ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เฟื่องฟู ทำหุ้นรพ.เอเชียอาคเนย์ทะยาน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มิถุนายน 2550 20:47 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
คนไข้ต่างเดินทางไปรักษาตัวในประเทศที่มีความสามารถทางการแพทย์
เอเจนซี - นักวิเคราะห์มองการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์กระตุ้นให้หุ้นของโรงพยาบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถีบตัวสูงขึ้นเพราะนักลงทุนเล็งเห็นอนาคตอันสดใสของธุรกิจนี้ มูลค่าของภาคธุรกิจดังกล่าวในภูมิภาคนี้สูงกว่าในอเมริกาเหนือถึง 40% ขณะที่รัฐบาลก็เน้นพัฒนาการท่องเที่ยวดังกล่าวหวังดึงดูดคนไข้เงินหนานำรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำ
อูมูห์ มุชตาร์ ต้องทนทรมานหลังจากเข้ารับการผ่าตัดอย่างลวกๆในอินโดนีเซีย แต่ก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ไม่กี่วันหลังจากนั้น แพทย์ที่สิงคโปร์ก็เอาก้อนนิ่วออกจากไตของมุชตาร์ได้
มุชตาร์เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จำนวน 1,300,000 คน ที่ในแต่ละปีได้เดินทางจากทั้งเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ มายังสิงคโปร์ ประเทศไทย และมาเลเซีย เพื่อรับการรักษา เนื่องจากไม่มั่นใจคุณภาพของโรงพยาบาลในประเทศตนหรือไม่ก็มองว่าค่าใช้จ่ายแพงเกินไป
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในเอเชีย และคาดว่าจะเติบโตจากปัจจุบันที่มีมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 4,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี2012
แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว หุ้นในกิจการภาคบริการรักษาพยาบาลดูจะเป็นภาคธุรกิจที่แพงมากแล้ว โดยภาคธุรกิจนี้ในเอเชียมีมูลค่าสูงกว่าในอเมริกาเหนือและยุโรปราว 40%
ในปีนี้ หุ้นของบริษัทโรงพยาบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังเช่น ราฟเฟิลส์ เมดิคัล ในสิงคโปร์ และบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ได้พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคก็เฟื่องฟู อีกทั้งรัฐบาลก็เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่กำลังเติบโต
ปีเตอร์ เชียง หัวหน้านักยุทธศาสตร์หุ้นของดีบีเอส แอสเสต แมเนจเมนต์ ซึ่งถือหุ้นในทอมสัน เมดิคัล เซ็นเตอร์ กล่าวว่าการที่หุ้นในบริษัทโรงพยาบาลเหล่านี้ถีบตัวสูงทำสถิติชี้ให้เห็นถึงการเติบโตระยะยาวของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
รัฐบาลในภูมิภาคนี้หวังให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์กระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต ทั้งนี้ สิงคโปร์ต้องการจะเพิ่มจำนวนคนไข้ชาวต่างชาติจากในปี2006ที่มี 400,000 คน ต่อปี เพิ่มเป็น 1ล้านคนต่อปี ภายในปี2012 ขณะที่กรุงเทพมหานครตั้งเป้าดึงดูดคนไข้ต่างชาติเพิ่มจาก 1.25 ล้านคนต่อปี ในปี2005 เพิ่มเป็น 2 ล้านคน ภายในปี2010
สิงคโปร์มีชื่อเสียงในเรื่องของบริการการผ่าตัดที่ยุ่งยากซับซ้อน เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจและตับ โรงพยาบาลเกือบทุกแห่งในสิงคโปร์ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขณะที่ประเทศไทยมีโรงพยาบาลเพียงสองแห่งที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับและเชื่อมั่น อันได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และโรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท
อย่างไรก็ดี โรงพยาบาลในประเทศไทยก็ขึ้นชื่อในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูก ทั้งนี้ แมคไควรีรีเสิร์ชได้วิจัยว่า การผ่าตัดทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจที่กรุงเทพฯจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 12,000 ดอลลาร์ แต่หากผ่าตัดในสิงคโปร์ คนไข้จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 20,000 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดดังกล่าวในสหรัฐฯจะสูงถึง 150,000 ดอลลาร์
**จุดอ่อนหุ้นโรงพยาบาล**
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พาร์กเวย์โฮลดิ้งส์ ในสิงคโปร์ และบำรุงราษฎร์ในไทย ถือเป็นหุ้นโรงพยาบาลที่ราคาแพงที่สุดในโลก สืบเนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อันเป็นผลจากแผนขยายธุรกิจเชิงรุก
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์แนะว่า สำหรับนักลงทุนที่ไม่อยากเสี่ยงแต่ต้องการทำกำไรในอุตสาหกรรมนี้ ยังสามารถเลือกหุ้นดังเช่น บางกอก เชน ฮอสปิทอล ซึ่งระดับราคายังต่ำกว่าหุ้นธุรกิจบริการสุขภาพของเอเชียตัวอื่นๆ อันมีสาเหตุหลักมาจากการที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมต่ำ
ทั้งนี้ มีหุ้นของ 36 บริษัทที่อยู่ใน Asia Pacific GICS Health Care Facilities Index ในจำนวนนี้มีเพียง 17 บริษัทที่มีมูลค่าหุ้นในตลาดมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ทำให้หุ้นในภาคธุรกิจนี้เปลี่ยนเป็นเงินได้ยากกว่าหุ้นในธุรกิจอื่น
เวลานี้มีกองทุนต่างชาติไม่กี่กองทุนที่ถือหุ้นจำนวนมากในโรงพยาบาล ทั้งนี้ นักลงทุนบางคนมองว่าหุ้นโรงพยาบาลมีราคาสูงมากแล้ว มีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดรวมน้อย อีกทั้งรัฐบาลยังอาจเข้าแทรกแซงในการกำหนดค่ารักษาพยาบาล
ทว่า นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า หุ้นโรงพยาบาลหลายตัวยังคงมีผลงานที่ดีกว่าตลาด แม้ในช่วงที่ตลาดโดยรวมย่ำแย่ เนื่องจากคนไข้ต่างชาติก็ยังคงมาใช้บริการไม่ขาดสาย สิ่งนี้จึงรับประกันได้ว่าภาคธุรกิจนี้จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ลิงค์ครับ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000071848
เขาว่า bh เป็นหุ้นรพ.แพงที่สุดในโลกจริงหรือครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 481
- ผู้ติดตาม: 0
เขาว่า bh เป็นหุ้นรพ.แพงที่สุดในโลกจริงหรือครับ
โพสต์ที่ 1
จากนี่ครับ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เขาว่า bh เป็นหุ้นรพ.แพงที่สุดในโลกจริงหรือครับ
โพสต์ที่ 2
ไม่น่าจะใช่มั้งครับเห็นเพื่อนผม บอก PE ของ sector health ที่ อินเดีย ยังตั้ง 50 เท่าเลย แต่ก็อาจจะเป็นที่ อินเดียเค้า growth ของ GDP และคนเค้าเยอะกว่ามั้งครับทำให้ potential น่าจะรับคนไข้ได้เยอะขึ้นตาม ศก.ของประเทศที่ดีขึ้นรวมทั้งความเป็นอยู๋ รายได้ที่โน่นเค้าอาจจะโตแบบก้าวกระโดดก็ได้ครับ ^^
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
เขาว่า bh เป็นหุ้นรพ.แพงที่สุดในโลกจริงหรือครับ
โพสต์ที่ 3
รู้สึกว่าตอนนี้พีอีเฉลี่ยรพ.ทั่วโลกจะเกิน 30 เท่าแล้วนะครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