ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
- zolomon
- Verified User
- โพสต์: 365
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 61
ถ้ารวมปันผลด้วยก็ 80+ % ครับ :P
ผลพลอยได้จาก UMS, CPALL, PTT สามตัวก็บวกกระจายแล้ว
ปาหน้ายังเสียว ๆ จะได้ถึง 15 รึเปล่าเนี่ย
ผลพลอยได้จาก UMS, CPALL, PTT สามตัวก็บวกกระจายแล้ว
ปาหน้ายังเสียว ๆ จะได้ถึง 15 รึเปล่าเนี่ย
“If we wait for the moment when everything, absolutely everything is ready, we shall never begin.”
Ivan Turgenev
Ivan Turgenev
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 62
นั่งๆอ่านเพลิน เพิ่งมาสังเกตุดูว่าไม่เก็ตมุขนี้แฮะ
โฮ่ๆๆๆ ขอหัวเราเป็นภาษาอารบิกและเขมรรวมกัน
โฮ่ๆๆๆ ขอหัวเราเป็นภาษาอารบิกและเขมรรวมกัน
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1054
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 63
คุณ BLUEBLOOD ครับ
ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
ว่าทำอย่างไรถึงได้ตั้ง 193 % ผมว่าน่าจะเป็นประโยชน์
กับคนใน ไทยวีไอ ไม่มากก็น้อยนะครับ
(ขอละเอียด ๆ ก็ดีนะครับ ว่าถืออะไรในปีที่แล้ว กี่ตัว
เปลี่ยนจากตัวไหนไปตัวไหน ยังไง ทำไม
แล้วเล่นมาร์จิ้นกี่เปอร์เซ็นต์)
ปล. จริง ๆ อยาก พีเอ็ม ไปถาม แต่คิดว่าถ้าทุกคนได้อ่าน
น่าจะมีประโยชน์มากกกว่า
ถ้าไม่ได้ ไม่เป็นไรนะครับ เกรงใจ
ขอบคุณครับ
ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
ว่าทำอย่างไรถึงได้ตั้ง 193 % ผมว่าน่าจะเป็นประโยชน์
กับคนใน ไทยวีไอ ไม่มากก็น้อยนะครับ
(ขอละเอียด ๆ ก็ดีนะครับ ว่าถืออะไรในปีที่แล้ว กี่ตัว
เปลี่ยนจากตัวไหนไปตัวไหน ยังไง ทำไม
แล้วเล่นมาร์จิ้นกี่เปอร์เซ็นต์)
ปล. จริง ๆ อยาก พีเอ็ม ไปถาม แต่คิดว่าถ้าทุกคนได้อ่าน
น่าจะมีประโยชน์มากกกว่า
ถ้าไม่ได้ ไม่เป็นไรนะครับ เกรงใจ
ขอบคุณครับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 66
เพิ่งเก็ตตอนพี่เล็กแซวนี่เอง ... อาเฮียซันพิมพ์ผิดนี่เอง ตกสระอะไปตัวนึงleksmile เขียน: ต้องหัวเราะเป็นภาษา german ถึง get เหรอจ๊ะ ฮ่าๆๆ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 68
โอ โห............. เซี่ยน ๆ กันทั้งนั้นเลยครับ ยินดีด้วยครับ
ปีนี้ รวมปันผลได้ 60% กว่า ๆ แต่ไม่นับปันผลบางส่วนที่เอาไปเที่ยวอังกฤษช่วงปีที่ผ่านมา
ไม่ได้ถือหุ้นเทพอย่าง UMS UEC เลยตกรถไฟขบวนใหญ่เลยครับ
ปีนี้ รวมปันผลได้ 60% กว่า ๆ แต่ไม่นับปันผลบางส่วนที่เอาไปเที่ยวอังกฤษช่วงปีที่ผ่านมา
ไม่ได้ถือหุ้นเทพอย่าง UMS UEC เลยตกรถไฟขบวนใหญ่เลยครับ
In search of super stocks
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 70
เหมือนผมเลยแฮะ น่าจะ เพราะ sc แน่เลย อิอิnewbie_12 เขียน:ได้ speed ช่วงก่อนสิ้นปีไม่กี่วันครับ รอด 20% ไปได้ รวมปันผลแล้วก็ยิ้มแป้นแล้วครับ ปีนี้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 77
ปีนี้ผลตอบแทนตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์เป็น 26.22% รวมกับเงินปันผลเฉลี่ยอีก 3.50 % รวมเป็น 29.72% พอร์ตผมทำผลตอบแทนได้ 237.69% สูงกว่าตลาด 207.97% นับว่าเป็นปีที่โชคดีมากอีกปีหนึ่ง ปีนี้ครบรอบปีที่ 10 ที่ลงทุนในตลาดหุ้น และเป็นปีที่ 8 ที่เริ่มลงทุนตามแนว vi ทำผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 8 ปีได้เท่ากับ 53.9% ต่อปี
ผลตอบแทนที่ทำได้ค่อนข้างสูงผิดปกติในปีนี้ เป็นผลจากหลายสาเหตุ อย่างแรกคือฐานเงินลงทุนที่ต่ำ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการลงทุน สามารถปรับพอร์ตได้เร็วโดยที่ไม่ทำให้ราคาหุ้นเสียไป สาเหตุที่สอง สภาพตลาดรวมที่ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีหุ้นขนาดใหญ่ไม่กี่ตัวที่ราคาสูงขึ้น แต่อย่างน้อยก็ทำให้อารมณ์ของตลาดรวมพลอยดีไปด้วย สาเหตุที่สาม ปีนี้ผมมีการกู้เงินมาลงทุนหรือที่เรียกว่าใช้มาร์จิน ผมลองคำนวณดูปรากฎว่าจากผลตอบแทนรวม 237% เป็นผลจากการใช้เงินมาร์จินประมาณ 49% หรือส่วนผลตอบแทนจากเงินทุนตัวเอง 188% ที่ต้องคำนึงถึงประเด็นการกู้เงินแยกกับการไม่กู้เพราะดูไม่แฟร์หากนำไปเปรียบเทียบกับดัชนีตลาดที่คำนวณจากสมมุติฐานที่ไม่มีการใช้เงินกู้ หรือแม้กระทั่งกองทุนรวมต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้การกู้เงินมาลงทุนเช่นกัน แต่ถ้ามองอีกด้านการกู้เงินมาลงทุนก็คงเหมือนการทำธุรกิจที่มีการใช้เงินกู้นอกเหนือจากเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น โดยกำไรที่ได้ไม่ต้องสนใจว่ามาจากเงินลงทุนส่วนไหน ปีนี้ผมมีการใช้เงินกู้เฉลี่ยประมาณ 10-15% ของพอร์ตรวมทั้งปี ซึ่งอยู่ในระดับที่ผมสบายใจ ว่ามีโอกาสน้อยที่จะโดนบังคับขายหากตลาดตกหนักๆ ปีต่อๆไปก็คาดว่าจะใช้เงินกู้ในระดับนี้เหมือนเดิม ประการสุดท้ายที่ทำให้ผลตอบแทนดีผิดปกติในปีนี้คือการเลือกแนวทางการลงทุนถูกทางคือแนวVI ประกอบกับได้แลกเปลี่ยนความคิดค่อนข้างมากกับเพื่อนสมาชิก TVI หลายท่าน ได้เพื่อนที่คอยให้คำแนะนำอย่างพี่นริศ พี่หมอสามัญชน พี่ ty และน้องๆอีกหลายท่าน yoyo blueblood kong casanova-k ต้องขอบคุณมาที่นี้ด้วย :o
