บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดยมีอัตราส่วนทางการเงิน ดังนี้
   
                                             ไตรมาส      ไตรมาส
                                               1/50        1/49 (1)       +/-
   อัตราส่วนแสดงความสามารถในการหากำไร
   อัตราส่วนความสามารถการทำกำไร (%)               13%          8%           5%
   อัตราส่วนกำไรขั้นต้น (%)                          11%          6%           5%
   อัตราส่วนกำไรสุทธิ (%)                            9%          6%           3%
   อัตราส่วนสภาพคล่อง
   อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า)                        2.2          2.2         0.0
   อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า)                  1.2          1.2         0.0
   อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน
   อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น   (เท่า)          0.8          0.9        -0.1
   อัตราส่วนหนี้เงินกู้ระยะยาวต่อส่วนของผู้ถือหุ้น   (เท่า)    0.4          0.4         0.0
   อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (เท่า)      17.7         11.5         6.2
   อัตราส่วนหนี้เงินกู้ระยะยาวต่อเงินทุนระยะยาว  (%)      27%          29%         -2%
   อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น   (เท่า)          0.2          0.2         0.0
   
   หมายเหตุ : 1) อัตราส่วนทางการเงินในไตรมาส 1/49 ด้คำนวณตามงบการเงินที่ปรับปรุงตาม
   การเปลี่ยนแปลงของนโยบายบัญชีซึ่งเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีนัยสำคัญ
   การคำนวณอัตราส่วนทางการเงิน
   อัตราส่วนความสามารถการทำกำไร (%)          =  EBITDA / รายได้จากการขาย
   อัตราส่วนกำไรขั้นต้น (%)                     =  กำไรขั้นต้น / รายได้จากการขาย
   อัตราส่วนกำไรสุทธิ (%)                      =  กำไรสุทธิ / รายได้รวม
   อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า)                   =  สินทรัพย์หมุนเวียน / หนี้สินหมุนเวียน
   อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า)             = (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด + เงิน
                                              ลงทุนระยะสั้น+ลูกหนี้การค้า/หนี้สินหมุนเวียน
   อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า)       =  หนี้สินรวม / ส่วนของผู้ถือหุ้น
   อัตราส่วนหนี้เงินกู้ระยะยาวต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) =  หนี้เงินกู้ระยะยาว / ส่วนของผู้ถือหุ้น
   อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (เท่า)  =  EBITDA / ดอกเบี้ยจ่าย
   อัตราส่วนหนี้เงินกู้ระยะยาวต่อเงินทุนระยะยาว (%)  =  หนี้เงินกู้ระยะยาว / เงินทุนระยะยาว
   เงินทุนระยะยาว                            =  หนี้เงินกู้ระยะยาว + ส่วนของผู้ถือหุ้น
   อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น   (เท่า)     =  หนี้สินสุทธิ/  ส่วนของผู้ถือหุ้น
   หนี้สินสุทธิ                                 =  หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ?-เงินสดและ
                                              รายการเทียนเท่าเงินสด-เงินทุนระยะสั้น
                     ________________________________________
   


หลักทรัพย์ TOP  
 หัวข้อข่าว นำส่งงบการเงิน และ MD&A ไตรมาส 1/2550  
 วันที่/เวลา 11 พ.ค. 2550 19:20:20  
 
 
 
     
   
   
    ที่ สนญ.05/0205                  11 พฤษภาคม 2550
     
   
    เรื่อง       นำส่งงบการเงินและรายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2550
    เรียน       กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
    อ้างถึง       1. ข้อบังคับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
                  ที่ กจ. 40/2540
               2. ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ บจ/ป 01-00
    สิ่งที่ส่งมาด้วย       1. สำเนางบการเงินและรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ของบริษัท
    ไทยออยล์ จำกัด
                  (มหาชน) และบริษัทย่อย  สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550 พร้อมฉบับแปลเป็น
                  ภาษาอังกฤษ
               2. รายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2550 ของ บริษัท ไทยออยล์
                  จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
               3. แบบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ (แบบ F45-3)
   
              ตามข้อบังคับ ที่อ้างถึง   บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ขอนำส่งงบการเงิน
    และรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2550  สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2550
    ซึ่งผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชี และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯแล้ว
    ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
   
                พร้อมนี้ บริษัทฯได้สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อย
    สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2550 ดังนี้
   
                    ผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2550 การผลิตของกลุ่มอยู่ในระดับสูง
    บริษัทฯใช้กำลังการกลั่นที่ 106% และบริษัทย่อยสามารถใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่มากกว่า 90%
    ซึ่งเป็นผลจากการบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานผลิตสาร PX
    และโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยในไตรมาสนี้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวสูงขึ้นเร็วกว่า
    ราคาน้ำมันดิบส่งผลให้บริษัทมี GRM อยู่ในระดับสูงประกอบกับ มีปัจจัยบวกจากราคาผลิตภัณฑ์ PX และ
    น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ปรับตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากปี 2549 ทำให้มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม
    (Integrated Margin) อยู่ที่ 10.40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
    ถึง3.37 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล  ดังนั้น EBITDA ในไตรมาสที่ 1 ปี 2550  เพิ่มขึ้น 3,046
    ล้านบาทมาอยู่ที่  8,380 ล้านบาท นอกจากนี้จากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2549 จำนวน
    1.09 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯมาปิดที่ 35.14 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2550
    ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 687 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิใน
    ไตรมาสที่ 1 ปี 2550 ทั้งสิ้นจำนวน 5,759 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน
     1,706 ล้านบาทหรือร้อยละ 42 โดยกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2550 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น
     2.82 บาทเพิ่มขึ้น 0.84 บาทจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
   
   
   
                      จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
   
     
                                              ขอแสดงความนับถือ
                                        บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
     
   
   
                                            (นายวิโรจน์  มาวิจักขณ์)
                                              กรรมการอำนวยการ
   
   
   
   
    แผนกนักลงทุนสัมพันธ์
    โทรศัพท์ 0 2299 0000 ต่อ 7150 และ 7151
    โทรสาร 0 2617 8295
max77
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-2)
                        บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

                                                                                                  สอบทาน
                                                                                           (หน่วย : พันบาท)
                                                                                      สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
งบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย
                                                                                               ไตรมาสที่ 1
                      ปี                                                                 2550               2549

    กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                                                      2,524,262          348,918
    กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)                                       2.60                   0.36


งบการเงินเฉพาะกิจการ
                                                                                               ไตรมาสที่ 1
                     ปี                                                                  2550               2549

    กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                                                      2,537,977          353,043
    กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)                                        2.61                  0.36

********************************************************
max77
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

TOP
ถ้ากำไรแบบนี้ทั้ง 4 Q
2.82x4 =11.28 บาท
ราคาตอนนี้ 65 บาท
PE =65/11.28=5.76

ATC
ถ้ากำไรแบบนี้ทั้ง 4 Q
2.60x4 =10.4 บาท
ราคาตอนนี้ 57.5 บาท
PE =57.5/10.4=5.53
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คุณ max77  ท่าทางคุณก็ไม่น่าจะเป็นนักเล่นหุ้นมือใหม่เลยนะครับ
ดูจากลักษณะการโพสต์

แต่การคำนวณ EPS ทั้งปี  โดยการนำไตรมาสเดียวมาคูณ 4  ผมว่าคุณก็รู้ว่ามันใช้ไม่ได้

ธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานผันผวนแบบนี้  จะใช้วิธีนี้ได้ไง  จริงไหมครับ

คุณมีความในใจอะไร  บอกกันตรงๆก็ได้นะ    :)

แต่จะถูกลบหรือเปล่า  ไม่รับประกัน   :lol:
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
max77
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

TOP ราคาน่าจะขึ้นไปอีกครับ
ค่าการกลั่นก็ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
โรงกลั่นในเอเชียโรงอื่นๆปิดซ่อมบำรุงกันหลายโรง
ส่วน ATC ผันผวนแน่นอน กำไร Q อื่นๆ อาจน้อยหรือมากกว่านี้ก็ได้
max77
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผลการดำเนินงาน           ไตรมาส    ไตรมาส       +/- / %
          (ล้านบาท)                    1/50      1/49(3)
 Integrated Margin(US$/bbl)(1)       10.40       7.03       3.37      48%
 รายได้จากการขาย                      64,428     64,859     (431)     (1%)
 EBITDA(2)                           8,380      5,334      3,046     57%

Q1 TOP กำไรดี เพราะค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 50 %
-ยอดขายลดลง 1 % -ค่าเงินบาทก็แข็ง เงินหายไป 60 % เลย

แต่ก็ยังกำไรดี

Q2 ดูค่าการกลั่น กับค่าเงินบาท ถ้ายังไปได้ดีก็ถือยาวครับ
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 0

งบ Q1 ของ TOP กับ ATC ออกแล้ว กำไรขึ้นอื้อซ่าเลย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

จากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2549 จำนวน 1.09 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯมาปิดที่ 35.14
  บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯณ สิ้นไตรมาส 1/50 ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 687 ล้านบาท
โพสต์โพสต์