มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
doodeemak
Verified User
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คือตอนนี้ผมกะลังจะวางแผนว่า ภายใน 1 ปี ผมจำพยายามอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทให้ครบ เพื่อสแกนกว้างๆได้ว่าแต่ละบริษัทนั้น

1. เค้าใช้วัตถุดิบหรือทรัพยากรอะไร จากที่ไหน อนาคตเป็นอย่างไร
2. บริษัทผลิตอะไร คุณภาพระดับโลกหรือไม่ มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง spec หรือไม่อย่างไร
3. Capacity ของบริษัทเป็นอย่างไร ใกล้เต็มหรือไม่ ทันสมัยเพียงใด
4. ลูกค้าเป็นใคร สามารถขึ้นราคาได้ง่ายหรือไม่ มีความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ารึเปล่า
5. ตลาดเป็นอย่างไร เติบโตรึเปล่า คู่แข่งมากน้อยเพียงใด เข้ามาง่ายหรือยาก market share เป็นอย่างไร มีสินค้าทดแทนที่น่ากลัวหรือไม่

ไม่ทราบว่ามีพี่ๆท่านไหนอ่านจบแล้วบ้างครับ แล้วใช้เวลานานเท่าไหร่
Inactive investor
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมว่ามากเกินไปครับ กลัวว่าไปครึ่งทางแล้วจะเหนื่อยฟรีน่ะสิครับ

ลองตั้ง scope กว้าง ๆ ก่อนเช่น ดูว่าอุตสาหกรรมไหนมีแนวโน้มขาขึ้น แล้วก็ list ชื่อบริษัทจดทะเบียนมา

ลองดูตัวเลขทางการเงินคร่าว  ๆ แล้วก็ list รายชื่อกรองมาอีกที

แล้วค่อยไปอ่าน น่าจะง่ายกว่านะครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

The investing thing is that, when you think about what's going through your mind, you are not thinking about things that are impossible to achieve. They were all things that were simply a matter of deciding whether you are going to cultivate good character and be that kind of person or not.
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถ้าทำได้จริงก็จะ "ดูดีมาก" ครับ
แต่ผมว่าเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ..
สมมติเล่นๆว่าบริษัทมีทั้งหมด 450 บริษัท
ปีนึงมี 365 วัน ต้องอ่านวันละประมาณ 1.23 บริษัท
สมมติว่า 56-1 มีจำนวนหน้าประมาณ 100 หน้า
ก็ต้องอ่านวันละ 123 หน้า หรือรวมทั้งปีประมาณ 45,000 หน้า

ถ้าเทียบว่าอ่าน Poket book เล่มละ 200 หน้า จะอ่านได้ปีละ 222.5 เล่ม
ยอดมนุษย์เลยนะเนี่ย ...

สรุปแล้วเห็นด้วยกับคุณ akekarat ครับ ... คัดออกมาที่น่าสนใจบางส่วนก่อนแล้วค่อยเลือกอ่าน... ถ้าอ่านหมดแล้วจริงๆ ค่อยไปอ่านตัวอื่นๆต่อ .. กลัวว่าเดี๋ยวจะท้อซะก่อน

ปล. แต่ถ้าเริ่มจริงๆ แล้วจะเรียงตามอักษร .. แนะนำให้เริ่มจากตัว Z ย้อนไปตัว A นะครับ ... เหตุผลไม่มีอะไรมาก... ผมแค่รู้สึกว่าหุ้นดีๆส่วนใหญ่ชอบขึ้นต้นด้วยอักษรตัวท้ายๆเท่านั้นเอง
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขออนุญาต quote reply ของพี่หมอ จากกระทู้นี้มาให้อ่านกันนะครับ

ช่วยดู Model การคัดหุ้นนี้หน่อยครับ
สามัญชน เขียน: หาจาก 56-1 ที่น้อง Little Boy บอกครับ

ตอนนั้นผมตะลุยอ่านจนเกือบครบทุกตัวเลยครับ แทบ :vm: เหมือนกัน
ตอนแรกๆก็อ่านทุกแฟ้ม (หนึ่งบริษัทจะมีสิบกว่าแฟ้ม)
ได้วันละบริษัทเท่านั้นเอง  ไม่ไหวจริงๆ

ตอนหลังจึงลดลงเหลือแค่แฟ้มหัวข้อ "สภาพการแข่งขันในธุรกิจ" และก็เรื่อง "ปัจจัยเสี่ยง"ก็สั้นลงมาหน่อย วันหนึ่งอ่านได้หลายบริษัท

อ่านไปอ่านมาชักเริ่มผสมปนเปกัน จนเบลอไปเลย ไม่รู้ว่าจุดเด่นข้อนี้มันของบริษัทไหนกันแน่ จับแพะชนแกะบ่อยๆก็มี อิอิ

ไม่ไหวอีก

ก็เลยอ่านไล่ไปเป็นรายอุตสาหกรรม  ค่อยยังชั่วหน่อย
ทำแบบนี้ค่อนข้างดีกว่า ทำให้เห็นภาพรวม แถมยังได้ประโยชน์แบบฟลุ้คๆครับ   ใช้คำว่าฟลุ้คเพราะไม่รู้จะใช้คำไหน

แบบว่ายกตัวอย่างนะครับ  เราอ่านแล้วเราสนใจบริษัท ก. แต่ข้อมูลบางอย่างของบริษัท ก. เราไปได้จากการอ่านบริษัท ง. เพราะเขาเป็นคู่แข่งกัน  และใน ก.เองเขียนไว้ไม่ละเอียดก็มี ซึ่งถ้าเราไม่อ่านเป็นรายอุตสาหกรรมเราก็อาจจะงงๆ ลืมๆ

ก็ทำไปเรื่อยๆ  พอเราทำไปมากๆเข้า  เราจะเริ่มรู้จักธรรมชาติของธุรกิจแต่ละอุตสาหกรรม

และพอข้ามไปอุตสาหกรรมอื่น  กลับกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น  อ่านได้เร็วขึ้น เพราะเราเริ่มมีพื้นฐานความรู้นั่นเอง  บางทีอ่านแค่ 2-3 บริษัทก็เลิกอ่านที่เหลือไปเลยก็ได้ถ้าเราไม่สนใจ  เพราะว่าภาพรวมก็จะคล้ายๆกัน

ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆก็จะเป็นการปูพื้นฐานทางธุรกิจให้ตัวเอง  ซึ่งเรื่องนี้มีประโยชน์มหาศาลในอนาคตในเรื่องการหาและเลือกหุ้น

กระบวนการทั้งหมดนี้จะให้อานิสงส์ในเรื่อง  การคัดเลือกบริษัทที่เก่งกว่าคู่แข่ง ความเสี่ยงที่เราต้องระวัง เป็นต้น (เรื่องอื่นๆอาจจะยังไม่ได้นะครับ เช่นเรื่องผู้บริหาร ที่จริงก็อาจจะพอได้บ้าง แต่ใช้วิธีอื่นจะตรงกว่า)

และทั้งหมดนี้อีกครั้งก็ยังถือว่าไม่เพียงพอที่จะซื้อหุ้นนะครับ

หลักการวีไอนั้นคือ เราจะซื้อหุ้นตัวที่ undervalue ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นหัวใจหลักของการลงทุนที่จะได้กำไรงามๆ

บริษัทที่ดีที่เก่งอาจจะไม่น่าซื้อก็ได้ถ้าราคาหุ้นมัน overvalue ไปแล้ว
ในขณะเดียวกันหุ้นที่แย่ๆ ก็อาจจะน่าซื้อก็ได้ ถ้าราคามัน undervalue มากๆ

ส่วนรายละเอียดวิธีการประเมินนั้น เป็นเรื่องยาวมากและเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์

ผมแนะนำหนังสือของน้องสุมาอี้ครับ "วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง" ถือโอกาสโฆษณาเสียเลย  :lol:

แต่ว่าเป็นเล่มที่อ่านยากมากๆเลยครับ  แฮ่ๆ ๆ
ถ้าน้องสุมาอี้จะพิมพ์ซ้ำ และจะกรุณาปรับเปลี่ยนให้อ่านเข้าใจง่ายๆก็จะสุดยอดไปเลย  :lol:
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
doodeemak
Verified User
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

:cool:  :cool:  :bow:  :bow:

ขอบคุณความคิดเห็นของทุกๆท่านนะครับ

ในใจผมคงจะอ่านแค่บางส่วนของ 56-1 และอ่านเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมไปตามที่คุณสามัญชนบอกไว้น่าจะดีนะครับ

แต่คงเปลี่ยนจาก 1 ปี เป็น 2 ปี น่าจะเหมาะสมกว่า  :? ... เมื่อวานลองอ่านอุตสาหกรรมกระดาษดูเป็นอุตสาหกรรมแรก (เพราะขึ้นต้นด้วยกอไก่) ก็พอไปได้ครับ เพราะมีแค่ 3 บริษัท ได้ความรู้ว่าถึงแม้อยู่อุตสาหกรรมเดียวกัน แต่ก็อาจจะเป็น supplier ให้กันก็ได้ และ value chain ก็อาจจะต่างกัน แต่ละบริษัทก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน... รู้สึกสนุกดีนะครับ (คงเป็นแค่ช่วงแรกๆ)  :lol:  :lol:  :lol:
Inactive investor
ภาพประจำตัวสมาชิก
gnomeller
Verified User
โพสต์: 425
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

[quote="..."]
ผมแนะนำหนังสือของน้องสุมาอี้ครับ "วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง" ถือโอกาสโฆษณาเสียเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 1

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมก็เหมือนพี่หมอสามัญชน นั่นแหละครับ
ทีแรกไล่อ่านตามตัวอักษร ตอนนี้ไล่อ่านตามอุตสาหกรรม
โดยเริ่มจากอุตสาหกรรมที่เราเข้าใจง่ายก่อน

แบงค์ ไฟแนนซ์ อย่าอ่านเป็นอุตสาหกรรมแรกเลยครับ
หนามากๆ อาจหมดกำลังใจก่อนได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
sathaporne
Verified User
โพสต์: 1661
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เราจะสามารถหาดูได้จากที่ไหนเหรอครับว่าในแต่ละอุตสาหกรรมมีหุ้นตัวไหนบ้าง รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

บริษัทส่วนใหญ่ก็จะยังอยู่ในอุตสาหกรรมเดิมๆนะครับ

จึงลำบากในปีแรกที่ต้องทำความเข้าใจ  แต่ปีต่อๆมาก็คงจะอ่านน้อยลง

แต่งบการเงินซิครับ  ถ้าจะอ่านหมดคงเหนื่อยๆแน่ๆ  อ่านใหม่ทุกปีคงไม่พอ  เพราะงบการเงินออกเป็นรายไตรมาส  วันหนึ่งคงต้องหลายบริษัททีเดียวละครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

มีใครอ่านฟอร์ม 56-1 ของทุกบริษัทจบแล้วบ้างครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อ่า จริงๆผมว่าน่าจะลองคิดว่าธุรกิจไหนที่น่าจะดี นะครับ แล้วเลือกหุ้นในธุรกิจนั้นแล้วจึงค่อยศึกษา แต่ถ้าศึกษาได้หมดทุกตัวก็ดีนะครับ
คุ้มครับ เพียงแต่ผมว่าอย่ากำหนดว่าจะให้ครบ 1 ปี เลยครับ ดูไปเรื่อยๆดีกว่าครับ บางทีผมว่าเรามีเรื่องอย่างอื่นมากมายให้ศึกษานะครับ
อย่างสมมุติผมถือหุ้น 1 บริษัท ก็ต้องใข้เวลาติดตามพอสมควร และถ้าจะให้ศึกษาหุ้นตัวอื่นอีก ก็ต้องใช้เวลามากขึ้นไปอีก และถ้าแบ่งเวลาไม่ดี
พอหุ้นที่เราถือมีอะไรเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเราก็อาจจะติดตามได้ไม่ครบถ้วน

ปล . ใจจริงผมก็อยากทำนะครับ ศึกษาหุ้นทุดๆตัวแต่ไม่กำหนดว่า 1 ปีนะครับ  
       เหอะๆ  แต่น่าเสียดายยังไม่ใช่นักลงทุนเต็มตัว
       ยังไม่ค่อยมีเวลา รออีกแปปนะครับ ไว้สร้างรากฐานเสร็จก่อนจะกระโดด
       มาเป็นนักลงทุนเต็มตัว ^ o ^
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
โพสต์โพสต์