อยากทราบความเห็นของชาว TVI ต่อหุ้น BlueChip ครับ

[sirivajj]

กับอยากทราบความเห็นถึงความแตกต่างกับหุ้นที่ชาว VI ชอบถือกันด้วยครับ

สงสัยต้องเริ่มกันที่นิยามของคำว่า หุ้น BlueChip
กับนิยามของหุ้นที่ชาว VI ชอบถือกัน

รบกวนเพื่อนๆ ช่วยแสดงความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวข้องดังข้างต้น ด้วยครับ

[harry]

สำหรับผมแล้ว หุ้นใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ ดูที่ตัวธุรกิจเป็นหลักครับ ธุรกิจเล็กหรือกลาง แต่ดีๆ ก็สนใจเหมือนกันครับ

[ayethebing]

หุ้นบลูชิพ เป็นหุ้นที่มี market cap สูง มีขนาดใหญ่มีพื้นฐานที่มั่นคง ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลานานๆ

หุ้นบลูชิพมีจุดเด่นคือมีความมั่นคงและมีความโปร่งใสพอสมควรเนื่องจากการเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่ทำให้นักลงทุนประเภทสถาบัน และกองทุนต่างชาติเข้ามาซื้อเพราะไม่มีข้อกังวลเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นเหมือนกับหุ้นที่มีขนาดเล็กกว่า

จุดด้อยก็คือ ในเวลาส่วนใหญ่หุ้นบลูชิพจะไม่ค่อยมีอาการ undervalue ให้เห็นมากนักเนื่องจากมีขนาดใหญ่ทำให้การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งก็มีคนสนใจ เพราะนักลงทุนสถาบันและกองทุนต่างชาติต่างจับตามองอยู่

จุดด้อยอีกประการก็คือการเติบโตแบบก้าวกระโดดปีละหลายสิบเปอร์เซนต์คงมีไม่บ่อยนักเนื่องจากการเป็นบริษัทขนาดใหญ่นี่เอง

ถ้าเป็น Peter Lynch ก็จะเรียกพวกหุ้นบลูชิพว่าเป็นพวก stalwart เค้าให้ดู P/E ว่าสูงหรือยังถ้าสูงเกินไปก็ไม่น่าลงทุนครับ

ถ้าศัพท์ของท่านเฟยหงก็ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่หุ้นเงาครับ

หุ้น blue chip ที่พอจะนึกออกก็มี

กลุ่มแบงก์ ก็แบงก์ขนาดใหญ่ BBL KBANK และ SCB
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ก็แน่นอน SCC กับ SCCC
กลุ่มสื่อสาร ผมให้ ADVANCE กับ SHIN
กลุ่มขนส่งก็คงเป็น AOT กับ THAI
กลุ่มอสังหา เห็นอยู่อันเดียวคือ LH
กลุ่มเกษตร ก็อาจจะให้ CPF
กลุ่มพลังงาน แน่นอนว่าคือ PTT PTTEP

[นักดูดาว]

หุ้น bluechip ที่ VI ชอบก็เยอะนะ PTT PTTEP EGCOMP เป็นต้น
หุ้น GRAMMY TUF นี่เรียกว่า Bluechip หรือเปล่านะ ผมเห็นหลายท่านก็ชอบ

[sirivajj]

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาตอบนะครับ

ผมคงจะไปหานิยามกับรายชื่อในส่วนของหุ้นที่เป็น BlueChip เพิ่มเติมอีก

ในส่วนของหุ้นที่ VI ชอบนั้น ระหว่างที่รอเพื่อนๆ ท่านอื่นมาช่วยแสดงความเห็น ผมขอยึดเอา ayethebing กล่าวถึงไว้ว่าเป็น
- หุ้นเงา หรือหุ้นที่ราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
- หรือหุ้นที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อหวังตีแตก
เพื่อนๆ ที่มีความเห็นเพิ่มเติมส่วนนี้ เชิญร่วมอภิปรายนะครับ

ข้อที่น่าสนใจส่วนหนึ่งคือ หุ้นที่นักลงทุนเก็งไว้ว่า เป็นหุ้น VI นั้นจะเป็นตัวไหน (เพราะถ้ารู้กันหมด ทั่วราชอาณาจักรโดยที่ราคายังไม่ปรับขึ้นไปจนถึงมูลค่าพื้นฐานล่ะก็ จะเป็นหุ้นเงาได้ยังไง?)
ผมว่า จะไปดูที่ร้อยคนร้อยหุ้น แต่ก็ไม่แน่ใจว่า รายชื่อหุ้นเหล่านั้นจะสามารถเป็นตัวแทนของหุ้น VI ได้ ......

[sirivajj]

เพื่อนๆ หลายคนอาจสงสัยว่า ผมมาพิรี้พิไร กับหุ้น BlueChip กับ หุ้น VI ไปเพือ่อะไร

คือ ผมมีคำถามที่สงสัยในใจอยากติดตามศึกษาและเก็บข้อมูล เพื่อให้ได้คำตอบที่มีข้อมูลสนับสนุนคำตอบ ว่า
หุ้น BlueChip กับ หุ้น VI อย่างใดจะให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน
โดยจะเก็บข้อมูลเปรียบเทียบหลังการลงทุนไป 1, 2 ปี และมากกว่า (หรือ จนกว่าผมจะหมดแรง)
ทั้งนี้ ผมจะนับการลงทุนเริ่มจาก 1 มค.47 เป็นต้นไปครับ

ดังนั้น รบกวนเพื่อนๆ ที่จะมีความเห็นหรือคำแนะนำช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอขอบคุณครับ

[sirivajj]

หลังจากผ่านมาได้ครึ่งปี ก็ขอเก็บผลมารายงานให้เพื่อนๆ ที่สนใจทราบ ดังนี้

จาก 31/12/03 Set Index จะอยู่ที่ 772.15
เมื่อเทียบกับ เมื่อ 30/06/04 ซึ่งอยู่ที่ 646.64
ประมาณได้ว่า ลดลง 16.25%
ถ้าเราใช้เงินโดยประมาณ 1 ล้านบาทซื้อหุ้นในกลุ่ม BlueChip ณ ราคาวันที่ 31/12/03 โดยกระจายใช้เงินเท่าๆ กัน ประมาณ 50 ตัว (เช่น CPF, TUF, SUC, ธนาคาร 6 แห่ง, ไฟแนนซ์ขนาดใหญ่ 6 แห่ง, ATC, TOC, ปูนใหญ่-กลาง, พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 7 แห่ง, กลุ่มบันเทิงสันทนาการ 4 แห่ง, พลังงาน 5 บ., AOT, THAI, ADVANCE, SHIN, TA, DELTA ......)
จะพบว่า ราคาปิด ณ 30/06/04 พอร์ตนี้จะขาดทุนประมาณ 13.70%
(ยอดขาดทุนโดยประมาณนี้ได้รวมรายได้จากปันผลเข้าด้วยแล้ว)
โดยมีพวกที่ขาดทุนเปอร์เซนต์สูงๆ (27-40%) ดังนี้
TUF, TMB, KGI, MS, SSI, TPIPL, ITD, LALIN, LH, UBC

[ayethebing]

หุ้น Blue chip นั้นหนา คือหุ้นใหญ่
เจ็กฝรั่งไทย ชอบเล่น เป็นหนักหนา
พอ SET ขึ้น ขึ้นตามไป ได้ปรีดา
พอหมีมา เอาละหวา น่าบ้ายบาย

หุ้น Blue chip หวังว่า ไม่ Bullshit
วุ่นวายจิต คิดยาก ลำบากไฉน
บ้างแพงเกิน ก่อเหตุ เกิดเภทภัย
ใครซื้อไป เจ้งกระโบ้ง ลงโลงเอย

[sirivajj]

ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราใช้เงิน 1 ล้านบาทมาเลือกซื้อหุ้น(ทีชาว TVI นิยมกล่าวถึงกันว่า น่าจะเป็นหุ้น VI และหรือมีอยู่ใน ร้อยคนร้อยหุ้น) โดยกระจายเงินซื้อไปประมาณ 50 ตัว
(เช่น CM, S&P, SAUCE, SSC, TF, FANCY, OGC, CPH, LTX, TR, WACOAL, PL, AYUD, SAFE, PHA ...., TCB, TPC, CSC, TMD, STANLY, MBK, EGCOMP, BIGC, MAKRO, WG, GMMM, APRINT, SE-ED, TBSP ..., FE, PFCB, METCO, SINGER, CPL)
จะพบว่า โดยประมาณ ณ ราคาปิด 30/06/04 พอร์ตนี้จะขาดทุน 10.40%
(คำนวณโดยรวมรายได้จากปันผลแล้ว)
ทั้งนี้ มีพวกที่ขาดทุนสูงๆ ( 33-55% ) ดังนี้
FANCY, OGC, CPH, TIC, TCB, CSC, SPSU, STANLY, CPL

[ayethebing]

คุณ sirivajj ผมเองเคยมีคำถามนี้เหมือนกัน แต่การมองระยะแค่ 6 เดือนหรือ 1 ปี คงบอกอะไรไม่ได้มากครับ

ที่อเมริกาเค้าวัดกันแล้วเทียบกันแล้วระหว่าง Big cap (หุ้นที่มี market cap เยอะพอเทียบได้กับ Blue chip) กับ small gems (หุ้นขนาดเล็ก) ปรากฏว่าในระยะยาว (10 ปี) small gems ชนะขาดครับ

ผมก็อยากวัดเหมือนกัน ว่า Big cap กับ small gems ในบ้านเราให้ผลตอบแทนเป็นไงในระยะยาวๆ

ไม่รู้จะหาได้จากข้อมูลพี่ครรชิตหรือเปล่า ????

[sirivajj]

หุ้นกลุ่ม VI ที่เคยได้รับความสนใจจากชาว TVI ที่สร้างความผิดหวังอย่างมากในช่วง 6 เดือน ก็คงไม่พ้นจะเป็น FANCY, OGC, TCB, STANLY
เพราะดูเหมือนจะมีสมาชิกให้ความสนใจในหุ้น ดังกล่าวกันพอสมควร

ในขณะที่หุ้นกลุ่ม BlueChip นั้นที่ติดลบกันมากมากจะไปกองกันอยู่ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับวัสดุก่อสร้างกันมากหน่อย จะมีหลุดโผออกมาก็คือหุ้น TUF กับ TMB

[sirivajj]

หากมองดูรายตัวในด้านกำไรแล้ว
กลุ่ม BlueChip จะมี THAI ที่ทำกำไรเป็น% กู้หน้าได้ถึง 23% โดยมีตัวอื่นเช่น AST, BANPU, PTTEP, ADVANCE ทำกำไรกันได้นิดหน่อย

ในขณะที่ กลุ่ม VI จะมี MAKRO (14.64%), SAUCE (7.52%), RAM (7.35%), โดยมี SAFE, SE-ED, TBSP กำไรประมาณ 5% กว่าๆ ตามมาติดติด

[sirivajj]

ก็คงเป็นอย่างที่คุณ ayethebing ได้แนะนำไว้ว่า ระยะเวลา 6 เดือนนั้นคงจะสั้นไป ที่จะใช้สรุปอะไรได้ (Too Early To say) อย่างไรก็ดี หากผมไม่หมดแรง (ดังเคยกล่าวไว้ข้างต้น) จะกลับมารายงานให้ทราบในรอบอีก 6 เดือนถัดไป

หากเพื่อนๆ ท่านใด มีความคิดเห็น, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำให้ปรับปรุง ที่คิดว่า จะเป็นประโยชน์ ช่วยโพสเข้ามาด้วยครับ
โชคดีครับ

[sirivajj]

SET50 ณ 31/12/03 อยู่ที่ 50.91
ในขณะที่ 30/06/04 อยูที่ 44.14
ลดลง 6.77 หรือ 13.30%

[นักดูดาว]

ท่าน sirivajj ครับ ผมขอออกความเห็นว่าถ้าจะมองแบบเน้นคุณค่าจริงๆ ควรใช้กำไรมองทะลุในพอร์ต (ผลรวมของ กำไรต่อหุ้นxจำนวนหุ้นในพอร์ต)มากกว่าครับ

อีกประเด็นหนึ่ง .. ผมคิดว่าไม่มีหุ้นไหนเป็นหุ้นสำหรับ VI ได้ตลอดไป เพราะเมื่อราคาสูงกว่าคุณค่าด้วยแรงเก็งกำไร หรือคุณค่าลดลงเนื่องจากผลประกอบการณ์ไม่ดี ...หุ้นตัวนั้นก็หลุดโผไปทันทีครับ อย่าง TCB OGCเป็นต้น

[sirivajj]

ขอบคุณ คุณนักดูดาวครับ
ไม่แน่ใจว่า เข้าใจในคำแนะนำของคุณถูกหรือเปล่า

แต่ที่ผมใช้คำนวณปัจจุบัน ก็ใช้จำนวนหุ้นคำนวณหาราคาซื้อ ณ 31/12/03 แล้วหาผลต่างจากราคาขาย ณ 30/06/04 ได้ผลขั้นต้นเป็นกำไรหรือขาดทุน
จากนั้น ก็นำรายได้จากปันผลมาปรับปรุงเพิ่ม
ก่อนที่จะไปหัก ดอกเบี้ย (คิดเสมือนเสียโอกาสที่ไม่ได้เอาเงินไปฝากแบงค์อีก 1%)
ผลสุทธิที่ได้ จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับเงินลงทุนที่ใช้เมื่อตอน 31/12/03 ครับ

ตัวอย่างเช่น ผมใช้เงิน 40,107 บาทเพื่อซื้อ STANLY ได้ 100 หุ้น ซึ่งจะมีมูลค่าเหลือเท่ากับ 200 หุ้น@ 133 บาท หรือ 26,528.85 บาท
ก็ขาดทุน 13,578.76 คิดเป็นเปอร์เซนต์ได้ 33.86 ทีเดียว ในขณะเดียวกันก็มีปันผลรับ 200 บาท แต่โดนดอกเบี้ย 200 บาทเช่นกัน เบ็ดเสร็จก็คือขาดทุน 13,578.76 ต่อทุน 40,107 บาท

ในขณะที่ ผมใช้เงินกับ SAFE 1000 หุ้น มีมูลค่า 21,557.51 แล้วได้กำไร 1,181.50 บาท ในขณะที่มีปันผล 1,600 บาท มีดอกเบี้ย 107.49 บาท ครับ

ตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น BlueChip หรือ ในกลุ่ม VI ก็เช่นเดียวกันขึ้นอยู่กับว่าลงทุนไว้กี่หุ้น (โดยพยายามใช้ให้เท่าๆ กันให้มากที่สุดในการลงทุนที่พยายามให้ได้มากประมาณ 40-50 หุ้น โดยมีมูลค่ารวม 1 ล้านบาท)

[pae2020]

ขอแสดงความคิดเห็นนิดหน่อยครับ

คุณ sirivajj นำเอาข้อมูลหุ้น Blue Ship ณ 31/12/46 มาคำนวณหาราคาแตกต่าง ณ. 30/06/47 แล้วพยายามหาข้อสรุปว่าชาว VI ลงทุนในหุ้นเหล่านี้จะได้รับผลตอบแทนในเชิงมูลค่าหุ้นในช่วงดังกล่าวอย่างไร

คือผมมองว่า VI คงไม่ได้ใส่ใจครับว่า Blue Ship หรือไม่ สนใจแต่ว่าราคาที่จะเข้าซื้อนั้นเทียบกับพื้นฐานกิจการและความสามารถในการเติบโต+ทำกำไรของกิจการนั้นเหมาะสมหรือไม่

ผมบอกได้เลยครับ ในช่วงปลายปี ผมแทบไม่ได้ซื้อหุ้นใดๆเข้า Port เลยเพราะราคาตอนนั้นสำหรับผมมันซื้อไม่ได้ ในทำนองเดียวกัน ณ. วันที่ 30/06/47 ผมก็ไม่ได้ขายหุ้นใดๆ ในพอร์ตของผมเหมือนกัน เพราะผมมองว่าตัวกิจการยังมีอะไรในนั้นอยู่ระยะยาว

สำหรับผมแล้ว ภาวะผันผวนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มัน Meaningless ครับ ไม่มีความหมายอะไร

[sirivajj]

คุณ pae2020 ผมขอขอบคุณต่อความเห็นครับ

อันที่จริง ผมต้องขอชี้แจงว่า ที่นำมาโพสในกระทู้นี้นั้น เป็นเพียงนำข้อมูล
ที่ได้จากการเก็บรวบรวมของผมมาเล่าสู่กันฟัง ของระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ต้องขอย้ำว่า ผมยังไม่ได้สรุปหรือแสดงความเห็นในแบบที่ฟันธงอะไรทั้งสิ้น เพราะยังคิดว่า ช่วงเวลาเพียง 6 เดือนที่ผ่านมานั้นยังน้อยเกินไปที่จะสรุปอะไรออกมา

รวมทั้งผมคิดว่า เมื่อโพสข้อมูลเหล่านี้ ก็อาจจะได้คำถาม หรือข้อแนะนำที่จะสามารถนำมาปรับปรุงสมมติฐานในการเก็บข้อมูลได้ดียิ่งยิ่งขึ้น

หากผมยังไม่หมดแรง ก็จะเก็บข้อมูลเหล่านี้ต่อไปอีก
ดังนั้น หากเพื่อนๆ มีความเห็นหรือคำแนะนำก็ยินดีรับฟังเสมอครับ


ปล. เพื่อนๆ ที่สนใจอาจต้องช่วยถามคำถามล่ะครับว่า
What do Sirivajj say (mean)?
How do he know (Where do these information/data come from)?
Is it true (Did he do the calculation correctly?)
Can it be explain in other way (Is it possible that he misunderstood something or His assumption is incorrect)?