มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
นานแล้วที่ไม่ได้มาโพสต์ที่นี่เพราะไม่ค่อยเล่นหุ้นในแนวVIเท่าไร
เนื่องจากตอนเลือกหุ้นผมมักเลือกหุ้นโดยดูความสามารถของเขาในอนาคตมากกว่าอดีต
แล้วขายออกเมื่อราคาขึ้นโด่งจนอดใจไม่ไหว
ตอนนี้ผมมีหุ้นอยู่1ตัวที่ซื้อเพราะคาดหวังในความสามารถของเขาในอนาคตแต่ถ้าดูอดีตคงไม่เข้าข่ายvalue stock
ปัญหาก็คือผมและเพื่อนซื้อกันเพลินจนถือ1.8%ของหุ้นที่มี...ผมกลัวว่างบการเงินไตรมาสต่อๆไปก็จะออกมาไม่ดีอีก..ทำอย่างไรเราถึงจะตรวจสอบบริษัทได้หรือใช้สิทธิ์วีโต้เรื่องต่างๆได้บ้างครับ(ไม่ได้คิดว่าเขาจะโกงเราแต่เผื่อว่าจำเป็นต้องใช้ครับ)
เนื่องจากตอนเลือกหุ้นผมมักเลือกหุ้นโดยดูความสามารถของเขาในอนาคตมากกว่าอดีต
แล้วขายออกเมื่อราคาขึ้นโด่งจนอดใจไม่ไหว
ตอนนี้ผมมีหุ้นอยู่1ตัวที่ซื้อเพราะคาดหวังในความสามารถของเขาในอนาคตแต่ถ้าดูอดีตคงไม่เข้าข่ายvalue stock
ปัญหาก็คือผมและเพื่อนซื้อกันเพลินจนถือ1.8%ของหุ้นที่มี...ผมกลัวว่างบการเงินไตรมาสต่อๆไปก็จะออกมาไม่ดีอีก..ทำอย่างไรเราถึงจะตรวจสอบบริษัทได้หรือใช้สิทธิ์วีโต้เรื่องต่างๆได้บ้างครับ(ไม่ได้คิดว่าเขาจะโกงเราแต่เผื่อว่าจำเป็นต้องใช้ครับ)
ผลงานอนาคตสำคัญกว่าผลงานปัจจุบัน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
ผมเข้าใจว่า จถือหุ้นในปริมาณมากหรือน้อย
ผู้ถือหุ้นมีสิทธิสอบถามหรือทักท้วงตอนประชุมผู้ถือหุ้นครับ
หากเราถือเยอะหน่อยก็อาจจะทำให้ผู้บริหารรับฟังมากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารจะปฎิบัติตามครับ
ผมเชื่อว่า ทางฝ่ายผู้บริหารก็ต้องมีเสียงสนันสนุนข้างมากอยู่ดี
ดังนั้น อย่างที่เราคุยกันบ่อยครั้งที่นี่ว่า
เราต้องให้น้ำหนักของผู้บริหารในความสามารถ และความโปร่งใส เยอะมากที่เดียว
โดยเฉพาะในกรณีที่เราต้องการซื้อหุ้นบริษัทนั้นเยอะๆ เพราะโอกาสตรวจสอบอาจจะมีไม่มากนัก
ผู้ถือหุ้นมีสิทธิสอบถามหรือทักท้วงตอนประชุมผู้ถือหุ้นครับ
หากเราถือเยอะหน่อยก็อาจจะทำให้ผู้บริหารรับฟังมากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารจะปฎิบัติตามครับ
ผมเชื่อว่า ทางฝ่ายผู้บริหารก็ต้องมีเสียงสนันสนุนข้างมากอยู่ดี
ดังนั้น อย่างที่เราคุยกันบ่อยครั้งที่นี่ว่า
เราต้องให้น้ำหนักของผู้บริหารในความสามารถ และความโปร่งใส เยอะมากที่เดียว
โดยเฉพาะในกรณีที่เราต้องการซื้อหุ้นบริษัทนั้นเยอะๆ เพราะโอกาสตรวจสอบอาจจะมีไม่มากนัก
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 5
หวัดดีคุณ think_pos
ขอร่วมด้วยช่วยตอบนิดนึงครับ
