สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คนที่คิดค้นสูตรนี้เป็นผู้จัดการกองทุนชื่อดัง ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 40% ต่อปี มากว่า 20 ปีแล้ว (ปีเตอร์ลินทำได้ 29% 13 ปี วอร์เรนทำได้ 21% 40 ปี)

สูตรนี้ใช้งานง่ายมาก ไม่ซับซ้อน มีเหตุมีผลแต่ให้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ ใครๆก็น่าจะใช้ได้ ใช้อัตราส่วนแค่ 2 ตัว คือ PE และ ROA


มีการเขียนเป็นหนังสือขายที่อเมริกา เป็นหลังสือเล่มเล็กๆ บางๆ แต่ดังมาก ตอนนี้มีแปลเป็นไทย หน้าปกเป็นอย่างนี้ครับ ในร้อยคนร้อยเล่มก็มี


รูปภาพ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
chartchai madman
Verified User
โพสต์: 7514
ผู้ติดตาม: 0

ขอบคุณครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากๆครับที่แนะนำครับ มีวางที่ร้านซีเอ็ดหรือยังครับ
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เย้ๆ มีคนแปลแล้ว :cheers:
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ที่มาของสูตรนี้ มีเหตุมีผลตรงตามนิยามของการลงทุนเน้นคุณค่าเลยครับ
อาจเป็นเพราะผู้เขียนก็เป็นคนที่ศรัทธาในการลงทุนแนวนี้
โดยการเสนอเป็นสูตรให้เข้าใจง่ายอย่างนี้ครับ


1.เลือกหุ้นที่ดี สามารถใช้สินทรัพย์สร้างกำไรได้สูงสุด ซึ่งเราสามารถหาได้จากอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ซึ่งก็คือ ROA นั่นเอง หาได้ไม่ยาก โดยนำกำไร/สินทรัพย์ทั้งหมด คิดออกมาเป็น%


2.เลือกหุ้นที่ถูก ซึ่งก็คือหุ้นที่สร้างผลตอบแทนต่อเงินที่เราลงทุนได้สูงสุด อัตราส่วนนี้ก็คือ PE ที่เราใช้นั่นเอง หาได้จาก กำไร/มูลค่าทั้งบริษัท หรือกำไรต่อหุ้น/ราคาหุ้น คิดออกมาเป็น %



จะเห็นได้ว่าตรงกับความหมายของ vi คือเลือกหุ้นที่ดีราคาถูก


วิธีการก็ง่ายๆอย่างนี้ครับ...


1.เรียงลำดับหุ้นที่มี ROA สูงสุด ลดหลั่นกันไปตามลำดับของหุ้นทั้งตลาด 400 ตัว

2.เรียงลำดับหุ้นที่มี PE ต่ำสุดเป็นอันดับแรก และลดหลั่นกันไป


3.นำลำดับทั้งสองตัวมีบวกกัน แล้วเรียงลำดับใหม่ให้ตัวเลขน้อยที่สุดเป็นอันดับแรก และลดหลั่นกันไป

4.คัดบริษัทที่มีกำไรผิดปกติออกไป

5.เลือกลงทุนหุ้นที่อยู่ใน 30 อันดับแรก ซื้อและขายใน 1 ปีต่อมา



ง่ายๆแค่นี้ครับ.....
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน เมื่อ เสาร์ ก.พ. 09, 2008 11:43 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เป็นหนังสือที่เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่เริ่มต้นเป็น VI ครับ

ผมอ่านฉบับภาษาปะกิต เขียนแบบให้คนที่ไม่ต้องมีความรู้เรื่องหุ้นอ่าน

อยากให้มีคนทำเวบแบบที่ผู้นิพนธ์ทำบ้างสำหรับหุ้นไทย ท่าจะดีไม่น้อย
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอบคุณครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

chartchai madman เขียน:ขอบคุณมากๆครับที่แนะนำครับ มีวางที่ร้านซีเอ็ดหรือยังครับ
มีขายครับ ผมซื้อมาที่สาขาเซ็ลทัล บางนา ครับ
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 7

โพสต์

พี่ลูกอีสาน ครับหลังจากที่เรากรองหุ้นมาแล้ว เอาควรที่จะดูด้วยหรือไม่ว่าหุ้นตัวนั้นๆ อยู่ในกลุ่มธุรกิจอะไร
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
ภาพประจำตัวสมาชิก
JK@VI
Verified User
โพสต์: 17
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูลหุ้นทั้งตลาดเช่น P/E ฯลฯ จะหาได้อย่างไรครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

มีที่ไหนให้ Download บ้างครับ

นับถือ
จีระเดช
ภาพประจำตัวสมาชิก
crazyrisk
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 4562
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมอ่านจบแล้วคับ

ตอนหนังสือ อารัมภบทแรก ๆ เท่ห์มากเลยคับ

คือ ให้เปรียบเทียบหุ้นกับการลงทุนในธุรกิจ หมากฝรั่งของเพื่อนลูกชาย

วัยอนุบาล     เห็นภาพเลย

แต่พอเข้าทฤษฎี มหัศจรรย์ปั๊บ

เกิดอาการหน้านิ่ว คิ้วขมวด ขึ้นมาเลยคับ...

ใจผมกลับรู้สึกว่า มัน ไม่น่าจะใช้ได้จริงๆ ในตลาดหุ้นไทย

ที่ บ.ต่างๆ  คุณภาพกับปริมาณ ไม่ไปด้วยกันเท่าไหร่นัก

อ่านไปอ่านมาก็ไ่ม่ค่อยเข้าใจ

มีใครลองไปไล่สูตรแล้ว

ลองมาโชว์ผลงานกันดีไหมครับ...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ทุกวิธีมีข้อดีข้อเสียล่ะมั้งครับ
ไม่มีวิธีใดใช้ได้ผลทุกอย่างแน่ๆ

ถ้าอยากรู้ก็คงต้องทำเป็น study+discussion แบบที่พี่ริวทำ

พี่เคนไม่สนใจจะทำบ้างเหรอครับ  :wink:

โลกสมัยนี้ อะไรๆก็ต้อง evidence based ใช่มะครับ  :D
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อ่านแล้วเหมือนกันครับ .. แต่ใจผมค้านอยู่ว่าเลือกแบบคัดเองน่าจะดีกว่าเลยไม่ได้ลองใช้ :P
It's earnings that count
ภาพประจำตัวสมาชิก
jung_oh
Verified User
โพสต์: 734
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ถ้าลองใช้ กับ หุ้นไทย

หุ้นไหนจะเป็นอันดับ1 น๊า  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

ครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

อ่านแล้วเหมือนกันครับ
ต้องพึ่งพี่ ริว ให้จัดการเรื่องจัดอันดับแล้วล่ะมั้งครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 14

โพสต์

mprandy เขียน:อยากให้มีคนทำเวบแบบที่ผู้นิพนธ์ทำบ้างสำหรับหุ้นไทย ท่าจะดีไม่น้อย

เรื่องอย่างนี้คงต้องให้เด็กมหัศจรรย์แบบคุณริวทำครับ
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะได้ผลจริงหรือเปล่าในตลาดหุ้นไทย
ข้อมูลก็พอมีนะครับ ที่ง่ายที่สุดน่าจะเป็นฐานข้อมูลของพี่ครรชิต เข้าใจว่ามีอยู่แล้ว ทั้ง PE ROA ไม่น่าจะยากครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 15

โพสต์

RONNAPUM เขียน:พี่ลูกอีสาน ครับหลังจากที่เรากรองหุ้นมาแล้ว เอาควรที่จะดูด้วยหรือไม่ว่าหุ้นตัวนั้นๆ อยู่ในกลุ่มธุรกิจอะไร

จากหนังสือเค้าให้คัดหุ้นในกลุ่มธนาคาร ประกันภัย และกองทุนออกไป
ผมเข้าใจว่าธุรกิจจเหล่านี้ มี ROA ต่ำมากแต่มี ROE สูง เนื่องจากต้องก่อหนี้สูงครับ

หลังจากคัดแล้ว เค้าก็บอกว่าเราควรจะกระจายตามกลุ่มอุตสาหรรมด้วย ไม่แน่ใจนะครับผมอ่านผ่านๆ...


มีที่ไหนให้ Download บ้างครับ

อาจจะมีนะครับ แต่คงเป็นภาษาอังกฤษ
แต่ส่วนตัวผมว่าอ่านหนังสือดีกว่าครับ สะดวกกว่า และอุดหนุนคนเขียนให้เขียนหนังสือดีๆให้เราอ่านกัน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Jimmy
Verified User
โพสต์: 772
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ขอบคุณลูกพี่อิสานที่แนะนำหนังสือดี ๆ ให้พวกผมครับ





=========================
ชีวิตมีแค่สองหมื่นกว่าวันจะมัวรอมันไปถึงไหนก้าวเดินออกไปแล้วทำมัน
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:
จากหนังสือเค้าให้คัดหุ้นในกลุ่มธนาคาร ประกันภัย และกองทุนออกไป
ผมเข้าใจว่าธุรกิจจเหล่านี้ มี ROA ต่ำมากแต่มี ROE สูง เนื่องจากต้องก่อหนี้สูงครับ

หลังจากคัดแล้ว เค้าก็บอกว่าเราควรจะกระจายตามกลุ่มอุตสาหรรมด้วย ไม่แน่ใจนะครับผมอ่านผ่านๆ...
ผมก็อ่านบ้างแล้ว และมีที่ติดใจตรงที่ว่า ถ้าเกิดธุรกิจมันอยู่ในช่วงสูงสุด แล้วเราไม่สนใจตัวธุรกิจ เราก็จะไม่แย่หรือครับ..
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 18

โพสต์

อ่านเล่มนี้จบแล้ว ผมก็สงสัยเหมือนหลายๆคนนะครับว่า จะใช้ได้ผลในตลาดหุ้นไทยหรือแม้ แม้ว่าอ่านแล้วมีเหตุมีผลก็ตาม มีตัวแปร 2 ตัวที่ผมคิดว่าอาจทำให้สูตรมหัศจรรย์นี้ใช้ไม่ได้ผล...

ตัวแรกคือสินทรัพย์หรือ Asset
ประเด็นคือถ้าทุกบริษัทแสดงสินทรัพย์ในงบดุล ตามมูลค่าที่ควรจะเป็น อย่างนี้จะไม่มีปัญหา แต่หลายบริษัทอาจจะแสดงมูลค่าสินทรัพย์น้อยกว่าความเป็นจริง เช่นที่ดินที่ซื้อไว้ 20 ปีทีแล้ว และยังไม่เคยปรับมูลค่า ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ที่แสดงในงบดุลน้อยกว่าความเป็นจริงทำให้ ROA ที่คำนวณได้สูงกว่าความเป็นจริง   บางบริษัทสินทรัพย์อาจจะด้อยค่าไปแล้ว แต่ยังไม่ตั้งสำรอง กรณี้นี้ก็ทำให้ ROA ต่ำกว่าความเป็นจริง

ในตลาดหุ้นไทยก็มีหุ้นหลายตัวที่บันทึกมูลค่าสินทรัพย์ไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง แต่ก็คงเป็นส่วนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัททั้งหมดในตลาด


ตัวที่สองคือกำไร หรือ Earning
ซึ่งตัวนี้นี่เองที่ผมคิดว่ามีปัญหากับการใช้สูตรมหัศจรรย์มาก เพราะกำไรที่สูงหรือต่ำกว่าปกติอาจจะเพราะอะไรก็ตาม จะทำให้การคำนวณ PE ROA เพี้ยนไปหมด และผมก็คิดว่าตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่กำไรผันผวนมากซะด้วย เช่นหุ้นที่รายได้ กำไรผันผวนตามวัฤจักรธุรกิจ รายได้จากการประมูลงาน ยกตัวอย่างเช่นถ้าคำนวณค่า PE ROA ของหุ้น jts ait ilink cmo pico ในปี 2549 จะได้ PE ต่ำ ROA สูง แต่พอปี 2550 รายได้ กำไรของหุ้นเหล่านี้หายไปมาก ถ้าเราใช้สูตรมหัศจรรย์ ผลอาจจะไม่ดี และขาดทุนด้วยซ้ำ


ปัญหาของสูตรนี้คงเป็นการคัดบริษัทที่รายได้กำไร ผันผวนออกไปจากสูตรครับ และบริษัทที่เหมาะจะใช้กับสูตรนี้ น่าจะมีคุณสมบัติ มีรายได้ค่อนข้างแน่นอน ไม่ผันผวน และสูตรนี้จะไม่เหมาะสมกับหุ้นที่มีรายได้จากการประมูล หุ้นวัฤจักร หุ้นที่กำลังฟื้นตัว น่าจะประมาณนี้หรือเปล่าครับ... :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน: ตัวที่สองคือกำไร หรือ Earning
ซึ่งตัวนี้นี่เองที่ผมคิดว่ามีปัญหากับการใช้สูตรมหัศจรรย์มาก เพราะกำไรที่สูงหรือต่ำกว่าปกติอาจจะเพราะอะไรก็ตาม จะทำให้การคำนวณ PE ROA เพี้ยนไปหมด และผมก็คิดว่าตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่กำไรผันผวนมากซะด้วย เช่นหุ้นที่รายได้ กำไรผันผวนตามวัฤจักรธุรกิจ รายได้จากการประมูลงาน ยกตัวอย่างเช่นถ้าคำนวณค่า PE ROA ของหุ้น jts ait ilink cmo pico ในปี 2549 จะได้ PE ต่ำ ROA สูง แต่พอปี 2550 รายได้ กำไรของหุ้นเหล่านี้หายไปมาก ถ้าเราใช้สูตรมหัศจรรย์ ผลอาจจะไม่ดี และขาดทุนด้วยซ้ำ


ปัญหาของสูตรนี้คงเป็นการคัดบริษัทที่รายได้กำไร ผันผวนออกไปจากสูตรครับ และบริษัทที่เหมาะจะใช้กับสูตรนี้ น่าจะมีคุณสมบัติ มีรายได้ค่อนข้างแน่นอน ไม่ผันผวน และสูตรนี้จะไม่เหมาะสมกับหุ้นที่มีรายได้จากการประมูล หุ้นวัฤจักร หุ้นที่กำลังฟื้นตัว น่าจะประมาณนี้หรือเปล่าครับ... :D
อันนี้เห็นเลยด้วยครับ....
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:
5.เลือกลงทุนหุ้นที่อยู่ใน 30 อันดับแรก ซื้อและขายใน 1 ปีต่อมา

ในข้อ 5 ที่แนะนำให้ถือครองเป็นเวลา 1 ปี เป็นเพราะสิทธิประโยชน์ด้านภาษี

ถ้าเป็นในไทยไม่มีภาษีจาก capital gain ถ้าหุ้นที่เราถือครองอยู่ยังติด 1 ใน 30 อยู่ ก็คงไม่จำเป็นต้องขายออกไปแล้วซื้อเข้ามาใหม่


** Joel G. ให้เหตุผลว่าถ้าเราขาดทุนจากหุ้น โดยถือครองไม่ครบ 1 ปี(ขายออกไปก่อนครบ 1 ปี เล็กน้อย) จะสามารถนำส่วนที่ขาดทุนมาลดหย่อนภาษีได้

    ส่วนกรณีที่กำไรถ้าขายหลังจาก 1 ปีเล็กน้อย 1-2 วัน ก็จะเสียภาษีในอัตราต่ำที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดาวหางสีแดง
Verified User
โพสต์: 635
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 21

โพสต์

RONNAPUM เขียน: ผมก็อ่านบ้างแล้ว และมีที่ติดใจตรงที่ว่า ถ้าเกิดธุรกิจมันอยู่ในช่วงสูงสุด แล้วเราไม่สนใจตัวธุรกิจ เราก็จะไม่แย่หรือครับ..
ผมเข้าใจว่า นี่เป็นเหตุผลที่ Joel แนะนำให้เลือกหุ้นเป็นจำนวนมากถึง 30 ตัว
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ดาวหางสีแดง เขียน: ผมเข้าใจว่า นี่เป็นเหตุผลที่ Joel แนะนำให้เลือกหุ้นเป็นจำนวนมากถึง 30 ตัว
ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะเหมาะสมกับการทำวิจัย มากกว่าเพราะถ้าเกิด เราซื้อ 30 ตัวจริงโดยส่วนตัวแล้ว ไม่ซื้อแล้วหุ้น หันไปซื้อกองทุนดีกว่า มีคนบริหารให้ด้วย และซื้อได้ทั่โลกด้วย
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
ภาพประจำตัวสมาชิก
JK@VI
Verified User
โพสต์: 17
ผู้ติดตาม: 0

The Little Book That Beats the Market by Joel Greenblatt ฟรี

โพสต์ที่ 23

โพสต์

Down load ได้โดยคลิก Link ข้างล่างนะครับ เป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษนะครับ
http://www.noklek.com/e/littlebook.pdf
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 24

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ตัวแรกคือสินทรัพย์หรือ Asset 
ประเด็นคือถ้าทุกบริษัทแสดงสินทรัพย์ในงบดุล ตามมูลค่าที่ควรจะเป็น อย่างนี้จะไม่มีปัญหา แต่หลายบริษัทอาจจะแสดงมูลค่าสินทรัพย์น้อยกว่าความเป็นจริง เช่นที่ดินที่ซื้อไว้ 20 ปีทีแล้ว และยังไม่เคยปรับมูลค่า ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ที่แสดงในงบดุลน้อยกว่าความเป็นจริงทำให้ ROA ที่คำนวณได้สูงกว่าความเป็นจริง   บางบริษัทสินทรัพย์อาจจะด้อยค่าไปแล้ว แต่ยังไม่ตั้งสำรอง กรณี้นี้ก็ทำให้ ROA ต่ำกว่าความเป็นจริง 

ในตลาดหุ้นไทยก็มีหุ้นหลายตัวที่บันทึกมูลค่าสินทรัพย์ไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง แต่ก็คงเป็นส่วนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัททั้งหมดในตลาด 


ตัวที่สองคือกำไร หรือ Earning 
ซึ่งตัวนี้นี่เองที่ผมคิดว่ามีปัญหากับการใช้สูตรมหัศจรรย์มาก เพราะกำไรที่สูงหรือต่ำกว่าปกติอาจจะเพราะอะไรก็ตาม จะทำให้การคำนวณ PE ROA เพี้ยนไปหมด และผมก็คิดว่าตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่กำไรผันผวนมากซะด้วย เช่นหุ้นที่รายได้ กำไรผันผวนตามวัฤจักรธุรกิจ รายได้จากการประมูลงาน ยกตัวอย่างเช่นถ้าคำนวณค่า PE ROA ของหุ้น jts ait ilink cmo pico ในปี 2549 จะได้ PE ต่ำ ROA สูง แต่พอปี 2550 รายได้ กำไรของหุ้นเหล่านี้หายไปมาก ถ้าเราใช้สูตรมหัศจรรย์ ผลอาจจะไม่ดี และขาดทุนด้วยซ้ำ 


ปัญหาของสูตรนี้คงเป็นการคัดบริษัทที่รายได้กำไร ผันผวนออกไปจากสูตรครับ และบริษัทที่เหมาะจะใช้กับสูตรนี้ น่าจะมีคุณสมบัติ มีรายได้ค่อนข้างแน่นอน ไม่ผันผวน และสูตรนี้จะไม่เหมาะสมกับหุ้นที่มีรายได้จากการประมูล หุ้นวัฤจักร หุ้นที่กำลังฟื้นตัว น่าจะประมาณนี้หรือเปล่าครับ... 
เมืองนอกมีหุ้นเยอะๆมากแล้วเค๊าเลือกที่ดีที่สุดมา 400 ตัว และ ทำลำดับ ทั้ง roa และ pe

คือ เค๊ากำลังเลือกตัวที่ดีที่สุดในด้านการทำธุรกิจ + ซื้อในราคาที่ถุกที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งตลาด

อย่างไรก็ตาม เค๊าก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ ก็เลย ซื้อไป 30 ตัว จากอันดับที่ 1 ถึง 30

ที่ดีที่สุดตามสูตร

ความผันผวนที่คุณลูกอิสานว่าไว้ ผมคิดว่าไม่เกียว เพราะเค๊ากำลังเลือกตัวที่ดีที่สุด เทียบกับทั้งตลาด

บนเงือนไขเดียวกัน ตัวที่แย่ที่สุดก็มีความผันผวนเหมือนกัน
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 25

โพสต์

จะว่าไปแล้ว สูตรของหนังสือ the new buffetology เน้น roe + หนี้น้อย ก็คือ roa สูงนั่นเอง

แต่เหนือชั้นกว่า ตรงที่ บริษัท ที่ roa สูง แต่อาจจะ roe ต่ำ เนื่องจากไม่ยอมกู้เลย ซึ่งวอเรนคงไม่ชอบเท่าไร ( ผมคิดเอง )

แต่วอเรนเลือกถือยาว ทำให้ใช้ชีวิตได้มาก

ซึ่งทำให้หนังสือเล่มนี้ ผมยังไม่ได้อ่านนะ เหนือชั้นกว่า ตรงที่ ทำกำไรได้มากกว่า เพราะตลาดหุ้น มันก็ขึ้นๆลงๆ เขาซื้อ แล้วถือไว้ 1 ปี ขาย มันก็มีตัวที่ลงต่ำๆ เข้ามาให้ ซื้อได้ใหม่อีก ในปี ต่อไป

สุดยอดครับ ในแง่การลงทุน ไว้ต้องหาเวลาไปอ่านซะหน่อย
tankhun
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 184
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมอ่านเพิ่งจบไปครับ สามารถยืมอ่านได้จากห้องสมุดมารวยที่ตลาดหลักทรัพย์ เป็นหนังสือที่น่าเก็บอีกเล่มนะครับ เข้าใจง่าย เล่มเล็กนิดเดียวสมชื่อ
[email protected]
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ไม่เคยได้ยินชื่อเลยผู้จัดการคนนี้
ตอนแรกเดาๆ นึกว่าจะเป็น จอร์จ โซรอส ซะอีก
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 1

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 28

โพสต์

และสูตรนี้จะไม่เหมาะสมกับหุ้นที่มีรายได้จากการประมูล หุ้นวัฤจักร หุ้นที่กำลังฟื้นตัว....

แล้วมันจะเหลือหุ้นกี่ตัวในไทยละครับเนี่ยะ
[email protected]
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 29

โพสต์

งั้นถ้าใช้สูตรนั้นก่อน คัดหุ้นโดยการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ให้ได้หุ้น 30 อันดับแรก
แล้วค่อยเอาหุ้นเหล่านั้นมาวิเคราะห์เชิงคุณภาพอีกครั้ง น่าจะใช้ได้รึเปล่าครับ
@DNA@
Verified User
โพสต์: 101
ผู้ติดตาม: 0

สูตรมหัศจรรย์!! สไตล์ VI

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ใจร้อนครับ หลังจากอ่านกระทู้พี่ลูกอีสานเสร็จก็เลยลงมือหาตามสูตรครับ อาศัย file eps15years ของพี่ครรชิตช่วย เรื่องการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังว่าถ้าทำตามสูตรดังกล่าวเมื่อ 20 ปีต่อเนื่องจะเป็นยังไงคงปล่อยเป็นหน้าที่คุณริวครับ

ไม่แน่ใจนะครับว่าวิธีที่ใช้ถูกต้องหรือไม่ แต่เข้าใจว่าไม่น่าจะคาดเคลื่อนเท่าไรเพราะเป็นการเรียงลำดับ การนำมาเรียงกันผมใช้วิธีเรียงหุ้นที่ pe ติดลบเข้าไปด้วย เมื่อนำลำดับมาบวกกัน แล้วจึงค่อยเลือกหุ้นที่ pe ติดลบออก

ลำดับที่ได้เป็นตามนี้ครับ ลองวิจารณ์กันดูครับ

1) TYONG
2) SATTEL
3) TTA
4) PSL
5) TR
6) DEMCO
7) KDH
8) PICO
9) PDI
10) DRT
11) LEE
12) TCB
13) HANA
14) BGT
15) BLAND
16) JCT
17) CITY
18) JUTHA
19) EGCO
20) CIG
21) TPC
22) MCS
23) WG
24) GL
25) EWC
26) SPACK
27) IFEC
28) SIMAT
29) PG
30) PTL
31) DRACO
32) PATO
33) BROOK
34) BJC
35) GC

ผมแถมให้เพิ่มอีก 5 ตัว เพราะถ้าทำตามสูตรจริงคงมีปัญหาอย่างที่ หลายๆคนวิจารณ์อะครับ