ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 1
ขอตั้งกระทู้เรื่องนี้โดยเฉพาะ
เพราะเห็นว่าเมืองไทยคำพูดนั้นไม่ค่อยศักดิ์สิทธิ์ซักเท่าไร
และผู้บริหารชอบพูดแต่เรื่องอนาคตที่กำลังเกิดขึ้น หรือภาพในอากาศที่ไม่ค่อยพิสูจน์ได้ว่า การลงทุนไปนั้น ลงทุนคุ้มค่าหรือเปล่า ไม่บอกเรื่อง ROI บอกเพียงแต่ว่าลงทุนคุ้มค่าเท่านั้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ ในการลงทุนระยะยาวต้องดูผู้บริหารว่าซื่อสัตย์ซื่อตรง พูดอะไรต้องทำได้ตามที่พูด รักษาคำพูดที่ให้ไว้เสมอ เหมือนสุภาษิตไทยว่า
ดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูแม่ แล้วพวกเราจะดูบริษัทต้องดูที่ตัวผู้บริหารใช่ไหม
เพราะเห็นว่าเมืองไทยคำพูดนั้นไม่ค่อยศักดิ์สิทธิ์ซักเท่าไร
และผู้บริหารชอบพูดแต่เรื่องอนาคตที่กำลังเกิดขึ้น หรือภาพในอากาศที่ไม่ค่อยพิสูจน์ได้ว่า การลงทุนไปนั้น ลงทุนคุ้มค่าหรือเปล่า ไม่บอกเรื่อง ROI บอกเพียงแต่ว่าลงทุนคุ้มค่าเท่านั้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ ในการลงทุนระยะยาวต้องดูผู้บริหารว่าซื่อสัตย์ซื่อตรง พูดอะไรต้องทำได้ตามที่พูด รักษาคำพูดที่ให้ไว้เสมอ เหมือนสุภาษิตไทยว่า
ดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูแม่ แล้วพวกเราจะดูบริษัทต้องดูที่ตัวผู้บริหารใช่ไหม
- เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 2
ผมชอบหลักการต่อจิ๊กซอร์ครับ
จิ๊กซอร์แค่ชิ้นแรกๆ จะวางตรงไหน ยังไม่แน่ใจ...เรามักจะเลือกที่รูปคมๆเห็นรูปทรงชัดๆมาก่อน หรือไม่ก็ตัวที่อยู่ตามขอบภาพ
ชิ้นต่อไป ก็ยังไม่รู้ แต่ก็เริ่มเห็นสภาพการเกาะกุ่มชัดขึ้น...เราอาจไม่ได้รับตัวจิ๊กซอร์มาครบทั้งหมด...แต่เราเริ่มประติดประต่อหลายๆอย่างได้ชัดขึ้น และเริ่มทำนายอะไรได้ดีกว่าเดิม...อาจจะยังไม่ถูก แต่ก็มีโอกาสผิดน้อยลงเรื่อยๆ
....ที่สำคัญคือคนที่ช่างสังเกตุจะเห็นการตอบรับกันเองของจิ๊กซอร์แต่ละกลุ่มว่ามีอะไรผิดปรกติหรือปล่าว...หลายครั้งที่จะรู้สึกว่ามันมีอะไรขัดๆอยู่ และคิดว่ายังไม่ควรปักใจเชื่อว่านี่เป็นตำแหน่งที่ถูกต้องของมันจนกว่าจะเห็นชัดกว่านี้
บางอย่างก็ใช้การสังเกตุ บางอย่างก็เป็นเรื่องของการฝึกฝนและประสพการณ์ บางครั้งก็เป็นเรื่องของพรสวรรค์
คนที่มีโอกาสพบปะเจรจากับผู้คน(โดยเฉพาะระดับบริหาร)หลายรูปแบบจะได้เปรียบในเรื่องของประสพการณ์
เดี๋ยวรอคนอื่นๆมาให้หลักการที่นำมาประกอบการสังเกตุที่เป็นรูปธรรมกว่าอีกทีครับ
จิ๊กซอร์แค่ชิ้นแรกๆ จะวางตรงไหน ยังไม่แน่ใจ...เรามักจะเลือกที่รูปคมๆเห็นรูปทรงชัดๆมาก่อน หรือไม่ก็ตัวที่อยู่ตามขอบภาพ
ชิ้นต่อไป ก็ยังไม่รู้ แต่ก็เริ่มเห็นสภาพการเกาะกุ่มชัดขึ้น...เราอาจไม่ได้รับตัวจิ๊กซอร์มาครบทั้งหมด...แต่เราเริ่มประติดประต่อหลายๆอย่างได้ชัดขึ้น และเริ่มทำนายอะไรได้ดีกว่าเดิม...อาจจะยังไม่ถูก แต่ก็มีโอกาสผิดน้อยลงเรื่อยๆ
....ที่สำคัญคือคนที่ช่างสังเกตุจะเห็นการตอบรับกันเองของจิ๊กซอร์แต่ละกลุ่มว่ามีอะไรผิดปรกติหรือปล่าว...หลายครั้งที่จะรู้สึกว่ามันมีอะไรขัดๆอยู่ และคิดว่ายังไม่ควรปักใจเชื่อว่านี่เป็นตำแหน่งที่ถูกต้องของมันจนกว่าจะเห็นชัดกว่านี้
บางอย่างก็ใช้การสังเกตุ บางอย่างก็เป็นเรื่องของการฝึกฝนและประสพการณ์ บางครั้งก็เป็นเรื่องของพรสวรรค์
คนที่มีโอกาสพบปะเจรจากับผู้คน(โดยเฉพาะระดับบริหาร)หลายรูปแบบจะได้เปรียบในเรื่องของประสพการณ์
เดี๋ยวรอคนอื่นๆมาให้หลักการที่นำมาประกอบการสังเกตุที่เป็นรูปธรรมกว่าอีกทีครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1485
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 3
miracle wrote :
จริงครับ แต่แทนที่จะดูเพียงผู้บริหาร ให้ดูตั้งแต่คณะกรรมการครับ เน้นไปที่เกียรติภูมิ และคุณธรรม จริยธรรม
ตามด้วยระบบการบริหารและตรวจสอบ ,การพัฒนาบุคลากร ส่วนตัวhead ก็ดู ธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทศพิธราชธรรม 10
แต่ตรงที่ "พูดอะไรต้องทำได้ตามที่พูด" ในทางธุรกิจขอยกนะครับ เพราะเป้ามันก็ต้องตั้ง แต่ความสำเร็จ มันก็มีปัจจัยภายนอกเกี่ยวข้อง เอาเป็นทำได้ตามที่พูดซํก 75% ก็โอเคนะครับ เช่น ในรอบ 5 ปี พลาดเป้าไปปีเดียว แต่ได้ทำอย่างเต็มที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
ส่วนตัวผมชอบ ทีม MODERN
ศจ.จิตติ ติงศภัทิย์
"การอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน จะต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ เพื่อผล คือความยุติธรรม
คำว่า บริสุทธิ์ หมายถึง การทำงานและผู้ทำงานจะต้องบริสุทธิ์ ในระหว่างความบริสุทธิ์กับความยุติธรรมนั้น เขาถือว่า ความบริสุทธิ์สำคัญยิ่งกว่าผลคือความยุติธรรม เพราะเหตุว่าเมื่อวิธีการทำงานและผู้ทำงานไม่บริสุทธิ์แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นใช้ไม่ได้ แต่ถ้าวิธีการทำงานมีความบริสุทธิ์แล้ว แม้ว่าจะไม่เกิดผลคือความยุติธรรม ก็อาจมีการแก้ไขได้ เช่น ศาลตัดสินผิดพลาดก็อาจมีการอุทธรณ์ฏีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้ หรือว่าเมื่อกฎหมายออกมาไม่ยุติธรรม ก็อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจว่า ระหว่างความบริสุทธิ์กับความยุติธรรมนั้น ความบริสุทธิ์อยู่หน้าสำคัญยิ่งกว่าผลคือความยุติธรรม
ลองเอาไปประยุกต์กับการลงทุนนะครับ จะเอาระดับบริสุทธิ์หรือเอาระดับยุติธรรม
ซึ่งทั้งหมดนี้ ในการลงทุนระยะยาวต้องดูผู้บริหารว่าซื่อสัตย์ซื่อตรง พูดอะไรต้องทำได้ตามที่พูด รักษาคำพูดที่ให้ไว้เสมอ เหมือนสุภาษิตไทยว่า
ดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูแม่ แล้วพวกเราจะดูบริษัทต้องดูที่ตัวผู้บริหารใช่ไหม
จริงครับ แต่แทนที่จะดูเพียงผู้บริหาร ให้ดูตั้งแต่คณะกรรมการครับ เน้นไปที่เกียรติภูมิ และคุณธรรม จริยธรรม
ตามด้วยระบบการบริหารและตรวจสอบ ,การพัฒนาบุคลากร ส่วนตัวhead ก็ดู ธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทศพิธราชธรรม 10
แต่ตรงที่ "พูดอะไรต้องทำได้ตามที่พูด" ในทางธุรกิจขอยกนะครับ เพราะเป้ามันก็ต้องตั้ง แต่ความสำเร็จ มันก็มีปัจจัยภายนอกเกี่ยวข้อง เอาเป็นทำได้ตามที่พูดซํก 75% ก็โอเคนะครับ เช่น ในรอบ 5 ปี พลาดเป้าไปปีเดียว แต่ได้ทำอย่างเต็มที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต
ส่วนตัวผมชอบ ทีม MODERN
ศจ.จิตติ ติงศภัทิย์
"การอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน จะต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ เพื่อผล คือความยุติธรรม
คำว่า บริสุทธิ์ หมายถึง การทำงานและผู้ทำงานจะต้องบริสุทธิ์ ในระหว่างความบริสุทธิ์กับความยุติธรรมนั้น เขาถือว่า ความบริสุทธิ์สำคัญยิ่งกว่าผลคือความยุติธรรม เพราะเหตุว่าเมื่อวิธีการทำงานและผู้ทำงานไม่บริสุทธิ์แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นใช้ไม่ได้ แต่ถ้าวิธีการทำงานมีความบริสุทธิ์แล้ว แม้ว่าจะไม่เกิดผลคือความยุติธรรม ก็อาจมีการแก้ไขได้ เช่น ศาลตัดสินผิดพลาดก็อาจมีการอุทธรณ์ฏีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้ หรือว่าเมื่อกฎหมายออกมาไม่ยุติธรรม ก็อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจว่า ระหว่างความบริสุทธิ์กับความยุติธรรมนั้น ความบริสุทธิ์อยู่หน้าสำคัญยิ่งกว่าผลคือความยุติธรรม
ลองเอาไปประยุกต์กับการลงทุนนะครับ จะเอาระดับบริสุทธิ์หรือเอาระดับยุติธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 4
ถ้าหากผู้บริหารทำอย่างสุดความสามารถแล้ว ผลที่ออกมาเป็นไงก็รับได้
แต่เมื่อออกมาพูดอะไรแล้ว คำพูดมันเป็นนายของเราแล้ว
ซึ่งส่วนใหญ่ บอกแต่ในแง่ดี แต่ไม่ยอมบอกเรื่องทางถอยไว้ อันนี้เราเปิดโอกาสแล้ว แต่ท่านเหล่านั้นไม่ทำ หรือสื่อลงข่าวไม่ครบ หรือลงข่าวเกินจริงไปก็ต้องดูด้วย
แต่เมื่อออกมาพูดอะไรแล้ว คำพูดมันเป็นนายของเราแล้ว
ซึ่งส่วนใหญ่ บอกแต่ในแง่ดี แต่ไม่ยอมบอกเรื่องทางถอยไว้ อันนี้เราเปิดโอกาสแล้ว แต่ท่านเหล่านั้นไม่ทำ หรือสื่อลงข่าวไม่ครบ หรือลงข่าวเกินจริงไปก็ต้องดูด้วย
- เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 5
เราคงต้องช่วยกันสังเกตุด้วยครับว่าผู้บริหารเริ่มแสดงอะไรแปลกๆออกมาให้เราเห็น...ดูแล้วรู้สึกเหมือนต่อจิ๊กซอร์ไม่ค่อยลงตัว
ขอยกตัวอย่างประเภทกรณีที่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เช่น...ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้เอง ขณะที่ผมเริ่มสนใจหุ้นอยู่บริษัทหนึ่งซึ่งกำลังฮอตมากๆในเวปเรา ผู้บริหารให้ข่าวดีค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารเองก็ขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก และให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการเสริมสภาพคล่อง(พร้อมกับประกาศขายต่ออีกจำนวนมาก) ....ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ และก็ได้โพสต์เข้าไปถามสมาชิกในกระทู้ห้องร้อยคนร้อยหุ้นว่า มีใครรู้สึกแปลกๆแบบผมมั่ง....ดูเหมือนไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ ด้วยความฮ๊อตของหุ้น ....ต่อมาไม่นานถึงเวลาประกาศงบไตรมาส4 ปรากฎว่า บริษัทประกาศเพิ่มทุนและให้Esopกับผู้บริหารรายนั้นสูงมากๆ.... เค้ารู้ตัวก่อนผู้ถือหุ้นรายย่อยและมีโอกาสเตรียมตัวก่อน....สำหรับผมถือเป็นแบล็คลิสต์เลยครับสำหรับท่านนี้
ไม่นานมานี้ผมก็พบอีกบริษัทหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้บริหารเริ่มโม้มากจนผิดปรกติ เค้าเริ่มจับประเด็นโน้นประเด็นนี้มาผสมกันแล้วสรุปว่าบริษัทกำลังไปได้ดี....ผมก็ได้โพสต์เตือนๆไปว่าอย่าเพิ่งปักใจมั่นมากกับเค้า อาจจะทำได้จริงหรือไม่ก็ได้(รู้สึกว่าเค้าโม้มากเพื่อเหตุผลบางอย่าง) ในระยะยาวอาจมีความน่ากังวลอยู่...ตอนนี้ยังไม่เห็นผลครับ และอาจไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นด้วย แต่ด้วยความรู้สึกว่าจิกซอร์ต่อไม่ค่อยลงตัวแล้ว ทำให้ผมรู้สึกลังเลเหมือนกันต้องระวังไว้ก่อน
....ก็แล้วแต่การพิจารณาของแต่ละคนจะตัดสินใจกันเอง ผมก็แค่จับความรู้สึกส่วนตัวออกมาขยายความให้อ่านดูกัน...
ขอยกตัวอย่างประเภทกรณีที่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เช่น...ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้เอง ขณะที่ผมเริ่มสนใจหุ้นอยู่บริษัทหนึ่งซึ่งกำลังฮอตมากๆในเวปเรา ผู้บริหารให้ข่าวดีค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารเองก็ขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก และให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการเสริมสภาพคล่อง(พร้อมกับประกาศขายต่ออีกจำนวนมาก) ....ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ และก็ได้โพสต์เข้าไปถามสมาชิกในกระทู้ห้องร้อยคนร้อยหุ้นว่า มีใครรู้สึกแปลกๆแบบผมมั่ง....ดูเหมือนไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ ด้วยความฮ๊อตของหุ้น ....ต่อมาไม่นานถึงเวลาประกาศงบไตรมาส4 ปรากฎว่า บริษัทประกาศเพิ่มทุนและให้Esopกับผู้บริหารรายนั้นสูงมากๆ.... เค้ารู้ตัวก่อนผู้ถือหุ้นรายย่อยและมีโอกาสเตรียมตัวก่อน....สำหรับผมถือเป็นแบล็คลิสต์เลยครับสำหรับท่านนี้
ไม่นานมานี้ผมก็พบอีกบริษัทหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้บริหารเริ่มโม้มากจนผิดปรกติ เค้าเริ่มจับประเด็นโน้นประเด็นนี้มาผสมกันแล้วสรุปว่าบริษัทกำลังไปได้ดี....ผมก็ได้โพสต์เตือนๆไปว่าอย่าเพิ่งปักใจมั่นมากกับเค้า อาจจะทำได้จริงหรือไม่ก็ได้(รู้สึกว่าเค้าโม้มากเพื่อเหตุผลบางอย่าง) ในระยะยาวอาจมีความน่ากังวลอยู่...ตอนนี้ยังไม่เห็นผลครับ และอาจไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นด้วย แต่ด้วยความรู้สึกว่าจิกซอร์ต่อไม่ค่อยลงตัวแล้ว ทำให้ผมรู้สึกลังเลเหมือนกันต้องระวังไว้ก่อน
....ก็แล้วแต่การพิจารณาของแต่ละคนจะตัดสินใจกันเอง ผมก็แค่จับความรู้สึกส่วนตัวออกมาขยายความให้อ่านดูกัน...
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 6
ที่ชอบที่สุดตอนนี้ ผมยกให้คุณ จเรรัฐปิง ณ มังกรอันเดียวครับ ผมชอบฟังมาก ฟังทีไรขำทุกที
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 8
พี่หมายถึงบริษัทอะไรหรือครับ ถ้าบอกในนี้ไม่ได้รบกวน PM บอกผมสักนิด ผมจะได้ใช้เป็นกรณีศึกษาเพื่อน เขียน:เราคงต้องช่วยกันสังเกตุด้วยครับว่าผู้บริหารเริ่มแสดงอะไรแปลกๆออกมาให้เราเห็น...ดูแล้วรู้สึกเหมือนต่อจิ๊กซอร์ไม่ค่อยลงตัว
ขอยกตัวอย่างประเภทกรณีที่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เช่น...ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้เอง ขณะที่ผมเริ่มสนใจหุ้นอยู่บริษัทหนึ่งซึ่งกำลังฮอตมากๆในเวปเรา ผู้บริหารให้ข่าวดีค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารเองก็ขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก และให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการเสริมสภาพคล่อง(พร้อมกับประกาศขายต่ออีกจำนวนมาก) ....ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ และก็ได้โพสต์เข้าไปถามสมาชิกในกระทู้ห้องร้อยคนร้อยหุ้นว่า มีใครรู้สึกแปลกๆแบบผมมั่ง....ดูเหมือนไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไหร่ ด้วยความฮ๊อตของหุ้น ....ต่อมาไม่นานถึงเวลาประกาศงบไตรมาส4 ปรากฎว่า บริษัทประกาศเพิ่มทุนและให้Esopกับผู้บริหารรายนั้นสูงมากๆ.... เค้ารู้ตัวก่อนผู้ถือหุ้นรายย่อยและมีโอกาสเตรียมตัวก่อน....สำหรับผมถือเป็นแบล็คลิสต์เลยครับสำหรับท่านนี้
ไม่นานมานี้ผมก็พบอีกบริษัทหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้บริหารเริ่มโม้มากจนผิดปรกติ เค้าเริ่มจับประเด็นโน้นประเด็นนี้มาผสมกันแล้วสรุปว่าบริษัทกำลังไปได้ดี....ผมก็ได้โพสต์เตือนๆไปว่าอย่าเพิ่งปักใจมั่นมากกับเค้า อาจจะทำได้จริงหรือไม่ก็ได้(รู้สึกว่าเค้าโม้มากเพื่อเหตุผลบางอย่าง) ในระยะยาวอาจมีความน่ากังวลอยู่...ตอนนี้ยังไม่เห็นผลครับ และอาจไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นด้วย แต่ด้วยความรู้สึกว่าจิกซอร์ต่อไม่ค่อยลงตัวแล้ว ทำให้ผมรู้สึกลังเลเหมือนกันต้องระวังไว้ก่อน
....ก็แล้วแต่การพิจารณาของแต่ละคนจะตัดสินใจกันเอง ผมก็แค่จับความรู้สึกส่วนตัวออกมาขยายความให้อ่านดูกัน...
สติมา ปัญญาเกิด
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 9
ที่ประทับใจไม่รู้ลืมคือที่เค้าบอกว่าจะทำให้ D1 เติบโตยิ่งใหญ่เหมือน Berkshire Hathaway
ไปซื้อกิจการแต่ละอย่างเพิ่มทุนแล้วเพิ่มทุนอีก ซื้อ A-Host จาก IEC (ผีลืมหลุม) P/B 3.3 ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ต้องตอนซื้อไชโยโปรดักชั่น P/B 13 เท่า P/E 55 เท่า
ไปซื้อกิจการแต่ละอย่างเพิ่มทุนแล้วเพิ่มทุนอีก ซื้อ A-Host จาก IEC (ผีลืมหลุม) P/B 3.3 ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ต้องตอนซื้อไชโยโปรดักชั่น P/B 13 เท่า P/E 55 เท่า
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 10
---------------------------------วิธีคิด "เจ้ามือ" น้องสาว "หลี่เหวินซ่ง" "สัณห์จุฑา วิชชาวุธ" นายหญิงแห่ง "ไออีซี"
การหวนคืนยุทธจักรหุ้นของ "หลี่เหวินซ่ง" (สอง วัชรศรีโรจน์) ที่กลับมาในชื่อ "เสี่ยโทนี่" มีการวางตัว...น้องสาวร่วมสายเลือด "สัณห์จุฑา วิชชาวุธ" เข้ามาบริหารอาณาจักร "ไออีซี" (IEC-BLISS-LIVE) วันนี้ "เธอ" ออกจากมุม ยอมเปิดใจเป็นครั้งแรก!!!