มีหุ้นในบริษัท 1.8% จริงๆ แล้วไม่มีผลกับกิจการเลย จำนวนหุ้นที่มีก็ยังไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปนั่งเป็นผู้บริหาร การจะล้วงลูกไปเจาะข้อมูลภายใน "อย่างถูกกฎหมาย" ก็ไม่มีครับ สรุปว่าคำตอบคือการตรวจสอบล่วงหน้าก่อนที่นักลงทุนรายอื่นๆ ไม่ได้ครับ ยกเว้นมี "ประตูหลัง" นะครับ
ทีนี้ก็มาถึงสิทธิ์ในการประท้วงและโหวต จริงๆ ปริมาณหุ้น 1.8 % ก็ถือว่าเยอะมากนะแต่ว่าถ้าไปเทียบกับบิ๊กๆ ที่อยู่ในห้องประชุมก็ยังแพ้อยู่ดี ยกเว้นจะสามารถระดมเสียงจากรายย่อยอื่นๆ
สรุปแล้วในฐานะรายย่อยเรามักเสียเปรียบเจ้าของบริษัทอยู่แล้วครับ อย่างที่พี่ธันวาว่าไว้คือผู้บริหารที่มีนิสัยพอคบได้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อหุ้นนอกจากอนาคตของบริษัทนะครับ
อ้อ ขอแย้งนอกเรื่องนิดว่า การซื้อหุ้นแบบ value investment ก็ดูอนาคตเหมือนกันนา แต่เค้าดูอดีตเพื่อหา track record เท่านั้นเองครับ
ฝากความคิดถึงถึงทุกท่านที่พันธ์ทิพด้วยคร้าบ
ขอร่วมด้วยช่วยตอบนิดนึงครับ
มีหุ้นในบริษัท 1.8% จริงๆ แล้วไม่มีผลกับกิจการเลย จำนวนหุ้นที่มีก็ยังไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปนั่งเป็นผู้บริหาร การจะล้วงลูกไปเจาะข้อมูลภายใน "อย่างถูกกฎหมาย" ก็ไม่มีครับ สรุปว่าคำตอบคือการตรวจสอบล่วงหน้าก่อนที่นักลงทุนรายอื่นๆ ไม่ได้ครับ ยกเว้นมี "ประตูหลัง" นะครับ
ทีนี้ก็มาถึงสิทธิ์ในการประท้วงและโหวต จริงๆ ปริมาณหุ้น 1.8 % ก็ถือว่าเยอะมากนะแต่ว่าถ้าไปเทียบกับบิ๊กๆ ที่อยู่ในห้องประชุมก็ยังแพ้อยู่ดี ยกเว้นจะสามารถระดมเสียงจากรายย่อยอื่นๆ
สรุปแล้วในฐานะรายย่อยเรามักเสียเปรียบเจ้าของบริษัทอยู่แล้วครับ อย่างที่พี่ธันวาว่าไว้คือผู้บริหารที่มีนิสัยพอคบได้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อหุ้นนอกจากอนาคตของบริษัทนะครับ
อ้อ ขอแย้งนอกเรื่องนิดว่า การซื้อหุ้นแบบ value investment ก็ดูอนาคตเหมือนกันนา แต่เค้าดูอดีตเพื่อหา track record เท่านั้นเองครับ
ฝากความคิดถึงถึงทุกท่านที่พันธ์ทิพด้วยคร้าบ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
สวัสดีครับคุณ Think_Pos
ตอนดร.นิเวศน์เริ่มซื้อ STANLY กับ IRC ทั้งสองเจ้าผลการดำเนินงานย่ำแย่
เหมือนกันครับ แสดงว่าแม้แต่ปรมาจารย์เองก็ซื้อจากผลการดำเนินงานใน
อนาคต ไม่ใช่อดีต
เพียงแต่ว่า VI ส่วนใหญ่ในห้องนี้จะใช้ผลการดำเนินงานในอดีตมาคาด
หมายอนาคตด้วยวิธีการของตัวเอง
กลับมาที่คำถามครับ ถ้าคุณคิดในแง่บวกซื้อ 1.8% ของ ZMICO ก็จะกลาย
เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไปแล้ว แต่ถ้าเป็นหุ้นเจ้าของหวง (ถือรวมกันเกิน 50%)
ก็คงจะไม่มีความหมายครับ ดังนั้น 1.8% จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับบริษัท
ไหนด้วย
ส่วนเรื่องการตรวจสอบ การรวมรายย่อย "มากๆ" รายก็ทำให้เกิดเสียงใหญ่ได้
ครับ เช่นคุณ THINK_POS อาจจะกระจายหุ้นให้ญาติสนิทมิตรสหายหลายๆ
คน คนละ 100-200 หุ้นก็พอ พอรวมกันเป็นหลายสิบคนไปประท้วงตรวจสอบ
ผู้บริหารก็ต้อง "เกรงใจ" ขึ้นเล็กน้อยครับ เพราะกลต.จะสนับสนุนผู้ถือหุ้น
รายย่อยยิบ (แต่มากราย) ด้วยถ้าเกิดการเอารัดเอาเปรียบจากรายใหญ่
ส่วนผม นโยบายเหมือนคุณ ayethebing ครับ ถ้าผู้บริหารคบไม่ได้ ก็จะไม่
เลือกลงทุนยาว จะซื้อขายแบบเทรดดิ้งเท่านั้น
ตอนดร.นิเวศน์เริ่มซื้อ STANLY กับ IRC ทั้งสองเจ้าผลการดำเนินงานย่ำแย่
เหมือนกันครับ แสดงว่าแม้แต่ปรมาจารย์เองก็ซื้อจากผลการดำเนินงานใน
อนาคต ไม่ใช่อดีต
เพียงแต่ว่า VI ส่วนใหญ่ในห้องนี้จะใช้ผลการดำเนินงานในอดีตมาคาด
หมายอนาคตด้วยวิธีการของตัวเอง
กลับมาที่คำถามครับ ถ้าคุณคิดในแง่บวกซื้อ 1.8% ของ ZMICO ก็จะกลาย
เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไปแล้ว แต่ถ้าเป็นหุ้นเจ้าของหวง (ถือรวมกันเกิน 50%)
ก็คงจะไม่มีความหมายครับ ดังนั้น 1.8% จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับบริษัท
ไหนด้วย
ส่วนเรื่องการตรวจสอบ การรวมรายย่อย "มากๆ" รายก็ทำให้เกิดเสียงใหญ่ได้
ครับ เช่นคุณ THINK_POS อาจจะกระจายหุ้นให้ญาติสนิทมิตรสหายหลายๆ
คน คนละ 100-200 หุ้นก็พอ พอรวมกันเป็นหลายสิบคนไปประท้วงตรวจสอบ
ผู้บริหารก็ต้อง "เกรงใจ" ขึ้นเล็กน้อยครับ เพราะกลต.จะสนับสนุนผู้ถือหุ้น
รายย่อยยิบ (แต่มากราย) ด้วยถ้าเกิดการเอารัดเอาเปรียบจากรายใหญ่
ส่วนผม นโยบายเหมือนคุณ ayethebing ครับ ถ้าผู้บริหารคบไม่ได้ ก็จะไม่
เลือกลงทุนยาว จะซื้อขายแบบเทรดดิ้งเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณคุณCKและคุณayethebingมากครับ
ความเห็นของคุณCKน่าสนใจมากตรงที่ว่าถ้ามีผู้ถือหุ้นรายยิบมากรายแล้วผู้บริหารเกรงใจมากขึ้น
ผมขอรบกวนเพื่อนๆที่พอจะร่วมด้วยช่วยกันได้คนละ100-200หุ้นถ้าเพื่อนๆเห็นดีเห็นงามกับการ"ลงทุน"แบบซื้ออนาคต
ผมกับเพื่อนคงไม่ขายหุ้นออกแต่อยากให้เพื่อนๆหาซื้อตามราคาที่ชอบใจในตลาด(ถ้าคิดว่าเหตุผลที่ผมให้มาน่าลงทุนหรืออย่างน้อยก็ถือว่าช่วยผมไปประชุมสักนิด)
ไม่ทราบว่ามีใครสนใจบ้างหรือเปล่าครับ(หุ้นที่ว่านี้ไม่ใช่หุ้นปลายิ้มที่ผมถือมาข้ามปี)
ป.ล.ถ้าเพื่อนๆที่พันทิปมาอ่านอย่าน้อยใจว่าทำไมผมไม่โพสต์ที่โต๊ะสินธรนะครับ...ผมเกรงว่าจะมีรายใหญ่แอบอ่าน,เลยต้องมาปรึกษาเพื่อนทางนี้(ซึ่งก็มีหลายคนไปๆมาๆ2เว็บ)
ความเห็นของคุณCKน่าสนใจมากตรงที่ว่าถ้ามีผู้ถือหุ้นรายยิบมากรายแล้วผู้บริหารเกรงใจมากขึ้น
ผมขอรบกวนเพื่อนๆที่พอจะร่วมด้วยช่วยกันได้คนละ100-200หุ้นถ้าเพื่อนๆเห็นดีเห็นงามกับการ"ลงทุน"แบบซื้ออนาคต
ผมกับเพื่อนคงไม่ขายหุ้นออกแต่อยากให้เพื่อนๆหาซื้อตามราคาที่ชอบใจในตลาด(ถ้าคิดว่าเหตุผลที่ผมให้มาน่าลงทุนหรืออย่างน้อยก็ถือว่าช่วยผมไปประชุมสักนิด)
ไม่ทราบว่ามีใครสนใจบ้างหรือเปล่าครับ(หุ้นที่ว่านี้ไม่ใช่หุ้นปลายิ้มที่ผมถือมาข้ามปี)
ป.ล.ถ้าเพื่อนๆที่พันทิปมาอ่านอย่าน้อยใจว่าทำไมผมไม่โพสต์ที่โต๊ะสินธรนะครับ...ผมเกรงว่าจะมีรายใหญ่แอบอ่าน,เลยต้องมาปรึกษาเพื่อนทางนี้(ซึ่งก็มีหลายคนไปๆมาๆ2เว็บ)
ผลงานอนาคตสำคัญกว่าผลงานปัจจุบัน
-
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 8
สงสัยจะไม่มีใครสนใจนอกจากรายใหญ่เพราะหลังจากผมโพสต์กระทู้นี้วอลุ่มของหุ้นที่ว่ามีมากที่สุดในรอบปี
ไม่ทราบว่ารายใหญ่จะเข้ามาอ่านอีกหรือไม่
ถ้าเข้ามาอ่าน,ผมอยากเรียนแจ้งให้ทราบสักนิดว่า
ผมตั้งใจเข้าไปร่วมเป็นหุ้นส่วนแบบมิตรเหมือนกับที่ผมเข้าถือหุ้นปลายิ้มแล้วรอเติบโตไปพร้อมๆกับบริษัท
มติใดที่รายใหญ่ได้ประโยชน์และรายย่อยแบบผมไม่เสียเปรียบมากนัก...ผมยินดีสนับสนุนครับ
ตอนปลายิ้มขอมติให้กว้างโฮลดิ้งแปลงหนี้เป็นทุนเข้ามาเท่าตัว(ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว)ที่ราคาต่ำกว่าตลาด...ผมก็ลงมติให้เพราะเข้าใจผู้ก่อตั้งบริษัทดีว่าตอนวิกฤตเศรษฐกิจถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบมาตลอด,เพิ่งได้ลุกขึ้นยืนไม่นานนัก
ที่มาโพสต์ชวนเพื่อนๆที่นี่ก็เพื่อความอุ่นใจเท่านั้น,ไม่ได้คิดจะไปต่อกรกับท่านเจ้าของบริษัทเลยครับ
ผมขอเป็นกำลังใจเล็กๆให้บริษัทเติบโตเป็นregional brand นะครับ
ไม่ทราบว่ารายใหญ่จะเข้ามาอ่านอีกหรือไม่
ถ้าเข้ามาอ่าน,ผมอยากเรียนแจ้งให้ทราบสักนิดว่า
ผมตั้งใจเข้าไปร่วมเป็นหุ้นส่วนแบบมิตรเหมือนกับที่ผมเข้าถือหุ้นปลายิ้มแล้วรอเติบโตไปพร้อมๆกับบริษัท
มติใดที่รายใหญ่ได้ประโยชน์และรายย่อยแบบผมไม่เสียเปรียบมากนัก...ผมยินดีสนับสนุนครับ
ตอนปลายิ้มขอมติให้กว้างโฮลดิ้งแปลงหนี้เป็นทุนเข้ามาเท่าตัว(ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว)ที่ราคาต่ำกว่าตลาด...ผมก็ลงมติให้เพราะเข้าใจผู้ก่อตั้งบริษัทดีว่าตอนวิกฤตเศรษฐกิจถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบมาตลอด,เพิ่งได้ลุกขึ้นยืนไม่นานนัก
ที่มาโพสต์ชวนเพื่อนๆที่นี่ก็เพื่อความอุ่นใจเท่านั้น,ไม่ได้คิดจะไปต่อกรกับท่านเจ้าของบริษัทเลยครับ
ผมขอเป็นกำลังใจเล็กๆให้บริษัทเติบโตเป็นregional brand นะครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
มาขอคำปรึกษาหน่อยครับ
โพสต์ที่ 9
ตอนนี้ อาจารย์ ปล่อย IRC ไปหมดหรือยังเนี่ย ลงเอ๊าลงเอา ตลาดดีดกลับก็ไม่ขยับ ตอนตลาดลง ก็ลงกับชาวบ้าน