ปรับสภาพจิตใจอย่างไรเวลาเห็นสีแดงเข้มๆครับ

[Reminiscence of 3 Dogs]

ดูเหมือนว่าหุ้นที่ผมถืออยู่กำลังจะทำลายสถิติ
ขาดทุนทางบัญชีที่หนักที่สุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมา
ถ้ายังมั่นใจกับการวิเคราะห์ที่ผ่านมากับหุ้นตัวนี้
และมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วจะกำไรใน2ปีข้างหน้าแน่ๆเกิน1เท่าตัว

เราจะทำใจรับสภาพอย่างไรกับสีแดงเข้มที่บาดตาอยู่ในพอร์ต
ณ ตอนนี้ครับ  ตอนนี้มันยังไม่กวนใจมาก
แต่ถ้ามันยังถอยหลังลงไปอีกซักระยะ
น่าจะทำให้เริ่มหงุดหงิดแบบจริงจังได้น่ะครับ

[bmw2681]

[quote="Reminiscence of 3 Dogs"]ดูเหมือนว่าหุ้นที่ผมถืออยู่กำลังจะทำลายสถิติ
ขาดทุนทางบัญชีที่หนักที่สุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมา
ถ้ายังมั่นใจกับการวิเคราะห์ที่ผ่านมากับหุ้นตัวนี้
และมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วจะกำไรใน2ปีข้างหน้าแน่ๆเกิน1เท่าตัว

เราจะทำใจรับสภาพอย่างไรกับสีแดงเข้มที่บาดตาอยู่ในพอร์ต
ณ ตอนนี้ครับ

[...]

กลับมาวิเคราะห์ใหม่ครับ ว่าเราคิดผิดตรงไหนหรือเปล่า

ถ้าดูแล้วยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแถมมีเงินเหลือก็ลุยเลยครับ


อีกวิธีที่ช่วยได้คือช่วงนี้อยู่ห่างๆหน้าจอไปซักพัก






ปล.ตัวนั้นผมก็เล็งๆอยู่เหมือนกัน  

[Saran]

ของผมไม่เปิดพอร์ตดูครับ เห็นตัวแดงๆ เหมือนเลือดแล้วหน้าซีด

เลยใช้วิธีดูพอร์ตใน excel ของพี่ครรชิตแทน แต่ hide ส่วนราคาทุนไว้ :lol:

[Reminiscence of 3 Dogs]

ถ้าราคามันลงเกิน 30% สำหรับหุ้นที่คุณเชื่อว่า มีแนวโน้มดีมากในอนาคต จนทำให้ราคาสามารถวิ่งขึ้นไปได้เท่าตัว ก็ควรพิจารณาการวิเคราะห์ใหม่อีกครั้งนะครับ บางทีอาจมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ ซึ่งคุณมองข้ามไปก็ได้ แต่ถ้าราคาทรงๆ ติดลบไม่เกิน 20% ผมว่า มองในแง่ดี มันเป็นโอกาสให้คุณได้ซื้อหุ้นสะสมเพิ่มไปเรื่อยๆ

ตอนนี้พึ่งลบ15%ครับ แต่ทำยอดขาดทุนได้สูงสุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมาเลย

[bmw2681]

อีกอย่าง ก็ต้องดูต้นทุนด้วยครับ ว่าซื้อไปจุดตรงไหน ถ้าไปไล่ แล้วราคาลงเยอะ ทำให้%loss ในบัญชี(พอร์ต)เยอะ ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่ถ้าซื้อช่วงลง แล้วยิ่งลงก็อย่างที่บอก loss>30% ก็ต้องทบทวนใหม่ สำหรับประสบการณ์ของผมเอง เคยเป็นนักเก็งกำไรหุ้นมาก่อน เวลาซื้อหุ้นตัวไหน แล้วลง รับไม่ได้เหมือนกัน จับเชือดทิ้งแล้วเปลี่ยนตัวใหม่ไปเรื่อย แล้วก็เหมือนเจ้ามือมันรอเราอยู่ พอเราขายปั๊ป มาเล่นเย้ยเราทันที ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นนักลงทุนแล้ว พยายามมองสิ่งเราซื้อ คือธุรกิจ ไม่ใช่ราคาหุ้น และที่สำคัญคือ อดทนครับ ...ใจเย็นๆ ครับ

[sarayuth007]

ถ้าคิดว่าการวิเคราะห์ของเราไม่ผิดและมีแนวโน้มสดใสก็เก็บต่อให้อีกเพื่อลดต้นทุนลงแล้วรอมันขึ้นก็สามารถขายทำกำไรบางส่วนออกไปในส่วนที่คิดว่าตอนซื้อมาแล้วมีมูลค่ามากกว่าปัจจัยพื้นฐานซึ่งพี่ๆ ได้เขียนวิธีการคำนวณเอาไว้แล้ว ผมใช้ประจำทุกไตรมาสเลยครับเพื่อประมาณการล่วงหน้าว่าราคาเป้าหมายประมาณเท่าไร แล้วถ้าเกินก็ขายโดยเหลือหุ้นที่ซื้อต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานไว้ส่วนหนึ่งเพื่อกินปันผลครับ ไม่รู้ว่าจะเข้าใจป่าว เพราะว่าเพิ่งหัดเล่นครับ ตอนแรกๆ ก็ติดลบ แต่ประสบการณ์มากขึ้นกับที่อ่านใน webboard นี้ก็ลบบ้าง กำไรบ้าง แต่ได้กำไรมากกว่าลบครับ