ย้อนหลังปี 01 NI = 10 ล้าน
02 NI = 12 ล้าน
03 NI = 15 ล้าน
04 NI = 17 ล้าน
05 NI = 22 ล้าน
ทั้งหมด 5 ปี ดังนั้น n = 4 , NIo=22 , NIn หรือ NI5 = 10
Compound Average Growth Rate={(22/10)^(1/4)} -1 =0 .2178 หรือ 21.78%
02-04 ทำไมไม่เอามาคิดด้วยครับ
ถ้าเกิด
02 NI = 8 ล้าน
03 NI = 13 ล้าน
04 NI = 14 ล้าน
แบบนี้คำนวณแบบเดิม ผลที่ได้ก็เท่าเดิม
สงสัยครับ
ทำไม Growth Rate ถึงไม่เอา Net Income ปีอื่นๆมาคิดด้วยครับ
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม Growth Rate ถึงไม่เอา Net Income ปีอื่นๆมาคิดด้วยครับ
โพสต์ที่ 2
จริงๆ มันแล้วแต่เราจะนิยามแหละครับ
ลองแบบนี้ดู
ให้ 02 - 01 เป็น G1
03 - 02 เป็น G2
04 - 03 เป็น G3
05 - 04 เป็น G4
แล้วเฉลี่ย G1, G2, G3, G4 แทน
อีกอย่างผมว่า ถ้าเป็นหุ้นที่ cyclical ไม่ควรคำนวณ growth แล้วเอามาหา ราคาเหมาะสมเด็ดขาด เพราะว่า growth มากๆ ก็จะตามมาด้วย decline มากๆ เช่นกัน
และถ้าเราใช้ค่า growth มาให้น้ำหนักกับ PE ก็มีโอกาสติดดอยสูงครับ
ลองแบบนี้ดู
ให้ 02 - 01 เป็น G1
03 - 02 เป็น G2
04 - 03 เป็น G3
05 - 04 เป็น G4
แล้วเฉลี่ย G1, G2, G3, G4 แทน
อีกอย่างผมว่า ถ้าเป็นหุ้นที่ cyclical ไม่ควรคำนวณ growth แล้วเอามาหา ราคาเหมาะสมเด็ดขาด เพราะว่า growth มากๆ ก็จะตามมาด้วย decline มากๆ เช่นกัน
และถ้าเราใช้ค่า growth มาให้น้ำหนักกับ PE ก็มีโอกาสติดดอยสูงครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม Growth Rate ถึงไม่เอา Net Income ปีอื่นๆมาคิดด้วยครับ
โพสต์ที่ 3
อีกวิธีคือการใช้สถิติเข้าช่วยครับ โดยการคำนวณหาค่า growth จาก
อัตราการเติบโตแบบเส้นตรงหรือโพลีโนเมี่ยล
ซึ่งอาจจะแม่นยำกว่า แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะถูกต้อง
เพราะฉะนั้นค่าประมาณจากการคำนวณปีแรกกับปีสุดท้ายก็พอใช้ได้
อยู่แล้ว เพราะเป็นอัตราการเติบโตแบบ annual compound rate ซึ่ง
เหมาะสมดี เพราะการลงทุนของเราก็วัดการเติบโตเป็น IRR ซึ่งก็
เหมือน annual compound rate อยู่แล้ว
เช่นจากตัวอย่างของคุณ ปีแรก 10 ล้าน ถ้าสมมุติอัตราการเติบโตอยู่
ที่ 21.78% จะได้ว่า
ปีที่สอง NI = 10 x 121.78% = 12.18 ล้าน
ปีที่สาม NI = 12.18 x 121.78% = 14.83 ล้าน
ปีที่สี่ NI = 14.83 x 121.78% = 18.06 ล้าน
ปีที่ห้า NI = 18.06 x 121.78% = 21.99 ล้าน
หรือปีที่ห้าเท่ากับ 22 ล้านครับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าปีที่ห้าคุณสามารถ
ทำ net income เท่ากับ 22 ล้าน จากปีแรก 10 ล้าน ก็เหมือนกับคุณ
ทำกำไรได้เฉลี่ยปีละ 21.78%
เหมือนกับว่าถ้าคุณเอาเงิน 10 ล้านไปฝากธนาคาร 4 ปี สุดท้ายคุณ
จะได้เงิน 22 ล้านถ้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 21.78% ต่อปีทั้ง 4 ปี
ดังนั้น ในกการคำนวณอัตราการเติบโตต่อปี จะใช้วิธีนี้เป็นหลักเสมอ
เพื่อให้เปรียบเทียบได้กับการฝากธนาคาร
ในขณะที่ใช้วิธีเอา growth มาเฉลี่ย เวลาคูณต่อปีเข้าไปจะไม่ได้แบบนี้
อัตราการเติบโตแบบเส้นตรงหรือโพลีโนเมี่ยล
ซึ่งอาจจะแม่นยำกว่า แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะถูกต้อง
เพราะฉะนั้นค่าประมาณจากการคำนวณปีแรกกับปีสุดท้ายก็พอใช้ได้
อยู่แล้ว เพราะเป็นอัตราการเติบโตแบบ annual compound rate ซึ่ง
เหมาะสมดี เพราะการลงทุนของเราก็วัดการเติบโตเป็น IRR ซึ่งก็
เหมือน annual compound rate อยู่แล้ว
เช่นจากตัวอย่างของคุณ ปีแรก 10 ล้าน ถ้าสมมุติอัตราการเติบโตอยู่
ที่ 21.78% จะได้ว่า
ปีที่สอง NI = 10 x 121.78% = 12.18 ล้าน
ปีที่สาม NI = 12.18 x 121.78% = 14.83 ล้าน
ปีที่สี่ NI = 14.83 x 121.78% = 18.06 ล้าน
ปีที่ห้า NI = 18.06 x 121.78% = 21.99 ล้าน
หรือปีที่ห้าเท่ากับ 22 ล้านครับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าปีที่ห้าคุณสามารถ
ทำ net income เท่ากับ 22 ล้าน จากปีแรก 10 ล้าน ก็เหมือนกับคุณ
ทำกำไรได้เฉลี่ยปีละ 21.78%
เหมือนกับว่าถ้าคุณเอาเงิน 10 ล้านไปฝากธนาคาร 4 ปี สุดท้ายคุณ
จะได้เงิน 22 ล้านถ้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 21.78% ต่อปีทั้ง 4 ปี
ดังนั้น ในกการคำนวณอัตราการเติบโตต่อปี จะใช้วิธีนี้เป็นหลักเสมอ
เพื่อให้เปรียบเทียบได้กับการฝากธนาคาร
ในขณะที่ใช้วิธีเอา growth มาเฉลี่ย เวลาคูณต่อปีเข้าไปจะไม่ได้แบบนี้