---------------------------
"เล่นหุ้นมีกำไร ต้องซื้อบริษัทที่ขาดทุน"
----------------------------
ท่ามกลางข้อสงสัย...ผ่านการเดินเกมที่ซับซ้อนของ "ไออีซี" นายหญิง "สัณห์จุฑา วิชชาวุธ" และ พี่ชาย "สอง วัชรศรีโรจน์" มีสถานะไม่ต่างไปจาก "เจ้ามือ" ในความคิดของนักเก็งกำไร
บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง (ไออีซี) เริ่มตกเป็น "เป้า" การถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจาก "ทางการ" ขณะเดียวกัน ไออีซี ยังถูกมองด้วยว่า เป็นแหล่ง "ชุมนุมเซียนหุ้น" ระดับชาติ
"เรื่องนี้ก็ใช่...แต่พี่ว่ามันก็ทั้งนั้นแหละ!! และคงไม่ใช่มีแค่หุ้น IEC รายเดียว แต่น่าจะมองว่าการที่เซียนหุ้นมาชุมนุมกัน ย่อมแสดงว่า (เซียน) ทุกคนคงต้องเห็นดีแล้ว และเป็นธรรมดาที่สินค้า (หุ้น) ที่มีคนมาสนใจ ก็ต้องมีคนมาชุมนุม
ยิ่งตอนนี้ ไออีซี ถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่ม SET100 แล้วด้วย จะเห็นว่าทุกๆ อย่างมันตัดสินกันด้วย Fact (ข้อเท็จจริง) เพราะฉะนั้น Fact ยังไงก็จะเป็น Fact ของมันวันยังค่ำ สัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไออีซี ชี้แจง
ข้อสังเกตที่ว่า ฐานะการเงินของ "ไออีซี" ยังมีปัญหาเรื่องการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และมีผลขาดทุนสะสมสูงถึง 1,037 ล้านบาท (ณ 31 มี.ค.50)
น้องสาวเสี่ยสอง ตอบทันทีว่า เวลาจะซื้อหุ้นอย่าไปคำนึงว่าบริษัทนั้นกำไรหรือขาดทุน...แต่กลับต้องมองว่า ถึงแม้ว่าบริษัทแห่งนั้นจะขาดทุนอยู่ แต่โอกาสในการแก้ไขปัญหาของบริษัทเป็นยังไง
อย่างสมมติว่า หากวันนี้นักลงทุนจะเข้าไปลงทุนในหุ้นปูนใหญ่ (ปูนซิเมนต์ไทย) เขาจะต้องจ่ายเงินเท่าไร เพราะฉะนั้นเรื่องของการลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนที่เป็นเจ้าของเงินจะสามารถวิเคราะห์ได้เก่งกว่า "นักข่าว" เสียอีก (อย่าไปห่วงแทนเขาเลย)
สัณห์จุฑา ชี้แจงต่อไปว่า ในส่วนของ ไออีซี ผู้บริหารทุกคนต่างพยายามสร้างบริษัทแห่งนี้ให้แข็งแรง ทำธุรกิจให้ดีที่สุด แล้วจึงพรีเซ้นท์ออกไป จากนั้นผู้ลงทุนจะวิเคราะห์ด้วยตัวของเขาเองว่า...สนใจมั้ย ถ้าสนใจก็ซื้อหุ้นเรา
อย่างที่มองกันว่า ไออีซี ยังขาดทุนอยู่...จะลงทุนไปทำไม!
"แต่ถ้าเป็นตัวพี่...พี่จะลงทุนนะ"
เหตุผลอะไรน่ะหรือ! เธอ บอกว่า ก็เพราะการซื้อหุ้นของบริษัทที่ยังขาดทุนอยู่ มันดีตรงที่เราไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ แต่ก็ต้องดูว่าแผนอนาคตของบริษัทแห่งนั้นโอเคหรือไม่ หลักการลงทุนเช่นนี้ เจ้าของเงินทุนคิดเหมือนกันหมด คือ มองหาโอกาสที่จะได้รีเทิร์นว่าเป็นยังไง
ขณะเดียวกัน ยังชวนเป็นประเด็นน่าสนใจ เมื่อ ไออีซี ตัดสินใจขยายอาณาเขตธุรกิจด้วยวิธี "แสวงหากำไร" จากการลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้น EMC, NEP, PLE, LIVE, BLISS และ TCMC โดยหุ้นทุกๆ ตัว ล้วนแต่ถูกมองว่าเป็นหุ้น "เก็งกำไร" ที่ล้วนแต่มี "กลุ่มก๊วนเดียวกัน" เข้ามาร่วมวง
นายหญิงไออีซี ไม่ยอมยืนยันมูลค่าพอร์ตลงทุนของบริษัท โดยระบุว่า ตัวเลขจะไม่ค่อยแน่นอน แต่ละวันมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งบริษัทจะมีทั้งลงทุนสั้นและยาว
เธออธิบายหลักการคร่าวๆ ว่า ไออีซี จะมีคณะกรรมการลงทุนทำหน้าที่อยู่ เมื่อมีการประชุมแต่ละครั้งทางกรรมการจะมีบทสรุปมาให้ว่า ตอนนี้ ไออีซี ถือหุ้นตัวไหนอยู่บ้าง และเท่าไร เพราะฉะนั้น ถ้าตอบไปตอนนี้ เกรงจะไม่ถูก
"หุ้นที่เราจะลงทุน ไม่ว่าบริษัทนั้นจะกำไรหรือขาดทุน แต่หากมีศักยภาพที่จะเติบโตและปัญหาได้รับการแก้ไข มองแล้วมีโอกาสได้กำไร และน่าจะดี ไออีซี ก็จะลงทุน"
ทั้งนี้ นโยบายการลงทุนคงไม่เจาะจงว่า จะต้องเน้นการลงทุนสั้นหรือยาว เธอบอกว่ามันแล้วแต่ว่า หุ้นตัวไหน ประเภทไหน และตามแต่สถานการณ์
"ที่นี่ เราจะมีการลงทุนทุกรูปแบบ"
ประเด็นที่น้องสาวเสี่ยสอง รู้สึกอึดอัด ก็คือ ทุกวันนี้ตลาดหลักทรัพย์จับตาพฤติกรรมของ ไออีซี มากขึ้นเรื่อยๆ
"ตั้งแต่ออกสตาร์ทครึ่งปีหลัง เงินฝรั่งวิ่งเข้ามาตลาดหุ้นทั้งนั้น ราคาหุ้นก็ตูมตามทั้งกระดาน เสร็จแล้วราคาก็กรูกันขึ้นไป พอราคาหุ้น ไออีซี ขยับขึ้นมาด้วย ผลลัพธ์ คือ เราถูกสั่งเบรกทันที (ห้ามซื้อขาย Net Settlement และ Margin Trading) ขณะที่รายอื่นไม่โดนอะไรเลย...อย่างนี้เรียกว่าเลือกปฏิบัติได้หรือเปล่า!!" สัณห์จุฑา ระเบิดอารมณ์ ก่อนระบายต่อไปว่า
"ตอนนี้ฝรั่งแห่เอาเงินเข้ามา ดัชนีตลาด (SET) ขึ้นเท่าไร แล้วมีกี่บริษัทที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมากี่เปอร์เซ็นต์ที่เยอะกว่าไออีซี อีก อย่างนี้เราโดนเลือกปฏิบัติใช่มั้ย!
ผลจากสิ่งนี้ มันกระทบต่อการที่ ไออีซี เตรียมจะไปชักชวนให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน (450 ล้านหุ้น) ในขณะที่ทีมบริหารพยายามทำงานกันหนักเพื่อให้มีรายได้และมียอดขายที่เติบโต"
เมื่อเธอเริ่มผ่อนอารมณ์ ก่อนจะปลอบใจตัวเองว่า แต่เราก็ไม่กดดันนักหรอก ยังสบายๆ เพราะถึงยังไงก็จะมีนักลงทุนที่ฉลาด (มาซื้อหุ้นเรา) ไม่มีใครที่ไหนที่จะโง่มาลงทุนในหุ้นที่ไม่มีความเชื่อมั่นหรอก เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราตรงนี้คือ การสร้างให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น
นายหญิงไออีซี อธิบายต่อถึงแผนเพิ่มทุน 450 ล้านหุ้น ว่า ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และถึงอย่างไร ก็ควรที่จะดำเนินการให้ทันภายในปี 2550 นอกจากนี้จะต้องวิเคราะห์ความพร้อมของนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนด้วยว่า เขาพร้อมแค่ไหน เนื่องจากตอนนี้ยังมีหุ้นตัวอื่นที่เจ้าของเงินสามารถไปลงทุน และมั่นใจตัวรีเทิร์นได้มากกว่าหุ้น ไออีซี
"ดังนั้น หาก ไออีซี ออกหุ้นเพิ่มทุนตอนนี้...ก็คงไม่มีประโยชน์"
หากเป็นอีกสองเดือนข้างหน้า (ประมาณเดือนกันยายน) เมื่อการเลือกตั้งเริ่มชัดเจนมากขึ้น ร่างรัฐธรรมนูญผ่าน การเมืองชัดเจน ความมั่นใจย่อมมี ก็เห็นว่าโอกาสมันเหมาะสมที่ ไออีซี จะเพิ่มทุน
เธอระบุว่า คงจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรทางธุรกิจเป็นหลัก ต้องวิเคราะห์ว่าเมื่อเข้ามาแล้วจะเกิดประโยชน์กับ ไออีซี ได้อย่างไร
เมื่อถามถึงแผนการใช้เงินสดก้อนใหม่ เธอตอบเลี่ยงๆ ว่า บริษัทมีแผนรองรับแน่นอน และมันคงไม่มีประโยชน์ที่จะขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อที่จะเอาเงินมาฝากไว้กินดอกเบี้ยเฉยๆ โดยไม่มีแผนลงทุน
คำถามที่ถามถึงความสัมพันธ์กับ "สอง วัชรศรีโรจน์" เธอยอมรับกับ "สื่อ" เป็นครั้งแรกว่า เป็นพี่น้องกันจริง แต่เข้ามา (บริหารไออีซี) ในฐานะมืออาชีพ
"พี่ทำจริง ไม่งั้นไม่เข้ามาให้เสียชื่อ และจะพิสูจน์ (ฝีมือ) ให้ดู"
http://www.bangkokbizweek.com/20070704/ ... 02365.html
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ออกมาหลายวันแล้วครับ แต่อ่านกี่ทีกี่ทีก็ขำ
เอามาแปะไว้เป็นหลักฐานครับ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 11
ต้องเอาคอลัมน์ติดกันมาให้อ่านด้วย จินตนาการว่าเธอไปเล่นเกมส์ "ตู้ซ่อนเงิน" ท่าจะชนะ :lovl: โกหกเก๊ง เก่ง :lovl:ไม่โลภ...ย่อมไม่ติดกับ ชื่อเสียง "เสื่อม" ไปแล้ว...ไม่หวนคืน
ข้อชวนสงสัยเกี่ยวกับ "ผู้มีบารมีเหนือบริษัท" และประเด็นที่ค้างคาใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มี "ความเสี่ยงสูง" และเป็น Non-Core Business ยิ่งทำให้ชีวิตบั้นปลายของหุ้นไออีซี อาจมีบทสรุปที่ "น่าเป็นห่วง"
นั่นเพราะ วิธีการเติบโตของไออีซี ที่พลิกจาก "เทรดดิ้ง คอมพานี" มาเป็น "โฮลดิ้ง คอมพานี" เน้นการลงทุนใน "แนวหลากหลาย" และ ค่อนข้างมี "วาระซ่อนเร้น" กำลัง "กินทุน" ของบริษัท ไปเรื่อยๆ
ปี 2549 ไออีซี ดำเนินการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงถึง 3 ครั้ง จำนวนหุ้นเพิ่มทุนทั้งสิ้น 198,529,000 หุ้น ได้เงินใหม่เข้ามา 819 ล้านบาท
แต่ล่าสุด ไออีซี ก็ยังเรียกร้องที่จะเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง อีก 450 ล้านหุ้น เพื่อมาแก้ปัญหาการลงทุนที่ผิดพลาดของตัวเอง และพยายามจะ "นั่งทับ" ปัญหาเดิมๆ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง นั่นคือ "วิธีคิด-วิธีลงทุน" ที่ถูกสังคมตั้งคำถาม
ทั้งจาก บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ ที่เน้นลงทุนใน "หุ้นเก็งกำไร" และลงทุนในกิจการที่บริษัทไม่เชี่ยวชาญ
รวมถึง การลงทุนใน บริษัท คริสตัล อะโกร (ไออีซีถือหุ้น 50%) ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศกัมพูชา ประกอบธุรกิจทำสัมปทานป่าไม้ และที่ผ่านมาบริษัทนี้ก็มีค่าใช้จ่าย จำนวน 54 ล้านบาท ที่ไม่มีเอกสารประกอบ
อีกทั้ง บริษัท คริสตัล อะโกร ยังมีชื่อ "สุวิทย์ วิชชาวุธ" (สามีสัณห์จุฑา) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นบุคคลที่หลบหนีคดีปั่นหุ้น KMC ร่วมกับ "สอง" จนคดีหมดอายุความ
หรือ การที่บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ ทำสัญญาซื้อทรัพย์สินกับ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แก๊สโซฮอล์ คอร์ปอเรชั่น (โรงงานเอทานอล) จำนวน 465 ล้านบาท ซึ่งบริษัทดังกล่าวถูกฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาล ในข้อหาฐานความผิด "ยักยอก" ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1464/2550 เป็นต้น
นายหญิงไออีซี สัณห์จุฑา ยืนยันว่า "อย่าเป็นห่วง" เพราะบริษัทจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเอทานอล ให้ทันภายในปลายปี 2550 พร้อมทั้งสัญญาว่า "เงินลงทุนก้อนนี้ จะไม่สูญ" :?:
ขณะเดียวกัน ไออีซี ยังโยกเงินส่วนหนึ่งเข้าไปเก็งกำไรในตลาดหุ้น...และเลือกลงทุนเฉพาะ "หุ้นร้อน" ที่มีความเสี่ยงสูง คำตอบที่ได้รับ ก็คือ ผลการลงทุนในตลาดหุ้นของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 1/2550 พอร์ตของบริษัทขาดทุนไปถึง 77.4 ล้านบาท :shock:
"แต่เราเองก็อยากให้มีกำไร ทำธุรกิจใครๆ ก็อยากกำไรกันทั้งนั้น จะไปลงทุนเพื่อให้ขาดทุนทำไม เพราะฉะนั้น เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้บริษัทมีกำไรให้ได้
...แต่ต้องมองที่หลักการด้วยว่า ไออีซีก็อยากให้ผู้ถือหุ้นของไออีซีมี "กำไร" (จากราคาหุ้นไออีซี) ด้วยเช่นกัน โดยจะยืนพื้นอยู่บนหลักของคุณธรรม"
เมื่อถามว่า หุ้นที่เคยลงทุนไว้...จะถือไว้นานแค่ไหน และขายออกมาบ้างหรือยัง
เธออ้ำอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนให้คำตอบว่า หากลองย้อนกลับไปเช็คดู หุ้นแต่ละตัวที่ไออีซีลงทุนไว้ มักจะถือไว้นานหรือเปล่า (หัวเราะ)
น้องสาวเสี่ยสอง ยังเปรียบเทียบวิธีการเล่นหุ้นของไออีซีไว้ว่า เหมือนธุรกิจขายมือถือ (ซื้อมา-ขายไป) ของบริษัท
ส่วนนโยบายการลงทุน เมื่อถามว่า บริษัทมีกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร
"ตรงนี้คงไม่สามารถที่จะกำหนด หรือวางกรอบไว้อย่างตายตัว ต้องมองเป็นช่วงเวลาคือตามแต่สถานการณ์ เพราะเมื่อเราลงทุนเสร็จ แล้วถึงช่วงที่สภาพเศรษฐกิจไม่ดี แม้ว่าขาดทุนเราก็ต้องขายทิ้ง ดีกว่าจะปล่อยให้พอร์ตขาดทุนไปมากกว่านี้
...ดังนั้น วิธีการลงทุนคงไม่มีใครตอบได้ 100% ว่าต้องใช้เทคนิคแบบไหน ใครบอกได้ก็คงเป็นเทวดาเป็นเทพไปแล้ว"
ด้วยพฤติกรรมเชิงลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จึงเริ่มมีการตั้งข้อสังเกตอย่างหนักว่า ทุกวันนี้ ไออีซี ทำธุรกิจอะไรกันแน่
สัณห์จุฑา ตอบทิ้งท้ายว่า ธุรกิจที่บริษัทจะเข้าไปลงทุนในอนาคต จะเป็นธุรกิจอะไรก็ได้ ถ้าตรงไหนทำแล้วมีกำไร เราก็ทำทั้งนั้น...คือทำหมดล่ะ!!
ทั้งหมดนี้ คงจะอธิบาย "วิธีคิด" และ "วิธีการลงทุน" ของไออีซี ได้เป็นอย่างดี
-
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 12
iec ขำโคด ๆ
ขำจนfeces แตก feces แตน หมดแล้ว
ขำจนfeces แตก feces แตน หมดแล้ว
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 14
8) เอาด้านสว่างมามั่งนะครับ
เจได ยังมี2ด้านเลย
ผมตามฟัง opp day ของ snc มาเกือบๆ3ปีแล้ว
ท่านประธานsncกล้าพูดมาตลอดว่า
"มีครั้งไหนไหมที่ผมสัญญากับพวกคุณแล้วผมทำไม่ได้มั่ง"
วลีทองแดง เอ๊ย..ทองคำจริงๆ
เจได ยังมี2ด้านเลย
ผมตามฟัง opp day ของ snc มาเกือบๆ3ปีแล้ว
ท่านประธานsncกล้าพูดมาตลอดว่า
"มีครั้งไหนไหมที่ผมสัญญากับพวกคุณแล้วผมทำไม่ได้มั่ง"
วลีทองแดง เอ๊ย..ทองคำจริงๆ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 15
[quote="por_jai"][quote="tanate@man"]iec ขำโคด ๆ
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 18
-------------------------------หลักทรัพย์ D1
หัวข้อข่าว ขอผ่อนผันการส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2550
วันที่/เวลา 14 ส.ค. 2550 20:48:15
ที่ D1EA070132
14 สิงหาคม 2550
เรื่อง ขอผ่อนผันการส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2550
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย ตารางการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชีรายใหม่
ตามที่ บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่ต้องส่งงบการเงินที่สอบทานแล้วโดย
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต สำหรับไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 ให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประ
เทศไทย ("ตลท.") ภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2550 นั้น ปรากฏว่าเกิดความล่าช้าในการจัดทำและ
สอบทานงบการเงินดังกล่าว เนื่องจากเหตุผลดังนี้ :
1. การลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้สอบบัญชีของผู้สอบบัญชีรายเดิมของบริษัท เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้บริษัทมิได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าและมีระยะเวลาในการจัดหาผู้สอบบัญชีราย
ใหม่สั้นมาก
2. การจัดหาผู้สอบบัญชีรายใหม่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเหมือนกรณีปกติทั่วไป
เนื่องจากบริษัทผู้สอบบัญชีส่วนใหญ่มีข้อจำกัดในด้านบุคคลากร และปริมาณงานที่ได้รับไว้แล้วตั้งแต่ต้นปีรอบ
บัญชีเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้บริษัทต้องใช้เวลานานในการจัดหาผู้สอบบัญชี ทั้งนี้ บริษัท สหการบัญชี พี เค
เอฟ จำกัด ได้ตอบรับการเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550
3. บริษัทต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรายใหม่ และค่าธรรมเนียม
การสอบบัญชี ซึ่งบริษัทสามารถจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2550 ได้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2550
รวมถึงผู้สอบบัญชีรายใหม่ต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมของบุคคลกรด้วย จึงทำให้ผู้สอบบัญชีราย
ใหม่สามารถเริ่มเข้าปฏิบัติงานในวันแรกได้เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2550
4. เนื่องจากผู้สอบบัญชีรายใหม่ของบริษัทต้องเข้ารับหน้าที่ระหว่างปี ทำให้การปฏิบัติงาน
ของผู้สอบบัญชีรายใหม่ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินงานเพิ่มขึ้น เพราะต้องตรวจงบการเงินและหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินย้อนหลัง ทั้งประจำปี 2549 และประจำไตรมาสแรกของปี 2550 ของบริษัทและ
บริษัทในเครือทั้งสองแห่ง ได้แก่ บริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด และบริษัท เอวิชั่น จำกัด
ก่อน จึงจะเริ่มสอบทานงบการเงินของไตรมาสที่สองของปี 2550 ของทั้งสามบริษัทได้ ซึ่งผู้สอบบัญชีราย
ใหม่คาดว่า จะสามารถส่งงบการเงินให้บริษัทได้ภายในวันที่ 3 กันยายน 2550 ดังตารางที่แนบท้ายนี้
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น บริษัทจึงไม่อาจส่งงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัท
ประจำไตรมาสที่สองให้ ตลท. ได้ภายในกำหนดสี่สิบห้าวัน นับแต่วันสุดท้ายของไตรมาส ซึ่งตรงกับวันที่ 14
สิงหาคม 2550 ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถส่งงบการเงินดังกล่าวทั้งหมดให้ ตลท. ได้ ภายใน
วันที่ 3 กันยายน2550 และข้อขัดข้องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการสอบทานงบการเงินของบริษัทสำหรับ
ไตรมาสที่สามแต่อย่างใด ทั้งนี้ บริษัทได้ทำหนังสือชี้แจงและขอผ่อนผันการส่งงบการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2550
ไปยังสำนักงาน กลต.แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน กลต.
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์)
กรรมการ
เป็นข่าวที่ฮาสุดที่ผมเห็นของวันเลยครับ
ขอโพสเป็นหลักฐานหน่อยเถอะ :twisted:
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 21
หลักทรัพย์ D1
หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)
วันที่/เวลา 10 ก.ย. 2550 08:40:35
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)
บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน
ปี 2550 2549 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (21,058) (9,461) (43,059) (8,326)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) (0.06) (0.07) (0.12) (0.06)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน
ปี 2550 2549 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 465 (9,461) 1,544 (8,326)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.01 (0.07) 0.01 (0.06)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ )
ตำแหน่ง กรรมการ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
มิน่าล่ะ ผู้สอบบัญชีป่วยกันใหญ่
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 22
จุดของ D1 น่าสนใจ นะครับ
แล้วเวลาที่ ใครสักคน ใน บมจ. หรือที่เกี่ยวข้อง ลาออก เหตุผลแบบออกด้วยสุจริตจริง นี่ จะมีเหตุผลใดบ้างครับ
ช่วยแนะนำเป็นวิทยาทานหน่อยครับ
แล้วเวลาที่ ใครสักคน ใน บมจ. หรือที่เกี่ยวข้อง ลาออก เหตุผลแบบออกด้วยสุจริตจริง นี่ จะมีเหตุผลใดบ้างครับ
ช่วยแนะนำเป็นวิทยาทานหน่อยครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 23
เรื่องจริงเป็นไงก็รายงานมาอย่างงั้นแหละครับ บริสุทธิ์ใจซะอย่าง ใครว่าอะไรก็ไม่ต้องสนใจ :lol:
แต่ D1 นี่ เจ้าของคงทำเวรทำกรรมมาเยอะครับ ใครจะลาออกหรือจะขาดทุน ถ้าส่งงบตรงแต่แรกก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ :lol:
แต่ D1 นี่ เจ้าของคงทำเวรทำกรรมมาเยอะครับ ใครจะลาออกหรือจะขาดทุน ถ้าส่งงบตรงแต่แรกก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ :lol:
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- cryptonian_man
- Verified User
- โพสต์: 585
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อถือของคำพูดผู้บริหาร
โพสต์ที่ 24
มาขำหลายคำพูดของผู้บริหาร อย่าง IEC นี่เขากล้าพูดจังเลยนะครับ
สงสัยต้องเซฟกระทู้นี้เก็บไว้เวลาเครียด จะได้ขำขันคลายเครียดได้
สงสัยต้องเซฟกระทู้นี้เก็บไว้เวลาเครียด จะได้ขำขันคลายเครียดได้
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย