ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
mahayosanan
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผลตอบแทนตลาดหุ้น  ควรเป็นเท่าไร ถือว่าสอบผ่าน
และถือหุ้นนานเท่าไร  อย่างน้อย 5 ปี  ตามสถิติ
ควรถือ  PR  TF  TUF  SSC  WACOAL
สนใจหุ้นแบบเน้นคุณค่ามากที่สุด
sattaya
Verified User
โพสต์: 1372
ผู้ติดตาม: 1

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมคิดว่าอยู่ที่เป้าหมายที่ตั้งไว้มากกว่าครับ อย่างผมก็มือใหม่ตั้งเป้าไว้ 15%ต่อปีถ้าได้สัก +10% ก็ถือว่าได้ B หรือถ้า +15% ก็ A

ตอนนี้นั่งดูกระทิงกัดกับหมี พอตแดงเถือก
สติมา ปัญญาเกิด
nearly_vi
Verified User
โพสต์: 743
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 3

โพสต์

มันแล้วแต่คนตั้งครับ  :D
fantasia
Verified User
โพสต์: 674
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 4

โพสต์

แล้วแต่คนจริง ๆ ครับ บางคนแค่ 10% ก็พอใจแล้ว
แต่ถ้าเอาตามมาตรฐานของคนส่วนใหญ่ในนี้เท่าที่ผมเห็นก็ 15% ครับ
นายสต็อก
Verified User
โพสต์: 777
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนลงทุน

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ปกติดอกเบี้ยเงินกู้ทั่วไปและบัตรเครดิต
ตกราว 15%-18% ต่อปี ถ้าท่านนักลงทุน
ทำผลตอบแทนได้ใกล้เคียงก็ถือว่า เยี่ยมมาก
แล้วครับ!!! :lol:

ท่านสร้างผลตอบแทนแบบง่ายๆ ไม่เหนื่อยมาก
แต่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยใกล้เคียงกัน

#===========#===========#
:=)
#===========#===========#
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เอาว่ามือใหม่เอี่ยมถอดด้ามจริงๆเลยนะคะ
สำหรับดิฉันนะ
คิดว่า

ไม่ขาดทุน ถือว่า สอบผ่านสำหรับมือใหม่
และ ได้กำไรชนะเงินเฟ้อในปีนั้นๆได้ ถือว่าพร้อมเลื่อนชั้นเป็นมือไม่ใหม่
(แบบ จากเตรียมอนุบาล ขึ้นอนุบาล :lol: )

หลังจากชนะเงินเฟ้อได้แล้ว ต่อจากนั้น จะทำได้ 10 20 50 100% :shock:
อันนี้ ไม่ถือว่าใหม่แล้ว ถือว่าพอจะสามารถโลดแล่นในบ่อนได้แล้ว :lol:

ต่อจากไม่ถือว่าใหม่นั้น อันนี้สำคัญกว่า คือ จะกี่% ก็แล้วแต่เถอะ
แต่ในระยะยาวแล้ว ค่าเฉลี่ยทำได้สม่ำเสมอแค่ไหน
ทำได้ กะ ทำเป็น ดูสั้นๆยังฟันธงตัวเองลำบาก  :oops:  :oops:
ประเด็นนี้ ใช้เวลาพิสูจน์กันนานๆ 5-10 ปีนู่นน่ะ ถึงจะรู้ได้
@DNA@
Verified User
โพสต์: 101
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ตลาดมีช่วงที่เป็นตลาดกระทิง และก็มีช่วงที่เป็นตลาดหมีครับ ในระยะสั้นอย่าตั้งเกณฑ์เป็นเลขตายตัวเลยครับ ดูผลตอบแทนของพวกกองทุนรวมก็ได้ครับ เลือกที่นโยบายคล้ายพอร์ตของเราครับ และก็เลือกกองทุนที่มี ranking กลางๆ ถ้าชนะได้ก็ถือว่าการเลือกหุ้นของเราชนะกองทุนส่วนใหญ่ผมก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับสำหรับมือใหม่ (แต่อย่าเชื่อผมมากครับผมก็มือใหม่เหมือนกัน) สำหรับผมเน้นพอใจในผลกำไรที่ได้ครับ ไม่ใช้เกณฑ์ตายตัวแต่เน้นที่จะต้องมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
somwatee
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 98
ผู้ติดตาม: 0

my 1st post krub...

โพสต์ที่ 8

โพสต์

For me, only10% for my1st year invesment is very satisfied krub...
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 9

โพสต์

จากประสบการณ์ผม

ปีแรกที่เล่นหุ้นนั้น ขาดทุนไปเกือบ 40 % ดังนั้นมุมมองผมจึงคิดว่าถ้ามือใหม่ขาดทุนไม่ถึง 20 % ก็ถือว่าผ่านแล้ว
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
WEB
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1139
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ตามความคิดของผม การลงทุนเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งร้อยเมตร  ผลตอบแทนในช่วงไม่กี่ปีให้ข้อสรุปอะไรไม่ได้เลย  สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การประเมินตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่ามีพัฒนาการเกิดขึ้นหรือเปล่า เราต้องแยกแยะระหว่างความสามารถกับความโชคดีได้  ต้องมีความเข้าใจเหตุผลที่ทำให้เราได้กำไรหรือขาดทุน  ตัวผลกำไรหรือผลขาดทุนที่เกิดขึ้นบางครั้งมันเป็นแค่ความโชคดี โชคร้าย หรือเหตุบังเอิญแค่นั้นเอง  ความสำเร็จที่เกิดจากทักษะเท่านั้นที่จะเกิดได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ทุ่มเททุกสิ่งให้แก่ความฝันซึ่งมีแต่คุณเท่านั้นที่มองเห็น

http://WarrenBuffettFan.blogspot.com/
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 11

โพสต์

[quote="สามัญชน"]จากประสบการณ์ผม

ปีแรกที่เล่นหุ้นนั้น ขาดทุนไปเกือบ 40 % ดังนั้นมุมมองผมจึงคิดว่าถ้ามือใหม่ขาดทุนไม่ถึง 20 % ก็ถือว่าผ่านแล้ว
ตาหมูอ้วน.
Verified User
โพสต์: 511
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สามัญชน wrote:
จากประสบการณ์ผม

ปีแรกที่เล่นหุ้นนั้น ขาดทุนไปเกือบ 40 % ดังนั้นมุมมองผมจึงคิดว่าถ้ามือใหม่ขาดทุนไม่ถึง 20 % ก็ถือว่าผ่านแล้ว    
โห้ ผมเลยครับ ปีแรกที่ลงทุน ขาดทุนไป 20% แสดงว่าสอบผ่านใช่ไหมครับ พี่สามัญชน :)
VI ฝึกหัด
Penguins
Verified User
โพสต์: 366
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ถ้าคำว่า 'สอบผ่าน' หมายถึงไม่ต้องกลับมาสอบใหม่แล้ว

...ผลตอบแทนจากการลงทุนควรที่สามารถเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำงานอื่น ถือว่า 'สอบผ่าน'

...และถ้าผลตอบแทนจากการลงทุนมีมากเพียงพอ (เกินกว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการสำรองไว้ใช้ในยามวิกถต) และสามารถนำไปลงทุนอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ถือว่า 'ประสบผลสำเร็จจากการลงทุน'

หมายเหตุ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวครับ
@DNA@
Verified User
โพสต์: 101
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ถ้าคำว่า 'สอบผ่าน' หมายถึงไม่ต้องกลับมาสอบใหม่แล้ว

...ผลตอบแทนจากการลงทุนควรที่สามารถเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องทำงานอื่น ถือว่า 'สอบผ่าน'

...และถ้าผลตอบแทนจากการลงทุนมีมากเพียงพอ (เกินกว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการสำรองไว้ใช้ในยามวิกถต) และสามารถนำไปลงทุนอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ถือว่า 'ประสบผลสำเร็จจากการลงทุน'

หมายเหตุ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวครับ
ฟังดูเหมือนคำว่า อิสระภาพทางการเงิน เลยครับ
อินทรีทอง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ส่วนตัวผมคิดว่าในช่วงแรกของการลงทุนเราไม่ควรที่จะไปตั้งเป้าในเรื่องเปอร์เซนต์ของผลตอบแทน ในระยะเวลาสั้นๆ(1ปี-2ปี)ผลตอบแทนมีโอกาสสูงมากที่จะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดรวมไปถึงสตอรี่ระยะสั้นของหุ้น แต่ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นจะเป็นไปตามพื้นฐานที่แท้จริงของกิจการ

ผมว่าในช่วงแรกเราอาจจะยังไม่ต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินเยอะๆ ยกเว้นว่าจะเป็นช่วงที่ตลาดเต็มไปด้วยหุ้นที่ถูกมากๆ(ซึ่งก็มักจะเป็นช่วงที่มือใหม่โดยทั่วๆไปมักจะไม่ค่อยกล้าซื้อ) ลองทดสอบการวิเคราะห์รวมถึงการตัดสินใจซื้อขายของตัวเองแล้วตามดูผลลัพธ์ที่ตามมาว่าเป็นไปอย่างที่คาดไว้หรือไม่และเก็บไว้เป็นประสบการณ์ ผมคิดว่าในช่วงแรกของการลงทุน การที่ได้กำไรถือว่านอกจากเราจะไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนแล้วยังมีกำลังใจที่จะทดสอบตัวเองหาประสบการณ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเราขาดทุนขึ้นมาก็ถือว่าเป็นการซื้อประสบการณ์ไป ในช่วงแรกก็คิดซะว่าcapital gain เป็น by product ก็แล้วกันครับ

จนถึงวันนึงเมื่อเริ่มรู้สึกว่าเรามีความมั่นใจกับการลงทุนในตลาด การเลือกหุ้นของเราอยู่บนการวิเคราะห์และคาดการณ์อย่างมีเหตุมีผลจนเราเริ่มที่จะไม่ค่อยรู้สึกถึงผลกระทบของการเคลื่อนไหวของราคาตลาด(โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผันผวน) รวมไปถึงความเห็นที่มีต่อตัวหุ้นจากบุคคลรอบข้าง (ไม่ได้บอกว่าไม่รับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้างนะครับ) เมื่อนั้นแหละครับที่เราจะวัดผลตอบแทนอย่างจริงจัง ทีนี้เราจะใช้อะไรเป็นbenchmarkก็แล้วแต่ตามอัธยาศัยครับ

ขอให้โชคดีครับ 8)  8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
birdflu
Verified User
โพสต์: 628
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 16

โพสต์

[quote="สามัญชน"]
เพราะการเป็นมือใหม่นั้นจะมีลักษณะหลายๆอย่างที่ "เหมาะสำหรับการขาดทุน" อย่างยิ่ง

1. มักจะเข้ามาเล่นตอนที่ตลาดปรับตัวขึ้น
Keep Calm And Chive On
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 17

โพสต์

[quote="WEB"]ตามความคิดของผม การลงทุนเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งร้อยเมตร
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
vivitawin
Verified User
โพสต์: 1922
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ขอยืนยันตาม พี่007-ห และ พี่ web ครับ

ก่อนอื่นต้องทำให้เลือดหยุดไหลก่อน แล้วกำไรจะมาเอง
กำไรก็มีได้จากโชคดีและความเก่ง หรือที่เรียกว่า เก่งกับเฮง
ถ้าเฮงอย่างเดียว เล่นหวยดีกว่าครับ  :lol:
เก่งก็อย่างพี่เวปบอกคือ ทักษะ นั่นเอง แล้วก็ระยะเวลาการลงทุน
หุ้นบางบริษัทผันผวนมากๆ เป็นรอบๆ ในระยะสั้นอาจวัดอะไรมากไม่ได้
แล้วสิ่งที่ถูกต้องก็คือสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสัจธรรม  :idea:

แต่พวกสัจธรรมที่ถูกต้องเนี่ย มักจะเป็นแบบเต่า มากกว่ากระต่าย นะครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
bmw2681
Verified User
โพสต์: 710
ผู้ติดตาม: 0

ผลตอบแทนเท่าไรถือว่าสอบผ่านสำหรับมือใหม่

โพสต์ที่ 19

โพสต์

[quote="007-s"]เอาว่ามือใหม่เอี่ยมถอดด้ามจริงๆเลยนะคะ
สำหรับดิฉันนะ
คิดว่า

ไม่ขาดทุน ถือว่า สอบผ่านสำหรับมือใหม่
และ ได้กำไรชนะเงินเฟ้อในปีนั้นๆได้ ถือว่าพร้อมเลื่อนชั้นเป็นมือไม่ใหม่
(แบบ จากเตรียมอนุบาล ขึ้นอนุบาล :lol: )

หลังจากชนะเงินเฟ้อได้แล้ว ต่อจากนั้น จะทำได้ 10 20 50 100% :shock:
อันนี้ ไม่ถือว่าใหม่แล้ว ถือว่าพอจะสามารถโลดแล่นในบ่อนได้แล้ว :lol:

ต่อจากไม่ถือว่าใหม่นั้น อันนี้สำคัญกว่า คือ จะกี่% ก็แล้วแต่เถอะ
แต่ในระยะยาวแล้ว ค่าเฉลี่ยทำได้สม่ำเสมอแค่ไหน
ทำได้ กะ ทำเป็น ดูสั้นๆยังฟันธงตัวเองลำบาก
Every passing minute is a chance to turn it all around
http://bmw2681.wordpress.com
prasits
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 219
ผู้ติดตาม: 1

โพสต์ที่ 20

โพสต์

เห็นด้วยกับคุณหมอสามัญชนครับ

ประมาณว่าถ้าเริ่มลงทุน   แม้ว่าจะพยายามเข้าสู่ลู่ทาง VI เลย, เก็งกำไร, หรือผสมกัน   ฯลฯ     แล้วต้องมีเหตุการณ์นอกตำรา   วิชามาร  ในตลาดหุ้นมากมายที่เรายังไม่เคยอ่านเจอในหนังสือหุ้นทั่วๆ ไป  

(เค้าถึงบอกว่าทฤษฎีไม่เหมือนปฏิบัติ,  ทฤษฎีอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่กำหนด  หรือสมมติขึ้นมาว่า   ไม่มีใครโกงในเกม (ซ่อนงบ,transfer cost/pricing, bribe-under table process ฯลฯ    สรุปว่า   ในโลกของความจริง   ยังมี hidden risk ที่จริงๆ เราเข้าใจมันได้     แล้วเพิ่ม Margin of Safety เข้าไปเวลาเจอ Risk ที่เรายังไม่เข้าใจ  ...  แต่ในส่วนของ Uncertainty หรือความไม่แน่นอนของกิจการนั้นแน่แม้ว่าเราจะควบคุมไม่ได้  อาทิ    ต้นทุนวัตถุดิบ, ดอกเบี้ยน้ำมัน    แต่ในเชิงคุณภาพที่สำคัญๆมากๆ อย่าง  ธรรมาภิบาลของผู้บริหารนั้น    เราสามารถตรวจสอบได้โดยการพูดคุย / ดูโหงวเฮ้ง  ศึกษา  ค้นหาประวัติความเป็นมาของบริษัทนั้นๆ ว่ามีที่มาอย่างไร   เคยทำงานอะไร  เกี่ยวข้องอะไรกับ   คู่ค้าอันดับต้นๆ ของบริษัทหรือไม่อย่างไร    ฯลฯ)

ดังนั้นการขาดทุนสัก 20% นั้น  ให้เราถือว่าเป็นค่าเรียนครับ     คือถ้าขาดทุนสัก 20%  แล้วเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง และจำไว้เป็นประสบการณ์จากการขาดทุนนั้น    จะทำให้นักลงทุนแข็งแกร่ง  และมีพัฒนาการมากขึ้นครับ

ปล.  ดังนั้นช่วงปีแรกเวลาเริ่มลงทุน      ไม่ควรลงทุนมากครับ    ให้คิดว่าเป็นค่าเล่าเรียนข้อผิดพลาด (หากพลาด)   แต่ถ้าได้กำไรมากๆ ก็อย่าหลงว่าตัวเองแน่เกินไปครับ    อาจเป็นเพราะว่าดวงช่วย    หรือบางทีคุณกำลังเป็นเหาฉลามอยู่ในเกม

<เห็นเพื่อนผมหลายคน  เล่นเก็งกำไร  ซึ่งไปเล่นอยู่ในเกมของคนอื่นที่เค้าควบคุมอยู่   สุดท้ายก็ขาดทุนมาก  และเลิกเล่นไปพร้อมกับพูดว่า  หุ้นเป็นการพนัน...   จริงๆ แล้วผมว่ามันเป็นการพนัน (bet) โดยอาศัยพื้นฐาน   การเติบโตของกิจการ   และจิตวิทยา  ในการเล่นเกมนี้  ...  

จึงมีนักเขียนบางคนกล่าวไว้ว่าโลกยุคนี้เป็นยุค  Casino Economy   ดังนั้นเมื่อ  **นักลงทุน** ต้องระวังอย่าหลงไปอยู่เกมคนอื่นโดยไม่ระวังตัว      แต่ถ้าคุณรู้ว่าเค้า/รายใหญ่/ต่างชาติกำลังเล่นเกมอะไร   อย่างไร    นักลงทุนรายย่อย    ก็จะได้เปรียบอย่างมากในการเป็น*เหาฉลาม*  อ่านเกมและเกาะกระแสไป  แล้วพิจารณาเอาเองว่าจะโดดออกจากขบวนรถไฟนั้นเมื่อใด   ซึ่งแล้วแต่ข้อมูลที่มี   กับความสามารถในการอ่านไพ่  ผู้เล่นรายใหญ่ในเกม/หุ้นนั้นๆ>
โพสต์โพสต์