บทพิสูจน์
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
บทพิสูจน์
โพสต์ที่ 1
ในการลงทุนในตลากลัก(หลัก)ทรัพย์นั้น มีความสามารถหลายอย่างที่จะทำในบุคคลหรือกลุ่มบุคคลประสบความสำเร็จในการลงทุน เช่น ขนาดของเงินทุน, ความสามารถในการอ่านจิตวิทยาตลาด, ความสามารถในการวิเคราะห์ธุรกิจ, การอ่านกราฟ เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีควบคู่กับความสามารถในการลงทุนข้างต้นนั้นคือ ความสามรถในการควบคุมจิตใจ ตัวผมเองลงทุนแบบคุณค่ามายังไม่ถึงขวบปี แต่ผมว่าเป็นขวบปีที่ให้อะไรมากมาย
หลายครั้งตลาดปรับลงอย่างรุนแรง นักลงทุน(นักเก็งกำไร) ขายหุ้นทิ้งยังกับบริษัทเหล่านั้นจะต้องเป็นตัวลงในอนาคตอันใกล้ (หุ้นในพอร์ตผมกลับบวกสวนตลาดซะงั้น ในจัยตอนนั้นรู้สึกว่าเรามาถูกทางแย้ว) หลังจากฝุ่นจางคนเหล่านี้ก็กลับมาซื้อ ดัชนีเริ่มมีการปรับตัวขึ้นและขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่หุ้นในพอร์ตผมไม่ไปไหนเลย :? ในใจก็คิดว่าเราจะตกรถหรือไม่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว อะไรละที่เปลี่ยนไป ????????????
ในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเทคนิคหรือคุณค่า "จิตใจ" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำในเราประสบความสำเร็จ ในการลงทุนด้วยเทคนิค ถ้าการวิเคราะห์หุ้นไม่เป็นไปตามตามเทคนิคที่คิด ต้องทำจัยตัดขาดทุน :? หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ(ทางเทคนิค)เป็นเพราะไม่รู้จักทำจัยตัดขาดทุน เช่นเดียวกันในการลงทุนแบบคุณค่าจิตใจยิ่งมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นในขณะที่หุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งซื้อแล้วหุ้นยังลงต่อ ก็ต้องทำใจถือ เมื่อถือมากได้สักระยะได้เวลาประการผลประกอบการ (เปรียบเหมือนวันประการผลสอบ) ผลประกอบการออกมากเป็นไปในทางบวก(ต้องทำจัยถือถ้าราคายังไม่เกินพื้นฐาน) แต่การถือที่ดูแย้วจะลำบากจัยที่สุดคือ เมื่อดัชนีวิ่งขึ้นแต่หุ้นในพอร์ตไม่ขึ้น (แถมยังลงอีก ) เพราะส่วนใหญ่แย้วเราทุกคนหวังที่จะชนะดัชนีกันทั้งนั้น แล้วอะไรทำให้เรายังถือหุ้นตัวนนั้อยู่ละ ถ้าไม่ใช่จิตจัยที่มั่นคง
ดังนั้นเราทุกคนที่ลงทุนในหุ้นคุณค่าที่ยังมีมูลค่าสูงกว่าราคาปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีจิตใจที่มั่นคงในการถือหุ้นที่ดีเหล่านั้น
หลายครั้งตลาดปรับลงอย่างรุนแรง นักลงทุน(นักเก็งกำไร) ขายหุ้นทิ้งยังกับบริษัทเหล่านั้นจะต้องเป็นตัวลงในอนาคตอันใกล้ (หุ้นในพอร์ตผมกลับบวกสวนตลาดซะงั้น ในจัยตอนนั้นรู้สึกว่าเรามาถูกทางแย้ว) หลังจากฝุ่นจางคนเหล่านี้ก็กลับมาซื้อ ดัชนีเริ่มมีการปรับตัวขึ้นและขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่หุ้นในพอร์ตผมไม่ไปไหนเลย :? ในใจก็คิดว่าเราจะตกรถหรือไม่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว อะไรละที่เปลี่ยนไป ????????????
ในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นเทคนิคหรือคุณค่า "จิตใจ" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำในเราประสบความสำเร็จ ในการลงทุนด้วยเทคนิค ถ้าการวิเคราะห์หุ้นไม่เป็นไปตามตามเทคนิคที่คิด ต้องทำจัยตัดขาดทุน :? หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ(ทางเทคนิค)เป็นเพราะไม่รู้จักทำจัยตัดขาดทุน เช่นเดียวกันในการลงทุนแบบคุณค่าจิตใจยิ่งมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นในขณะที่หุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งซื้อแล้วหุ้นยังลงต่อ ก็ต้องทำใจถือ เมื่อถือมากได้สักระยะได้เวลาประการผลประกอบการ (เปรียบเหมือนวันประการผลสอบ) ผลประกอบการออกมากเป็นไปในทางบวก(ต้องทำจัยถือถ้าราคายังไม่เกินพื้นฐาน) แต่การถือที่ดูแย้วจะลำบากจัยที่สุดคือ เมื่อดัชนีวิ่งขึ้นแต่หุ้นในพอร์ตไม่ขึ้น (แถมยังลงอีก ) เพราะส่วนใหญ่แย้วเราทุกคนหวังที่จะชนะดัชนีกันทั้งนั้น แล้วอะไรทำให้เรายังถือหุ้นตัวนนั้อยู่ละ ถ้าไม่ใช่จิตจัยที่มั่นคง
ดังนั้นเราทุกคนที่ลงทุนในหุ้นคุณค่าที่ยังมีมูลค่าสูงกว่าราคาปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีจิตใจที่มั่นคงในการถือหุ้นที่ดีเหล่านั้น
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 383
- ผู้ติดตาม: 0
บทพิสูจน์
โพสต์ที่ 4
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับก่อนที่จะมีจิตใจที่มั่นคง เราต้องมีความรู้และข้อมูลก่อนครับ
เพราะถ้าเราไม่มีความรู้หรือข้อมูล การที่เรามีจิตใจที่มั่นคง อาจจะเป็นการดื้อรั้นก็ได้นะครับ
จิตใจที่มั่นคงต้องอยู่บนฐานที่ถูกต้อง(สัมมาทิฏฐิ)
ถ้ามั่นคงเเบบไร้สติ แบบหน้ามืดตามัว ก็ดื้อรั้น เสียตัวเองเปล่าๆ
เหมือนด็กที่ฟันผุเต็มปาก เเต่ก็ยังกินขนมหวานนั่หละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
บทพิสูจน์
โพสต์ที่ 6
ผมหมายความว่า ความสามารถในการควบคุมจิตใจต้องมาคู่กับความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นความสามารถในการอ่านจิตวิทยาตลาด หรือ คู่กับความสามารถในการอ่านกราฟ เป็นต้น จึงจะมีโอกาสในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
บทพิสูจน์
โพสต์ที่ 7
โถคุณกุหลาบงามหลังฝน เวบนี้สนับสนุนการลงทุนแนว VIกุหลาบงามหลังฝน เขียน:ผมหมายความว่า ความสามารถในการควบคุมจิตใจต้องมาคู่กับความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นความสามารถในการอ่านจิตวิทยาตลาด หรือ คู่กับความสามารถในการอ่านกราฟ เป็นต้น จึงจะมีโอกาสในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
คุณน่าจะพูดว่า
ค่อยดูแล้วเป็น VI หน่อยครับความสามารถในการควบคุมจิตใจ ความสามารถในการวิเคราะห์ธุรกิจ ความสามารถในการประเมินมูลค่ากิจการ ต้องมาคู่กับความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นความสามารถในการอ่านจิตวิทยาตลาด หรือ คู่กับความสามารถในการอ่านกราฟ เป็นต้น
เพราะถ้าไม่มี การวิเคราะห์ธุรกิจ และการประเมินมูลค่าของกิจการ แล้ว คงไม่ใช่ VI มั๊งครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี