ในที่สุดก็ออกมา ว่ากลุ่มเรือไม่กระทบเท่าไรนัก!!!!!!!!!!!!!!!
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ออกมา ว่ากลุ่มเรือไม่กระทบเท่าไรนัก!!!!!!!!!!!!!!!
โพสต์ที่ 1
ดูนี่ครับ
น้ำมันแพง-ปัญหาจีนไม่กระทบกลุ่มขนส่งทางเรือ1Q47 กำไรยังเจ๋ง
วงการขนส่งทางเรือระบุยังไม่มีสัญญาณบอกว่าค่าระวางเรือที่จะปรับตัวลง
ส่วนราคาน้ำมันพุ่งยอมรับกระทบบ้างในช่วงแรกแต่หลังจากนั้นจะผลักภาระให้กับลูกค้า
ได้ บล.ฟิลลิป ชี้ราคาหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือปรับตัวลดลงเกินจริง ดังนั้นหุ้นกลุ่มนี้จึงลงทุนไ
ด้แต่ให้ระวังแรงขายจากกลุ่มที่มีต้นทุนต่ำ
บทวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวถึง หุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือว่า ได้มีการปรับตัว
ลงมาก โดยมีความกังวลในประเด็นหลักๆ คือ การประกาศลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของ จีนให้เหลือ
7% จากที่คาดไว้ที่ 9% จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าและส่งออกของ
จีนที่ลดลง ซึ่งการจากสอบถามาผู้บริหารยังไม่มีสัญญาณใด บ่งบอกถึงอัตราค่าระวางเรือที่จะปรับตัวอย่าง
มีนัยสำคัญ ถึงแม้จีนจะลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีการนำเข้าและส่งออก
จากจีนเลย และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ก็ยังคงดำเนินการอยู่
ดังนั้น การขนส่งวัสดุก่อสร้างก็ยังคงมีอยู่ เพียงแต่จะกระทบกับโครงการใหม่ๆ ประกอบกับ
ในภูมิภาคอื่นๆ ของโลกก็ยังมีการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดี จะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้ อัตราค่าระวาง
เรือที่ลดลงในปัจจุบันจะเป็นเรือขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Capesize, Panamax และ Handymax ที่มี
อัตราการบรรทุกตั้งแต่ 40,000 เดทเวทตันต่อลำขึ้นไป ที่ต้องมีปริมาณขนส่งสินค้าอย่างเพียงพอ ซึ่ง
JUTHA, PSL และ TTA เป็นเรือขนาด Handysize ที่มีขนาดอยู่ระหว่าง 10,000-40,000 เดทเวท
ตันต่อลำ ซึ่งสามารถหาสินค้าลงเรือเต็มลำได้เร็วกว่า และค่าระวางเรือปัจจุบันยังทรงตัวในระดับสูงเมื่อ
เทียบกับปี 2546 ของ RCL จะเห็นได้ว่าการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ยังมีการเติบโตได้ดี
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จะมีผลกระทบต่อต้นทุนในช่วงแรกที่ได้มีการทำสัญญาไว้ก่อน
แต่เมื่อทำสัญญาใหม่ก็จะถูกปรับขึ้นตามราคาต้นทุนน้ำมัน ซึ่งก็จะได้รับการชดเชยในภายหลังหากราคา
น้ำมันปรับตัวลง ซึ่งเป็นลักษณะปกติของธุรกิจเดินเรือ และสัดส่วนรายได้จากการเช่าเป็นระยะเวลาของ
JUTHA อยู่ที่ 55.04% PSL ที่ 45% และ TTA ที่ 15% จะไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน เพราะ
ผู้เช่าจะเป็นผู้จ่ายค่าน้ำมัน และแนวโน้ม PSL และ TTA จะมีการใช้เช่าเป็นระยะเวลามากขึ้น ก็จะยิ่งลด
ผลกระทบจากราคาน้ำมันลงได้อีก
ในส่วนของ RCL จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน หรือ Bunker
Surcharge เพื่อชดเชย จึงมองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันมีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจไม่มาก แต่
ผลทางอ้อมอาจรุนแรงกว่า หากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัว
ทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่ทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือลดลง
จากเหตุผลข้างต้น การปรับตัวลดลงของกลุ่มเดินเรือ มองว่าเป็นการปรับตัวลงมากเกินไป
เพราะหากดูจากค่าระวางเรือและการขยายกองเรืออย่างมีนัยสำคัญ ยังเป็นปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงาน
ของกลุ่มเดินเรือ นอกจากนี้การที่มีการทำสัญญาการเช่าเหมาเป็นระยะเวลามากขึ้น จะเป็นตัวรับประกันอัตรา
ค่าระวางเรือ โดยลูกค้าที่เช่าเรือส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเดินเรือขนาดใหญ่หรือเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ฯ ต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการค้ำประกันของธนาคาร จึงทำให้ความเสี่ยงในการยกเลิกสัญญามีน้อย และ
ยังลดภาระต้นทุนด้านน้ำมันด้วย การปรับตัวลงแรง น่าจะมาจากการปรับตัวขึ้นอย่างมากจากปีก่อน เมื่อมี
ความกังวลเกิดขึ้น จึงปรับตัวลงแรงกว่าตลาดฯ
ในแง่พื้นฐานมองว่าเข้าลงทุนได้ แต่จากแรงขายทำกำไรของผู้ถือหุ้นที่มีต้นทุนต่ำยังคงมีอยู่
เมื่อดูจากในช่วงที่ผ่านมา จึงใช้ปัจจัยด้านเทคนิคเข้ามาประกอบสำหรับการลงทุนเป็นระยะ 1 เดือน ของหุ้น
ทั้ง 4 ตัว เพื่อหาจุดเข้าลงทุนได้ดังนี้ JUTHA แนวรับที่ 7.00 บาท RCL นวรับที่ 13.50 บาท PSL
แนวรับที่ 25.00 บาท และ TTA ที่แนวรับ 25.00 บาท
สำหรับในไตรมาส 1/2547 ทุกบริษัทจะมีผลกำไรที่ออกมาดีเมื่อเทียบกับปี 2546 แต่ PSL
ที่จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษราว 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าที่ปรึกษาทางการเงินที่ปรึกษาทางกฎหมาย ที่ปรึกษาใน
การจัดซื้อเรือ และค่าธรรมเนียมต่างๆ แต่โดยรวมแล้วกำไรก็จะยังเติบโตในระดับที่สูง จึงมองว่าการเล่นเก็ง
กำไรผลประกอบการก็สามารถทำได้
.................................
เออย่างงี้ก็มีเด้งดิ่ครับพี่เจ๋ง
อ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ
ช้อนๆๆๆๆ
น้ำมันแพง-ปัญหาจีนไม่กระทบกลุ่มขนส่งทางเรือ1Q47 กำไรยังเจ๋ง
วงการขนส่งทางเรือระบุยังไม่มีสัญญาณบอกว่าค่าระวางเรือที่จะปรับตัวลง
ส่วนราคาน้ำมันพุ่งยอมรับกระทบบ้างในช่วงแรกแต่หลังจากนั้นจะผลักภาระให้กับลูกค้า
ได้ บล.ฟิลลิป ชี้ราคาหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือปรับตัวลดลงเกินจริง ดังนั้นหุ้นกลุ่มนี้จึงลงทุนไ
ด้แต่ให้ระวังแรงขายจากกลุ่มที่มีต้นทุนต่ำ
บทวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวถึง หุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือว่า ได้มีการปรับตัว
ลงมาก โดยมีความกังวลในประเด็นหลักๆ คือ การประกาศลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของ จีนให้เหลือ
7% จากที่คาดไว้ที่ 9% จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าและส่งออกของ
จีนที่ลดลง ซึ่งการจากสอบถามาผู้บริหารยังไม่มีสัญญาณใด บ่งบอกถึงอัตราค่าระวางเรือที่จะปรับตัวอย่าง
มีนัยสำคัญ ถึงแม้จีนจะลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีการนำเข้าและส่งออก
จากจีนเลย และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ก็ยังคงดำเนินการอยู่
ดังนั้น การขนส่งวัสดุก่อสร้างก็ยังคงมีอยู่ เพียงแต่จะกระทบกับโครงการใหม่ๆ ประกอบกับ
ในภูมิภาคอื่นๆ ของโลกก็ยังมีการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดี จะช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้ อัตราค่าระวาง
เรือที่ลดลงในปัจจุบันจะเป็นเรือขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Capesize, Panamax และ Handymax ที่มี
อัตราการบรรทุกตั้งแต่ 40,000 เดทเวทตันต่อลำขึ้นไป ที่ต้องมีปริมาณขนส่งสินค้าอย่างเพียงพอ ซึ่ง
JUTHA, PSL และ TTA เป็นเรือขนาด Handysize ที่มีขนาดอยู่ระหว่าง 10,000-40,000 เดทเวท
ตันต่อลำ ซึ่งสามารถหาสินค้าลงเรือเต็มลำได้เร็วกว่า และค่าระวางเรือปัจจุบันยังทรงตัวในระดับสูงเมื่อ
เทียบกับปี 2546 ของ RCL จะเห็นได้ว่าการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ยังมีการเติบโตได้ดี
ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จะมีผลกระทบต่อต้นทุนในช่วงแรกที่ได้มีการทำสัญญาไว้ก่อน
แต่เมื่อทำสัญญาใหม่ก็จะถูกปรับขึ้นตามราคาต้นทุนน้ำมัน ซึ่งก็จะได้รับการชดเชยในภายหลังหากราคา
น้ำมันปรับตัวลง ซึ่งเป็นลักษณะปกติของธุรกิจเดินเรือ และสัดส่วนรายได้จากการเช่าเป็นระยะเวลาของ
JUTHA อยู่ที่ 55.04% PSL ที่ 45% และ TTA ที่ 15% จะไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน เพราะ
ผู้เช่าจะเป็นผู้จ่ายค่าน้ำมัน และแนวโน้ม PSL และ TTA จะมีการใช้เช่าเป็นระยะเวลามากขึ้น ก็จะยิ่งลด
ผลกระทบจากราคาน้ำมันลงได้อีก
ในส่วนของ RCL จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน หรือ Bunker
Surcharge เพื่อชดเชย จึงมองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันมีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจไม่มาก แต่
ผลทางอ้อมอาจรุนแรงกว่า หากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัว
ทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่ทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือลดลง
จากเหตุผลข้างต้น การปรับตัวลดลงของกลุ่มเดินเรือ มองว่าเป็นการปรับตัวลงมากเกินไป
เพราะหากดูจากค่าระวางเรือและการขยายกองเรืออย่างมีนัยสำคัญ ยังเป็นปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงาน
ของกลุ่มเดินเรือ นอกจากนี้การที่มีการทำสัญญาการเช่าเหมาเป็นระยะเวลามากขึ้น จะเป็นตัวรับประกันอัตรา
ค่าระวางเรือ โดยลูกค้าที่เช่าเรือส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเดินเรือขนาดใหญ่หรือเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ฯ ต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการค้ำประกันของธนาคาร จึงทำให้ความเสี่ยงในการยกเลิกสัญญามีน้อย และ
ยังลดภาระต้นทุนด้านน้ำมันด้วย การปรับตัวลงแรง น่าจะมาจากการปรับตัวขึ้นอย่างมากจากปีก่อน เมื่อมี
ความกังวลเกิดขึ้น จึงปรับตัวลงแรงกว่าตลาดฯ
ในแง่พื้นฐานมองว่าเข้าลงทุนได้ แต่จากแรงขายทำกำไรของผู้ถือหุ้นที่มีต้นทุนต่ำยังคงมีอยู่
เมื่อดูจากในช่วงที่ผ่านมา จึงใช้ปัจจัยด้านเทคนิคเข้ามาประกอบสำหรับการลงทุนเป็นระยะ 1 เดือน ของหุ้น
ทั้ง 4 ตัว เพื่อหาจุดเข้าลงทุนได้ดังนี้ JUTHA แนวรับที่ 7.00 บาท RCL นวรับที่ 13.50 บาท PSL
แนวรับที่ 25.00 บาท และ TTA ที่แนวรับ 25.00 บาท
สำหรับในไตรมาส 1/2547 ทุกบริษัทจะมีผลกำไรที่ออกมาดีเมื่อเทียบกับปี 2546 แต่ PSL
ที่จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษราว 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าที่ปรึกษาทางการเงินที่ปรึกษาทางกฎหมาย ที่ปรึกษาใน
การจัดซื้อเรือ และค่าธรรมเนียมต่างๆ แต่โดยรวมแล้วกำไรก็จะยังเติบโตในระดับที่สูง จึงมองว่าการเล่นเก็ง
กำไรผลประกอบการก็สามารถทำได้
.................................
เออย่างงี้ก็มีเด้งดิ่ครับพี่เจ๋ง
อ้าวๆๆๆๆๆๆๆๆ
ช้อนๆๆๆๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
ผมว่า
โพสต์ที่ 2
ต้องพ้นเดือนนี้ไปแล้วถึงจะขึ้นได้
เหตุผลหนึ่ง น่าจะมากจากเรื่องจ่ายปันผล
ต้องใช้เงินสดถึง390 ล้านบาท
เลยทีเดียว
เดือนหน้ากระแสเงินในหนึ่งเดือนที่เรือ50 ลำเท่ากับ592 ล้านบาท
ช่วงเดือนหน้ากระแสเงินสดจะเยอะมาก
ปัญหา ราคาหุ้นในเดือนหน้าจะเท่านี้หรือเปล่า ยังสงสัย
เหตุผลหนึ่ง น่าจะมากจากเรื่องจ่ายปันผล
ต้องใช้เงินสดถึง390 ล้านบาท
เลยทีเดียว
เดือนหน้ากระแสเงินในหนึ่งเดือนที่เรือ50 ลำเท่ากับ592 ล้านบาท
ช่วงเดือนหน้ากระแสเงินสดจะเยอะมาก
ปัญหา ราคาหุ้นในเดือนหน้าจะเท่านี้หรือเปล่า ยังสงสัย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ในที่สุดก็ออกมา ว่ากลุ่มเรือไม่กระทบเท่าไรนัก!!!!!!!!!!!!!!!
โพสต์ที่ 3
คุณ hot ครับ เงินสดคงเหลือในบัญชีของ psl ณ สิ้นปี 46 ตั้ง 800 กว่าล้านนะครับ แถมกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ Q1/47 อีกผมว่าเกินพันล้าน ไม่น่ามีปัญหานะครับ ที่ผมกำลังสงสัยอยู่คือ ผู้บริหารเค้าคิดอะไรอยู่ในเรื่องจังหวะการเข้าซื้อหุ้นคืน คงต้องตามกันต่อไปครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 70
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ออกมา ว่ากลุ่มเรือไม่กระทบเท่าไรนัก!!!!!!!!!!!!!!!
โพสต์ที่ 4
Blueblood เขียน:คุณ hot ครับ เงินสดคงเหลือในบัญชีของ psl ณ สิ้นปี 46 ตั้ง 800 กว่าล้านนะครับ แถมกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ Q1/47 อีกผมว่าเกินพันล้าน ไม่น่ามีปัญหานะครับ ที่ผมกำลังสงสัยอยู่คือ ผู้บริหารเค้าคิดอะไรอยู่ในเรื่องจังหวะการเข้าซื้อหุ้นคืน คงต้องตามกันต่อไปครับ
วันประชุมก็ไม่มีคนถามเกี่ยวกับจังหวะการซื้อหุ้นซะด้วยสิ...
ไม่แน่ใจว่ามีคนถามเรื่องสาเหตุที่ดัชนีค่าระวางที่ปรับตัวลดลงรึป่าวครับ?
เราจะได้อะไร ก็ต่อเมื่อเราต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ เท่านั้น...
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
ในที่สุดก็ออกมา ว่ากลุ่มเรือไม่กระทบเท่าไรนัก!!!!!!!!!!!!!!!
โพสต์ที่ 7
วิ่งทันตาเลยครับ
29.25
เยี่ยมจริงๆๆใช้ข่าวเรียกน้ำย่อย เดี๋ยวหนาว
กลัวแต่ว่าเรือพุ่งชนดอย แล้วจะลงไงเนี่ย
ฮาๆๆๆๆๆๆ(ขอลอกเฮียคลายเคลียดครับ) :lol: :lol:
29.25
เยี่ยมจริงๆๆใช้ข่าวเรียกน้ำย่อย เดี๋ยวหนาว
กลัวแต่ว่าเรือพุ่งชนดอย แล้วจะลงไงเนี่ย
ฮาๆๆๆๆๆๆ(ขอลอกเฮียคลายเคลียดครับ) :lol: :lol:
- PRO_BABY
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1584
- ผู้ติดตาม: 0
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำถาม
โพสต์ที่ 9
ของผมก็ใช่นะครับ เงินสดหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วเพราะปรับกระทบจากกำไรสุทธิน่ะครับ ยกเว้นเงินปันผลกับค่าซื้อเรือเพิ่มเติมแต่คิดว่าเงินซื้อเรือคงมาจากเงินกู้มากกว่าครับ เงินในบริษัทคงใช้แค่นิดหน่อยhot เขียน:กระแสเงินสดที่ผมประมาณ ได้หักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วคับ
หมายเงินสดล้วนล้วนที่ไม่ต้องจ่ายอะไรอีกแล้วคับ