กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 1
รู้สึกว่าตอนนี้ Liverpool กำลังปะสบปัญหาการดำเนินธุรกิจอยู่นะครับ จากที่ผมอ่านAnnual Report (รายงานประจำปี)ปี2003 แล้วรู้สึกทะแม่งๆ
ปี2002 ปี2003
รายได้จาก 98,668 เป็น 102,504 เพิ่มขึ้นเพียง4% แต่
กำไรก่อนหักภาษี จาก 9,092 เหลือแค่ 3,641 ลดลงถึง 60%
กำไรสุทธิ หลังหักภาษีจาก 6,041 เหลือเพียง 2,304 ลดลง 62% !!!!!
(หน่วย ล้านปอนด์)
ปัจจัยหลักที่กำไรลดลงคงเป็นผลจากกำไรการซื้อขายตัวนักเตะลดลง จากปี2000
ที่13,229 ลดลงเหลือ 2,328 ในปี2003 คือลดลงมากกว่า 80%
ถ้าไม่ดีแล้วทำไมยังจะซื้ออีก?
เพราะรายได้ในด้านอื่นยังเพิ่มอยู่ในระดับที่ต่อเนื่องน่าพอใจไงครับ ทั้งค่าลิขสิทธิ์ต่างๆนานา และค่าใช้จ่ายบริหารที่ลดลง นี่คงเหตุผลที่ทักษิณตัดสินใจซื้อกระมัง
ถ้าดีแล้วทำไมถึงขาย?
ผมดูงบกระแสเงินสดแล้ว ปี03 เงินสดที่ทีมถืออยู่ ลดลงไปมากจากปี 02 เยอะมากครับ และอีกอย่างทางสโมสรกำลังวางแผนสร้างสนามใหม่
ต้องใช้เงินอีก4-5พันล้านปอนด์ หากกู้เงินจะมีภาระดอกเบี้ยติดมาด้วย การขายหุ้นเพื่อเพิ่มทุนนั้นจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่าและประหยัดกว่า
เพราะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แถมยังเป็นการกระจายความเสี่ยงออกไปด้วยคือ หากเป็นการกู้เงินแม้สโมสรเจ๊งแต่ก็ยังชำระ
เงินกู้คืนกลับให้bank อีก แต่เป็นหุ้นส่วนกันหากเจ๊งก็เจ๊งด้วยกันแชร์กันเจ๊ง แถมขายหุ้นยังได้เงินเข้ากระเป๋าเยอะกว่าด้วย ดีกว่ากู้เห็นๆ
แล้วสโมสรไม่เสียดายเหรอที่ทีมตัวเองโดนต่างชาติมาถือหุ้น?
ผมว่าลึกๆแฟนบอลและผู้บริหารคงไม่อยากขายเท่าไหร่หรอก แต่อย่าลืมว่าฝรั่งนั้นถนัดการวางแผนระยะยาว(แต่คนไทยชอบสั้นๆ เห็นผลไวๆ
ตีหัวเข้าบ้าน) หากจะมีต่างชาติเข้ามาบริหารอยู่ 10ปี 20ปี ก็ไม่เห็นเป็นไรหากเทียบกับอายุที่ผ่านมา100ปี และอนาคตข้างหน้าต่อไปอีกไม่รู้นาน
เท่าไหร่ เทียบเป็นเปอร์เซ็นแล้วแค่ขี้เล็บ อีกอย่างหากวันไหนทีมแข็งแรงขึ้นมากว่าแล้วอยากได้หุ้นกลับก็ไม่ใช่เรื่องยากมันมีอีกสารพัดวิธีที่จะซื้อหุ้นคืน
เพลอๆ เราอาจต้องขายขาดทุนกลับไปให้ฝรั่งได้ ของถูกก็เป็นได้
ให้ผมเดา ย้ำว่าเดานะ หลังจากสนามใหม่เสร็จเราคงหมดประโยชน์กับมันแล้วล่ะ คงหาวิธีเขี่ยเราต่างนานาพื่อเอาหุ้นคืน
ไปจากเราครับ ทั้งหมดนี้ผมจึงไม่แปลกใจเลยทำไมLiverpoolยอมขายหุ้นให้เราง่ายๆ
แต่อะไรที่ผมว่ามาเป็นเพียงแค่การเดาด้วยความรู้งูๆปลาๆนะครับหากเซียนท่านใดจะช่วยชี้แนะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ อีกอย่างเพราะงบการเงินที่มีในAnnual reportก็แค่2ปีเอง แถมยังเป็นแบบย่ออีกต่างหาก
ปี2002 ปี2003
รายได้จาก 98,668 เป็น 102,504 เพิ่มขึ้นเพียง4% แต่
กำไรก่อนหักภาษี จาก 9,092 เหลือแค่ 3,641 ลดลงถึง 60%
กำไรสุทธิ หลังหักภาษีจาก 6,041 เหลือเพียง 2,304 ลดลง 62% !!!!!
(หน่วย ล้านปอนด์)
ปัจจัยหลักที่กำไรลดลงคงเป็นผลจากกำไรการซื้อขายตัวนักเตะลดลง จากปี2000
ที่13,229 ลดลงเหลือ 2,328 ในปี2003 คือลดลงมากกว่า 80%
ถ้าไม่ดีแล้วทำไมยังจะซื้ออีก?
เพราะรายได้ในด้านอื่นยังเพิ่มอยู่ในระดับที่ต่อเนื่องน่าพอใจไงครับ ทั้งค่าลิขสิทธิ์ต่างๆนานา และค่าใช้จ่ายบริหารที่ลดลง นี่คงเหตุผลที่ทักษิณตัดสินใจซื้อกระมัง
ถ้าดีแล้วทำไมถึงขาย?
ผมดูงบกระแสเงินสดแล้ว ปี03 เงินสดที่ทีมถืออยู่ ลดลงไปมากจากปี 02 เยอะมากครับ และอีกอย่างทางสโมสรกำลังวางแผนสร้างสนามใหม่
ต้องใช้เงินอีก4-5พันล้านปอนด์ หากกู้เงินจะมีภาระดอกเบี้ยติดมาด้วย การขายหุ้นเพื่อเพิ่มทุนนั้นจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่าและประหยัดกว่า
เพราะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แถมยังเป็นการกระจายความเสี่ยงออกไปด้วยคือ หากเป็นการกู้เงินแม้สโมสรเจ๊งแต่ก็ยังชำระ
เงินกู้คืนกลับให้bank อีก แต่เป็นหุ้นส่วนกันหากเจ๊งก็เจ๊งด้วยกันแชร์กันเจ๊ง แถมขายหุ้นยังได้เงินเข้ากระเป๋าเยอะกว่าด้วย ดีกว่ากู้เห็นๆ
แล้วสโมสรไม่เสียดายเหรอที่ทีมตัวเองโดนต่างชาติมาถือหุ้น?
ผมว่าลึกๆแฟนบอลและผู้บริหารคงไม่อยากขายเท่าไหร่หรอก แต่อย่าลืมว่าฝรั่งนั้นถนัดการวางแผนระยะยาว(แต่คนไทยชอบสั้นๆ เห็นผลไวๆ
ตีหัวเข้าบ้าน) หากจะมีต่างชาติเข้ามาบริหารอยู่ 10ปี 20ปี ก็ไม่เห็นเป็นไรหากเทียบกับอายุที่ผ่านมา100ปี และอนาคตข้างหน้าต่อไปอีกไม่รู้นาน
เท่าไหร่ เทียบเป็นเปอร์เซ็นแล้วแค่ขี้เล็บ อีกอย่างหากวันไหนทีมแข็งแรงขึ้นมากว่าแล้วอยากได้หุ้นกลับก็ไม่ใช่เรื่องยากมันมีอีกสารพัดวิธีที่จะซื้อหุ้นคืน
เพลอๆ เราอาจต้องขายขาดทุนกลับไปให้ฝรั่งได้ ของถูกก็เป็นได้
ให้ผมเดา ย้ำว่าเดานะ หลังจากสนามใหม่เสร็จเราคงหมดประโยชน์กับมันแล้วล่ะ คงหาวิธีเขี่ยเราต่างนานาพื่อเอาหุ้นคืน
ไปจากเราครับ ทั้งหมดนี้ผมจึงไม่แปลกใจเลยทำไมLiverpoolยอมขายหุ้นให้เราง่ายๆ
แต่อะไรที่ผมว่ามาเป็นเพียงแค่การเดาด้วยความรู้งูๆปลาๆนะครับหากเซียนท่านใดจะช่วยชี้แนะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ อีกอย่างเพราะงบการเงินที่มีในAnnual reportก็แค่2ปีเอง แถมยังเป็นแบบย่ออีกต่างหาก
ขาดทุนคือค่าเล่าเรียน
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 3
โห...ทันกระแสจริงๆ เจ้าประคุณเอ้ย ยอดเยี่ยม!!!!!
พูดยากนะ เมืองไทยไม่เคยมีธุรกิจนี้เป็นเรื่องเป็นราว ขาดทุนของเค้าแค่นี้อาจจะดีก็ได้
พูดยากนะ เมืองไทยไม่เคยมีธุรกิจนี้เป็นเรื่องเป็นราว ขาดทุนของเค้าแค่นี้อาจจะดีก็ได้
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
- jody4003
- Verified User
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 4
สงสัยว่าเค้านับสัญญานักเตะเป็น asset หรือเปล่า ถ้ากำไรลดเยอะเพราะการซื้อขายนักเตะก็แปลว่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายเลยเหรอครับ
เช่นซื้อ Kewell มา 5ล้านปอนด์ บันทึกเป็นค่าใช้จ่าย 5ล้าน ทั้งๆที่สามารถขายออกเป็นเงินสดเข้าได้
อืมแล้วถ้าเป็น asset แล้วจะคิด depreciation and amortisation มั้ยนะ
ยั่งงี้ก็ต้องมีผู้ประเมินราคาอิสระสิ
แหะ คิดเล่นๆนะครับ
เช่นซื้อ Kewell มา 5ล้านปอนด์ บันทึกเป็นค่าใช้จ่าย 5ล้าน ทั้งๆที่สามารถขายออกเป็นเงินสดเข้าได้
อืมแล้วถ้าเป็น asset แล้วจะคิด depreciation and amortisation มั้ยนะ
ยั่งงี้ก็ต้องมีผู้ประเมินราคาอิสระสิ
แหะ คิดเล่นๆนะครับ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 5
ปัญหานี้เป็นไปทั่วฟุตบอลยุโรปครับ คือการทุ่มซื้อนักเตะด้วยเงินแพงๆมากๆ
เช่น ดิยุฟ 10 ล้าน ปอนด์ ซื้อมาทำไม โปน โง่จริงๆ
ทำให้ทีมใช้เงินมากเกิน แล้วไม่สามารถทำเงินจากรายการที่ลงแข่งได้มากพอ นานไปก็เงินลดลง หนี้ก็เกิดขึ้น ดูโรม่าครับ หนี้ 63 ล้านยูโร ลีดส์หนี้อีกเท่าไหร่ ทีมในอิตาลีตอนนี้โดนกันมากมาย ฟิออเรนติน่าโดนล้มละลายไปเล่นในดิวิชั่นต่ำสุดและค่อยๆพัฒนาขึ้นมาใหม่
ทีมในเยอรมันก็เป็น เช่น ดอร์ทมุนด์ครับ
เช่น ดิยุฟ 10 ล้าน ปอนด์ ซื้อมาทำไม โปน โง่จริงๆ
ทำให้ทีมใช้เงินมากเกิน แล้วไม่สามารถทำเงินจากรายการที่ลงแข่งได้มากพอ นานไปก็เงินลดลง หนี้ก็เกิดขึ้น ดูโรม่าครับ หนี้ 63 ล้านยูโร ลีดส์หนี้อีกเท่าไหร่ ทีมในอิตาลีตอนนี้โดนกันมากมาย ฟิออเรนติน่าโดนล้มละลายไปเล่นในดิวิชั่นต่ำสุดและค่อยๆพัฒนาขึ้นมาใหม่
ทีมในเยอรมันก็เป็น เช่น ดอร์ทมุนด์ครับ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 6
ลองติดตามดูตอนต่อไปมั้ยครับว่า การรุกสู่ธุรกิจใหม่ของท่านนายกครั้งนี้ จะโชว์วิสัยทัศน์อะไรให้เราคาดไม่ถึงกันอีก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 7
ปีนี้กำไรลดลงคงจะเป็นเพราะไม่ได้แข่งแชมเปี้ยนลีคครับ เห็นบอกว่ารายได้หายขั้นต่ำ 10 ล้านปอนด์ครับ
ถ้าปีนี้ได้แข่งผลการดำเนินงานคงจะดีขึ้นครับ
มลค่า Liverpool นั้นถ้าคิดจากจำนวนเดอะคอปทั่วทั้งโลก ผมว่าคงประเมินราคาลำบาก
ท่านทักษิณท่านเก่งเรื่องการตลาด ผมว่าท่านสามารถนำการตลาดมาทำให้ Liverpool มีรายได้และความนิยมเพิ่มขึ้นได้อีกมากครับ ดจากไทยรักไทยซิครับ
รายการดทรทัศน์อะไรครับที่คนไทยยอมเสียเงินเดือนละพันกว่าบาทเพื่อจะได้ล้นดสดๆ
ถ้าปีนี้ได้แข่งผลการดำเนินงานคงจะดีขึ้นครับ
มลค่า Liverpool นั้นถ้าคิดจากจำนวนเดอะคอปทั่วทั้งโลก ผมว่าคงประเมินราคาลำบาก
ท่านทักษิณท่านเก่งเรื่องการตลาด ผมว่าท่านสามารถนำการตลาดมาทำให้ Liverpool มีรายได้และความนิยมเพิ่มขึ้นได้อีกมากครับ ดจากไทยรักไทยซิครับ
รายการดทรทัศน์อะไรครับที่คนไทยยอมเสียเงินเดือนละพันกว่าบาทเพื่อจะได้ล้นดสดๆ
- สวนเด่ะ
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 9
ทักษิณซื้อหุ้นมาปุ๊บ ก้อโหวตให้โปนออก แล้วก้อขายหุ้นกลับครับ
8) เพื่อแฟนหงส์ทุกคน
8) เพื่อแฟนหงส์ทุกคน
get that job . get that house . get that girl . If you won't , others will... Believe you can do it
-
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 10
เป็นผมจะซื้อเลยครับ
1. ซื้อแล้วได้ใจประชาชน อาจชนะเลือกตั้ง
2. บ. อยู่ในช่วงตกต่ำ ถ้ามีกำไรเพิ่มเป็น ฮีโร่ทันที
1. ซื้อแล้วได้ใจประชาชน อาจชนะเลือกตั้ง
2. บ. อยู่ในช่วงตกต่ำ ถ้ามีกำไรเพิ่มเป็น ฮีโร่ทันที
-
- Verified User
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 11
Download Annual report ได้ที่
http://www.liverpoolfc.tv/club/report.htm
แต่ผมว่าการซื้อครั้งมีให้ประโยชน์ด้านธุรกิจอย่างเดียวครับ
ส่วนด้านการกีฬา ผมว่ามันคือการบ่อนทำลายวงการฟุตบอลไทยเลยครับ
คืออย่างนี้แล้วใครจะไปอยากดูฟุตบอลไทยล่ะครับ ทีมในลีกส์ ก็ไม่มีคนสนับสนุน จะจ้างนักเตะเก่งๆแพงๆก็ไม่ได้ นักเตะที่มีฝีมือเจอแต่พวกห่วยๆก็ไม่ได้พัฒนาฝีมือ แถมค่าจ้างไม่ดียึดเป็นอาชีพไม่ได้ด้วย ล้มบอลดีกว่า เงินดี..
แล้วมันจะไปบอลโลกได้ไง?
http://www.liverpoolfc.tv/club/report.htm
แต่ผมว่าการซื้อครั้งมีให้ประโยชน์ด้านธุรกิจอย่างเดียวครับ
ส่วนด้านการกีฬา ผมว่ามันคือการบ่อนทำลายวงการฟุตบอลไทยเลยครับ
คืออย่างนี้แล้วใครจะไปอยากดูฟุตบอลไทยล่ะครับ ทีมในลีกส์ ก็ไม่มีคนสนับสนุน จะจ้างนักเตะเก่งๆแพงๆก็ไม่ได้ นักเตะที่มีฝีมือเจอแต่พวกห่วยๆก็ไม่ได้พัฒนาฝีมือ แถมค่าจ้างไม่ดียึดเป็นอาชีพไม่ได้ด้วย ล้มบอลดีกว่า เงินดี..
แล้วมันจะไปบอลโลกได้ไง?
ขาดทุนคือค่าเล่าเรียน
-
- Verified User
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 12
จากweb www.cheerthai.com ครับ
ลิเวอร์พูล กับ "ความสำเร็จพร้อมใช้"
คนทั่วไป และทั่วโลก ล้วนแต่ก็นิยมคนที่ประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จทางด้านไหนก็ตาม ดนตรี กีฬา ธุรกิจ นักแสดง และวิชาชีพทั้งหลายทั้งปวง
ในเมื่อความสำเร็จ เป็นปัจจัย ที่สร้างชื่อเสียง เงินทอง และการยอมรับนับถือได้ ดังนั้น คนที่อยากได้ความสำเร็จ ก็จะพยายามทุกวิถีทางที่จะ ค้นคว้า ฝึกฝน ศึกษา พัฒนา ตนเอง ให้ก้าวไปสู้จุดสูงสุดในสิ่งที่ตนเองทำ หรือที่เรียกกันว่า "ความสำเร็จ"
คนไทยเราเอง ก็นิยมและบูชาคนที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์อื่นทั่วโลก แต่สิ่งหนึ่งคนไทยเรา มีบุคลิกหรือค่านิยมที่แตกต่างจากชาติอื่นอย่างชัดเจน คือ เรานิยมที่จะเป็นฝ่ายหลงใหลและเชิดชูคนที่ประสบความสำเร็จ โดยไม่ค่อยสนใจเส้นทางแห่งความสำเร็จนั้น น้อยคนนักที่จะไปย้อนดูว่า เขามีเส้นทางอย่างไรกว่าจะประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างง่ายๆ เวลาที่เราเจอคนมีฐานะดี เป็นเศรษฐี สังคมก็มักจะให้เกียรติ ยกย่องโดยไม่มีข้อแม้ เคยมั้ยครับ เวลาไปงานตามโรงแรมหรู คนที่ขับรถเบนซ์ หรือรถราคาแพงเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์จอดรถด้านหน้าสุดของล๊อบบี้ได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนสำคัญอะไรเลย เผลอๆ เงินที่ได้มา อาจเกิดจากการทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส เลี่ยงภาษี เอาเปรียบลูกจ้าง เอาเปรียบคู่ค้า สารพัดสารเพ ... แต่เราคนไทยก็พร้อมที่จะก้มหัวให้โดยดุษฎี
เมื่อสังคมไทย เป็นสังคมที่ไม่สนใจ "ที่มา" ของความสำเร็จ ดังนั้น ก็ไม่ค่อยอยากจะมีใคร อยากจะเสียเวลา กับการ "สร้างสรรค์" ความสำเร็จตามครรลองด้วยตัวเอง เพราะมันเหนื่อย มันยาก มันใช้เวลา และมันอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ... อย่างไรตามคนไทยก็ไม่สนใจ สนับสนุน "คนที่กำลังสร้างความสำเร็จ" อยู่แล้ว "รอให้ประสบความเร็จก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน"
ภราดร ศรีชาพันธุ์ เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ก่อนหน้านั้น มีใครสนับสนุนบ้างมั้ยครับ ความสำเร็จที่เราเห็นทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากหยาดเหงื่อ แรงกาย ของครอบครัว ล้วนๆ ... ถ้าไม่มีความตั้งใจอันแรงกล้าของคุณพ่อ และตัวของเขาเอง ป่านนี้ภราดรจะไปอยู่ตรงไหนของประเทศไทย ก็ไม่มีใครรู้ ... ความพยายามของภราดร เป็น 1 ใน 60 ล้าน จริงๆ ผมเชื่อว่ามีพ่อแม่อีกนับล้านคนในประเทศไทย ที่เคยตั้งความหวังด้านการกีฬาให้กับลูกตัวเองเหมือนภราดร มีเด็กอีกเป็นล้าน ที่มีศักยภาพไม่น้อยกว่าภราดรเลย แต่แล้วพ่อแม่เหล่านั้นก็ต้องหมดหวัง เพราะหนทางยาวไกล คนสนับสนุนก็หาไม่เจอ ... ถ้าพลาด หนทางที่ 2 ที่ 3 ก็ไม่มีรองรับ
ตอนนี้ หลายคนกำลังดีใจกับการที่ "ใครบางคน" จะได้เป็นเจ้าของทีมลิเวอร์พูล ผมหวังว่าจะไม่เอาประเทศชาติไปเกี่ยวข้อง เพราะการซื้อลิเวอร์พูล มันเป็นเพียงความสำเร็จของคนอื่น ที่เราหลงชื่นชม และอยากเป็นเจ้าของ ประโยชน์ในแง่การลงทุน ก็จะเป็นของนักลงทุนจะได้รับเท่านั้น เช่น ผลกำไร (ยามขายต่อ), เงินปันผล, หน้าตา ภาพลักษณ์ของคนๆ นั้น ...ดังนั้น ถ้าจะเอาเงินตัวเองหรือพันธมิตรไปซื้อ ผมก็เห็นว่าดี สร้างสีสันให้วงการฟุตบอลได้พอควร
แต่ถ้าหากจะเอาประโยชน์ด้านอื่นๆ มากล่าวอ้าง เพื่อเอาภาษีของผมไปลงทุน ผมค้านหัวชนฝา เพราะผมยังมองไม่เห็นประโยชน์ชัดเจน และก็เป็นคนละเรื่องกับการเข้าไปถือหุ้น เพราะถ้าหากสินค้าไทย อยากเป็นสปอนเซอร์ ก็ไปซื้อเงื่อนไขสปอนเซอร์ อยากเอาลิขสิทธ์มาขายสินค้า ก็ไปซื้อลิขสิทธิ์ อยากตั้งอคาเดมี ฝึกเด็ก ก็เอาเงินมาตั้งอคาเดมี จ้างผู้ฝึกสอนเข้ามา ... จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่อ้างว่าคนไทยจะได้รับนั้น มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อหุ้นเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ คนไทยหลายคนกำลังชื่นชมและอยากเป็นเจ้าของ "Instant Success" ความสำเร็จแบบพร้อมใช้ ตาม "กำพืดรักความสบาย" ของคนไทย ผมก็ไม่อยากว่าอะไร
แต่จะมีใครบ้างมั้ย ที่คิดจะสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาหลายๆ ทีม ในเมืองไทย ... เป็นความสำเร็จที่แท้จริงของคนไทยด้วยกันเอง
มันน่าจะหอมหวานกว่าหลายเท่านัก
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
From : พินิจ - 11 - พ.ค. - 2547 Time : 16:43
ลิเวอร์พูล กับ "ความสำเร็จพร้อมใช้"
คนทั่วไป และทั่วโลก ล้วนแต่ก็นิยมคนที่ประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จทางด้านไหนก็ตาม ดนตรี กีฬา ธุรกิจ นักแสดง และวิชาชีพทั้งหลายทั้งปวง
ในเมื่อความสำเร็จ เป็นปัจจัย ที่สร้างชื่อเสียง เงินทอง และการยอมรับนับถือได้ ดังนั้น คนที่อยากได้ความสำเร็จ ก็จะพยายามทุกวิถีทางที่จะ ค้นคว้า ฝึกฝน ศึกษา พัฒนา ตนเอง ให้ก้าวไปสู้จุดสูงสุดในสิ่งที่ตนเองทำ หรือที่เรียกกันว่า "ความสำเร็จ"
คนไทยเราเอง ก็นิยมและบูชาคนที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์อื่นทั่วโลก แต่สิ่งหนึ่งคนไทยเรา มีบุคลิกหรือค่านิยมที่แตกต่างจากชาติอื่นอย่างชัดเจน คือ เรานิยมที่จะเป็นฝ่ายหลงใหลและเชิดชูคนที่ประสบความสำเร็จ โดยไม่ค่อยสนใจเส้นทางแห่งความสำเร็จนั้น น้อยคนนักที่จะไปย้อนดูว่า เขามีเส้นทางอย่างไรกว่าจะประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างง่ายๆ เวลาที่เราเจอคนมีฐานะดี เป็นเศรษฐี สังคมก็มักจะให้เกียรติ ยกย่องโดยไม่มีข้อแม้ เคยมั้ยครับ เวลาไปงานตามโรงแรมหรู คนที่ขับรถเบนซ์ หรือรถราคาแพงเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์จอดรถด้านหน้าสุดของล๊อบบี้ได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนสำคัญอะไรเลย เผลอๆ เงินที่ได้มา อาจเกิดจากการทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใส เลี่ยงภาษี เอาเปรียบลูกจ้าง เอาเปรียบคู่ค้า สารพัดสารเพ ... แต่เราคนไทยก็พร้อมที่จะก้มหัวให้โดยดุษฎี
เมื่อสังคมไทย เป็นสังคมที่ไม่สนใจ "ที่มา" ของความสำเร็จ ดังนั้น ก็ไม่ค่อยอยากจะมีใคร อยากจะเสียเวลา กับการ "สร้างสรรค์" ความสำเร็จตามครรลองด้วยตัวเอง เพราะมันเหนื่อย มันยาก มันใช้เวลา และมันอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ... อย่างไรตามคนไทยก็ไม่สนใจ สนับสนุน "คนที่กำลังสร้างความสำเร็จ" อยู่แล้ว "รอให้ประสบความเร็จก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน"
ภราดร ศรีชาพันธุ์ เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ก่อนหน้านั้น มีใครสนับสนุนบ้างมั้ยครับ ความสำเร็จที่เราเห็นทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากหยาดเหงื่อ แรงกาย ของครอบครัว ล้วนๆ ... ถ้าไม่มีความตั้งใจอันแรงกล้าของคุณพ่อ และตัวของเขาเอง ป่านนี้ภราดรจะไปอยู่ตรงไหนของประเทศไทย ก็ไม่มีใครรู้ ... ความพยายามของภราดร เป็น 1 ใน 60 ล้าน จริงๆ ผมเชื่อว่ามีพ่อแม่อีกนับล้านคนในประเทศไทย ที่เคยตั้งความหวังด้านการกีฬาให้กับลูกตัวเองเหมือนภราดร มีเด็กอีกเป็นล้าน ที่มีศักยภาพไม่น้อยกว่าภราดรเลย แต่แล้วพ่อแม่เหล่านั้นก็ต้องหมดหวัง เพราะหนทางยาวไกล คนสนับสนุนก็หาไม่เจอ ... ถ้าพลาด หนทางที่ 2 ที่ 3 ก็ไม่มีรองรับ
ตอนนี้ หลายคนกำลังดีใจกับการที่ "ใครบางคน" จะได้เป็นเจ้าของทีมลิเวอร์พูล ผมหวังว่าจะไม่เอาประเทศชาติไปเกี่ยวข้อง เพราะการซื้อลิเวอร์พูล มันเป็นเพียงความสำเร็จของคนอื่น ที่เราหลงชื่นชม และอยากเป็นเจ้าของ ประโยชน์ในแง่การลงทุน ก็จะเป็นของนักลงทุนจะได้รับเท่านั้น เช่น ผลกำไร (ยามขายต่อ), เงินปันผล, หน้าตา ภาพลักษณ์ของคนๆ นั้น ...ดังนั้น ถ้าจะเอาเงินตัวเองหรือพันธมิตรไปซื้อ ผมก็เห็นว่าดี สร้างสีสันให้วงการฟุตบอลได้พอควร
แต่ถ้าหากจะเอาประโยชน์ด้านอื่นๆ มากล่าวอ้าง เพื่อเอาภาษีของผมไปลงทุน ผมค้านหัวชนฝา เพราะผมยังมองไม่เห็นประโยชน์ชัดเจน และก็เป็นคนละเรื่องกับการเข้าไปถือหุ้น เพราะถ้าหากสินค้าไทย อยากเป็นสปอนเซอร์ ก็ไปซื้อเงื่อนไขสปอนเซอร์ อยากเอาลิขสิทธ์มาขายสินค้า ก็ไปซื้อลิขสิทธิ์ อยากตั้งอคาเดมี ฝึกเด็ก ก็เอาเงินมาตั้งอคาเดมี จ้างผู้ฝึกสอนเข้ามา ... จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่อ้างว่าคนไทยจะได้รับนั้น มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อหุ้นเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ คนไทยหลายคนกำลังชื่นชมและอยากเป็นเจ้าของ "Instant Success" ความสำเร็จแบบพร้อมใช้ ตาม "กำพืดรักความสบาย" ของคนไทย ผมก็ไม่อยากว่าอะไร
แต่จะมีใครบ้างมั้ย ที่คิดจะสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จขึ้นมาหลายๆ ทีม ในเมืองไทย ... เป็นความสำเร็จที่แท้จริงของคนไทยด้วยกันเอง
มันน่าจะหอมหวานกว่าหลายเท่านัก
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
From : พินิจ - 11 - พ.ค. - 2547 Time : 16:43
ขาดทุนคือค่าเล่าเรียน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 13
แล้วทำไมเราถึงลงทนในบริษัทที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของละกันครับ
ถ้าเราคิดแบบนี้ เราก็คงไม่ต้องลงทนในบริษัทต่างๆที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของ และคอยลงทนเฉพาะบริษัทที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ
ยคสมัยนี้ไม่น่าจะคิดถึงเชื้อชาติกันแล้วครับ
ผมว่าที่วิจารณ์กันอย่นี้ มีใครทราบถึงรายละเอียดที่แท้จริงบ้างครับ ก็วิจารณ์กันไปตามข่าวที่นักข่าวเขียน ซึ่งก็จริงบ้าง มั่วบ้าง
ถ้าเราคิดแบบนี้ เราก็คงไม่ต้องลงทนในบริษัทต่างๆที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของ และคอยลงทนเฉพาะบริษัทที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ
ยคสมัยนี้ไม่น่าจะคิดถึงเชื้อชาติกันแล้วครับ
ผมว่าที่วิจารณ์กันอย่นี้ มีใครทราบถึงรายละเอียดที่แท้จริงบ้างครับ ก็วิจารณ์กันไปตามข่าวที่นักข่าวเขียน ซึ่งก็จริงบ้าง มั่วบ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นอกเรื่อง เห็นงบการเงินของLiverpool แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 15
จาก pantip
ความคิดเห็นที่ 12
ผมว่าทุกคนโดนนายกหลอกทั้งหมด นี่เป็นเกมการเมืองเพื่อเบี่งประเด็นปัญหาต่างๆในรัฐบาล รวมทั้งกลบข่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถ้าจะซื้อจริงโดยไม่มีการเมืองเข้ามา ไม่จำเป็นต้องมาแทงกั๊กว่าจะเอาเงินตัว หรือเงินรัฐบาลเลย คนจะซื้อไม่รู้เลยหรือครับว่ากรูจะเอาเงินไหนมาซื้อ โดนนายกหลอกกันทั้งประเทศ ยังคิดกันไม่ทันอีก
จากคุณ : gatda - [ 13 พ.ค. 47 12:08:47 ]
ความคิดเห็นที่ 12
ผมว่าทุกคนโดนนายกหลอกทั้งหมด นี่เป็นเกมการเมืองเพื่อเบี่งประเด็นปัญหาต่างๆในรัฐบาล รวมทั้งกลบข่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถ้าจะซื้อจริงโดยไม่มีการเมืองเข้ามา ไม่จำเป็นต้องมาแทงกั๊กว่าจะเอาเงินตัว หรือเงินรัฐบาลเลย คนจะซื้อไม่รู้เลยหรือครับว่ากรูจะเอาเงินไหนมาซื้อ โดนนายกหลอกกันทั้งประเทศ ยังคิดกันไม่ทันอีก
จากคุณ : gatda - [ 13 พ.ค. 47 12:08:47 ]
ขาดทุนคือค่าเล่าเรียน