หุ้นที่ทำกำไรได้มากที่สุดทั้งจำนวนเงินและเมื่อคิดเป็น % คือ UMS ตอนที่ซื้อคิดว่าตัวนี้เป็นหุ้นเติบโตสูง พีอีต่ำ งบดี แต่อาจจะมีบางประเด็นที่ทำให้นักลงทุนหลายท่านไม่สบายใจที่จะถือ ส่วนตัวที่ให้ผลตอบแทนรองๆก็เช่น SNC SC BSEC CK SVI-W2 CIG DEMCO TNDT BCP-DR1 TEAM BLS TPAC THL ส่วนที่ขาดทุนก็หลายตัวเช่นกัน เช่น LANNA TASCO PRECHA PTTEP ที่หนักที่สุดคือ CHUO ส่วน STPI เคยขาดทุนหนักเพราะไม่รู้จักธุรกิจอย่างแท้จริง แต่ตอนหลังกลับมาซื้อใหม่และได้กำไรเพราะได้"ข้อมูลพิเศษ" ส่วนที่ผิดหวังที่สุดคงเป็น THL :evil: :evil: หลังจากถือมาเกือบๆ 2 ปี ทำผลตอบแทนได้แค่ 30% ซึ่งนับว่าโชคดีมากแล้วที่ไม่ได้ถือมาถึงปัจจุบัน รอดมาได้เพราะว่าความตื่นตัว ความระวังระแวงแท้ๆครับ ปีที่ผ่านมาผมลงทุนในหุ้นเกือบๆร้อยเปอร์เซนต์ของสินทรัพย์เหมือนเดิมและลงทุนตลอดเวลา ต้นปีเคยถือหุ้นประมาณ 7-8 ตัว แต่เพราะขาดทุนตัว CHUO ทำให้ได้รับรู้บทเรียนว่ามีความเสี่ยงอีกหลายอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เลยตัดสินใจกระจายการถือหุ้นมากขึ้นเป็น 17 ตัวตอนสิ้นปี หลังจากกระจายการถือมากขึ้นรู้สึกว่าลงทุนได้อย่างสบายใจทุกตัว และที่สำคัญก็ไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนลดลง เรียกว่าความเสี่ยงลดลง แต่ผลตอบแทนเหมือนเดิมแถมยังยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับพอร์ต ปีนี้ก็คงยึดแนวทางนี้เหมือนเดิม
การเลือกหุ้นที่จะลงทุนก็คงเป็นแนวคุณค่าคือซื้อหุ้นที่คิดว่าราคาต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น หุ้นอะไรก็ได้ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า แต่ปีที่ผ่านมาพยายามประนีประนอมกับตลาดมากขึ้น คือนอกจากเลือกหุ้นที่คิดว่าดีแล้ว ยังต้องคิดว่าหุ้นนั้นมีปัจจัยด้านจิตวิทยาที่ราคาน่าจะสูงขึ้นด้วยหรือเปล่า ส่วนปัจจัยการเลือกหุ้นประเด็นอื่นๆ ผมเคยโพสต์ในกระทู้นี้ กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ คิดว่าที่เขียนไว้อย่างไรในทางปฏิบัติก็เป็นอย่างนั้น แต่โดยรวมต้องยอมรับว่ามีการรับความเสี่ยงเพื่อเพิ่มผลตอบแทนบ้าง เพราะปัจจุบันแนวทางการลงทุนแบบ VI ได้รับการยอมรับมากขึ้น มีนักลงทุนแนวนี้มากขึ้น หุ้นที่นิยมหลายๆตัวราคาก็สะท้อนพื้นฐานแล้ว เรียกว่าตลาดมองหุ้นเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการเพิ่มผลตอบแทนคงต้องมองหุ้นที่ VI ไม่มองหรือไม่สนใจ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีข้อด้อยบางประการ ซึ่งคนที่จะลงทุนคงต้องชั่งใจว่ายอมรับได้หรือเปล่า อีกประเด็นที่อยากพูดถึงคือเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน ผมเคยแสดงความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยกับการใช้อินไซเดอร์ และบอกว่าตัวผม ไม่ใช้ ไม่แสวงหา ไม่บอกต่อ แต่ปีนี้ผมได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ผมเห็นว่าเป็นอินไซเดอร์แบบดิวิชั่น 2 (คนที่2จากแหล่งข่าว) ถึงสองบริษัท ต้องขอโทษคนที่ผมเคยว่าไว้ด้วย ต่อไปผมคงไม่พูด หรือเสียดสีท่านอีก
เริ่มต้นปีใหม่ ก็หวังว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น ถ้าไม่มีอะไรที่นอกเหนือความคาดหมายมากๆ ปีนี้ก็หวังจะได้ผลตอบแทนตามที่ควรจะเป็นประมาณ 15-20% หุ้นที่ผมถือหลายตัวเป็นหุ้นที่รอการฟื้นตัว หวังว่าคงฟื้นตัวได้จริงๆ คงไม่ได้หวังลมแล้งๆนะครับ ขอให้พอร์ตทุกท่านโตมากๆกันทุกคนในปีการลงทุนนี้ เพราะอย่างน้อยผ่านไปแต่ละปี เราก็มีบทเรียนการลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน
ผลตอบแทนที่ทำได้ค่อนข้างสูงผิดปกติในปีนี้ เป็นผลจากหลายสาเหตุ อย่างแรกคือฐานเงินลงทุนที่ต่ำ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการลงทุน สามารถปรับพอร์ตได้เร็วโดยที่ไม่ทำให้ราคาหุ้นเสียไป สาเหตุที่สอง สภาพตลาดรวมที่ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีหุ้นขนาดใหญ่ไม่กี่ตัวที่ราคาสูงขึ้น แต่อย่างน้อยก็ทำให้อารมณ์ของตลาดรวมพลอยดีไปด้วย สาเหตุที่สาม ปีนี้ผมมีการกู้เงินมาลงทุนหรือที่เรียกว่าใช้มาร์จิน ผมลองคำนวณดูปรากฎว่าจากผลตอบแทนรวม 237% เป็นผลจากการใช้เงินมาร์จินประมาณ 49% หรือส่วนผลตอบแทนจากเงินทุนตัวเอง 188% ที่ต้องคำนึงถึงประเด็นการกู้เงินแยกกับการไม่กู้เพราะดูไม่แฟร์หากนำไปเปรียบเทียบกับดัชนีตลาดที่คำนวณจากสมมุติฐานที่ไม่มีการใช้เงินกู้ หรือแม้กระทั่งกองทุนรวมต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้การกู้เงินมาลงทุนเช่นกัน แต่ถ้ามองอีกด้านการกู้เงินมาลงทุนก็คงเหมือนการทำธุรกิจที่มีการใช้เงินกู้นอกเหนือจากเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น โดยกำไรที่ได้ไม่ต้องสนใจว่ามาจากเงินลงทุนส่วนไหน ปีนี้ผมมีการใช้เงินกู้เฉลี่ยประมาณ 10-15% ของพอร์ตรวมทั้งปี ซึ่งอยู่ในระดับที่ผมสบายใจ ว่ามีโอกาสน้อยที่จะโดนบังคับขายหากตลาดตกหนักๆ ปีต่อๆไปก็คาดว่าจะใช้เงินกู้ในระดับนี้เหมือนเดิม ประการสุดท้ายที่ทำให้ผลตอบแทนดีผิดปกติในปีนี้คือการเลือกแนวทางการลงทุนถูกทางคือแนวVI ประกอบกับได้แลกเปลี่ยนความคิดค่อนข้างมากกับเพื่อนสมาชิก TVI หลายท่าน ได้เพื่อนที่คอยให้คำแนะนำอย่างพี่นริศ พี่หมอสามัญชน พี่ ty และน้องๆอีกหลายท่าน yoyo blueblood kong casanova-k ต้องขอบคุณมาที่นี้ด้วย :o
หุ้นที่ทำกำไรได้มากที่สุดทั้งจำนวนเงินและเมื่อคิดเป็น % คือ UMS ตอนที่ซื้อคิดว่าตัวนี้เป็นหุ้นเติบโตสูง พีอีต่ำ งบดี แต่อาจจะมีบางประเด็นที่ทำให้นักลงทุนหลายท่านไม่สบายใจที่จะถือ ส่วนตัวที่ให้ผลตอบแทนรองๆก็เช่น SNC SC BSEC CK SVI-W2 CIG DEMCO TNDT BCP-DR1 TEAM BLS TPAC THL ส่วนที่ขาดทุนก็หลายตัวเช่นกัน เช่น LANNA TASCO PRECHA PTTEP ที่หนักที่สุดคือ CHUO ส่วน STPI เคยขาดทุนหนักเพราะไม่รู้จักธุรกิจอย่างแท้จริง แต่ตอนหลังกลับมาซื้อใหม่และได้กำไรเพราะได้"ข้อมูลพิเศษ" ส่วนที่ผิดหวังที่สุดคงเป็น THL :evil: :evil: หลังจากถือมาเกือบๆ 2 ปี ทำผลตอบแทนได้แค่ 30% ซึ่งนับว่าโชคดีมากแล้วที่ไม่ได้ถือมาถึงปัจจุบัน รอดมาได้เพราะว่าความตื่นตัว ความระวังระแวงแท้ๆครับ ปีที่ผ่านมาผมลงทุนในหุ้นเกือบๆร้อยเปอร์เซนต์ของสินทรัพย์เหมือนเดิมและลงทุนตลอดเวลา ต้นปีเคยถือหุ้นประมาณ 7-8 ตัว แต่เพราะขาดทุนตัว CHUO ทำให้ได้รับรู้บทเรียนว่ามีความเสี่ยงอีกหลายอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เลยตัดสินใจกระจายการถือหุ้นมากขึ้นเป็น 17 ตัวตอนสิ้นปี หลังจากกระจายการถือมากขึ้นรู้สึกว่าลงทุนได้อย่างสบายใจทุกตัว และที่สำคัญก็ไม่ได้ทำให้ผลตอบแทนลดลง เรียกว่าความเสี่ยงลดลง แต่ผลตอบแทนเหมือนเดิมแถมยังยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับพอร์ต ปีนี้ก็คงยึดแนวทางนี้เหมือนเดิม
การเลือกหุ้นที่จะลงทุนก็คงเป็นแนวคุณค่าคือซื้อหุ้นที่คิดว่าราคาต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น หุ้นอะไรก็ได้ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า แต่ปีที่ผ่านมาพยายามประนีประนอมกับตลาดมากขึ้น คือนอกจากเลือกหุ้นที่คิดว่าดีแล้ว ยังต้องคิดว่าหุ้นนั้นมีปัจจัยด้านจิตวิทยาที่ราคาน่าจะสูงขึ้นด้วยหรือเปล่า ส่วนปัจจัยการเลือกหุ้นประเด็นอื่นๆ ผมเคยโพสต์ในกระทู้นี้ กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ คิดว่าที่เขียนไว้อย่างไรในทางปฏิบัติก็เป็นอย่างนั้น แต่โดยรวมต้องยอมรับว่ามีการรับความเสี่ยงเพื่อเพิ่มผลตอบแทนบ้าง เพราะปัจจุบันแนวทางการลงทุนแบบ VI ได้รับการยอมรับมากขึ้น มีนักลงทุนแนวนี้มากขึ้น หุ้นที่นิยมหลายๆตัวราคาก็สะท้อนพื้นฐานแล้ว เรียกว่าตลาดมองหุ้นเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการเพิ่มผลตอบแทนคงต้องมองหุ้นที่ VI ไม่มองหรือไม่สนใจ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีข้อด้อยบางประการ ซึ่งคนที่จะลงทุนคงต้องชั่งใจว่ายอมรับได้หรือเปล่า อีกประเด็นที่อยากพูดถึงคือเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน ผมเคยแสดงความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยกับการใช้อินไซเดอร์ และบอกว่าตัวผม ไม่ใช้ ไม่แสวงหา ไม่บอกต่อ แต่ปีนี้ผมได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ผมเห็นว่าเป็นอินไซเดอร์แบบดิวิชั่น 2 (คนที่2จากแหล่งข่าว) ถึงสองบริษัท ต้องขอโทษคนที่ผมเคยว่าไว้ด้วย ต่อไปผมคงไม่พูด หรือเสียดสีท่านอีก
เริ่มต้นปีใหม่ ก็หวังว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น ถ้าไม่มีอะไรที่นอกเหนือความคาดหมายมากๆ ปีนี้ก็หวังจะได้ผลตอบแทนตามที่ควรจะเป็นประมาณ 15-20% หุ้นที่ผมถือหลายตัวเป็นหุ้นที่รอการฟื้นตัว หวังว่าคงฟื้นตัวได้จริงๆ คงไม่ได้หวังลมแล้งๆนะครับ ขอให้พอร์ตทุกท่านโตมากๆกันทุกคนในปีการลงทุนนี้ เพราะอย่างน้อยผ่านไปแต่ละปี เราก็มีบทเรียนการลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 83
ขอแสดงความนับถือ และขอบคุณอย่างจริงใจครับ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 2126
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 84
สำหรับผมปีที่ผ่านมา
เริ่มต้นด้วย seafco ~15% bay-w1 ~%25% secc ได้ ~25% แต่ weight ไม่ไม่ค่อยเยอะ
แต่ก็ขาดทุน IRC ~10% cut loss ไปเลย weight เยอะ
แล้วมาได้ svi-w2 96% ใน 2 week แต่เสียดายที่ weight แค่ 15% ของ port แต่ก็ภูมิใจสุดของปี เพราะหาข้อมูลดูเอง
demco ได้ ~60% weight ระดับ 20%
ต่อมาด้วย snc ที่เก็บไว้เยอะตั้งแต่ปลายปี 49 เพิ่งมาเริ่มขึ้นก็เกือบกลางปี weight เกิน 30% ของ port แต่ไปขาย 1/3 แถวๆ 9 บาทกกว่า ต้องไปไล่ซื้อกลับ 11-13 บาท แต่ไป 17 คนข้างบน กับเทพอีกหลายคน ขายๆกัน เราก็ไม่ขาย สุดท้ายมาขายเฉลี่ย 13.70-13.90
brock ซื้อเฉลี่ย ~1.2x ขายไป 1.35 weight ~20% เพื่อเอาเงินไปเข้าตัวข้างล่าง
ums ~24 บาท ขาย ~40 บาท weight ~25%
ระหว่างนั้นก็มีเก็งกำไร emc uv trc eason-w1 เจ็บบ้าง กำไรบ้างไม่มีนัยเท่าไหร่
พอขาย ums ก็เอาเงินกลับไปซื้อ brock 1.37 มาขาย cutloss 1.10 โชคดีซื้อกลับมาแค่ 1/3 จากที่ขายไป
ซื้อ samart weight เยอะ ขาดทุน 5% cut loss แล้วก็เก็งกำไร qh lanna กำไรกับเจ็บนิดๆหน่อยๆ
uec ที่ถือมานานหลายเดือน 23.7 ไป 45 ก็ไม่ขาย ขาย 40.75 weight 2% ของ port ฮ่าๆ
pf weight เยอะมาก กำไร 2% ถือราวๆ 2 week
banpu 398 ไป 470 ไม่ขาย ลงไป 340 ก็ไม่ cut วิ่งไป 460 อีกรอบก็ไม่ขาย สุดท้าย ขาดทุน 394 ขายไป
ปิดท้ายปี ถือข้ามปีมา ก็คือ snc ราคาจอง po weight ~45% tr 58 weight ~35% สุดท้าย sis 3.7x ~10% ptl ~6.40 3%
กำไรที่มีผลกับ port มากที่สุด คือ snc -> ums -> tr -> svi-w2 -> demco
โดยส่วนร่วมที่ทำให้ผมมีกำไร (คือไปลอกการบ้านเขาเหล่านี้มานั้นล่ะ) คนที่สำคัญที่สุดคือน้องโย YOYO สำหรับ snc demco tr, ติ LUTY97 สำหรับ ums , พี่นริศ สำหรับ sis eason-w1 ถ้าวันนั้นพี่ไม่โทรมาบอกผมโดนเละแน่ๆ
ขอบคุณ thaivi ที่ทำได้รู้จักเพื่อนดีๆมากมายหลายคน ได้มุมมองใหม่ๆแลกเปลียนประสบการณ์
เริ่มต้นด้วย seafco ~15% bay-w1 ~%25% secc ได้ ~25% แต่ weight ไม่ไม่ค่อยเยอะ
แต่ก็ขาดทุน IRC ~10% cut loss ไปเลย weight เยอะ
แล้วมาได้ svi-w2 96% ใน 2 week แต่เสียดายที่ weight แค่ 15% ของ port แต่ก็ภูมิใจสุดของปี เพราะหาข้อมูลดูเอง
demco ได้ ~60% weight ระดับ 20%
ต่อมาด้วย snc ที่เก็บไว้เยอะตั้งแต่ปลายปี 49 เพิ่งมาเริ่มขึ้นก็เกือบกลางปี weight เกิน 30% ของ port แต่ไปขาย 1/3 แถวๆ 9 บาทกกว่า ต้องไปไล่ซื้อกลับ 11-13 บาท แต่ไป 17 คนข้างบน กับเทพอีกหลายคน ขายๆกัน เราก็ไม่ขาย สุดท้ายมาขายเฉลี่ย 13.70-13.90
brock ซื้อเฉลี่ย ~1.2x ขายไป 1.35 weight ~20% เพื่อเอาเงินไปเข้าตัวข้างล่าง
ums ~24 บาท ขาย ~40 บาท weight ~25%
ระหว่างนั้นก็มีเก็งกำไร emc uv trc eason-w1 เจ็บบ้าง กำไรบ้างไม่มีนัยเท่าไหร่
พอขาย ums ก็เอาเงินกลับไปซื้อ brock 1.37 มาขาย cutloss 1.10 โชคดีซื้อกลับมาแค่ 1/3 จากที่ขายไป
ซื้อ samart weight เยอะ ขาดทุน 5% cut loss แล้วก็เก็งกำไร qh lanna กำไรกับเจ็บนิดๆหน่อยๆ
uec ที่ถือมานานหลายเดือน 23.7 ไป 45 ก็ไม่ขาย ขาย 40.75 weight 2% ของ port ฮ่าๆ
pf weight เยอะมาก กำไร 2% ถือราวๆ 2 week
banpu 398 ไป 470 ไม่ขาย ลงไป 340 ก็ไม่ cut วิ่งไป 460 อีกรอบก็ไม่ขาย สุดท้าย ขาดทุน 394 ขายไป
ปิดท้ายปี ถือข้ามปีมา ก็คือ snc ราคาจอง po weight ~45% tr 58 weight ~35% สุดท้าย sis 3.7x ~10% ptl ~6.40 3%
กำไรที่มีผลกับ port มากที่สุด คือ snc -> ums -> tr -> svi-w2 -> demco
โดยส่วนร่วมที่ทำให้ผมมีกำไร (คือไปลอกการบ้านเขาเหล่านี้มานั้นล่ะ) คนที่สำคัญที่สุดคือน้องโย YOYO สำหรับ snc demco tr, ติ LUTY97 สำหรับ ums , พี่นริศ สำหรับ sis eason-w1 ถ้าวันนั้นพี่ไม่โทรมาบอกผมโดนเละแน่ๆ
ขอบคุณ thaivi ที่ทำได้รู้จักเพื่อนดีๆมากมายหลายคน ได้มุมมองใหม่ๆแลกเปลียนประสบการณ์
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1054
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 85
อ่านของคุณ leksmile แล้วเล่นตัวคล้ายกันแต่ผมไม่
ได้เปลี่ยนตัวบ่อยเท่า ผมถือหุ้นครั้งละประมาณ 3-5 ตัว ที่ได้มาเยอะ ๆ ก็ SNC DEMCO TR (ขอบคุณพี่โยโย่) EWC(อันนี้ขุดหาเอง ภูมิใจ ถือประมาณ5 วัน ซีลลิ่งเฉย แต่ยังไม่ได้มูลค่าที่แอบคิดไว้ ถือต่อ ได้หนึ่งเด้งเฉยเลย ภายใน 2 อาทิตย์ ฟลุ๊กจริง ๆ กะจะถือเป็นปี)
ที่ได้นิดหน่อยก็ TRT (ถือน้อยไปหน่อย) ILINK DRACO
ที่ขาดทุนก็ STPI (เป็นหุ้นหนึ่งใน 3 ตัวแรกของชีวิตการเล่นหุ้นนอกจาก SNC และ ILINK ก็โดนดีเลย ตกใจมากยังมือใหม่ งง ๆแต่ดีหน่อยที่ถือไม่เยอะ และขาดทุนมากจาก BROCK ถือไว้เยอะแต่ยังมั่นใจอยู่
ตอนนี้ที่ถือข้ามปีคล้ายคุณ leksmile เลยครับ
มี SNC TR PTL แต่ผมมีเพิ่ม TPAC BROCK
ว่าแต่คุณ เล็กสไมล์ เล่นมาร์จิ้นหรือไม่ครับ
พอดีตอนนี้กำลังสนใจ
ได้เปลี่ยนตัวบ่อยเท่า ผมถือหุ้นครั้งละประมาณ 3-5 ตัว ที่ได้มาเยอะ ๆ ก็ SNC DEMCO TR (ขอบคุณพี่โยโย่) EWC(อันนี้ขุดหาเอง ภูมิใจ ถือประมาณ5 วัน ซีลลิ่งเฉย แต่ยังไม่ได้มูลค่าที่แอบคิดไว้ ถือต่อ ได้หนึ่งเด้งเฉยเลย ภายใน 2 อาทิตย์ ฟลุ๊กจริง ๆ กะจะถือเป็นปี)
ที่ได้นิดหน่อยก็ TRT (ถือน้อยไปหน่อย) ILINK DRACO
ที่ขาดทุนก็ STPI (เป็นหุ้นหนึ่งใน 3 ตัวแรกของชีวิตการเล่นหุ้นนอกจาก SNC และ ILINK ก็โดนดีเลย ตกใจมากยังมือใหม่ งง ๆแต่ดีหน่อยที่ถือไม่เยอะ และขาดทุนมากจาก BROCK ถือไว้เยอะแต่ยังมั่นใจอยู่
ตอนนี้ที่ถือข้ามปีคล้ายคุณ leksmile เลยครับ
มี SNC TR PTL แต่ผมมีเพิ่ม TPAC BROCK
ว่าแต่คุณ เล็กสไมล์ เล่นมาร์จิ้นหรือไม่ครับ
พอดีตอนนี้กำลังสนใจ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนปีนี้เป็นเท่าไหร่กันบ้างครับ
โพสต์ที่ 88
8) สุมาอี้เคยเขียนว่า
ให้เลือกระหว่างถูกหวยรางวัลใหญ่ครั้งเดียว
กับถูกเลขท้าย แต่ถูกม้นอยู่นั่นแหละ
แกเลือกอย่างหลังนะครับ
เหตุผลคือ คนหลังน่าจะมีวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดที่แน่นอน
ทำให้%ความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยยะ
ในขณะที่คนแรกน่ะฟลุ๊กแน่นอน
พอดีปีนี้ผมรู้ตัวว่าเป็นพวกแรก
แต่จริงๆใจก็อยากเป็นพวกถูกเลขท้ายเหมือนท่านแม่ทัพเขาเหมือนกัน
เพราะรู้ตัว...จึงไม่อยากมาบอกว่าได้เท่าไหร่
ถ้าวันไหนผมรู้ว่าผมได้เพราะฝีมือ...ผมจะมาบอก
อย่างพี่ลูกอิสานนี่สิ ถึงแน่จริง
ให้เลือกสไตล์ได้อยากเป็นอย่างน้องโจนี่แหละคร้าบ....
ให้เลือกระหว่างถูกหวยรางวัลใหญ่ครั้งเดียว
กับถูกเลขท้าย แต่ถูกม้นอยู่นั่นแหละ
แกเลือกอย่างหลังนะครับ
เหตุผลคือ คนหลังน่าจะมีวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดที่แน่นอน
ทำให้%ความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยยะ
ในขณะที่คนแรกน่ะฟลุ๊กแน่นอน
พอดีปีนี้ผมรู้ตัวว่าเป็นพวกแรก
แต่จริงๆใจก็อยากเป็นพวกถูกเลขท้ายเหมือนท่านแม่ทัพเขาเหมือนกัน
เพราะรู้ตัว...จึงไม่อยากมาบอกว่าได้เท่าไหร่
ถ้าวันไหนผมรู้ว่าผมได้เพราะฝีมือ...ผมจะมาบอก
อย่างพี่ลูกอิสานนี่สิ ถึงแน่จริง
ให้เลือกสไตล์ได้อยากเป็นอย่างน้องโจนี่แหละคร้าบ....
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า