ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 3
ตกลงว่าจุดประสงค์คืออะไรกันครับ
จะแซวก็กลัวโดนว่า..แฮะ แฮะ
หรือต้องการหาหุ้นจากการโหวต
จะแซวก็กลัวโดนว่า..แฮะ แฮะ
หรือต้องการหาหุ้นจากการโหวต
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- petercorp
- Verified User
- โพสต์: 110
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 6
จริงแล้ว ยังไม่เคยจับปลาเองเลย
ซื้อตามในห้องนี้แหละ เดิมมี 5 ตัว PTT PTTEP BANPU SCC UMS
PTTEP ทุน 87 บาท ขายหมูไป 130 บาทแล้ว
SCC ก็ขายทิ้งไปแล้วอืดมาก ขายขาดทุนไปด้วย
USM ขายหมูไปตอน 30 บาท (ทุน 10 บาทก่อนแตกพาร์)
ตอนนี้เหลือ PTT กับ BANPU ยังเก็บไว้
กับเงินเหลืออีก 60 % จะซื้อตัวไหนต่อดี
ซื้อตามในห้องนี้แหละ เดิมมี 5 ตัว PTT PTTEP BANPU SCC UMS
PTTEP ทุน 87 บาท ขายหมูไป 130 บาทแล้ว
SCC ก็ขายทิ้งไปแล้วอืดมาก ขายขาดทุนไปด้วย
USM ขายหมูไปตอน 30 บาท (ทุน 10 บาทก่อนแตกพาร์)
ตอนนี้เหลือ PTT กับ BANPU ยังเก็บไว้
กับเงินเหลืออีก 60 % จะซื้อตัวไหนต่อดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 7
มาถามคุณ petercorp หรือเพื่อนๆท่านอื่นกรณีคุณ petercorp ว่า
ต่อไปจะถือ PTT & BANPU ไว้ หรือขายออกไปดี
อยากทราบความเห็นครับ
ต่อไปจะถือ PTT & BANPU ไว้ หรือขายออกไปดี
อยากทราบความเห็นครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 9
บทความนี้ของคุณวิบูลย์คงตอบคำถามนี้ได้ดีนะครับซื้อหุ้นอะไรดี
Value Way
โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ 12 ตุลาคม 2550
ในช่วงนี้มีรุ่นพี่รุ่นน้องหลายท่านมาสอบถามว่าจะซื้อหุ้นอะไรดี ผู้เขียนมักให้คำตอบทำนองที่ว่า รู้มั๊ยว่า หุ้นบริษัทหนึ่งบางคนซื้อแล้วได้กำไร แต่บางคนซื้อหุ้นตัวเดียวกันกลับขาดทุน ดังนั้นซื้อหุ้นอะไรไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเรามีความรู้ความเข้าใจในหุ้นบริษัทนั้นมากน้อยแค่ไหนมากกว่า บางท่านอาจคิดว่าตนเองโชคไม่ดีที่เข้าซื้อหุ้นผิดจังหวะทำให้ขาดทุน แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในระยะยาวนั้นอาศัยฝีมือมากกว่าโชค
เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุน ก่อนที่จะซื้อหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งนั้น นักลงทุนควรจะต้องทำอย่างไรบ้าง
หนึ่ง ศึกษาบริษัทที่สนใจอย่างละเอียดมีนักลงทุนจำนวนมากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นศึกษาบริษัทจากตรงไหนสมุดรายงานประจำปี แบบฟอร์มการรายงานผลการดำเนินงาน และงบการเงินรายไตรมาศเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการศึกษาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ในเวปไซค์ของตลาดหลักทรัพย์และกลต.จะมีเอกสารต่างๆเหล่านี้ให้ดาวโหลดฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด นอกเหนือจากนั้นการลองใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทนั้นๆจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจในบริษัทมากขึ้นในฐานะลูกค้าของบริษัท ถ้าการบริการไม่ดีหรือสินค้าที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน โอกาสที่บริษัทนั้นๆจะเติบโตขึ้นในอนาคตคงเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายนัก ถึงแม้ผู้บริหารจะวาดแผนการดำเนินงานไว้สวยหรูเพียงใด
การเสาะหาข้อมูลการลงทุนเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล การแปลความหมายของข้อมูลที่ได้รับก็แตกต่างไป นักลงทุนบางท่านอาจคิดว่าบริษัทหนึ่งๆเป็นบริษัทที่ดีน่าสนใจ แต่บางท่านอาจคิดว่าบริษัทนั้นไม่น่าลงทุนก็เป็นไปได้ หลักการสำคัญอยู่ที่ควรจะลงทุนในบริษัทที่เรารู้และเข้าใจเป็นอย่างดี
สอง หามูลค่าของบริษัทนั้นการหามูลค่าหุ้นนั้นเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ หนังสือที่อธิบายถึงวิธีการหามูลค่าหุ้นส่วนใหญ่มักเป็นภาษาอังกฤษ แต่ในช่วงหลังได้รับการแปลออกมาเป็นภาษาไทยหลายเล่ม ก่อนที่นักลงทุนจะซื้อหุ้นใดๆควรเข้าใจเสียก่อนว่า มูลค่าของบริษัทนั้นมีค่าอยู่ประมาณเท่าไหร่
สาม รอจังหวะในการลงทุนข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งของนักลงทุนส่วนใหญ่คือการขาดความอดทน โดยเฉพาะการรอคอย นักลงทุนในตลาดหุ้นจำนวนมากไม่สามารถถือเงินสดอยู่เฉยๆได้ เมื่อมีเงินสดในมือมักคิดว่าต้องนำไปซื้อหุ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เงินสดถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่าอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นเกิดอาการตื่นตระหนก นักลงทุนที่มีเงินสดในมือจะมีโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นที่ดีในราคาถูก
แต่สำหรับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไปหมดแล้วไม่มีเงินสดในมือ มีทางเลือกอยู่สองทางคือ อยู่เฉยๆรอตลาดหุ้นปรับตัวกลับมา หรือถ้าเป็นนักเก็งกำไรก็ต้องตัดขาดทุนไป ซึ่งการที่อยู่เฉยๆอย่างนั้นได้ นักลงทุนต้องมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งกว่าปกติพอสมควร โดยเฉพาะการที่ต้องมองดูราคาหุ้นที่ถืออยู่มีราคาลดลงไปเรื่อยๆ
สำหรับนักลงทุนที่สามารถอดทนรอคอยได้จะพบว่า จังหวะในการลงทุนที่ราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่านั้นมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่บ่อยนัก เมื่อโอกาสในการลงทุนมาถึง เป็นจังหวะดีที่จะเลือกซื้อหุ้นบริษัทที่เราสนใจ ถ้านักลงทุนสามารถทำทุกอย่างตามที่กล่าวมาข้างต้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาข้อมูลของบริษัท การหามูลค่าหุ้นและการรอจังหวะในการลงทุน ถ้าใครทำได้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถามคนอื่นว่าตอนนี้ ซื้อหุ้นอะไรดี
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 10
ผมว่าราคานี้จะเป็นได้metro เขียน:
ล่าสุด Goldman Sach ก้ให้เป้าหมาย บ้านปู 600 กว่า แล้วถ่านหินกำลังขึ้นด้วย ถือๆไปเถอะครับ
....อีกไม่เกิน 10 ปีน่าจะเป็นได้นะครับ (ตูจะโดนว่าไหมเนี่ย :lol: )
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 464
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้ในพอร์ทมีหุ้นตัวไหนกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 11
คนที่จะรวยจากหุ้นโดย คุณวิกรมบอกว่ามีสามข้อ
1. มีข้อมูลข่าวสารมากกว่าคนอื่น
2. มีข้อมูลข่าวสารเหมือนคนอื่น แต่ตีความแตกต่างจากคนอื่น
3. มีข้อมูลข่าวสารและตีความเหมือนคนอื่น แต่ลงมือแตกต่างจากคนอื่น
ผมว่าข้อสามนี่แหละยากที่สุด ตอนลงมือนี่แหละครับโดยเฉพาะหุ้น...
มีข้อมูลเท่ากับคนอื่นในร้อยคนร้อยหุ้น ตีความว่าต้องโต ๆ
แต่ลงมือซื้อนิดเดียว ก้อเลยไม่รวย :lol: :lol: :lol:
1. มีข้อมูลข่าวสารมากกว่าคนอื่น
2. มีข้อมูลข่าวสารเหมือนคนอื่น แต่ตีความแตกต่างจากคนอื่น
3. มีข้อมูลข่าวสารและตีความเหมือนคนอื่น แต่ลงมือแตกต่างจากคนอื่น
ผมว่าข้อสามนี่แหละยากที่สุด ตอนลงมือนี่แหละครับโดยเฉพาะหุ้น...
มีข้อมูลเท่ากับคนอื่นในร้อยคนร้อยหุ้น ตีความว่าต้องโต ๆ
แต่ลงมือซื้อนิดเดียว ก้อเลยไม่รวย :lol: :lol: :lol: