!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 31

โพสต์

8) ใจจริงๆถ้าเลือกเกิดได้ คงขอเกิดทางเหนือของจีนในยุคนั้น

    ดูมันอิสระดีครับ ดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล

    มีสภาพภูมิอากาศทุกอย่างให้ได้ลิ้มลอง

    มีสภาพภูมิประเทศทุกอย่างให้ได้ท่องเที่ยว

    ทางภาคใต้ดูเหมือนเจริญเกินไป

    เหมือนเมืองหลวงทั่วๆไป วุ่นวาย การเมืองเยอะ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 32

โพสต์

อ้าว  :shock:  พี่พอใจจะย้ายมาอยู่ภาคเหนือกับผมอีกเหรอครับ  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 33

โพสต์

[quote="Ryuga"]อ้าว
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
terati20
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 34

โพสต์

Ryuga wrote:

คำถามคือ
[1.] ถ้าท่านเป็นนักธุรกิจหรือนักลงทุน แต่เผอิ๊ญ เผอิญ โชคร้ายสุดๆ ที่ไปเกิดในช่วงสามก๊ก ภาวะการณ์เช่นนี้ท่านจะทำการค้าการลงทุนอะไรพร้อมเหตุผล จะเลือกยุค 1 หรือ 2 ก็ได้นะครับ แต่ถ้าเลือกยุค 2 ต้องระบุก๊กด้วย

***  ขอเลือกยุค2 ครับ สถานการณ์ คลี่คลาย
    มี ก๊กเเน่นอน  เเละขอเลือก ง่อ ก็ก ของ ซุนกวน
   ทำเลดีเยี่ยม อาหาศอบอุ่น เหมาะกับ การค้าขาย ลงทุน  ติดทะเล กว้างใหญ่  ไม่มีข้าศึกชายเเดน


[2.] เช่นกันกับคำถามแรกแต่เปลี่ยนสถานะเป็นชนชั้นปกครองผู้สามารถกำหนดนโยบาย/ทิศทางเศรษฐกิจ หากเลือกยุค 1 ต้องระบุสังกัดว่าเชียร์ใคร (เยอะมาก เช่น โจโฉ อ้วนเสี้ยว อ้วนสุด กองซุนจ้าน ตั๋งโต๊ะ ลิฉุยกุยกี ฯลฯ) หรือจะเชียร์รัฐบาลกลางเดิมที่เหลือแต่เปลือกก็ได้ แต่หากเลือกยุค 2 ก็ต้องระบุก๊ก ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีเหตุผลประกอบ โดยเฉพาะในยุค 2 นอกจากต้องแสดงวิสัยทัศน์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภายในก๊กแล้วยังต้องเสนอแนะแนวทางการสมานฉันท์เพื่อรวมประเทศให้กลับเป็นหนึ่งอีกครั้งด้วย

อาจเลือกตอบเพียงคำถามใดคำถามหนึ่งหรือจะตอบหมดก็ได้
ทั้งนี้ ไม่มีผิดไม่มีถูก ถือเป็นความเห็นที่มาอภิปรายกันสนุกๆ กระทบชิ่งถึงเหตุการณ์บ้านเมืองเราแต่เพียงเล็กๆ น้อยๆ พอ อย่าให้โจ๋งครึ่มไปนะครับ

****ยุค2 ซุนกวน

 การเมือง  ผูกมิตรกับทั้ง 2 ก๊ก เน้น จ๊กก๊ก พยายามถ่วงอำนาจ วุย ก๊กไว้  ไม่พยายามเปิดศึกกับใครก่อน  เเต่ต้องมีกำลังทีเข้มเเข็ง  นำอาวุธ ปืน ปืนใหญ่ รถถัง เครื่องบิน :wink:  :wink:  :wink:   จาก ตะวันตก มาใช้

  การปกครอง  เอาใจใส่ ขุนนาง ข้าราชการอย่างดี ปฎิบัติดูเเลทุกข์สุข ประชาชนให้ดี  

  การค้า การลงทุน

 เปิดรับ การลงทุนจากทุกๆที่ เน้น เกษตรดรรมเป็นหลักก่อน พื้นที่ เราเหมาะเเก่การปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์  ถ้าเหลือก็ส่งออกไปขาย ก๊กอื่นๆ  ทำประมง เพราะติดทะเล
เเละ เป็น  hub  logistic  การขนส่งทางทะเล

ส่งเสริมให้คนมีการศึกษา เรียนฟรี ส่งไปเรียนต่อ ต่างประเทศ  ตั้ง สถาบัน ซุนวู พัฒนากลยุทธ

:roll:  :roll:  :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ภาคใต้ของจีนเป็นที่นิยมจัง ไม่เหมือนภาคใต้บ้านเรา  :(
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ผ่านไปนานพอสมควรปรากฏว่าไม่มีใครมาร่วมเล่นกับผมอีกแล้วอ่ะครับ เห็นทีจะได้ฤกษ์ประมวลผล   :mrgreen:

เรียกว่าการถามทางจิตวิทยาเพื่อดูอุปนิสัย/พอร์ตการลงทุนของแต่ละท่านก็อาจจะได้ ง่อก๊กนั้นเป็นก๊กที่ค่อนข้างสงบและเศรษฐกิจดี แนวโน้มที่มีการเลือกง่อก๊กมากเป็นพิเศษนั้นจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และสอดคล้องกันดีกับลักษณะนิสัยของนักลงทุนแบบ VI กล่าวคือคนที่เลือกง่อก๊กมีแนวโน้มจะชอบลงทุนในหุ้นที่มีรากฐานดี มั่นคง ประวัติย้อนหลังดีไม่มีราคีคาว มีโอกาสทางธุรกิจที่ไปได้อีกมากและอาจไม่ใช่หุ้นที่มี P/E ต่ำนัก พวกหุ้น Growth เติบโตดีอะไรทำนองนั้นก็จัดว่าเข้าเค้า ด้วยอุปนิสัยเช่นนี้จำพวกหุ้นผันผวน วัฏจักรสูง กำไรขึ้นๆ ลง ๆ หรือพวกหุ้นที่พฤติกรรมราคาหวือหวาจะไม่ใช่เป้าหมายที่พวกเขาสนใจ

สำหรับผู้ที่เลือกไปทางจ๊กก๊กจะมีแนวโน้มไปยังหุ้นที่เป็นก้นบุหรี่มากกว่าทางอื่น และอาจมีความชื่นชอบจูบกบมากกว่าคนที่เลือกก๊กอื่นอีกด้วย หลายๆ ครั้งกบก็อาจกลายร่างเป็นเจ้าชายทำให้ได้รับผลตอบแทนดีแต่บางครั้งก็จะได้เพียงรสชาติโอ่ๆ เหลืออยู่ในปาก เอกลักษณ์ของหุ้นที่ท่านนักลงทุนเลือกก็อาจเพราะเห็นมูลค่าบางสิ่งบางประการซ่อนเร้นงำประกายเอาไว้โดยพื้นฐานของกิจการหรือแนวโน้มทางธุรกิจอาจไม่สวยหรูอะไรนัก

แต่กับท่านนักลงทุนที่ไม่ได้เลือกก๊กไหนเป็นการแน่นอน สามารถทำการค้าหากำไรไปได้ทุกก๊กย่อมเป็นการสะท้อนบุคลิกลักษณะโน้มเอียงว่าชื่มชอบประโยคอมตะของท่านเติ้งเสี่ยวผิง แมวจะสีอะไรไม่สำคัญหากจับหนูได้เช่นกันกับหุ้นว่าจะเป็นหุ้นอะไรก็ได้ขอให้ได้กำไร พอร์ตของพวกเขาจะมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ยึดติดกับกลยุทธ์แบบใดแบบหนึ่งเป็นการเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นไม่แน่อีกด้วยว่าพวกเขาอาจแบ่งพอร์ตเพื่อการเก็งกำไรไว้อย่างเป็นกิจจะลักษณะตลอดจนถึงกลยุทธ์แบบนินจา เข้าเร็วออกเร็ว การกระจายการลงทุนค่อนข้างมากก็ดูเป็นอีกแนวทางที่ถูกโฉลกชนิดว่าซื้อ 100 หุ้นหลายๆ เจ้าเพื่อเข้าประชุมใหญ่ด้วยก็เข้าที อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาไม่แน่ใจจริงๆ ก็จะไม่เข้าไปข้องแวะกับหุ้นที่ดุเดือดอันตรายเป็นอันขาดเพราะคนที่มีแนวโน้มมองหุ้นกว้างขวางเช่นนี้ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงภูมิรู้ที่มักจะกว้างขวางเช่นกัน

สำหรับความจำเพาะของแต่ละท่านก็จะขึ้นกับรายละเอียดปลีกย่อยที่ระบุมาร่วมกับคำตอบนั่นเองว่าจะโน้มเอียงไปในหุ้นลักษณะเช่นไร

ไม่รู้ว่าตรงกับพอร์ตจริงๆ ของท่านที่มาร่วมสนุกกันบ้างอ๊ะป่าว  :mrgreen:   :mrgreen:   :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ส่วนคำถามที่สองเกี่ยวกับเรื่องนโยบายบริหารก๊กนั้นก็เป็นไปในอีกแนวทางหนึ่ง 8)  ว่าไปก็อยากให้บ้านเราเลิกแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน หันหน้ามาปรองดองกันคนไทยด้วยกันแท้ๆ สามก๊กนั้นก็เป็นตัวอย่างที่แย่มากอยู่แล้วว่าถ้าคนในชาติมัวแตกแยกสู้รบเข่นฆ่ากัน หายนะก็มาเยือนพี่น้องร่วมชาติกันทุกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 38

โพสต์

ผมเพิ่งอ่านกระทู้นี้เป็นครั้งแรกครับ
คุณริวงะ สรุปจบซะแล้ว จะแสดงความเห็นก็ดูจะแปลกๆ เหมือนดูเฉลยก่อนแล้วค่อยตอบคำถาม

นับถือทุกท่านที่มาแสดงความเห็นครับ


คุณริวงะ นี่ตั้งนามแฝง ตามชื่อของดาราญี่ปุ่น ริวงะ ฮิเดกิ(Ryuga Hideki)
หรือตั้งตาม L ใน การตูนDeath Note ครับ
แต่ดูรูป Avatar แล้วน่าจะตั้งตาม L ซะมากกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ก็ยังไม่ได้จบนะครับ :D ข้อ 1 นั้นผมแฝงแบบสอบถามพอร์ตหุ้นเอาไว้ก็จริงแต่ ข้อ 2 ก็ยัง อิ อิ   :mrgreen:  อยากทราบวิสัยทัศน์/แนวทางการบริหารบ้านเมืองในยามวิกฤตน่ะครับ ไว้ว่างๆ ค่อยเปิดประเด็นบริหารเศรษฐกิจโดยบุคคลในสามก๊ก   :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 40

โพสต์

[quote="Ryuga"]ก็ยังไม่ได้จบนะครับ :D ข้อ 1 นั้นผมแฝงแบบสอบถามพอร์ตหุ้นเอาไว้ก็จริงแต่ ข้อ 2 ก็ยัง อิ อิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ขอต่อนิดนึงครับ

ที่ผมว่าแนวทางสมานฉันท์เกิดขึ้นไม่ได้เพราะ ยุคโน้นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดอยู่ที่ผู้นำครับ ถ้าผู้นำจะทำสงคราม มันก็ต้องเกิดสงคราม ในกรณีที่สมมติว่าผมเป็นผู้นำก๊กหนึ่งที่อยากจะสมานฉันท์ แต่อีก 2 ก๊กเขาก็คงไม่ยอม

ความคิดในยุค 3 ก๊ก เขาคิดว่าก๊กของตนคือชาติๆหนึ่ง ผู้นำของทั้ง 3 ก๊กต่างก็คิดว่าตนเองเป็นเจ้าชีวิตโอกาสที่จะมารวมกันแล้วตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้นำสูงสุด(ฮ่องเต้)นั้นยากเหลือเกิน เพราะต่างก็ต้องการอำนาจทั้งนั้น
สมมติว่าผู้นำทั้ง 3 ก๊กเป็นผู้นำลักษณะที่ไม่ต้องการอำนาจ เช่นฟ้าเกิดส่งคนอย่าง เล่าเสี้ยน(Liu Zhan) มาเป็นผู้นำทั้ง 3 ก๊กพร้อมกัน ก็คงจะไม่เกิดสงครามแต่ก็ไม่รวมกันอยู่ดี(ต่างคนต่างอยู่) หรือส่งคนอย่าง จางเหลียง (คนนี้เข้าทีหน่อย) แต่คนดีมากความสามารถอย่างจางเหลียงก็ไม่มีทางได้เป็นผู้นำสูงสุดหรอก

งั้นถ้าคิดว่าฮ่องเต้ที่มาจากราชวงศ์ฮั่นแท้ๆยังอยู่(ไม่เกิดลักษณะพระอาทิตย์ 3 ดวงแบบนี้) แล้วยังพอมีหวัง
**กรณีฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่นแท้ๆไม่นับเล่าปี่(Liu Bei) ที่ตั้งตัวเองเป็นฮันต๋งอ๋อง แล้วประกาศตั้งราชวงศ์ฮั่นใหม่นะครับ รายนี้แซ่เล่าจริงรึเปล่าก็ไม่รู้**

ขนาดญี่ปุ่น ชาติที่คนมีความจงรักภักดีมากๆ แล้วองค์จักรพรรดิยังอยู่ มันยังแตกออกเป็นผู้นำกลุ่มต่างๆเลย (โอดะ ,โฮโจ, ทาเคดะ, อุเอซึกิ, โทกุกาว่า, ดาเตะ ฯลฯ)

ดูประวัติเก่าๆแล้วจีนแตกออกแล้วก็รวมใหม่ก็หลายหน แต่ไม่เคยเกิดจากการเจรจาเลย
ไล่มาตั้งแต่ จิ๋นซี ,เล่าปัง, สุมาเอี๋ยน, สุยเหวินตี้ , หลี่เอียน , จูหยวนจาง(รายนี้ไม่ได้รวมประเทศแต่กู้คืนจากมองโกล)
ผู้เหี้ยมหาญแต่ละท่านขึ้นสู่อำนาจด้วยสงครามครับ

แนวทางแก้ปัญหาที่ดีสำหรับยุคโน้น อาจจะเป็นการใช้สงครามยุติสงคราม
แล้วเมื่อมีอำนาจแล้วก็เป็นผู้นำที่ดีอย่างหลี่ซื่อหมินแห่งราชวงศ์ถังครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ผมก็ตั้งคำถามให้มันยากๆ ไปอย่างนั้นเองแหละครับ เพราะผมเองก็คิดไม่ออกเหมือนกัน (อิ อิ :mrgreen: ) เพราะความเป็นชาติหนึ่งเดียวของจีนเพิ่งมาเกิดในสมัยจักรพรรดิจิ๋นซีนี่เองก่อนหน้านั้นก็แยกกันเป็นชาติรัฐเอกเทศ แต่ระบบการปกครองนี้ก็ไม่ได้ยั่งยืนเพราะเมื่อถึงยุคราชวงศ์ฮั่นก็กลับไปเอาระบบราชการแบบกระจายอำนาจมาใช้แทนการรวมศูนย์แบบราชวงศ์ก่อนยังผลให้เกิดการสร้างฐานอำนาจของขุนนางประจำถิ่นและต่อมาก็กลายเป็นลัทธิขุนศึก

แม้ราชวงศ์ฮั่นจะเป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่แต่แท้จริงจีนก็เพียงรวมกันอย่างหลวมๆ เห็นได้ว่าเมื่อคราวใดเกิดปัญหาในบ้านเมืองจนความแตกแยกลุกลามประเทศก็จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไปตามแต่อำนาจการปกครองท้องที่ของพวกขุนศึกประจำถิ่นเสียทุกครั้งไปเพราะมีอำนาจทหารอยู่ในมือ นับเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสังคมจีนโบราณซึ่งการสลายอำนาจขุนศึกประจำถิ่นเหล่านี้ได้สัมฤทธิ์ผลเป็นจริงเป็นจังก็ในสมัยราชวงศ์ซ่งหลังสมัยสามก๊กหลายร้อยปี

ดำริของจักริพรรดิซ่งไท่จู่นั้นหลักแหลมแต่ไม่ลึกล้ำเพราะพระองค์เล็งเห็นอันตรายของกองกำลังขุนศึกประจำถิ่นต่อความเป็นหนึ่งเดียวของชาติก็จริง(และบัลลังก์ของพระองค์เองด้วย) แต่ผลแห่งการสลายอำนาจกลับไปทำให้จีนกลายเป็นชาติที่มีกำลังทหารอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ซ่งเป็นต้นมาจีนจึงกลายเป็นเป้าเพื่อรุกราน/รีดไถโดยชาวต่างชาติมาตลอด ความเกรียงไกรของกองทัพเช่นสมัยฮั่นหรือถังกลายเป็นเพียงอดีตที่ห่างไกลแตกต่างจากกองทหารรับจ้างในสมัยซ่งราวฟ้าดิน

กว่าจีนจะแตกเป็นสามก๊กความเลวร้ายในบ้านเมืองก็โหมโรงกันมานาน ยุคตงฮั่นเองเริ่มได้ไม่นานก็เข้าสู่ยุคจักรพรรดิเด็กอันทำให้อำนาจการปกครองไปอยู่กับองค์ไทเฮาและขันที ยามใดบ้านเเมืองได้ขันทีมาปกครองความบรรลัยวายวอดก็บังเกิด ความแหลวแหลกในราชสำนักและการฉ้อราษฎร์บังหลวงดำเนินต่อเนื่องกันยาวนานก่อนที่ประชาชนจะทนไม่ไหวและต้องลุกออกมาแสดงพลังเพื่อล้มล้างการปกครองโดยราชวงศ์ฮั่น

อันว่ากบฏชาวนาในจีนนั้นเป็นลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งเหมือนกันที่จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีรัฐบาลเน่าๆ นับตั้งแต่ยุคของเฉินเซิ่ง อู๋กว่าง ลงไปจนถึงหงซิ่วฉวน ประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ ด้อยการศึกษา ไฉนจึงหาญกล้าหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับทางการ ด้วยมือที่เคยหยิบแต่จอบเสียม พิชัยสงครามก็ไม่เคยร่ำเรียนแต่ก็ต้องมาต่อสู้กับกองกำลังของรัฐบาลที่มีการฝึกปรือมาอย่างดี หากมิใช่เพราะความยากเข็ญจวนเจียนจะอดตายแล้วจะมีเรื่องใดอีก ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นนั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าอาณัติสวรรค์ได้ถูกถอนไปจากราชวงศ์ฮั่นแล้ว น่าเศร้าที่ในวรรณคดีเรียกชาวบ้านนับแสนนับล้านที่ลุกฮือกันขึ้นครั้งนี้ว่าโจรโพกผ้าเหลือง อาจเป็นเพราะพระเอกของเรื่องต้องทำหน้าที่เข่นฆ่าประชาชนร่วมชาติที่ลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องความยุติธรรมกลุ่มนี้ด้วยก็เป็นได้(ไม่งั้นการฆ่าประชาชนครั้งนี้จะไม่ชอบธรรม)

พอบ้านเมืองวิกฤต แต่ละคนก็มักจะนึกถึงแต่ตัวเอง ชาวบ้านจะอดตายทำการปล้นเลี้ยงชีพบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกขุนศึกทั้งหลายที่มีอำนาจทางการทหารอยู่ในมือก็แยกตัวเป็นเอกเทศหมด สงครามปะทุ จากนั้นการพัฒนาประเทศก็หยุดลงแทบจะสิ้นเชิงเช่นเดียวกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

การละเลยความอยู่ดีกินดีของประชาชนในชาติเป็นสาเหตุความแตกแยกและล่มสลายในสมัยโบราณเช่นนี้เอง (เรียกว่าการละเลยต่อเศรษฐกิจของชาติก็ได้)

ผมอยากเห็นตัวเลขการจ้างงานในยุคนั้นจริงๆ :mrgreen:  แต่ในยุคนั้นวิชาเศรษฐศาสตร์ยังไม่ได้มีการสถาปนาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ระบบบัญชีคู่ก็เพิ่งจะมีมาไม่กี่ร้อยปีมานี้ งบการเงินขององค์กร/ธุรกิจขนาดใหญ่ 30 แห่ง(ของยุคนั้น)จะเป็นยังไงก็ไม่รู้สิครับ  :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

!!! เศรษฐศาสตร์สามก๊ก !!!

โพสต์ที่ 43

โพสต์

เห็นด้วยกับคุณริวงะครับ
การรวมอำนาจทางทหารของจีนนั้น ทำให้ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับผู้นำเป็นหลัก
ชาติที่ใหญ่โตอย่างจีน ผู้นำที่อ่อนแอปกครองไม่ได้หรอก

คุณริวงะนี่ทำให้ผมทึ่งจริงๆครับ เท่าที่ผมตามอ่านหลายๆกระทู้ที่คุณริวงะโพสต์มา รู้สึกว่าคุณริวงะมีความรู้ในหลายๆด้านสูงจริงๆ  :bow:

ว่าแต่กบฎชาวนา(โจรโพกผ้าเหลือง)เนี่ย ถ้าได้ผู้นำที่เข้าท่าหน่อย ไม่ใช่พวกปาหี่แบบ 3 พี่น้องสกุลเตียว ประวัติศาสตร์อาจจะเป็นอีกแบบนึงก็ได้นะ