PTTARจ่อขึ้นสังเวียนเทรด2ม.ค
- vichit
- Verified User
- โพสต์: 15833
- ผู้ติดตาม: 0
PTTARจ่อขึ้นสังเวียนเทรด2ม.ค
โพสต์ที่ 1
PTTARจ่อขึ้นสังเวียนเทรด2ม.ค
--------------------------------------------------------------------------------
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ " หัวเรือใหญ่ค่าย PTT เตรียมลั่นระฆังเปิดเทรดหุ้น PTTAR ที่ราคา 43.06 บาท 2 ม.ค.นี้ ระบุชัดราคาเปิดช่วงแรกคำนวณก่อนการควบรวม ATC และ RRC อย่างแยบยลไม่มีนอกมีใน เชื่อวันแรกราคาถูกขับเคลื่อนไปตามกลไกตลาด โบรกสวนมัดเด็ด PTTAR อนาคตไกลลุ้นรับเงินปันผลเข้ากระเป๋าปีละ 2 ครั้ง แนะ ซื้อ เป้าหมาย 62.00 บาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) PTTAR ซึ่งเกิดจากการควบรวมกันระหว่างบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) RRCและ บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ATC เปิดเผยว่า PTTAR จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) แทน RRC-ATC ในวันที่ 2 ม.ค.2551 โดยมีราคาเปิดเริ่มแรกที่ 43.06 บาทต่อหุ้น
การกำหนดราคาของหุ้น PTTAR ในการเปิดซื้อขายวันแรกนั้นได้มีการคำนวณตามอัตราส่วนของราคาหุ้นทั้งสองบริษัทก่อนการควบรวมระหว่างกัน ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในวันแรกเราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่หวังว่านักลงทุนจะได้ความสนใจกันล้นหลามเพราะ PTTAR เป็นหุ้นที่มีอนาคต ซึ่งหลังควบรวมกิจการกันแล้วโรงกลั่นใหญ่ใกล้เคียงกับไทยออยล์"นายประเสริฐกล่าว
สำหรับโครงสร้างการบริหารของ PTTAR นั้นทางบริษัทจะมีการเพิ่มตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร จากเดิมที่มีแต่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อให้ทั้งนายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ATC และนายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ RRC ทำงานร่วมกัน โดยในวันนี้คณะกรรมการบริษัทจะแต่งตั้งประธานกรรมการบริหาร ซึ่งผู้ที่มารับตำแหน่งจะต้องเป็นกรรมการบริษัทด้วย และขณะนี้นายเพิ่มศักดิ์ได้เข้ามาเป็นกรรมการแล้ว
ด้านนายเพิ่มศักดิ์ กล่าวว่าหลังการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทจะมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น สภาวะของอุตสาหกรรม ก็เริ่มนิ่งเนื่องจากมีธุรกิจครบวงจร ประกอบกับปีหน้าการขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีในแถบตะวันออกลางยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้ซัพพลายในตลาดอยู่ในระดับทรงตัว จะส่งผลให้ราคาอะโรเมติกส์อยู่ในระดับสูงและมาร์จิ้นยังดีอยู่
ขณะที่นายชายน้อย คาดว่า PTTAR จะจ่ายปันผลงวดปี 2550 ให้กับผู้ถือหุ้นในนามของ PTTAR ไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น PTTAR ปี 2551 ไว้ที่ 62.00 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่า หลังควบรวมกิจการระหว่าง ATC และ RRC ภายใต้ชื่อ PTTAR จะเข้าเทรดวันที่ 2 มกราคม 2551 แน่นอน
อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลังควบรวมกิจการ รวมทั้งความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่ดีขึ้น ผลประกอบการจะมีความผันผวนลดลง เพราะมีความยืดหยุ่นด้านการผลิต สอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้คาดว่าบริษัทจะมีการปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลจากปีละ 1 ครั้ง เป็นปีละ 2 ครั้ง
รวมทั้งผลิตภัณฑ์บางส่วน สามารถนำกลับมาใช้ในการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกการขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ทั้งปิโตรเลียมและอะโรเมติกส์จะมีสัญญาขายกับ PTT ถือเป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการควบรวมกิจการ
สำหรับลักษณะธุรกิจหลังควบรวมกิจการธุรกิจของ PTTAR หลังควบรวมกิจการจะประกอบไปด้วย 4 หน่วยธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโรงกลั่น จะเป็นมีสัดส่วนรายได้สูงที่สุดซึ่งภายหลังจากการควบรวมกิจการกำลังการผลิตในส่วนธุรกิจโรงกลั่นจะเพิ่มขึ้นเป็น 280,000 บาร์เรลต่อวัน มาจากกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 145,000 บาร์เรลต่อวันเป็นหน่วยกลั่นของ RRC เดิมและกำลังการกลั่น Condensate อีก 70,000 และ 65,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงงานอะโรเมติกส์แห่งที่ 1 และ 2
ขณะที่ผลิตภัณฑ์หลักยังเป็น น้ำมันดีเซล น้ำมันอากาศยาน LPG Reformate LightNaphtha และ Propylene อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีกหลักโครงการUpgradingUnitเสร็จ โดยกระบวนการจะเป็นการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจาก CondensateResidue ที่ได้มาจากการกลั่น Condensate โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปี 2551
สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีจะมีการผลิตสารอะโรเมติกส์ในรูปของสารเบนซีน โทลูอีน และสารไซลีน ประกอบไปด้วยสารพาราไซลีน สารออร์โทไซลีน และสารมิกซ์ไซลีน โดยกำลังการผลิตหลังควบรวมกิจการ+โครงการอะโรเมติกส์แห่งที่ 2 จะทำให้ PTTAR มีกำลังการผลิตสารอะโรเมติกส์รวม 2.23 ล้านตันต่อปี
--------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ " หัวเรือใหญ่ค่าย PTT เตรียมลั่นระฆังเปิดเทรดหุ้น PTTAR ที่ราคา 43.06 บาท 2 ม.ค.นี้ ระบุชัดราคาเปิดช่วงแรกคำนวณก่อนการควบรวม ATC และ RRC อย่างแยบยลไม่มีนอกมีใน เชื่อวันแรกราคาถูกขับเคลื่อนไปตามกลไกตลาด โบรกสวนมัดเด็ด PTTAR อนาคตไกลลุ้นรับเงินปันผลเข้ากระเป๋าปีละ 2 ครั้ง แนะ ซื้อ เป้าหมาย 62.00 บาท
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) PTTAR ซึ่งเกิดจากการควบรวมกันระหว่างบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) RRCและ บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ATC เปิดเผยว่า PTTAR จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) แทน RRC-ATC ในวันที่ 2 ม.ค.2551 โดยมีราคาเปิดเริ่มแรกที่ 43.06 บาทต่อหุ้น
การกำหนดราคาของหุ้น PTTAR ในการเปิดซื้อขายวันแรกนั้นได้มีการคำนวณตามอัตราส่วนของราคาหุ้นทั้งสองบริษัทก่อนการควบรวมระหว่างกัน ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในวันแรกเราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่หวังว่านักลงทุนจะได้ความสนใจกันล้นหลามเพราะ PTTAR เป็นหุ้นที่มีอนาคต ซึ่งหลังควบรวมกิจการกันแล้วโรงกลั่นใหญ่ใกล้เคียงกับไทยออยล์"นายประเสริฐกล่าว
สำหรับโครงสร้างการบริหารของ PTTAR นั้นทางบริษัทจะมีการเพิ่มตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร จากเดิมที่มีแต่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อให้ทั้งนายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ATC และนายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ RRC ทำงานร่วมกัน โดยในวันนี้คณะกรรมการบริษัทจะแต่งตั้งประธานกรรมการบริหาร ซึ่งผู้ที่มารับตำแหน่งจะต้องเป็นกรรมการบริษัทด้วย และขณะนี้นายเพิ่มศักดิ์ได้เข้ามาเป็นกรรมการแล้ว
ด้านนายเพิ่มศักดิ์ กล่าวว่าหลังการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทจะมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น สภาวะของอุตสาหกรรม ก็เริ่มนิ่งเนื่องจากมีธุรกิจครบวงจร ประกอบกับปีหน้าการขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีในแถบตะวันออกลางยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้ซัพพลายในตลาดอยู่ในระดับทรงตัว จะส่งผลให้ราคาอะโรเมติกส์อยู่ในระดับสูงและมาร์จิ้นยังดีอยู่
ขณะที่นายชายน้อย คาดว่า PTTAR จะจ่ายปันผลงวดปี 2550 ให้กับผู้ถือหุ้นในนามของ PTTAR ไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น PTTAR ปี 2551 ไว้ที่ 62.00 บาทต่อหุ้น โดยประเมินว่า หลังควบรวมกิจการระหว่าง ATC และ RRC ภายใต้ชื่อ PTTAR จะเข้าเทรดวันที่ 2 มกราคม 2551 แน่นอน
อย่างไรก็ตามบริษัทจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลังควบรวมกิจการ รวมทั้งความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่ดีขึ้น ผลประกอบการจะมีความผันผวนลดลง เพราะมีความยืดหยุ่นด้านการผลิต สอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมมากขึ้น ทำให้คาดว่าบริษัทจะมีการปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลจากปีละ 1 ครั้ง เป็นปีละ 2 ครั้ง
รวมทั้งผลิตภัณฑ์บางส่วน สามารถนำกลับมาใช้ในการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกการขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ทั้งปิโตรเลียมและอะโรเมติกส์จะมีสัญญาขายกับ PTT ถือเป็นประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการควบรวมกิจการ
สำหรับลักษณะธุรกิจหลังควบรวมกิจการธุรกิจของ PTTAR หลังควบรวมกิจการจะประกอบไปด้วย 4 หน่วยธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโรงกลั่น จะเป็นมีสัดส่วนรายได้สูงที่สุดซึ่งภายหลังจากการควบรวมกิจการกำลังการผลิตในส่วนธุรกิจโรงกลั่นจะเพิ่มขึ้นเป็น 280,000 บาร์เรลต่อวัน มาจากกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 145,000 บาร์เรลต่อวันเป็นหน่วยกลั่นของ RRC เดิมและกำลังการกลั่น Condensate อีก 70,000 และ 65,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงงานอะโรเมติกส์แห่งที่ 1 และ 2
ขณะที่ผลิตภัณฑ์หลักยังเป็น น้ำมันดีเซล น้ำมันอากาศยาน LPG Reformate LightNaphtha และ Propylene อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีกหลักโครงการUpgradingUnitเสร็จ โดยกระบวนการจะเป็นการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจาก CondensateResidue ที่ได้มาจากการกลั่น Condensate โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ประมาณปี 2551
สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีจะมีการผลิตสารอะโรเมติกส์ในรูปของสารเบนซีน โทลูอีน และสารไซลีน ประกอบไปด้วยสารพาราไซลีน สารออร์โทไซลีน และสารมิกซ์ไซลีน โดยกำลังการผลิตหลังควบรวมกิจการ+โครงการอะโรเมติกส์แห่งที่ 2 จะทำให้ PTTAR มีกำลังการผลิตสารอะโรเมติกส์รวม 2.23 ล้านตันต่อปี
--------------------------------------------------------------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0