PTTปลดแอกเพิกถอน ฝรั่ง-กองทุนยังเทใจให้
- vichit
- Verified User
- โพสต์: 15833
- ผู้ติดตาม: 0
PTTปลดแอกเพิกถอน ฝรั่ง-กองทุนยังเทใจให้
โพสต์ที่ 1
17 ธันวาคม 2550 09:15
PTTปลดแอกเพิกถอน ฝรั่ง-กองทุนยังเทใจให้
--------------------------------------------------------------------------------
ทันหุ้น-PTT ฟ้าเปิด หลังศาลยกฟ้องไม่เพิกถอนแปรรูป แต่สั่งโอนที่ดิน-ท่อส่งก๊าซคืนคลัง ด้านโบรกไทย-เทศประสานเสียงตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก ส่วนโบรกไทยมองผลกระทบหั่นราคาลงเหลือไม่ต่ำกว่า 335 บาท ประเมินเรื่องค่าเช่าท่อก๊าซไม่กระทบรายได้ ส่วนกำไรจะลดลงเท่าไหร่ต้องรอดูแนวทางที่ชัดเจนก่อน ขณะที่โบรกต่างชาติยังมั่นใจสุดๆ ยืนเป้าราคาหุ้น 450 บาท ยืนยันฝรั่งยังถือหุ้น PTT แน่น ด้านนักลงทุนสถาบันยังกอดหุ้นไว้ไม่ปล่อย มองต้นทุนยังคุ้มค่า และพร้อมโดดเก็บหากราคาร่วง ลงมา ด้านผู้บริหาร ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ คาดกระทบรายได้ กำไรเล็กน้อย คาดหุ้น PTT กลับซื้อขายอีกครั้งวันพุธที่ 19 ธันวาคมนี้
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งไม่เพิกถอนกฎหมายแปรรูป บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT ทั้ง 2 ฉบับเนื่องจากเกรงจะเกิดผลกระทบในวงกว้าง จึงทำให้ PTT มีสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดต่อไป แต่ให้แก้ไขประเด็นต่างๆ ที่ขัดต่อข้อกฎหมาย โดยกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ
รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ PTT ให้เสร็จสิ้นก่อนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดยเฉพาะการถือครองกรรมสิทธิในท่อส่งก๊าซทั้งที่ระยอง-สมุทรปราการ, ชายแดนพม่า-ราชบุรี รวมทั้งท่อส่งน้ำมัน ซึ่งถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่เป็นสมบัติของแผ่นดิน
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) PTT กล่าวว่า รายได้และกำไรสุทธิในแต่ละปีคงจะถูกกระทบเล็กน้อยหลังจากจะต้องโอนทรัพย์สินบางส่วนคืนให้กักระทรวงการคลัง ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และคาดว่าหุ้น PTT จะกลับเข้าซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคมนี้
เรื่องรายได้และกำไรคงกระทบไม่มาก นิดเดียว เพราะว่าเงินค่าเช่าที่ให้คลัง มองว่านิดเดียว เพราะเป็นทรัพย์สินที่คลังได้มาโดยไม่มีต้นทุน และหวังว่าหุ้น PTT จะกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นได้อีกครั้งในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ หลังจากเสนอรายละเอียดการโอนสินทรัพย์คืนให้กับกระทรวงการคลัง ต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 18 ธ.ค.นี้นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้ประเมินมูลค่าโครงข่ายท่อก๊าซธรรมชาติ-ที่ดินเวนคืนแนวท่อก๊าซ จำนวน 32 ไร่ ไว้ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และกิจการท่อส่งก๊าซทำรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ จากรายได้รวมที่คาดว่าจะมีประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอสรุปรายละเอียดอีกครั้งว่าจะต้องโอนสินทรัพย์ดังกล่าวกลับคืนให้รัฐในมูลค่าเท่าใด และเชื่อว่าจะมีภาระภาษีจากการโอนทรัพย์สินเกิดขึ้นอีกส่วนหนึ่ง แต่คงไม่มากถึงขั้นต้องกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท
นางภัทรียาเบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวา ตลท.พร้อมจะเปิดซื้อขายสำหรับหุ้น PTT ทันทีที่ได้รับข้อมูลชี้แจงชัดเจน หลังมีการนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 18 ธันวาคมนี้
"วันแรกที่เปิดซื้อขาย ไม่น่าจะกระทบ เพราะความกังวลมีที่มีอยู่ ได้วามชัดเจนแล้วว่า PTT ยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน" นางภัทรียา กล่าว
ทั้งนี้หลังปลด SP วันแรก ตลท.จะยังคงดำเนินการตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ ในการกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุด(Ceiling and Floor)ตามปกติ
หนุนตลาดหุ้นเชิงบวก
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ผลการพิจารณาคดีของ PTT ดังกล่าวนั้นถือเป็น Positive ต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ เพราะถึงแม้ยังต้องติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ PTT ในเรื่องการโอนสินทรัพย์กลับไปให้รัฐ แต่น้ำหนักก็น้อยกว่าการเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เรามองว่าน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแถวแนวต้านที่ 840 จุด ซึ่งน่าจะตอบรับในเชิงบวกได้ เพราะต่อจากนี้คงกลับมาดูในตัวของ PTT เองว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แต่ในภาพรวมตลาดหลังจาก PTT ไม่ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นนั้นเป็นบวกมากกว่านางสาวมยุรีกล่าว
เลวร้ายสุดฉุดเป้าลด60บ.
สำหรับผลการดำเนินงานของ PTT ในส่วนของรายได้คาดว่าจะคงเดิม เนื่องจาก PTT ยังคงเป็นผู้ดำเนินงานธุรกิจท่อก๊าซต่อไป แต่กำไรสุทธิมีแนวโน้มลดลง เนื่องจาก PTT จะต้องจ่ายค่าเช่าสินทรัพย์ให้กับกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันยังคงไม่ทราบว่าจะตกลงกันที่อัตราเท่าไร
ส่วนมูลค่ากิจการ (NAV) ก็คงจะลดลงตามกำไรของธุรกิจท่อก๊าซ โดยฝ่ายวิจัยประเมินในกรณีที่แย่ที่สุดไว้ที่ 60 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นกรณีที่คืนสินทรัพย์ทั้งหมดและไม่มีกำไรจากธุรกิจท่อก๊าซเลย แต่ในความเป็นจริงคาดว่าธุรกิจท่อก๊าซจะยังคงมีกำไร เพียงแต่ยังคงไม่ชัดเจนพอที่จะประเมินมูลค่าได้ จึงส่งผลให้มูลค่าเหมาะสมของ PTT จะลดลงจาก 395 บาท เหลือ ไม่ต่ำกว่า 335 บาท
แต่อย่างไรก็ตามผลการพิจารณาดังกล่าวนั้นถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จึง แนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ PTTEP ,TOP ,RRC ,KBANK ,BAY ,SCC ,LH ,QH รวมถึง TDEX
โบรกฝรั่งยังยืนเป้า450บ.
นายวรภัคร ธันยาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีการปรับราคาเหมาะสมของหุ้น PTT ที่ให้ไว้ที่ระดับ 450 บาท ถึงแม้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเงื่อนไขการโอนท่อก๊าซส่วนใดบ้าง รวมถึงค่าเช่า และการลงทุนท่อก๊าซในอนาคต
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าบทสรุปทุกอย่างน่าจะออกมาในเชิงบวก เพราะหากพิจารณาเปรียบเทียบกับกรณีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ที่จะมีการแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนก็จะมีการโอนเขื่อนทั้งหมดให้กับกรมธนารักษ์ และทำการเช่าบริหารต่อ ซึ่งค่าเช่าก็ค่อนข้างต่ำทำให้ไม่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ
ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงถือหุ้น PTT อยู่ เพราะผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่เราคาดไว้ตั้งแต่แรก และนักลงทุนต่างชาติก็รอความชัดเจนในเรื่องการโอนท่อก๊าซ รวมถึงค่าเช่าเท่าไหร่ และการลงทุนท่อก๊าซในอนาคตจะเป็นในรูปแบบลักษณะไหน ลงทุนแล้วโอนกลับให้รัฐ หรือจะเป็นในรูปสัมปทานตรงนี้สัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนนายวรภัครกล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ประเมินว่า หลังจากศาลปกครองตัดสินคดีแปรรูป PTT โดยไม่มีการเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นแล้วน่าจะลดความกดดัน และคงทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น โดยมองว่าหุ้น PTT ยังเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และน่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ
หุ้นร่วงบลจ.รอสอย
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับกรณีของ PTT ที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโดยรวม และคาดว่าหลังจากที่หุ้น PTT กลับมาซื้อขายได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ก็น่าจะตอบรับในเชิงบวกได้
เรื่องนี้ถือเป็น Positive ต่อตลาดหุ้นไทย และเราก็ได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ทำให้ที่ผ่านมาเราไม่ได้ขายหุ้น PTT ออกไปเลย เพราะการที่ราคาหุ้น PTT ปรับตัวลงมาจากระดับ 400 บาท ลงมาประมาณ 360 บาทนั้นก็ถือว่าสะท้อนไปแล้ว ซึ่งไม่กระทบกับต้นทุนของเรานายวิชชุกล่าว
ทั้งนี้มองว่าสำหรับนักลงทุนสถาบันคาดว่าส่วนใหญ่จะยังคงถือหุ้น PTT อยู่เพราะเมื่อเทียบต้นทุนที่ถืออยู่กับผลกระทบของราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมายังคุ้มค่าที่จะถือต่อไป ส่วนจะมีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น PTT หรือไม่นั้นคงขึ้นกับราคาหุ้นด้วยหากปรับตัวลงมาระดับหนึ่งก็เป็นโอกาสที่จะเก็บได้
เนื่องจากถึงแม้ PTT จะไม่ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น แต่ยังมีอีก 1-2 ประเด็นที่ยังต้องติดตาม คือเรื่อง การโอนกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติกลับคืนมายังรัฐทั้งหมดกี่เส้น รวมถึงค่าเช่าที่จะเกิดขึ้นคิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งอาจกดดันราคาหุ้นช่วงสั้นได้
ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการซื้อขาย ล่าสุด (14 ธ.ค.2550) ปิดที่ระดับ 836.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.31 จุด หรือ 0.40% โดยระหว่างวันดัชนีขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 843.99 จุด ต่ำสุดที่ 834.12 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 17,089.12 ล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------
PTTปลดแอกเพิกถอน ฝรั่ง-กองทุนยังเทใจให้
--------------------------------------------------------------------------------
ทันหุ้น-PTT ฟ้าเปิด หลังศาลยกฟ้องไม่เพิกถอนแปรรูป แต่สั่งโอนที่ดิน-ท่อส่งก๊าซคืนคลัง ด้านโบรกไทย-เทศประสานเสียงตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก ส่วนโบรกไทยมองผลกระทบหั่นราคาลงเหลือไม่ต่ำกว่า 335 บาท ประเมินเรื่องค่าเช่าท่อก๊าซไม่กระทบรายได้ ส่วนกำไรจะลดลงเท่าไหร่ต้องรอดูแนวทางที่ชัดเจนก่อน ขณะที่โบรกต่างชาติยังมั่นใจสุดๆ ยืนเป้าราคาหุ้น 450 บาท ยืนยันฝรั่งยังถือหุ้น PTT แน่น ด้านนักลงทุนสถาบันยังกอดหุ้นไว้ไม่ปล่อย มองต้นทุนยังคุ้มค่า และพร้อมโดดเก็บหากราคาร่วง ลงมา ด้านผู้บริหาร ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ คาดกระทบรายได้ กำไรเล็กน้อย คาดหุ้น PTT กลับซื้อขายอีกครั้งวันพุธที่ 19 ธันวาคมนี้
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งไม่เพิกถอนกฎหมายแปรรูป บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT ทั้ง 2 ฉบับเนื่องจากเกรงจะเกิดผลกระทบในวงกว้าง จึงทำให้ PTT มีสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดต่อไป แต่ให้แก้ไขประเด็นต่างๆ ที่ขัดต่อข้อกฎหมาย โดยกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ
รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ PTT ให้เสร็จสิ้นก่อนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 โดยเฉพาะการถือครองกรรมสิทธิในท่อส่งก๊าซทั้งที่ระยอง-สมุทรปราการ, ชายแดนพม่า-ราชบุรี รวมทั้งท่อส่งน้ำมัน ซึ่งถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่เป็นสมบัติของแผ่นดิน
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) PTT กล่าวว่า รายได้และกำไรสุทธิในแต่ละปีคงจะถูกกระทบเล็กน้อยหลังจากจะต้องโอนทรัพย์สินบางส่วนคืนให้กักระทรวงการคลัง ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และคาดว่าหุ้น PTT จะกลับเข้าซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคมนี้
เรื่องรายได้และกำไรคงกระทบไม่มาก นิดเดียว เพราะว่าเงินค่าเช่าที่ให้คลัง มองว่านิดเดียว เพราะเป็นทรัพย์สินที่คลังได้มาโดยไม่มีต้นทุน และหวังว่าหุ้น PTT จะกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นได้อีกครั้งในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ หลังจากเสนอรายละเอียดการโอนสินทรัพย์คืนให้กับกระทรวงการคลัง ต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 18 ธ.ค.นี้นายประเสริฐกล่าว
ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้ประเมินมูลค่าโครงข่ายท่อก๊าซธรรมชาติ-ที่ดินเวนคืนแนวท่อก๊าซ จำนวน 32 ไร่ ไว้ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท และกิจการท่อส่งก๊าซทำรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในปีนี้ จากรายได้รวมที่คาดว่าจะมีประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอสรุปรายละเอียดอีกครั้งว่าจะต้องโอนสินทรัพย์ดังกล่าวกลับคืนให้รัฐในมูลค่าเท่าใด และเชื่อว่าจะมีภาระภาษีจากการโอนทรัพย์สินเกิดขึ้นอีกส่วนหนึ่ง แต่คงไม่มากถึงขั้นต้องกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท
นางภัทรียาเบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวา ตลท.พร้อมจะเปิดซื้อขายสำหรับหุ้น PTT ทันทีที่ได้รับข้อมูลชี้แจงชัดเจน หลังมีการนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 18 ธันวาคมนี้
"วันแรกที่เปิดซื้อขาย ไม่น่าจะกระทบ เพราะความกังวลมีที่มีอยู่ ได้วามชัดเจนแล้วว่า PTT ยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน" นางภัทรียา กล่าว
ทั้งนี้หลังปลด SP วันแรก ตลท.จะยังคงดำเนินการตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ ในการกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุด(Ceiling and Floor)ตามปกติ
หนุนตลาดหุ้นเชิงบวก
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ผลการพิจารณาคดีของ PTT ดังกล่าวนั้นถือเป็น Positive ต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ เพราะถึงแม้ยังต้องติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ PTT ในเรื่องการโอนสินทรัพย์กลับไปให้รัฐ แต่น้ำหนักก็น้อยกว่าการเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เรามองว่าน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแถวแนวต้านที่ 840 จุด ซึ่งน่าจะตอบรับในเชิงบวกได้ เพราะต่อจากนี้คงกลับมาดูในตัวของ PTT เองว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แต่ในภาพรวมตลาดหลังจาก PTT ไม่ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นนั้นเป็นบวกมากกว่านางสาวมยุรีกล่าว
เลวร้ายสุดฉุดเป้าลด60บ.
สำหรับผลการดำเนินงานของ PTT ในส่วนของรายได้คาดว่าจะคงเดิม เนื่องจาก PTT ยังคงเป็นผู้ดำเนินงานธุรกิจท่อก๊าซต่อไป แต่กำไรสุทธิมีแนวโน้มลดลง เนื่องจาก PTT จะต้องจ่ายค่าเช่าสินทรัพย์ให้กับกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันยังคงไม่ทราบว่าจะตกลงกันที่อัตราเท่าไร
ส่วนมูลค่ากิจการ (NAV) ก็คงจะลดลงตามกำไรของธุรกิจท่อก๊าซ โดยฝ่ายวิจัยประเมินในกรณีที่แย่ที่สุดไว้ที่ 60 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นกรณีที่คืนสินทรัพย์ทั้งหมดและไม่มีกำไรจากธุรกิจท่อก๊าซเลย แต่ในความเป็นจริงคาดว่าธุรกิจท่อก๊าซจะยังคงมีกำไร เพียงแต่ยังคงไม่ชัดเจนพอที่จะประเมินมูลค่าได้ จึงส่งผลให้มูลค่าเหมาะสมของ PTT จะลดลงจาก 395 บาท เหลือ ไม่ต่ำกว่า 335 บาท
แต่อย่างไรก็ตามผลการพิจารณาดังกล่าวนั้นถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จึง แนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ PTTEP ,TOP ,RRC ,KBANK ,BAY ,SCC ,LH ,QH รวมถึง TDEX
โบรกฝรั่งยังยืนเป้า450บ.
นายวรภัคร ธันยาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีการปรับราคาเหมาะสมของหุ้น PTT ที่ให้ไว้ที่ระดับ 450 บาท ถึงแม้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเงื่อนไขการโอนท่อก๊าซส่วนใดบ้าง รวมถึงค่าเช่า และการลงทุนท่อก๊าซในอนาคต
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าบทสรุปทุกอย่างน่าจะออกมาในเชิงบวก เพราะหากพิจารณาเปรียบเทียบกับกรณีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ที่จะมีการแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนก็จะมีการโอนเขื่อนทั้งหมดให้กับกรมธนารักษ์ และทำการเช่าบริหารต่อ ซึ่งค่าเช่าก็ค่อนข้างต่ำทำให้ไม่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ
ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงถือหุ้น PTT อยู่ เพราะผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่เราคาดไว้ตั้งแต่แรก และนักลงทุนต่างชาติก็รอความชัดเจนในเรื่องการโอนท่อก๊าซ รวมถึงค่าเช่าเท่าไหร่ และการลงทุนท่อก๊าซในอนาคตจะเป็นในรูปแบบลักษณะไหน ลงทุนแล้วโอนกลับให้รัฐ หรือจะเป็นในรูปสัมปทานตรงนี้สัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนนายวรภัครกล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ประเมินว่า หลังจากศาลปกครองตัดสินคดีแปรรูป PTT โดยไม่มีการเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นแล้วน่าจะลดความกดดัน และคงทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น โดยมองว่าหุ้น PTT ยังเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และน่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ
หุ้นร่วงบลจ.รอสอย
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับกรณีของ PTT ที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโดยรวม และคาดว่าหลังจากที่หุ้น PTT กลับมาซื้อขายได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ก็น่าจะตอบรับในเชิงบวกได้
เรื่องนี้ถือเป็น Positive ต่อตลาดหุ้นไทย และเราก็ได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ทำให้ที่ผ่านมาเราไม่ได้ขายหุ้น PTT ออกไปเลย เพราะการที่ราคาหุ้น PTT ปรับตัวลงมาจากระดับ 400 บาท ลงมาประมาณ 360 บาทนั้นก็ถือว่าสะท้อนไปแล้ว ซึ่งไม่กระทบกับต้นทุนของเรานายวิชชุกล่าว
ทั้งนี้มองว่าสำหรับนักลงทุนสถาบันคาดว่าส่วนใหญ่จะยังคงถือหุ้น PTT อยู่เพราะเมื่อเทียบต้นทุนที่ถืออยู่กับผลกระทบของราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมายังคุ้มค่าที่จะถือต่อไป ส่วนจะมีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น PTT หรือไม่นั้นคงขึ้นกับราคาหุ้นด้วยหากปรับตัวลงมาระดับหนึ่งก็เป็นโอกาสที่จะเก็บได้
เนื่องจากถึงแม้ PTT จะไม่ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น แต่ยังมีอีก 1-2 ประเด็นที่ยังต้องติดตาม คือเรื่อง การโอนกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติกลับคืนมายังรัฐทั้งหมดกี่เส้น รวมถึงค่าเช่าที่จะเกิดขึ้นคิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งอาจกดดันราคาหุ้นช่วงสั้นได้
ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการซื้อขาย ล่าสุด (14 ธ.ค.2550) ปิดที่ระดับ 836.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.31 จุด หรือ 0.40% โดยระหว่างวันดัชนีขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 843.99 จุด ต่ำสุดที่ 834.12 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 17,089.12 ล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
PTTปลดแอกเพิกถอน ฝรั่ง-กองทุนยังเทใจให้
โพสต์ที่ 6
แต่ตอนนี้ ลบ 11จุดnanakorn เขียน:
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- path2544
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
ต่างชาติเทใจให้ PTT
โพสต์ที่ 7
ประเภทนักลงทุน ซื้อ ขาย ซื้อ (ขาย) สุทธิ
สถาบันในประเทศ 2,295.14 1,405.07 890.07
บุคคลธรรมดาในประเทศ 11,171.26 9,379.12 1,792.14
นักลงทุนต่างประเทศ 3,622.74 6,304.96 (2,682.22)
หรือว่าจะเอาเงินไปซื้อ PTT ในวันที่ปลด SP นะ :lol: :lol:
ไม่เก่งทั้งวิเคราะห์เทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน แต่เราก็ยังรั้นที่จะรวยเพราะหุ้น