สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 1
จากสูตรของ เบนจามิน เกรแฮม บอกว่าให้ซื้อหุ้นเมื่อ
ราคาหุ้น = 2/3 (ทรัพย์สินหมุนเวียน - หนี้สิน)
แสดงว่า เมื่อเราพบหุ้นที่มีราคาตามสูตรนี้ หรือถูกกว่า ต้องซื้อสถานเดียว หรือเปล่าครับ หรือยังต้องพิจารณาประเด็นใดประกอบการตัดสินใจด้วยครับ
ขอรบกวนพี่ ๆ ชาว VI โปรดให้คำชี้แนะด้วยครับ :D :D :D
ราคาหุ้น = 2/3 (ทรัพย์สินหมุนเวียน - หนี้สิน)
แสดงว่า เมื่อเราพบหุ้นที่มีราคาตามสูตรนี้ หรือถูกกว่า ต้องซื้อสถานเดียว หรือเปล่าครับ หรือยังต้องพิจารณาประเด็นใดประกอบการตัดสินใจด้วยครับ
ขอรบกวนพี่ ๆ ชาว VI โปรดให้คำชี้แนะด้วยครับ :D :D :D
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 2
ผมว่าในโลกนี้มันไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัวหรอกครับ จะใช้ให้ดีมันต้องประยุกต์ให้ถูกที่ถูกเวลา ดูจากสูตรอย่างเดียวแบบนี้ถ้าแค่เปลี่ยนนโยบายทางบัญชีตัวเลขก็เปลี่ยนแล้วครับ ไม่นับว่าใช้มาตรฐานบัญชีเหมือนกันด้วยหรือเปล่า อีกอย่างสมัยอดีตนั้นเกรแฮมน่าจะอยู่ในยุด manufacturing based แต่ปัจจุบันนั้นบริษัทที่น่าจะอยู่ได้ในระยะยาวน่าจะหันมาเป็นพวก service based มากขึ้นแล้ว.....นี่เป็นเหตุผลบางอย่างนะครับที่ผมคิดว่าสูตรนี้ไม่ได้จะเป็น ultimate solution สำหรับการลงทุน
Impossible is Nothing
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 3
net-net asset value ไม่ใช่น้อยกว่า 1/3 เหรอ
ว่าแต่หาได้ด้วยเหรอครับ?
เป็นผม ถ้าหาเจอผมซื้อนะ
ว่าแต่ว่าอาจารย์เกรแฮม ทำแบบนี้ แต่ก็ซื้อกระจายกันไปหลายๆตัวนี่ครับ
ว่าแต่หาได้ด้วยเหรอครับ?
เป็นผม ถ้าหาเจอผมซื้อนะ
ว่าแต่ว่าอาจารย์เกรแฮม ทำแบบนี้ แต่ก็ซื้อกระจายกันไปหลายๆตัวนี่ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 4
ถ้าจำไม่ผิดสูตรนี้
2/3 ของสินทรัพย์หมุนเวียน-หนี้หมุนเวียนครับ
ข้อควรระวังคือกรณีหุ้นอสังหา จะบันทึกบ้านรอขาย(รวมทั้งต้นทุนดอกเบี้ย)เป็นสินทรัพย์หมุนเวียน ต้องระวังคือจะขายบ้านเหล่านี้ได้หรือเปล่า หรือถ้าจะขายให้ได้จริงๆ ต้องลดราคาลงมามากๆ
2/3 ของสินทรัพย์หมุนเวียน-หนี้หมุนเวียนครับ
ข้อควรระวังคือกรณีหุ้นอสังหา จะบันทึกบ้านรอขาย(รวมทั้งต้นทุนดอกเบี้ย)เป็นสินทรัพย์หมุนเวียน ต้องระวังคือจะขายบ้านเหล่านี้ได้หรือเปล่า หรือถ้าจะขายให้ได้จริงๆ ต้องลดราคาลงมามากๆ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 5
เอ๋ แต่ในบทความของ Thaivi นี้ page 57 เรื่องการลงทุนแบบก้นบุหรี่
เขียนไว้ว่า 1/3 ของ net - net asset value นี่ครับ
ผมพลาดอะไรไปเหรอ :?
เดี๋ยวลองไปเปิด The Intelligent Investor อีกที
เขียนไว้ว่า 1/3 ของ net - net asset value นี่ครับ
ผมพลาดอะไรไปเหรอ :?
เดี๋ยวลองไปเปิด The Intelligent Investor อีกที
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 6
[quote="ดาวหางสีแดง"]เอ๋ แต่ในบทความของ Thaivi นี้
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
เคยศึกษาไว้
โพสต์ที่ 7
ผมเคยอ่านและศึกษาเรื่องนี้ไว้ครับ แต่ไม่ได้ติดตามต่อ เลยไม่ทราบว่าผลเป็นไงครับ แต่เท่าที่ได้ทราบจากรายงานการศึกษาของต่างประเทศได้ผลพอสมควรครับ
กระทู้ที่เคยโพสท์ ลองเข้าไปดูนะครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... t=nets+net
กระทู้ที่เคยโพสท์ ลองเข้าไปดูนะครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... t=nets+net
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
ดูผลย้อนหลัง
โพสต์ที่ 8
หากดูผลย้อนหลัง หากซื้อเฉลี่ยเท่าๆกันทุกตัว ที่เข้าเกณฑ์ คือ
1)choti
2)tiw
3)nvl
4)thip
5)noble
จากวันนั้นถึงวันนี้ upside gain เพิ่มขึ้นเฉลี่ย5 % กว่าๆ ครับ แต่หากรวมปันผลด้วย เท่าไหร่ เดี๋ยวจะลองแกะตัวเลขออกมาให้ครับ
1)choti
2)tiw
3)nvl
4)thip
5)noble
จากวันนั้นถึงวันนี้ upside gain เพิ่มขึ้นเฉลี่ย5 % กว่าๆ ครับ แต่หากรวมปันผลด้วย เท่าไหร่ เดี๋ยวจะลองแกะตัวเลขออกมาให้ครับ
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณครับ คุณ chartchai
-
- Verified User
- โพสต์: 384
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 10
Ben Graham เป็นคนซื้อหุ้นเน้น "ถูก" ครับ ไม่ค่อยได้สนใจคุณภาพ
จากสูตรก็จะเห็นได้ว่าแกเน้นซื้อของถูกกว่ามูลค่าสินทรัพย์ขณะนั้นคือให้แค่2/3
เข้าใจว่า สูตรนี้ Graham ใช้ตอนที่ตลาดตกต่ำมากๆแล้วก็ซื้อกระจายๆไป พอเศรษฐกิจกลับมาดี ก็มีตัวที่ฟื้นกลับมาได้บ้าง แต่ก็คงมีตัวที่ล้มหายตายจากไปบ้าง แต่รวมๆแล้วก็กำไร
ประเด็นคือ สูตรนี้ มันวัด net asset value ครับ มันไม่ได้วัด profitability หรือประสิทธิภาพการทำกำไร
จากสูตรก็จะเห็นได้ว่าแกเน้นซื้อของถูกกว่ามูลค่าสินทรัพย์ขณะนั้นคือให้แค่2/3
เข้าใจว่า สูตรนี้ Graham ใช้ตอนที่ตลาดตกต่ำมากๆแล้วก็ซื้อกระจายๆไป พอเศรษฐกิจกลับมาดี ก็มีตัวที่ฟื้นกลับมาได้บ้าง แต่ก็คงมีตัวที่ล้มหายตายจากไปบ้าง แต่รวมๆแล้วก็กำไร
ประเด็นคือ สูตรนี้ มันวัด net asset value ครับ มันไม่ได้วัด profitability หรือประสิทธิภาพการทำกำไร
แมนยู โรม่า ลิสบอน เคี๊ยฟ
หมาป่าสู้สู้
หมาป่าสู้สู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 11
ผมอ่านหนังสือ 2 เล่มให้สูตร Net-net asset value ไว้ไม่เหมือนกันครับ เล่มแรก บอกว่า 2/3 ของ net-net asset อีกเล่มบอกว่า 1/3 ของ net-net asset แต่ผมคิดว่าอยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคนนะครับ เพราะอย่างไรซะบริษัทที่มีหนี้สินน้อยกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนก็คงไม่เจ๊งในระยะสั้น หรือถ้าเจ๊งก็ยังพอมีเงินเหลือมาถึงผู้ถือหุ้น
อีกอย่างไม่ว่า อ.เกรแฮม หรือ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่ใช้สูตรนี้ต่างให้ความเห็นตรงกันอย่างหนึ่งคือ หุ้นที่หาได้จากวิธีคำนวณนี้เปรียบเสมือนหุ้นร้อนครับ ถ้าราคาขึ้นไปไม่มากก็ต้องรีบขาย เพราะวิธีดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์เพียงงบดุลเท่านั้นไม่ได้วิเคราะห์ตัวธุรกิจประกอบ
ดังนั้นถ้าถามว่าหากเจอหุ้นที่เข้าข่ายดังกล่าว ผมคิดว่าผมจะซื้อแล้วรอทำกำไรระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี)
อีกอย่างไม่ว่า อ.เกรแฮม หรือ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่ใช้สูตรนี้ต่างให้ความเห็นตรงกันอย่างหนึ่งคือ หุ้นที่หาได้จากวิธีคำนวณนี้เปรียบเสมือนหุ้นร้อนครับ ถ้าราคาขึ้นไปไม่มากก็ต้องรีบขาย เพราะวิธีดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์เพียงงบดุลเท่านั้นไม่ได้วิเคราะห์ตัวธุรกิจประกอบ
ดังนั้นถ้าถามว่าหากเจอหุ้นที่เข้าข่ายดังกล่าว ผมคิดว่าผมจะซื้อแล้วรอทำกำไรระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี)
สติมา ปัญญาเกิด
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณพี่ ๆ ทุก ๆ ท่านที่ช่วยชี้แนะครับ :D :D :D
ได้ความรู้มากมายเลยครับ :D :D :D :D :D
ได้ความรู้มากมายเลยครับ :D :D :D :D :D
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 13
เห็นสูตรแล้วนึกถึง CHUO ยังตราตรึงมิเสื่อมคลาย
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 14
รบกวนพี่ little boy ช่วยแชร์ประสบการณ์ให้เป็นวิทยาทานหย่อยสิครับ :D :D :D
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 15
[quote="Vassili Zaitsev"]รบกวนพี่ little boy ช่วยแชร์ประสบการณ์ให้เป็นวิทยาทานหย่อยสิครับ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 16
ผมขออนุญาต เอาบางส่วนของบทความเรื่อง "การลงทุนแบบก้นบุหรี่" ใน กรุงเทพธุรกิจ Bizweek ฉบับวันที่ 24 - 30 กันยายน 2547 และอยู่ในบทความเก่าๆของ Thaivi แห่งนี้ด้วย มาลงนะครับ
"วิธีคิดในการเลือกซื้อหุ้นตามแบบก้นบุหรี่นี้ต้องใช้งบการเงิน โดยเฉพาะงบดุลเป็นสำคัญครับ เพราะเราต้องหา NET-net Asset Value บางท่านเรียกหุ้นแบบนี้ว่า 'NET-NET Stock' อย่าเข้าใจผิดว่าซื้อเช้า ขายสาย หรือซื้อสายขายบ่าย หรือถ้าเหลือความหวังเล็กๆ น้อยเข้าสนามรบตอนเช้าแล้วขอตายตอนปิดตลาดนะครับ
NET-NET Stock นี้ซื้อแล้วถือรอราคาปรับตัวขึ้น ใช้เวลาพอสมควรนะครับ ไม่เสี่ยงขนาดนั้น การลดความเสี่ยงของการลงทุนแบบนี้ใช้การวิเคราะห์งบดุล และกระจายความเสี่ยงไปในหุ้นแบบนี้หลายๆ บริษัท
สูตรของ NET-net Asset Value เป็นดังนี้ครับ
NET-net Asset Value = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน - หนี้สินระยะยาว
จะเห็นว่า NET-net Asset Value คือเอาสินทรัพย์หมุนเวียนมาหักเอาหนี้สินทั้งสั้นและยาวออกให้หมด สังเกตว่าเขาไม่เอาสินทรัพย์คงที่หรือ Fixed Assets มาคิดเลย ยังไม่พอนะครับ เราจะต้องซื้อหุ้นแบบนี้ในราคา 1/3 NET-net Asset Value อีกต่างหาก
ลำพังหาหุ้นที่ NET-net Asset Value ต่ำกว่าราคาหุ้นก็ยากอยู่แล้ว นี่ต้องหาหุ้นที่ต่ำกว่า NET-net Asset Value ถึงสามเท่าอีก ยิ่งไปกันใหญ่ ผมเคยหาตอนตลาดประมาณ 200 - 300 จุด เอาหุ้นที่กำลังซื้อขายได้ก็ยังหาไม่เจอเลยครับ ที่มีอยู่ก็กำลังจะไปไม่รอดแล้วครับ
เมื่อหาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร มีลูกศิษย์ของอาจารย์เกรแฮมท่านหนึ่งคือ Walter Schlosse ได้ใช้หลักการ NET-net Asset Value ก่อนแต่หลังๆ ใช้ไม่ได้ เขาเลยใช้ สินทรัพย์ที่จับต้องได้ทั้งหมดหรือ Total tangible Assets หักด้วยหนี้สินระยะสั้นหรือ Current Liabilities มาหักลบกัน
แล้วมองหาหุ้นที่ราคาต่ำกว่าค่าที่หาได้นั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาต่ำกว่าค่าที่หาได้ถึงสามเท่าครับ ซึ่งก็ใช้ได้ผลดี เพราะถ้าดูแล้ว(ตามความเห็นของผม) เราควรเอาสินทรัพย์ที่มีตัวตนทั้งหมดเช่นโรงงาน เครื่องจักรที่ยังใช้งานได้ สินค้าคงเหลือ และลูกหนี้ที่ยังไม่เป็นหนี้สูญเพราะเห็นอยู่ว่ามันมีอยู่จริง ส่วนหนี้สินระยะสั้นหรือ Current Liabilities ต้องตัดออกแน่ๆ เพราะยังไงต้องจ่ายเจ้าหนี้ภายในหนึ่งปี
หากไม่มีจ่ายเราไม่ควรไปยุ่งเพราะบริษัทก็คงไม่มีเหลือจ่ายผู้ถือหุ้นเหมือนกัน ส่วนหนี้สินระยะยาวนั้นเชื่อว่าหากบริษัทยังพอไปได้เจ้าหนี้ก็ยังคงยอมประนอมหนี้ให้ได้ ไม่น่าห่วงนักซึ่งเราก็เห็นกรณีอย่านี้มากมาย เช่นแปลงหนี้เป็นทุน ลดหนี้ ตัดดอก เป็นต้น"
เรียนถามคุณ Little Boy ครับ ตามที่ผมเข้าใจแล้ว CHUO ยังไม่เข้าข่ายหุ้นในการลงทุนของเกรแฮม แต่อาจจะเข้าข่ายของ สลอส ใช่ไหมครับ ?
"วิธีคิดในการเลือกซื้อหุ้นตามแบบก้นบุหรี่นี้ต้องใช้งบการเงิน โดยเฉพาะงบดุลเป็นสำคัญครับ เพราะเราต้องหา NET-net Asset Value บางท่านเรียกหุ้นแบบนี้ว่า 'NET-NET Stock' อย่าเข้าใจผิดว่าซื้อเช้า ขายสาย หรือซื้อสายขายบ่าย หรือถ้าเหลือความหวังเล็กๆ น้อยเข้าสนามรบตอนเช้าแล้วขอตายตอนปิดตลาดนะครับ
NET-NET Stock นี้ซื้อแล้วถือรอราคาปรับตัวขึ้น ใช้เวลาพอสมควรนะครับ ไม่เสี่ยงขนาดนั้น การลดความเสี่ยงของการลงทุนแบบนี้ใช้การวิเคราะห์งบดุล และกระจายความเสี่ยงไปในหุ้นแบบนี้หลายๆ บริษัท
สูตรของ NET-net Asset Value เป็นดังนี้ครับ
NET-net Asset Value = สินทรัพย์หมุนเวียน - หนี้สินหมุนเวียน - หนี้สินระยะยาว
จะเห็นว่า NET-net Asset Value คือเอาสินทรัพย์หมุนเวียนมาหักเอาหนี้สินทั้งสั้นและยาวออกให้หมด สังเกตว่าเขาไม่เอาสินทรัพย์คงที่หรือ Fixed Assets มาคิดเลย ยังไม่พอนะครับ เราจะต้องซื้อหุ้นแบบนี้ในราคา 1/3 NET-net Asset Value อีกต่างหาก
ลำพังหาหุ้นที่ NET-net Asset Value ต่ำกว่าราคาหุ้นก็ยากอยู่แล้ว นี่ต้องหาหุ้นที่ต่ำกว่า NET-net Asset Value ถึงสามเท่าอีก ยิ่งไปกันใหญ่ ผมเคยหาตอนตลาดประมาณ 200 - 300 จุด เอาหุ้นที่กำลังซื้อขายได้ก็ยังหาไม่เจอเลยครับ ที่มีอยู่ก็กำลังจะไปไม่รอดแล้วครับ
เมื่อหาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร มีลูกศิษย์ของอาจารย์เกรแฮมท่านหนึ่งคือ Walter Schlosse ได้ใช้หลักการ NET-net Asset Value ก่อนแต่หลังๆ ใช้ไม่ได้ เขาเลยใช้ สินทรัพย์ที่จับต้องได้ทั้งหมดหรือ Total tangible Assets หักด้วยหนี้สินระยะสั้นหรือ Current Liabilities มาหักลบกัน
แล้วมองหาหุ้นที่ราคาต่ำกว่าค่าที่หาได้นั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาต่ำกว่าค่าที่หาได้ถึงสามเท่าครับ ซึ่งก็ใช้ได้ผลดี เพราะถ้าดูแล้ว(ตามความเห็นของผม) เราควรเอาสินทรัพย์ที่มีตัวตนทั้งหมดเช่นโรงงาน เครื่องจักรที่ยังใช้งานได้ สินค้าคงเหลือ และลูกหนี้ที่ยังไม่เป็นหนี้สูญเพราะเห็นอยู่ว่ามันมีอยู่จริง ส่วนหนี้สินระยะสั้นหรือ Current Liabilities ต้องตัดออกแน่ๆ เพราะยังไงต้องจ่ายเจ้าหนี้ภายในหนึ่งปี
หากไม่มีจ่ายเราไม่ควรไปยุ่งเพราะบริษัทก็คงไม่มีเหลือจ่ายผู้ถือหุ้นเหมือนกัน ส่วนหนี้สินระยะยาวนั้นเชื่อว่าหากบริษัทยังพอไปได้เจ้าหนี้ก็ยังคงยอมประนอมหนี้ให้ได้ ไม่น่าห่วงนักซึ่งเราก็เห็นกรณีอย่านี้มากมาย เช่นแปลงหนี้เป็นทุน ลดหนี้ ตัดดอก เป็นต้น"
เรียนถามคุณ Little Boy ครับ ตามที่ผมเข้าใจแล้ว CHUO ยังไม่เข้าข่ายหุ้นในการลงทุนของเกรแฮม แต่อาจจะเข้าข่ายของ สลอส ใช่ไหมครับ ?
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณมากครับ พี่ little boy และพี่ดาวหางสีแดง
พี่ little boy
โห !! ขนาดพี่ดูละเอียดอย่างนี้ แล้วยังพลาดได้ :oops: (มีการสอบถามคนในวงการธุรกิจที่จะลงทุนก่อนด้วย ซึ่งผมไม่เคยเลย :lol: :oops: ) สงสัย ต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนตัวไหน ผมคงต้องพิจารณาให้ละเอียดกว่านี้อีกหลายเท่าเลยครับ :x :x :x
พี่ดาวหางสีแดง
ผมขออนุญาตแสดงความเห็นด้วยนะครับ ผมคิดว่าการนำสินทรัพย์ทั้งหมดมาคิดอาจจะไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก เพราะว่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนทั้งหมด เช่น เครื่องจักร ยานพาหนะ หรือลูกหนี้ อาจจะด้อยค่าลงกว่าที่ประเมินไว้ในงบได้ครับ (แต่ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า ในการประเมินสินทรัพย์ของกิจการ ควรคิดยังไงจึงจะใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดครับ :lol: ) ส่วนหนี้สิน ผมกลับเห็นด้วยกับ เกรแฮม ครับ คือ ควรนำหนี้สินทั้งหมดมาคิด เพราะสุดท้ายแล้ว หากกิจการต้องปิดไปจริง ๆ ก็ต้องชำระหนี้ให้หมดก่อน ทั้งหนี้สินระยะสั้น และระยะยาว ส่วนที่เหลือจากนั้นถึงจะคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญครับ
ยังไงพี่ช่วยแชร์ไอเดียอีกทีนะครับ :D :D :D
พี่ little boy
โห !! ขนาดพี่ดูละเอียดอย่างนี้ แล้วยังพลาดได้ :oops: (มีการสอบถามคนในวงการธุรกิจที่จะลงทุนก่อนด้วย ซึ่งผมไม่เคยเลย :lol: :oops: ) สงสัย ต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนตัวไหน ผมคงต้องพิจารณาให้ละเอียดกว่านี้อีกหลายเท่าเลยครับ :x :x :x
พี่ดาวหางสีแดง
ผมขออนุญาตแสดงความเห็นด้วยนะครับ ผมคิดว่าการนำสินทรัพย์ทั้งหมดมาคิดอาจจะไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก เพราะว่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนทั้งหมด เช่น เครื่องจักร ยานพาหนะ หรือลูกหนี้ อาจจะด้อยค่าลงกว่าที่ประเมินไว้ในงบได้ครับ (แต่ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า ในการประเมินสินทรัพย์ของกิจการ ควรคิดยังไงจึงจะใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดครับ :lol: ) ส่วนหนี้สิน ผมกลับเห็นด้วยกับ เกรแฮม ครับ คือ ควรนำหนี้สินทั้งหมดมาคิด เพราะสุดท้ายแล้ว หากกิจการต้องปิดไปจริง ๆ ก็ต้องชำระหนี้ให้หมดก่อน ทั้งหนี้สินระยะสั้น และระยะยาว ส่วนที่เหลือจากนั้นถึงจะคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญครับ
ยังไงพี่ช่วยแชร์ไอเดียอีกทีนะครับ :D :D :D
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 18
หากว่ากันตาม net - net stock ของ เกรแฮม แล้ว
ถ้าหาเจอ ผมคิดว่า ผมเอา ครับ
หลักการนี้ ผมว่ามันเป็นการทำตามหลักการว่าซื้อเมื่อ "ราคา ต่ำกว่า มูลค่า"
อย่างตรงประเด็นมาก
การหาหุ้นแบบนี้ใช้งบดุลเป็นหลัก ซึ่ง งบดุลหลอกกันได้ ยาก กว่างบกำไรขาดทุน (แม้จะยังหลอกกันได้อยู่)
ในกรณีสินทรัพย์หมุนเวียน อาจจะต้องพิจารณาสินค้าคงคลังเป็นพิเศษหน่อย
Margin of Safety ก็เยอะมาก แถมถ้าหาได้มากๆ เหมือนสมัยอาจารย์เกรแฮม
แล้วกระจายกันไปในหุ้น หลายๆตัว ก็เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ
ถ้าหาเจอ ผมคิดว่า ผมเอา ครับ
หลักการนี้ ผมว่ามันเป็นการทำตามหลักการว่าซื้อเมื่อ "ราคา ต่ำกว่า มูลค่า"
อย่างตรงประเด็นมาก
การหาหุ้นแบบนี้ใช้งบดุลเป็นหลัก ซึ่ง งบดุลหลอกกันได้ ยาก กว่างบกำไรขาดทุน (แม้จะยังหลอกกันได้อยู่)
ในกรณีสินทรัพย์หมุนเวียน อาจจะต้องพิจารณาสินค้าคงคลังเป็นพิเศษหน่อย
Margin of Safety ก็เยอะมาก แถมถ้าหาได้มากๆ เหมือนสมัยอาจารย์เกรแฮม
แล้วกระจายกันไปในหุ้น หลายๆตัว ก็เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 19
เข้าข่ายหรือไม่ ถ้าคิดจากราคาที่ผมซื้อก็คงไม่ครับ แค่เฉียดๆ 2/3 แต่ถ้าคนที่ซื้อต่ำกว่าผม ผมเข้าใจว่าน่าจะเข้าข่ายนะ แต่ถ้าคิดจาก 1/3 ก็คงห่างไกลเลยล่ะครับดาวหางสีแดง เขียน: เรียนถามคุณ Little Boy ครับ ตามที่ผมเข้าใจแล้ว CHUO ยังไม่เข้าข่ายหุ้นในการลงทุนของเกรแฮม แต่อาจจะเข้าข่ายของ สลอส ใช่ไหมครับ ?
ส่วนเข้าข่ายของ สลอส หรือไม่ ผมไม่ทราบทฤษฎีนี้จริงๆ ครับ (กบในกะลาเจงๆ :shock: ) รบกวนคุณดาวหางสีแดงช่วยชี้แจงหน่อยครับ นึกไม่ออกว่ามันคือวิธีไหน
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
สูตรนี้มีข้อยกเว้นหรือไม่ ???
โพสต์ที่ 20
[quote="Little Boy"][/quote]
เข้าข่ายหรือไม่ ถ้าคิดจากราคาที่ผมซื้อก็คงไม่ครับ แค่เฉียดๆ 2/3 แต่ถ้าคนที่ซื้อต่ำกว่าผม ผมเข้าใจว่าน่าจะเข้าข่ายนะ แต่ถ้าคิดจาก 1/3 ก็คงห่างไกลเลยล่ะครับ
ส่วนเข้าข่ายของ สลอส หรือไม่ ผมไม่ทราบทฤษฎีนี้จริงๆ ครับ (กบในกะลาเจงๆ
เข้าข่ายหรือไม่ ถ้าคิดจากราคาที่ผมซื้อก็คงไม่ครับ แค่เฉียดๆ 2/3 แต่ถ้าคนที่ซื้อต่ำกว่าผม ผมเข้าใจว่าน่าจะเข้าข่ายนะ แต่ถ้าคิดจาก 1/3 ก็คงห่างไกลเลยล่ะครับ
ส่วนเข้าข่ายของ สลอส หรือไม่ ผมไม่ทราบทฤษฎีนี้จริงๆ ครับ (กบในกะลาเจงๆ