ขาใหญ่ฮั้วเล่นหุ้นเจาะลึกถึงไส้ในกิจการ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
thanwa
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1011
ผู้ติดตาม: 0

ขาใหญ่ฮั้วเล่นหุ้นเจาะลึกถึงไส้ในกิจการ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

นำข่าวมาฝากครับ
ผมคิดไม่คิดว่า นสพ. หมายถึง ชาว TVI เพราะทุกคนขาเล็ก เรียวงาม ทั้งนั้น :wink:

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 22 เมษายน 2547
ปีที่ 27 ฉบับที่ 3577 (2777)
ขาใหญ่ฮั้วเล่นหุ้นเจาะลึกถึงไส้ในกิจการ
แฉพฤติกรรมขาใหญ่เปลี่ยนไป นัดประชุมในก๊วนทุกสัปดาห์ ฮั้วหุ้นตัวไหนควรเล่น-ควรหยุดรอ-ขายทิ้ง แถมสวมบทนักวิเคราะห์ บุก COMPANY VISIT สำรวจตรวจตราบริษัทด้วยตัวเอง ก่อนฟังคำแนะนำนักวิเคราะห์สำทับอีกรอบค่อยตัดสินใจลงทุน โหมเล่นแรง ลากราคาหุ้นขึ้น รายย่อยเตรียมระวังขายทิ้ง "ก้องเกียรติ" ประกาศล้างบางบทวิจัยเอื้อประโยชน์รายใหญ่ ย้ำต้องเผยแพร่สู่สาธารณชนเหมือนกัน พร้อมเร่งหามาตรการป้องนักวิเคราะห์หาประโยชน์จากบทวิจัยตัวเอง

แหล่งข่าววงการโบรกเกอร์ที่ใกล้ชิดนักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้พฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่มีพฤติกรรมการลงทุนที่เปลี่ยนไป โดยจะมีการประชุมกันในหมู่นักลงทุนรายใหญ่ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และยังมีการรวมตัวกันเพื่อเข้าไปขอรับฟังข้อมูลและเยี่ยมชมกิจการของบริษัท (COMPANY VISIT) ด้วยตัวเอง เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ พร้อมโทรศัพท์สอบถามบรรดานักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ดูแลพอร์ตตัวเองอยู่เพื่อให้เกิดความแน่ใจในการลงทุนในหุ้นตัวนั้นก่อนตัดสินใจลงทุน

นักลงทุนรายใหญ่กลุ่มที่รู้จักนั้น ไม่เคยประกาศว่าจะเข้าลงทุนในช่วงหลังสงกรานต์ เพียงแต่มองว่าช่วงหลังสงกรานต์น่าจะมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการลงทุนได้บ้าง ซึ่งหากภาวะตลาดไม่เอื้อก็อาจชะลอการลงทุนออกไปอีก ดังนั้น ที่ผ่านมานักลงทุนรายใหญ่อาจมีการเข้าลงทุนบ้าง แต่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งเป็นการซื้อช่วงดัชนีลดลงในระดับ 650-680 จุด โดยพวกนี้จะได้ข้อมูลกันเร็วมาก อย่างกรณีหุ้นบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ช่วงก่อนที่ประเด็นจะพลิก นักลงทุนกลุ่มนี้ก็ได้สั่งซื้อรอเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเมื่อประเด็นพลิกก็มีการปรับพอร์ตการลงทุนไปบ้าง ซึ่งต้องยอมรับว่าข้อมูลกลุ่มนี้เร็วมาก

"เวลาพวกนี้ลงทุนจะเน้นดูภาพรวมด้วย หากราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปแพงมากก็อาจชะลอการลงทุนไว้ก่อน แถมการลงทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้อาศัยการทำการบ้านมาอย่างดีด้วย" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) ที่ดูแลพอร์ตลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยว่า พฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่เริ่มเปลี่ยนไป โดยปัจจุบันให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารมากขึ้น และยังเป็นลักษณะการลงทุนในหุ้นพื้นฐานมากกว่าจะเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว โดยมีบ้างที่เล่นตามกระแส แต่ไม่ได้ให้น้ำหนักในส่วนนั้นมากนัก เพราะแต่ละคนต่างก็เข้าไป COMPANY VISIT ในแต่ละบริษัทด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเชื่อข้อมูลที่ตัวเองได้มามากกว่า

สำหรับการเข้าไป COMPANY VISIT นั้น จะมีการประสานงานกับบริษัทจดทะเบียนรายนั้นก่อน โดยบางครั้งให้โบรกเกอร์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายผ่านทำหน้าที่ติดต่อให้ และการไปก็ไปพร้อมกับนัก วิเคราะห์ของโบรกเกอร์รายนั้น ส่วนตัวนักลงทุนรายใหญ่ที่ไปก็เป็นลักษณะต่างคนต่างไป เพราะความสนใจในตัวแต่ละบริษัทต่างกัน ขณะเดียวกันก็มีบางกลุ่มที่เข้าไป COMPANY VISIT กันเอง โดยนักลงทุนรายใหญ่นั้นแต่ละรายต้องยอมรับว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับหลายๆ คน ซึ่งบางครั้งก็รู้จักกับตัวเจ้าของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นจึงง่ายที่จะไป COMPANY VISIT กันเอง

ผู้บริหารโบรกเกอร์รายหนึ่งกล่าวว่า ปกติการซื้อขายของนักลงทุนรายใหญ่ที่รู้จักกันดี อย่างนายยรรยงค์ พันธุ์วงศ์กล่อม หรือหมอยงค์ และนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ นั้น การซื้อขายของนักลงทุนเหล่านี้ไม่ได้ทำผ่านโบรกเกอร์ใดโบรกเกอร์หนึ่ง แต่จะกระจายไปหลายๆ แห่ง ขึ้นกับว่าโบรกเกอร์ใดสามารถตอบสนองความต้องการได้ โดยเฉพาะในส่วนของบทวิเคราะห์ที่ว่องไวแม่นยำ ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญมาก ส่วนอื่นเป็นเรื่องรอง

ทั้งนี้จากการแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักลงทุนรายใหญ่กลุ่มดังกล่าว พบว่าเริ่มมีมุมมองที่ดีขึ้น หลังจากนักลงทุนต่างชาติปรับมุมมองตลาดหุ้นไทยใหม่โดยดีขึ้นจากก่อนหน้านี้ ซึ่งเคยประกาศลดน้ำหนักการลงทุนไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลุ่มนี้ยังกังวลกับสถานการณ์เรื่องภาคใต้และต่างประเทศอยู่บ้าง เพราะเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ส่วนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีมุมมองในเชิงบวกว่าจะออกมาดีขึ้น

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมนักวิเคราะห์คนใหม่ กล่าวว่า จากนี้ไปสมาคมนักวิเคราะห์จะเน้นเป็นศูนย์กลางและเพิ่มบทบาทของวิชาชีพด้านวิเคราะห์หลักทรัพย์เป็นหลัก โดยจะมุ่งส่งเสริมในเรื่องของจรรยาบรรณ ดังนั้นต่อจากนี้ไปบทวิเคราะห์ที่ออกมาจะต้องมีการเผยแพร่เหมือนกันหมด ไม่มีการจัดทำให้รายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษก่อน และจะต้องไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากบทวิจัยที่จัดทำออกมาด้วย ซึ่งเรื่องนี้สมาคมจะขอความร่วมมือไปยังโบรกเกอร์ต้นสังกัดช่วยตรวจสอบ หากไม่ได้รับความร่วมมือก็จะใช้วิธีประณามหรือถ้ามีหลักฐานก็จะส่งต่อให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาลงโทษ

"กรณีต่างประเทศ เคยมีตัวอย่างให้เห็นว่ามีการจัดทำบทวิจัยเชียร์หุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) ทำให้บริษัทที่ทำไอพีโอมีกำไรมหาศาลและตัวนักวิเคราะห์ก็ได้ในรูปของโบนัสหรือคอมมิสชั่น ซึ่งเรื่องนี้ประเทศไทยยังไม่มีให้เห็นแต่ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน หรือกรณีการทำบทวิจัยให้นักลงทุนรายใหญ่อ่านก่อนค่อยเผยแพร่สู่สาธารณ ชนนั้นจากนี้ไปจะต้องไม่มี และโดยส่วนตัวอยากให้มีการระบุด้วยว่าคนที่ทำบทวิจัยมีส่วนได้เสียหรือถือหุ้นนั้นอยู่หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจรรยาบรรณที่ต้องมุ่งส่งเสริมกัน" นายก้องเกียรติกล่าว
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0

ขาใหญ่ฮั้วเล่นหุ้นเจาะลึกถึงไส้ในกิจการ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ท่าน thanwa ลืมท่าน ข. ค. แล้วก็ ป. ไปได้ไงหนอ อิๆๆๆ
ถึงท่านๆจะถล่มตัว..แต่ขาท่านคงไม่เรียกว่าเรียวงามเป็นแน่ครับ!
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป

-จีรนุช เปรมชัยพร
ล็อคหัวข้อ