ปักษาวายุภักษ์

[Ryuga]

ในตอนนี้กองทุนนกยักษ์เบอร์สองกำลังอาบน้ำประแป้งเสริมหน้าอกหน้าใจ กระทรวงการคลังจะส่งเข้าประกวด บลจ.เอ็มเอฟซีก็ตามมาเป็นแม่ยกในฐานะผู้เจนเวทีนางงาม เคยปลุกปั้นแม่นกยักษ์เบอร์หนึ่งประสบความสำเร็จมาแล้ว น่าสนใจนะครับว่าเธอน่าสนใจขนาดไหน สามารถยั่วแฟนๆ ให้น้ำลายหกได้รึเปล่า  :ep:

แม่นกยักษ์เบอร์หนึ่งเธอถือ ปตท. ครึ่งนึง หุ้นบุริมสิทธิ์แบงก์ร้อยปีอีก 1 ใน 7 ตามมาก็หุ้นเจ้าจำปี IRPC, KTB, SCC, BBL etc. หุ้นนกกระจิบจิ๊บๆ อย่าง SSI, VNG ราคาร่วงหนักเลยโดนขายออกจนหมดเกลี้ยง แม่นกยักษ์เบอร์สองเข้ามาก็คงถือแต่หุ้นใหญ่ๆ ตามฟอร์ม หน้าตาคงไม่ต่างกันสักกี่มากน้อย

เนื่องจากคุ้มครองเงินต้น กำไร capital gain มีเท่าไหร่ กระทรวงการคลังฮุบเข้ากระเป๋าตัวเองหมด สินทรัพย์สุทธิต่อหน่วย ก. ไม่มีทางไปไหนได้ไกลสำรองแค่พอจ่ายปันผลไปปีๆ เท่านั้น ดูไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร สิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 10.73 บาท ต่อหน่วย (อยู่แถวๆ 10.60-10.70 บาท มาตั้งนานแล้วนั่นแหละ) หน่วย ข. 21.58 บาท รวมอยู่ที่ 13.99 บาท

ที่น่าสนใจคือกำไรเงินสดของบริษัทสูงขึ้นเรื่อยๆ ปี 48 เพิ่ม 25.1% ปี 49 เพิ่ม 97.8% อัตราปันผลก็เลยสูงขึ้นตาม หลักๆ เป็นเพราะเฮียปอกับคุณทวดใบโพธิ์จ่ายปันผลดี ตอนที่ราคาหน่วยร่วงหนัก อัตราปันผลขึ้นทะลุ 8% ตอนนี้เหลือ 7.9% ราคาหน่วยเธอร่วงมานานแล้วแต่ก็อยู่ใน scale ที่ไม่มาก ตอนอังคารทมิฬ SET ร่วงเกือบ 15% (หุ้นใหญ่ๆ ที่เธอถือน่ะแหละ) แต่คุณเธอร่วงแค่ 4% เท่านั้น

ภาวะเช่นนี้น่าสนใจเพราะเธอติดป้าย on sale discount 15-20% คือสนใจในประเด็นที่ว่า แม่เบอร์หนึ่งเธอลดราคาเช่นนี้ แล้วแม่เบอร์สองจะมาขายราคาพาร์เช่นนั้นหรือเพราะหุ้นที่ถือหลักๆ ก็หน้าตาไม่ต่างกันหรอก เอาไว้ซักพักคงได้เห็นว่าจะขายดิบขายดีรึไม่  8)

[Ryuga]

ที่ยกวายุภักษ์มากล่าวนั่นมิใช่อะไร มันเป็นเพียงเพราะผมสงสัยว่าจะมีการทำราคาวายุภักษ์ 1 กันรึไม่ในวาระที่วายุภักษ์ 2 จะมา ตอนโพสครั้งก่อนยังเห็น 8.80 บาท เดือนกว่าๆ ผ่านไปก็ขึ้นไปไฮในรอบ 17 เดือนที่ 9.40 บาท ดูแล้วตลกดี :lol:

เพราะคุ้มครองเงินต้นและอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ มูลค่าตลาดของหุ้นที่ถือจะขึ้นจะลงอย่างไรคนถือหน่วย ก. ไม่ได้อะไรทั้งนั้น PTT จะขึ้น SCB จะพุ่ง ฯลฯ ไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับผู้ถือหน่วยเลย เกี่ยวข้องกันแต่เฉพาะว่าบริษัทที่ถือหุ้นเขาอยู่นั้นจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นรึไม่ เท่าที่ผ่านมาวายุภักษ์มีกำไรเงินสดเพิ่มขึ้นจากเงินปันผลรับที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาวายุภักษ์กลับไหลลงสวนทางกันอยู่แล้วจึงนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนแบบมั่นคง 8)

ราคาวายุภักษ์ถ้าจะให้เป็นธรรมชาติมันก็ควรขึ้นลงไปตามประมาณการเงินปันผลรับแต่พอดูราคาที่ซื้อขายกันจริงๆ ผมก็เลยตลก :lol:

[miracle]

คุ้มครองเงินต้นจริงหรือครับ
ประเด็นนี้มีคนสงสัยกันมากมาย
สุดท้ายยังไม่ได้ข้อสรุปว่าคนที่ซื้อในตลาดรองได้รับการคุ้มครองหรือเปล่า
แต่กองทุนคุ้มครองสำหรับคนที่ซื้อตลาดแรกแน่นอน อันนี้นอนยันได้

ส่วนเรื่องปันผล กองทุนอาจจะไม่ปันผลทุกปี เพราะพี่แกเขียนไว้ ปันผล 3% ต่อปี แต่ไม่แน่เสมอไปเพราะ มันเล่นเขียนว่าตลอดอายุกองทุน ถ้าปีแรกปันผลมากๆ ปีหลังๆไม่จำเป็นต้องปันผลก็ได้

แถมเครดิตภาษีของผลกองทุน คิดหัก ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งถ้าเอาคืนก็ได้แค่ 10% ที่หักไปเท่านั้น ไม่มีสูตรคิดเห็นเครดิตภาษีของหุ้นบริษัทอื่นๆ ที่มีภาษีซ้อนทำให้ใครลงทุนคิดหนักหน่อยล่ะกัน

ถ้าใครคิดลงทุน ดูกองทุนอื่นๆในตลาดเปรียบเทียบด้วย
และยิ่งดีดูพวกกองทุนผสม เพราะกองทุนนี้เป็นแนวกองทุนผสม

[Ryuga]

พี่ที่คณะผมคนหนึ่งถือวายุภักษ์น่ะครับ ปีแรกได้ปันผลตามขั้นต่ำ 3% (30 สตางค์) ปีถัดมาได้ 6% (60 สตางค์) ปีที่แล้วได้ 7% (70 สตางค์) งวดแรกปีนี้ก็จ่ายแล้วอีก 30 สตางค์ (น้อยกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่ 35 สตางค์) เห็นพี่ท่านสุขภาพจิตดี ไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนเหมือนท่านนักลงทุนหลายๆ ท่าน หุ้นขึ้นก็บ่น หุ้นลงก็บ่น :lol: รู้สึกว่าท่านจะไม่เคยดูเลยด้วยซ้ำไปครับว่าราคาหน่วยวายุภักษ์ร่วงลงมาจากตอนซื้อพอสมควรแย้ว :lol:

เอาไว้ถ้ากองทุนมีรายได้ดอกเบี้ย/เงินปันผล มากๆ แล้วกั๊กไว้ไม่จ่ายให้ผู้ถือหน่วย ผมจะตามไปแฉละกัน  :mrgreen: