ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 1
เฮ้อ..หยิกมือตัวเองแล้วก็พิมพ์ต่อ ไปเรียนมาจากไหนเหรอ ไปรู้มาจากไหนเหรอไอ้คำ ๆ นี้
หลายคนอ่านหนังสือแนว VI หลายคนอ่านหนังสือ บัฟเฟตต์ อ่านแบบลึกซึ้งหรืออ่านเอามัน อ่านหนังสือฟิสิกส์จบจะเป็น ไอน์สไตน์กันละหรือ
รู้มั๊ยครับคนที่เจ๊งเพราะคิดว่าถือลงทุน พอหุ้นตกหุ้นตกก็ถือสวมวิญญาณบัฟเฟตต์ พอมันตกอีกก็ถืออีก พอมันตกสุด ๆ ไม่ไหวแล้ว ถอดใจขาย
บัฟเฟตต์เองก็เคยขายขาดทุนครับ! และบัฟเฟตต์เองก็เคยกล่าวว่าดีใจที่ได้ขายหุ้นตัวหนึ่งที่ทำให้เค้าขาดทุนออกไป (แต่เค้าขายตอนมันขึ้นมาจนเกือบ ๆ เท่าทุน) และกล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนกับ "เมียหนีตามเพื่อนสนิท" แต่ตอนที่เมียหนีไปแล้วเค้ารู้สึกระลึกถึงเพื่อนคนนั้น
หลายคนอ่านหนังสือแนว VI หลายคนอ่านหนังสือ บัฟเฟตต์ อ่านแบบลึกซึ้งหรืออ่านเอามัน อ่านหนังสือฟิสิกส์จบจะเป็น ไอน์สไตน์กันละหรือ
รู้มั๊ยครับคนที่เจ๊งเพราะคิดว่าถือลงทุน พอหุ้นตกหุ้นตกก็ถือสวมวิญญาณบัฟเฟตต์ พอมันตกอีกก็ถืออีก พอมันตกสุด ๆ ไม่ไหวแล้ว ถอดใจขาย
บัฟเฟตต์เองก็เคยขายขาดทุนครับ! และบัฟเฟตต์เองก็เคยกล่าวว่าดีใจที่ได้ขายหุ้นตัวหนึ่งที่ทำให้เค้าขาดทุนออกไป (แต่เค้าขายตอนมันขึ้นมาจนเกือบ ๆ เท่าทุน) และกล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนกับ "เมียหนีตามเพื่อนสนิท" แต่ตอนที่เมียหนีไปแล้วเค้ารู้สึกระลึกถึงเพื่อนคนนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 2
"ไม่ขาย ไม่ขาดทุน"
อืม อืม
อันนี้ที่พูดนี่ไว้ปลอบใจตัวเองนะคะ
คงไม่ใช่แนวเทคนิคของเซียนหุ้นค่ะ
แต่เป็นแนวจิตวิทยาปลอบใจค่ะ
ช่วงหุ้นขาลงแบบนี้ทุกคนคงตัดสินใจเองได้อ่ะค่ะ
ว่าจะขายตัดไปเลยรึว่ากอดไว้
ย้ำ ค่ะ ย้ำ
ปลอบใจตัวเองค่ะ
ม่ายได้ยุให้เก็บหุ้นไว้นะคะ
โปรดทราบนักลงทุนในหุ้นทั้งหลาย
อืม อืม
อันนี้ที่พูดนี่ไว้ปลอบใจตัวเองนะคะ
คงไม่ใช่แนวเทคนิคของเซียนหุ้นค่ะ
แต่เป็นแนวจิตวิทยาปลอบใจค่ะ
ช่วงหุ้นขาลงแบบนี้ทุกคนคงตัดสินใจเองได้อ่ะค่ะ
ว่าจะขายตัดไปเลยรึว่ากอดไว้
ย้ำ ค่ะ ย้ำ
ปลอบใจตัวเองค่ะ
ม่ายได้ยุให้เก็บหุ้นไว้นะคะ
โปรดทราบนักลงทุนในหุ้นทั้งหลาย
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 3
Reply # ต่อมา
คือ เราเอง เพิ่งอ่านหนังสือ ปรัชญาหุ้น คิดว่า ชอบแนวทางการลงทุน แบบนี้นะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
เอาเรื่อง ไม่ขายไม่ขาดทุนก่อน
ในปรัชญาหุ้นที่ 72 เรื่อง " ไม่ขายไม่ขาดทุน จริงหรือ"
โดยสรุปประมาณว่า ไม่ขายไม่ขาดทุน ( แต่ขายเมื่อไร ก็ขาดทุนเมื่อนั้น แถมเสียโอกาสที่ต้องถือรอมานานด้วย)
ในหนังสือ บอกว่า "หากเป็นนักลงทุนระยะยาว ไม่มีเวลาติดตาม และเล่นหุ้น พื้นฐานดี การยึด ไม่ขายไม่ขาดทุน อาจจะใช้ได้ "
แต่ " หากเป็นคนที่มีเวลาติดตาม ตลาดหุ้น หากตลาดเป็นขาลง ก็ควรขายไปก่อน เพราะ ตลาดหุ้น มีขึ้น และลงตลอดเวลา ปีหนึ่ง ขยับเพียง 5-10% แต่ แกว่งตัว +20% - -20% หากไม่ เล่นตามรอบ คงเสียโอกาส"
ดังนั้น คนที่ติดตามหุ้นใกล้ ชิดควรใช้ Cut loss มากกว่า
คือ เราเอง เพิ่งอ่านหนังสือ ปรัชญาหุ้น คิดว่า ชอบแนวทางการลงทุน แบบนี้นะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
เอาเรื่อง ไม่ขายไม่ขาดทุนก่อน
ในปรัชญาหุ้นที่ 72 เรื่อง " ไม่ขายไม่ขาดทุน จริงหรือ"
โดยสรุปประมาณว่า ไม่ขายไม่ขาดทุน ( แต่ขายเมื่อไร ก็ขาดทุนเมื่อนั้น แถมเสียโอกาสที่ต้องถือรอมานานด้วย)
ในหนังสือ บอกว่า "หากเป็นนักลงทุนระยะยาว ไม่มีเวลาติดตาม และเล่นหุ้น พื้นฐานดี การยึด ไม่ขายไม่ขาดทุน อาจจะใช้ได้ "
แต่ " หากเป็นคนที่มีเวลาติดตาม ตลาดหุ้น หากตลาดเป็นขาลง ก็ควรขายไปก่อน เพราะ ตลาดหุ้น มีขึ้น และลงตลอดเวลา ปีหนึ่ง ขยับเพียง 5-10% แต่ แกว่งตัว +20% - -20% หากไม่ เล่นตามรอบ คงเสียโอกาส"
ดังนั้น คนที่ติดตามหุ้นใกล้ ชิดควรใช้ Cut loss มากกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 4
ปรัชญาหุ้น ต่อมา(จากหนังสือปรัชญาหุ้น) เรื่อง ให้ทยอยขายขาลง หาก Cut loss ไม่เป็น
คือ เมื่อ ตัดสินใจ จะ Cut loss แต่ทำใจไม่ได้ ให้แบ่งขาย บางส่วน เช่น ทีละ 20%
หากขายแล้ว หุ้นดีดกลับ ก็ยังมีอีก 80% ให้กำไร
หากขายแล้ว หุ้นลงต่อ ก็ขาดทุนไม่เยอะ
วิธีการ คือ ทยอยขายไปเรื่อย หากยังลง ก็ขายอีก จนมันหยุดลง ก็หยุดขาย แล้ว ซื้อคืนหมดทีเดียวเลย
คิดว่า วิธีนี้ดีนะคะ
คือ เมื่อ ตัดสินใจ จะ Cut loss แต่ทำใจไม่ได้ ให้แบ่งขาย บางส่วน เช่น ทีละ 20%
หากขายแล้ว หุ้นดีดกลับ ก็ยังมีอีก 80% ให้กำไร
หากขายแล้ว หุ้นลงต่อ ก็ขาดทุนไม่เยอะ
วิธีการ คือ ทยอยขายไปเรื่อย หากยังลง ก็ขายอีก จนมันหยุดลง ก็หยุดขาย แล้ว ซื้อคืนหมดทีเดียวเลย
คิดว่า วิธีนี้ดีนะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 6
กระทู้อันนี้เหมือนใน web pantip เลยครับ กำลังถกอยู่เลยHoonlover เขียน:เฮ้อ..หยิกมือตัวเองแล้วก็พิมพ์ต่อ ไปเรียนมาจากไหนเหรอ ไปรู้มาจากไหนเหรอไอ้คำ ๆ นี้
หลายคนอ่านหนังสือแนว VI หลายคนอ่านหนังสือ บัฟเฟตต์ อ่านแบบลึกซึ้งหรืออ่านเอามัน อ่านหนังสือฟิสิกส์จบจะเป็น ไอน์สไตน์กันละหรือ
รู้มั๊ยครับคนที่เจ๊งเพราะคิดว่าถือลงทุน พอหุ้นตกหุ้นตกก็ถือสวมวิญญาณบัฟเฟตต์ พอมันตกอีกก็ถืออีก พอมันตกสุด ๆ ไม่ไหวแล้ว ถอดใจขาย
บัฟเฟตต์เองก็เคยขายขาดทุนครับ! และบัฟเฟตต์เองก็เคยกล่าวว่าดีใจที่ได้ขายหุ้นตัวหนึ่งที่ทำให้เค้าขาดทุนออกไป (แต่เค้าขายตอนมันขึ้นมาจนเกือบ ๆ เท่าทุน) และกล่าวว่า ความรู้สึกเหมือนกับ "เมียหนีตามเพื่อนสนิท" แต่ตอนที่เมียหนีไปแล้วเค้ารู้สึกระลึกถึงเพื่อนคนนั้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 8
โค้ด: เลือกทั้งหมด
มันก็บอกอยู่ในตัวแล้วนี้ครับ เป็นแนวทางที่ต่างกันของ นักลงทุนกับนักเก็งกำไร!
ก่อนที่นักลงทุนแนว VI จริงๆ จะซื้อหุ้น เขาต้องวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียทุกด้านจนแน่ใจแล้วว่าหุ้นที่จะซื้อนั้นดีจริง ถึงได้เข้าไปซื้อ(โดยอาจจะดูจังหวะเวลาในการเข้าซื้อประกอบด้วย) หากหุ้นราคาตกลงมามากๆ เขาก็จะวิเคราะห์ต่อไปว่า ที่เราวิเคราะห์ไว้คราวก่อนนั้น ปัจจุบันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้พื้นฐานบริษัทเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีหรือเปล่า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง VI ก็จะยังถืออยู่หรืออาจจะซื้อเพิ่มเสียด้วย(ไม่ใช่การซื้อเฉลี่ยต้นทุนให้ต่ำลงแบบพวกเก็งกำไรพูดกัน แต่จะต้องพูดว่าเป็นโอกาสซื้อของดีในราคาถูกลงไปอีก) แต่ถ้ามีอะไรที่ VI ไม่รู้ในตอนนั้นหรือไม่ได้วิเคราะห์ไว้ตั้งแต่แรกแล้วมารู้เอาตอนหลังว่าเป็นข้อเสีย คราวนี้ก็ต้องหาจังหวะขายซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้น่าจะเรียกว่า Cut Loss ได้ครับ
อีกอย่างการที่บอกว่าหุ้นปีหนึ่งเพิ่มขึ้น 5-10% แต่ขยับตัว +/-20% ถ้าไม่เล่นรอบคงเสียโอกาส นี้ก็เป็นแนวคิดของนักเก็งกำไรครับ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าเมื่อไรหุ้นมันจะลงหรือจะขึ้น หากเราเห็นว่าขึ้นแล้วกลัวลงเลยรีบขายเอากำไร คิดว่าเดี๋ยวลงจะไปซื้อคืนใหม่ ถามว่าถ้าหุ้นไม่ลงแต่ยังขึ้นไปอีก จะกล้าเข้าไปซื้อหรือเปล่า ไม่กลัวติดดอยหรือ
หากนักใบ้หุ้น(ย้ำครับว่านักใบ้หุ้น ไม่ใด้กล่าวถึงนักวิเคราะห์หุ้นนะครับ)รู้จริงว่าเมื่อไรจะขึ้นจะลง คงเลิกทำงานไปแล้ว มานั่งซื้อหรือกู้เงินเล่นรอบดีกว่า แต่ที่เขายังทำงานใบ้หุ้นอยู่นี้ก็เพราะเขารู้ว่ามันไม่แน่นอนที่จะคาดได้ว่าหุ้นจะขึ้นหรือจะลง เลยมากินเงินพวกชอบถามหุ้นดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 366
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 9
ก็แล้วแต่ว่าจะ ซื้อเฉลี่ย หรือทำอย่างไร ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์ท่านนั้น มันเป็นแผนการณ์ เป็นกลยุทธ์ของแต่ละบุคคล...ความแตกต่างของขนาดพอร์ต และอื่นๆ
ตามหลัก TA แล้วเขาไม่ซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มขาลง เขาซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นเท่านั้น...โดยซื้อที่ตำแหน่ง xx
ตามหลัก TA แล้วเขาไม่ซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มขาลง เขาซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มขึ้นเท่านั้น...โดยซื้อที่ตำแหน่ง xx
- ดาวหางสีแดง
- Verified User
- โพสต์: 635
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 11
[quote]
ในหนังสือ บอกว่า
ในหนังสือ บอกว่า
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 12
[quote="Jeng"]
โค้ด: เลือกทั้งหมด
มันก็บอกอยู่ในตัวแล้วนี้ครับ เป็นแนวทางที่ต่างกันของ นักลงทุนกับนักเก็งกำไร!
ก่อนที่นักลงทุนแนว VI จริงๆ จะซื้อหุ้น เขาต้องวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียทุกด้านจนแน่ใจแล้วว่าหุ้นที่จะซื้อนั้นดีจริง ถึงได้เข้าไปซื้อ(โดยอาจจะดูจังหวะเวลาในการเข้าซื้อประกอบด้วย) หากหุ้นราคาตกลงมามากๆ เขาก็จะวิเคราะห์ต่อไปว่า ที่เราวิเคราะห์ไว้คราวก่อนนั้น ปัจจุบันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้พื้นฐานบริษัทเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีหรือเปล่า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง VI ก็จะยังถืออยู่หรืออาจจะซื้อเพิ่มเสียด้วย(ไม่ใช่การซื้อเฉลี่ยต้นทุนให้ต่ำลงแบบพวกเก็งกำไรพูดกัน แต่จะต้องพูดว่าเป็นโอกาสซื้อของดีในราคาถูกลงไปอีก)
- SupachaiZ594
- Verified User
- โพสต์: 834
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 13
กำไรอยู่ที่ตอนซื้อ.....ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1339
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 14
การที่บอกว่าแต่ละรอบ ขึ้นลง +- 20% นั้นเขาคิดจาก
ราคาหุ้นตอนสูงสุดและต่ำสุด ในชีวิตจริงไม่มีใคร
สามารถขายในราคาสูงสุดและซื้อได้ต่ำสุด ดังนั้นผลตอบแทน
จะต่ำมากๆ เมื่อหักค่า Com แล้วจะยิ่งต่ำใหญ่ ยิ่งเมื่อ
พลาดขาดทุนไป 1 ครั้ง กำไรที่สะสมมา 3-4 ครั้งก็จะหายหมด
ไม่อย่างนั้นเราก็เห็นคนรวยจากหุ้นเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว
คงไม่เห็นสถิติที่ว่า คน 80% ขาดทุนจากตลาดหุ้น
ราคาหุ้นตอนสูงสุดและต่ำสุด ในชีวิตจริงไม่มีใคร
สามารถขายในราคาสูงสุดและซื้อได้ต่ำสุด ดังนั้นผลตอบแทน
จะต่ำมากๆ เมื่อหักค่า Com แล้วจะยิ่งต่ำใหญ่ ยิ่งเมื่อ
พลาดขาดทุนไป 1 ครั้ง กำไรที่สะสมมา 3-4 ครั้งก็จะหายหมด
ไม่อย่างนั้นเราก็เห็นคนรวยจากหุ้นเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว
คงไม่เห็นสถิติที่ว่า คน 80% ขาดทุนจากตลาดหุ้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 16
VI ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี cut loss
เพียงแต่ไม่ใช่ให้ราคาตลาดมาเปรียบเทียบกับราคาทุน
และถ้าเราตั้ง Margin of Safety ไว้สูงๆ โอกาศที่เราจะมา Cut Loss คงน้อยมากๆ
เพียงแต่เมื่อเราตั้งไว้สูง เราก็หาหุ้นลงทุนลำบาก นานวันเข้า เราก็อยากจะเล่นหุ้น เลยต้องลดมาตรฐานลง สุดท้ายก็ต้องรู้จัก Cut Loss กันบ้าง :lol:
เพียงแต่ไม่ใช่ให้ราคาตลาดมาเปรียบเทียบกับราคาทุน
และถ้าเราตั้ง Margin of Safety ไว้สูงๆ โอกาศที่เราจะมา Cut Loss คงน้อยมากๆ
เพียงแต่เมื่อเราตั้งไว้สูง เราก็หาหุ้นลงทุนลำบาก นานวันเข้า เราก็อยากจะเล่นหุ้น เลยต้องลดมาตรฐานลง สุดท้ายก็ต้องรู้จัก Cut Loss กันบ้าง :lol:
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- hagrid
- Verified User
- โพสต์: 566
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 17
แล้วปกติคุณ chatchai ตั้ง Margin of Safety ไว้สูงขนาดไหนครับ
ถ้าเกิดมีเหตุให้ไม่ได้ถือหุ้น WG แล้ว แต่ถือเงินสดแทน
คุณ chatchai จะลดมาตรฐานลง เพื่อซื้อหุ้นในระดับปัจจุบันหรือเปล่าครับ
(ปล.ถามเพื่อเป็นแนวทางการลงทุนครับ)
ถ้าเกิดมีเหตุให้ไม่ได้ถือหุ้น WG แล้ว แต่ถือเงินสดแทน
คุณ chatchai จะลดมาตรฐานลง เพื่อซื้อหุ้นในระดับปัจจุบันหรือเปล่าครับ
(ปล.ถามเพื่อเป็นแนวทางการลงทุนครับ)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 19
ผมเป็นคนไม่ขยันครับ ยังหาบริษัทที่มีราคาหุ้นลงทุนไม่ได้ซักทีhagrid เขียน:แล้วปกติคุณ chatchai ตั้ง Margin of Safety ไว้สูงขนาดไหนครับ
ถ้าเกิดมีเหตุให้ไม่ได้ถือหุ้น WG แล้ว แต่ถือเงินสดแทน
คุณ chatchai จะลดมาตรฐานลง เพื่อซื้อหุ้นในระดับปัจจุบันหรือเปล่าครับ
(ปล.ถามเพื่อเป็นแนวทางการลงทุนครับ)
เลยต้องนั่งดูคนอื่นกำไรซะให้เข็ด :lol:
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่ขายไม่ขาดทุน เลิกหลอกตัวเองเถอะ : พี่คิดว่าไง
โพสต์ที่ 20
อยากให้ จขกท ลองไปศึกษา concept ของ "SUNK COST" ตามหนังสือเศรษฐศาสตร์ ครับ ลองดู
แล้วคุณจะรู้สึกว่า หลักการ "ไม่ขายไม่ขาดทุน" กับ "cut loss" มันไม่ค่อยได้เรื่องด้วยกันทั้งคู่ครับ
ถ้าเอาต้นทุน "ในอดีต" มาใช้ตัดสินใจการลงทุนใน "ปัจจุบัน" ไม่ว่าจะเป็น VI, VS, VSOP, VJ Singh หรือใครก็ตาม ผมว่าโอกาสผิดหวังมีสูง
แล้วคุณจะรู้สึกว่า หลักการ "ไม่ขายไม่ขาดทุน" กับ "cut loss" มันไม่ค่อยได้เรื่องด้วยกันทั้งคู่ครับ
ถ้าเอาต้นทุน "ในอดีต" มาใช้ตัดสินใจการลงทุนใน "ปัจจุบัน" ไม่ว่าจะเป็น VI, VS, VSOP, VJ Singh หรือใครก็ตาม ผมว่าโอกาสผิดหวังมีสูง
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan