ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
- Tanasit
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 1
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% แล้ว มีผล 3 มี.ค.นี้
Source - IQ Biz (Th)
Friday, February 29, 2008 16:43
42607 XTHAI XECON XFINMKT XBANK ZFX HOTN V%WIREL P%IQ
อินโฟเควสท์ (29 ก.พ. 51)--นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผล 3 มี.ค.นี้เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยแล้ว
Source - IQ Biz (Th)
Friday, February 29, 2008 16:43
42607 XTHAI XECON XFINMKT XBANK ZFX HOTN V%WIREL P%IQ
อินโฟเควสท์ (29 ก.พ. 51)--นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผล 3 มี.ค.นี้เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยแล้ว
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 2
ทางการเมือง :?:Tanasit เขียน:ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% แล้ว มีผล 3 มี.ค.นี้
Source - IQ Biz (Th)
Friday, February 29, 2008 16:43
42607 XTHAI XECON XFINMKT XBANK ZFX HOTN V%WIREL P%IQ
อินโฟเควสท์ (29 ก.พ. 51)--นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผล 3 มี.ค.นี้เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยแล้ว
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 8
มาตรการนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับตลาดทุนเลย เพราะผ่อนปรนไปเกลี้ยงแล้ว
เราไม่ค่อยเชื่อว่า เงินจะไหลมาลงในตลาดทุน สมมติว่าไหลมา ก็อาจจะเป็น 30% ที่เคยเอาไปสำรองไว้มากกว่า
แต่คิดดูแล้ว การที่เค้าลดดอกตั้งหลายประเทศ แต่ไทยไม่ลด เราเดาใจว่า ฝรั่งน่าจะเอาเงินสำรองส่วนนั้นเข้าไปตลาดตราสารหนี้ค่ะ เพราะ yield ดีกว่า
เพื่อนๆคิดกันว่าไงบ้างเอ่ย
ปล. แต่การยกเลิกมันช่างเปรี้ยวใจ ไม่มีสัญญาณ ก็เห็นบอกจะแถลงข่าว เนื้อข่าวตอนแรกก็ไม่มีอะไรเลย พอตลาดปิดก็ประกาศตูม ช่างเป็นแผ่นดินไหวพร้อมซึนามิที่เร้าใจจริงๆค่ะ ฟิวเจอร์เล่นกันกระจาย หวังว่าวันจันทร์คงไม่น้ำลดเจอซากนะคะ รอดูด้วยใจระทึกค่ะ
เราไม่ค่อยเชื่อว่า เงินจะไหลมาลงในตลาดทุน สมมติว่าไหลมา ก็อาจจะเป็น 30% ที่เคยเอาไปสำรองไว้มากกว่า
แต่คิดดูแล้ว การที่เค้าลดดอกตั้งหลายประเทศ แต่ไทยไม่ลด เราเดาใจว่า ฝรั่งน่าจะเอาเงินสำรองส่วนนั้นเข้าไปตลาดตราสารหนี้ค่ะ เพราะ yield ดีกว่า
เพื่อนๆคิดกันว่าไงบ้างเอ่ย
ปล. แต่การยกเลิกมันช่างเปรี้ยวใจ ไม่มีสัญญาณ ก็เห็นบอกจะแถลงข่าว เนื้อข่าวตอนแรกก็ไม่มีอะไรเลย พอตลาดปิดก็ประกาศตูม ช่างเป็นแผ่นดินไหวพร้อมซึนามิที่เร้าใจจริงๆค่ะ ฟิวเจอร์เล่นกันกระจาย หวังว่าวันจันทร์คงไม่น้ำลดเจอซากนะคะ รอดูด้วยใจระทึกค่ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
-
- Verified User
- โพสต์: 16
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 9
นักวิเคราะห์เชื่อยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% มีโอกาสเห็นหุ้นไทยยืนอยู่ที่ 890- 925 จุด
Posted on Friday, February 29, 2008
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยแล้ว พร้อมทั้งได้มาตรการต่าง ๆ รองรับสถานการณ์ ทั้งมาตรการสกัดการเก็งกำไรและมาตรการชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย
โดยยืนยันว่าการยกเลิกมาตรการดังกล่าวไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง แต่จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น และในวันจันทร์นี้ก็จะเรียกธนาคารพาณิชย์มาชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการ และการดำเนินเกี่ยวกับเงินที่กันสำรอง โดยเงินที่กันสำรองอยู่กับธนาคารพาณิชย์สามารถคืนให้นักลงทุนได้ทันที แต่เงินที่กันสำรองไว้ที่แบงก์ชาติจะคืนภายใน 7 วัน
ผู้ว่าการแบงก์ชาติระบุด้วยว่า แบงก์ชาติจะมีมาตรการรองรับการบริหารจัดการการไหลเข้า-ออกของเงินทุนหลังจากที่ได้มีการยกเลิกมาตรการ รวมทั้งออกมาตรการติดตามข้อมูลและป้องกันการเก็งกำไรค่าเงิน ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเพิ่มวงเงินเป็นจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. เพื่อจัดสรรให้กับบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน รวมทั้งบุคคลธรรมดาที่ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลหรือผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
รวมทั้งยังปรับปรุงมาตรการป้องปราบการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่สำคัญ ได้แก่ ปรับเกณฑ์การกู้ยืมเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศจากผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยลดวงเงินกู้ยืมโดยไม่มีธุรกรรมรองรับทุกอายุสัญญาให้มียอดคงค้างแต่ละสถาบันการเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ เพื่อจำกัดช่องทางการเก็งกำไร
การปรับเกณฑ์การจำกัดการปล่อยสภาพคล่องเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศแก่ผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยไม่มีธุรกรรมรองรับ ให้มียอดคงค้างแต่ละธนาคารไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศเพื่อเพิ่มความต้องการซื้อเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ยังได้ปรับปรุงโครงสร้างบัญชีผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยแยกประเภทบัญชีเงินบาทออกเป็นบัญชีเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารทางการเงินอื่น และบัญชีเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพื่อประโยชน์ในการติดตามการไหลเข้า-ออกของเงินทุน โดยเงินบาทในแต่ละประเภทบัญชีสามารถโอนระหว่างประเภทบัญชีเดียวกันได้ แต่ห้ามโอนข้ามประเภทบัญชี
นางธาริษาบอกด้วยว่า แบงก์ชาติยังมีมาตรการชั่วคราว เพื่อสนับสนุนการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิของผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SME โดยจัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ 3 ปี ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสถาบันการเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท และจัดโครงการรับซื้อต่อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่ผู้ประกอบการรายย่อยขายผ่านสถาบันการเงิน เป็นเวลา 6 เดือน
นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวในรายการ Trading Hour ว่า การยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ในครั้งนี้ถือเป็นข่าวดี และน่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 จุด โดยคาดว่า แนวต้านจะอยู่ที่ 850-860 จุด และตลาดน่าจะตอบรับในเชิงบวกต่อไป และดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคมน่าจะขึ้นไปได้ถึง 890 จุด แต่ถ้าปัจจัยภายนอกประเทศเอื้ออำนวยก็น่าจะไปได้ไกลถึง 925 จุด
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะให้ความสำคัญกับเณษฐกิจ ตลาดทุน และการใช้จ่ายของภาคเอกชน แม้ว่าจะมีข่าวเรื่องการปลดข้าราชการประจำออกมาเป็นระยะ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจากนี้ไปจะทยอยมีข่าวดีออกมา โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และการพิจารณาเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง บอกว่า การยกเลิกมาตราการ 30% จะส่งผลดี ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากมาตราการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสำคัญมาก ส่วนค่าเงินบาทในประเทศจะมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า แบงก์ชาติมีมาตรการในการป้องกันอยู่แล้ว
ผู้บริหารหลักทรัพย์บัวหลวงมองว่า ดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า จะผ่านแนวต้านสำคัญที่ 850 จุดไปได้ หลังจากที่วันนี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 845.76 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.64 จุด หรือ 0.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 24,572 ล้านบาท เนื่องจากหุ้นไทยขณะนี้ ยังถือว่าถูกกว่าภูมิภาค โดยจะมีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการออกกองทุนอสังหา เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดเกณฑ์ 30%
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชื่อว่า หลังจากที่แบงก์ชาติประกาศยกเลิก มาตรการกันสำรอง 30% น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ในแง่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่น่าจะ กลับมาเช่นเดิม แต่ตลาดตราสารหนี้น่าจะได้รับผลดีมากกว่าตลาดหุ้น เพราะตลาดหุ้นได้รับการ ยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% อยู่แล้ว แต่ตลาดตราสารหนี้ยังใช้มาตรการดังกล่าวอยู่ หลังจากนี้ จึงน่าจะมีเงินไหลเข้ามาตลาดตราสารหนี้มากขึ้น ทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นด้วย
ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ นายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติคนใหม่บอกว่า การประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ถือเป็นข่าวดีมากสำหรับตลาดหุ้นไทยและนักลงทุนต่างชาติ เพราะต่างก็รอคอยมานานแล้ว โดยเชื่อว่า จะทำให้ต่างชาติเอาเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดไทยได้ง่ายขึ้น และน่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามากด้วย แต่สิ่งที่ยังวิตกเป็นเรื่องของค่าเงินบาท อาจจะแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งทางการคงจะต้องมีมาตรการรองรับ เพื่อให้การแข็งค่าของเงินบาทไม่ได้แข็งค่าเกินไป กว่าค่าเงินของประเทศอื่นในภูมิภาคจนผิดปกติ แต่การแข็งค่าของเงินบาทก็ไม่ได้เป็นผลเสียทีเดียว ยังมีผลดีในแง่ของการช่วยลดเรื่องอัตราเงินเฟ้อให้น้อยลง ภายหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมา ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมาก
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าการเทรดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทบนกระดาน on-shore จากนี้ไปคงจะมีระดับใกล้ ๆ กันกับกระดาน off-shore หรือเรียกได้ว่าเป็นกระดานเดียวกันก็ได้ หลังจากที่มีการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% โดยปัจจุบันมีส่วนห่างกันแค่ 1 บาทเท่านั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศใช้มาตรการกันสำรอง 30% ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2549 โดยกำหนดให้สถาบันการเงินที่ทำธุรกรรมกับต่างชาติและต้องรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท ต้องกันเงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวนร้อยละ 30 ของเงินตราต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ของเงินทุนระยะสั้น และการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมีผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันทำการถัดมา ก่อนจะมีการผ่อนคลายมาตรการออกมาเป็นระยะ และมีการประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการในที่สุด
ที่มา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Tra ... fault.aspx
Posted on Friday, February 29, 2008
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยแล้ว พร้อมทั้งได้มาตรการต่าง ๆ รองรับสถานการณ์ ทั้งมาตรการสกัดการเก็งกำไรและมาตรการชั่วคราวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย
โดยยืนยันว่าการยกเลิกมาตรการดังกล่าวไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง แต่จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น และในวันจันทร์นี้ก็จะเรียกธนาคารพาณิชย์มาชี้แจงเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการ และการดำเนินเกี่ยวกับเงินที่กันสำรอง โดยเงินที่กันสำรองอยู่กับธนาคารพาณิชย์สามารถคืนให้นักลงทุนได้ทันที แต่เงินที่กันสำรองไว้ที่แบงก์ชาติจะคืนภายใน 7 วัน
ผู้ว่าการแบงก์ชาติระบุด้วยว่า แบงก์ชาติจะมีมาตรการรองรับการบริหารจัดการการไหลเข้า-ออกของเงินทุนหลังจากที่ได้มีการยกเลิกมาตรการ รวมทั้งออกมาตรการติดตามข้อมูลและป้องกันการเก็งกำไรค่าเงิน ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยเพิ่มวงเงินเป็นจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. เพื่อจัดสรรให้กับบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน รวมทั้งบุคคลธรรมดาที่ลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลหรือผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
รวมทั้งยังปรับปรุงมาตรการป้องปราบการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่สำคัญ ได้แก่ ปรับเกณฑ์การกู้ยืมเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศจากผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยลดวงเงินกู้ยืมโดยไม่มีธุรกรรมรองรับทุกอายุสัญญาให้มียอดคงค้างแต่ละสถาบันการเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ เพื่อจำกัดช่องทางการเก็งกำไร
การปรับเกณฑ์การจำกัดการปล่อยสภาพคล่องเงินบาทของสถาบันการเงินในประเทศแก่ผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยไม่มีธุรกรรมรองรับ ให้มียอดคงค้างแต่ละธนาคารไม่เกิน 300 ล้านบาทต่อกลุ่มผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศเพื่อเพิ่มความต้องการซื้อเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ยังได้ปรับปรุงโครงสร้างบัญชีผู้มีถิ่นฐานนอกประเทศ โดยแยกประเภทบัญชีเงินบาทออกเป็นบัญชีเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์และตราสารทางการเงินอื่น และบัญชีเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพื่อประโยชน์ในการติดตามการไหลเข้า-ออกของเงินทุน โดยเงินบาทในแต่ละประเภทบัญชีสามารถโอนระหว่างประเภทบัญชีเดียวกันได้ แต่ห้ามโอนข้ามประเภทบัญชี
นางธาริษาบอกด้วยว่า แบงก์ชาติยังมีมาตรการชั่วคราว เพื่อสนับสนุนการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิของผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SME โดยจัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ 3 ปี ด้วยการให้สินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสถาบันการเงินรวม 4 หมื่นล้านบาท และจัดโครงการรับซื้อต่อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่ผู้ประกอบการรายย่อยขายผ่านสถาบันการเงิน เป็นเวลา 6 เดือน
นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวในรายการ Trading Hour ว่า การยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ในครั้งนี้ถือเป็นข่าวดี และน่าจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 จุด โดยคาดว่า แนวต้านจะอยู่ที่ 850-860 จุด และตลาดน่าจะตอบรับในเชิงบวกต่อไป และดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคมน่าจะขึ้นไปได้ถึง 890 จุด แต่ถ้าปัจจัยภายนอกประเทศเอื้ออำนวยก็น่าจะไปได้ไกลถึง 925 จุด
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะให้ความสำคัญกับเณษฐกิจ ตลาดทุน และการใช้จ่ายของภาคเอกชน แม้ว่าจะมีข่าวเรื่องการปลดข้าราชการประจำออกมาเป็นระยะ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจากนี้ไปจะทยอยมีข่าวดีออกมา โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และการพิจารณาเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง บอกว่า การยกเลิกมาตราการ 30% จะส่งผลดี ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากมาตราการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสำคัญมาก ส่วนค่าเงินบาทในประเทศจะมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า แบงก์ชาติมีมาตรการในการป้องกันอยู่แล้ว
ผู้บริหารหลักทรัพย์บัวหลวงมองว่า ดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า จะผ่านแนวต้านสำคัญที่ 850 จุดไปได้ หลังจากที่วันนี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 845.76 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.64 จุด หรือ 0.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 24,572 ล้านบาท เนื่องจากหุ้นไทยขณะนี้ ยังถือว่าถูกกว่าภูมิภาค โดยจะมีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการออกกองทุนอสังหา เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดเกณฑ์ 30%
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชื่อว่า หลังจากที่แบงก์ชาติประกาศยกเลิก มาตรการกันสำรอง 30% น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ในแง่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่น่าจะ กลับมาเช่นเดิม แต่ตลาดตราสารหนี้น่าจะได้รับผลดีมากกว่าตลาดหุ้น เพราะตลาดหุ้นได้รับการ ยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% อยู่แล้ว แต่ตลาดตราสารหนี้ยังใช้มาตรการดังกล่าวอยู่ หลังจากนี้ จึงน่าจะมีเงินไหลเข้ามาตลาดตราสารหนี้มากขึ้น ทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นด้วย
ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ นายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติคนใหม่บอกว่า การประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ถือเป็นข่าวดีมากสำหรับตลาดหุ้นไทยและนักลงทุนต่างชาติ เพราะต่างก็รอคอยมานานแล้ว โดยเชื่อว่า จะทำให้ต่างชาติเอาเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดไทยได้ง่ายขึ้น และน่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามากด้วย แต่สิ่งที่ยังวิตกเป็นเรื่องของค่าเงินบาท อาจจะแข็งค่าขึ้นอีก ซึ่งทางการคงจะต้องมีมาตรการรองรับ เพื่อให้การแข็งค่าของเงินบาทไม่ได้แข็งค่าเกินไป กว่าค่าเงินของประเทศอื่นในภูมิภาคจนผิดปกติ แต่การแข็งค่าของเงินบาทก็ไม่ได้เป็นผลเสียทีเดียว ยังมีผลดีในแง่ของการช่วยลดเรื่องอัตราเงินเฟ้อให้น้อยลง ภายหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมา ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมาก
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าการเทรดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทบนกระดาน on-shore จากนี้ไปคงจะมีระดับใกล้ ๆ กันกับกระดาน off-shore หรือเรียกได้ว่าเป็นกระดานเดียวกันก็ได้ หลังจากที่มีการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% โดยปัจจุบันมีส่วนห่างกันแค่ 1 บาทเท่านั้น
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศใช้มาตรการกันสำรอง 30% ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2549 โดยกำหนดให้สถาบันการเงินที่ทำธุรกรรมกับต่างชาติและต้องรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท ต้องกันเงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวนร้อยละ 30 ของเงินตราต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ของเงินทุนระยะสั้น และการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวมีผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันทำการถัดมา ก่อนจะมีการผ่อนคลายมาตรการออกมาเป็นระยะ และมีการประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการในที่สุด
ที่มา
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Tra ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 11
น่าจะมีผลเชิงบวก แต่ไม่น่ามากครับ เพราะตลาดคาดการไว้แล้วว่าเลิกแน่เพียงแต่ส่วนใหญ่ไม่คิดว่าจะเกิดเร็วๆนี้ คาดกันว่าจะลดดอกเบี้ยก่อน (หรือจะลดตามมา??)
รวมถึงจะยังลดความคลุมเคลือและการเก็งกำไรจากการเล่นข่าวการ ยกเลิก 30%
และเดาว่าน่าจะมีมาตรการดีๆและข่าวดีๆไปเรื่อยๆครับ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนไป road show โดยทีมศก. ในต่างประเทศ :D
ต่อไปคงเล่นข่าวเรื่องลดดอกเบี้ยมั้งครับ(เดา) เห็นเชียร์กันจัง Bank กับ Prop
รวมถึงจะยังลดความคลุมเคลือและการเก็งกำไรจากการเล่นข่าวการ ยกเลิก 30%
และเดาว่าน่าจะมีมาตรการดีๆและข่าวดีๆไปเรื่อยๆครับ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนไป road show โดยทีมศก. ในต่างประเทศ :D
ต่อไปคงเล่นข่าวเรื่องลดดอกเบี้ยมั้งครับ(เดา) เห็นเชียร์กันจัง Bank กับ Prop
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 12
อย่าประมาทไป อาจได้เห็น SELL ON FACT :idea:
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 15
มีผลทางบวกแน่ ๆครับ
จริงอยู่ แม้ว่าจะได้ผ่อนคลายกฎไปมากแล้ว แต่ยังมีการกันสำรองในบางกรณีอยู่ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวล เพราะอาจทำผิดได้ตลอดเวลา เพราะว่าเงินไหลได้ อาจจะผิดกฎระบียบข้อใดตีความว่าต้องกันเงินสำรองไว้ พร้อมถูกปรับในภายหลังได้
เมื่อยกเลิกมาตรการ 30 % แล้ว จะทำให้หลายความกังวล เกิดความคล่องตัวในการบริหารเงินมากขึ้น ทำให้สามารถลงทุนได้ในทุกตลาดไม่ใช่เฉพาะตลาดที่แจ้งไว้กับทางการ เช่น แจ้งว่าจะลงทุนในตลาดหุ้นแล้วก็ถูก lock เงินไว้ในตลาดหุ้นเลย เมื่อมีเงินสดเหลือผู้จัดการกองทุนสามารถพักเงินฝากไว้ในตลาดตราสารหนี้ได้ด้วย อีกทั้งให้ผลประโยชน์โดยรวมมากขึ้นด้วย
จริงอยู่ แม้ว่าจะได้ผ่อนคลายกฎไปมากแล้ว แต่ยังมีการกันสำรองในบางกรณีอยู่ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวล เพราะอาจทำผิดได้ตลอดเวลา เพราะว่าเงินไหลได้ อาจจะผิดกฎระบียบข้อใดตีความว่าต้องกันเงินสำรองไว้ พร้อมถูกปรับในภายหลังได้
เมื่อยกเลิกมาตรการ 30 % แล้ว จะทำให้หลายความกังวล เกิดความคล่องตัวในการบริหารเงินมากขึ้น ทำให้สามารถลงทุนได้ในทุกตลาดไม่ใช่เฉพาะตลาดที่แจ้งไว้กับทางการ เช่น แจ้งว่าจะลงทุนในตลาดหุ้นแล้วก็ถูก lock เงินไว้ในตลาดหุ้นเลย เมื่อมีเงินสดเหลือผู้จัดการกองทุนสามารถพักเงินฝากไว้ในตลาดตราสารหนี้ได้ด้วย อีกทั้งให้ผลประโยชน์โดยรวมมากขึ้นด้วย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1339
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 16
ผมว่าไม่มีผลต่อตลาดหุ้นเท่าไร เพราะทุกคนก็คาดไว้แล้ว
เปิดตลาดอาจขึ้นสักพักแล้วเริ่มแดง เพราะ DJI ติดลบ 315.79
+ประธานาธิบดีสหรัฐ ยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐ กำลังถดถอย
+ข่าวดีของตลาดหมดแล้ว(ประกาศผลประกอบการแล้ว)
+ความวุ่นวายทางการเมือง
เรือทั้งหลายในตลาดหุ้นเตรียมตัวรับพายุได้แล้ว โชคดีทุกๆคน
เปิดตลาดอาจขึ้นสักพักแล้วเริ่มแดง เพราะ DJI ติดลบ 315.79
+ประธานาธิบดีสหรัฐ ยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐ กำลังถดถอย
+ข่าวดีของตลาดหมดแล้ว(ประกาศผลประกอบการแล้ว)
+ความวุ่นวายทางการเมือง
เรือทั้งหลายในตลาดหุ้นเตรียมตัวรับพายุได้แล้ว โชคดีทุกๆคน
-
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 17
ประเทศเติบโต ตามการเติบโตของภาคเอกชนมากกว่า
นโยบายภาครัฐ บางทีไม่ต้องบริหารกันเก่งกาจมากมายเลย
พอประกาศให้ประกัน 30% คนตกใจ หุ้นตกเละ
พอบอกจะเลิกให้ประกันเงิน 30% คนก็ตกใจ
บอกเงินบาทจะแข็งมาก บอกหุ้นจะตกอีกหรือ
ชีวิตนี้ ต้องหลุดพ้นความกลัวนั่น กลัวนี่บ้าง
จริงๆ มันน่าจะยกเลิกนานแล้ว :lol:
นโยบายภาครัฐ บางทีไม่ต้องบริหารกันเก่งกาจมากมายเลย
พอประกาศให้ประกัน 30% คนตกใจ หุ้นตกเละ
พอบอกจะเลิกให้ประกันเงิน 30% คนก็ตกใจ
บอกเงินบาทจะแข็งมาก บอกหุ้นจะตกอีกหรือ
ชีวิตนี้ ต้องหลุดพ้นความกลัวนั่น กลัวนี่บ้าง
จริงๆ มันน่าจะยกเลิกนานแล้ว :lol:
ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ
โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 18
[quote="ทองม้วน"]ประเทศเติบโต ตามการเติบโตของภาคเอกชนมากกว่า
นโยบายภาครัฐ บางทีไม่ต้องบริหารกันเก่งกาจมากมายเลย
พอประกาศให้ประกัน 30% คนตกใจ หุ้นตกเละ
พอบอกจะเลิกให้ประกันเงิน 30% คนก็ตกใจ
บอกเงินบาทจะแข็งมาก บอกหุ้นจะตกอีกหรือ
นโยบายภาครัฐ บางทีไม่ต้องบริหารกันเก่งกาจมากมายเลย
พอประกาศให้ประกัน 30% คนตกใจ หุ้นตกเละ
พอบอกจะเลิกให้ประกันเงิน 30% คนก็ตกใจ
บอกเงินบาทจะแข็งมาก บอกหุ้นจะตกอีกหรือ
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 19
จันทร์ที่ 3 มี.ค อาจเป็นเช้าแห่งความสับสน ลังเล หรือไม่แน่ใจ จนหลายๆคน ตั้งใจจะติดตามอยู่หน้าจอ ประดุจชมการแข่งขันชกมวยระดับซุเปอร์ไฟลท์ ระหว่าง การยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ( THA ) VS การแถลงเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยจาก US Gov ซึ่งฉุด Dow ลบไป 315จุด ( USA)
ผลจะออกอย่างไรผมไม่อาจคาดเดา แต่เตรียมไว้ทั้งสองทาง ครับ
ผลจะออกอย่างไรผมไม่อาจคาดเดา แต่เตรียมไว้ทั้งสองทาง ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 22
เห็นด้วยครับ :roll:krisy เขียน:มาตรการนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับตลาดทุนเลย เพราะผ่อนปรนไปเกลี้ยงแล้ว
เราไม่ค่อยเชื่อว่า เงินจะไหลมาลงในตลาดทุน สมมติว่าไหลมา ก็อาจจะเป็น 30% ที่เคยเอาไปสำรองไว้มากกว่า
แต่คิดดูแล้ว การที่เค้าลดดอกตั้งหลายประเทศ แต่ไทยไม่ลด เราเดาใจว่า ฝรั่งน่าจะเอาเงินสำรองส่วนนั้นเข้าไปตลาดตราสารหนี้ค่ะ เพราะ yield ดีกว่า
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
- bankniti
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 627
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 23
ตอนประกาศมาตราการ 30% ไม่มีใครรู้ทำให้มี panic sell เกิดขึ้น แต่เวลาจะยกเลิกมาตราการนี้ ทุกคน(โดยเฉพาะต่างชาติ)คาดไว้แล้วว่าเมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาจะต้องประกาศยกเลิก(ตามที่ได้หาเสียงไว้)ในเร็ววันหรืออย่างช้าไม่น่าเกินQ1 เพราะฉะนั้นตลาดน่าจะซึมซับข่าวนี้ไปแล้วส่วนหนึ่ง จึงไม่น่าจะขึ้นไปได้ขนาดนั้นboy2t เขียน:ถ้าคิดในแง่ตอนออกมาตราการกันสำรอง 30 % หุ้นตกไปเท่าไร ตอนยกเลิกก็น่าจะขึ้น ไปเป็นเปอร์เซนต์เท่าตอนที่ตก ว่าไหมครับ
ผลดีของการยกเลิกมาตราการ30% แน่นอนว่าต้องตกไปอยู่กับกองทุนอสังหาริมทรัพย์และตลาด Bond ด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ผู้ว่า ธปท.ประกาศยกเลิกมาตรการสำรอง 30%
โพสต์ที่ 25
ฟังมาแล้วมึนมากค่ะ
ประมาณว่า
ปลดล๊อคดอลล์ ให้ทะลักเข้าได้
อีกทั้งยังเร่งปลดล๊อคให้บาทออกนอกได้เสรียิ่งขึ้น เพื่อสวนหมัดกะดอลล์ขาเข้า
จากนั้นแล้วลุยออกบอนด์เป็นบาท คือกู้เงินเป็นบาท
โดยเงินดอลล์ที่ทะลักเข้า จะสวนกลับไป โดยเร่งใช้หนี้สกุลต่างชาติ
กลายๆว่า เร่งแปลงหนี้ดอลล์ ให้เป็นหนี้บาทแทน
แล้วดอลล์ที่ยังทะลักมาเกินหนี้ที่จะแปลงได้(คือ ประมาณว่าไม่มีใครทราบว่า เจ้าหนี้ทางนอกเขาจะยอมมั้ย ยอมหมดป่าว) คลังจะเร่งให้เอาดอลล์ สวนทางไปลงทุนนอก(สงสัยเลียนแบบเทมาเสคนะ สูตรนี้ :lol: ) และเร่งซื้อของที่จะนำมาลุยการลงทุนเมกะโปรเจคต่างๆ
ฟังไปมึนไป คิดตามไป นัวไปหมด
อืม เป็นแบงค์ชาติ เป็นคลัง นี่ไม่หมูเลย สถานการณ์งี้ ซับซ้อนจริงๆ
มิน่า งวดนี้แหยงกันหมด เลยต้องเอาหมอมาเป็นคลัง
เอาน่ะ จบหมอมาได้ ก็คงไม่หมูน่ะ
เอาใจช่วยแล้วกัน
^_^
ประมาณว่า
ปลดล๊อคดอลล์ ให้ทะลักเข้าได้
อีกทั้งยังเร่งปลดล๊อคให้บาทออกนอกได้เสรียิ่งขึ้น เพื่อสวนหมัดกะดอลล์ขาเข้า
จากนั้นแล้วลุยออกบอนด์เป็นบาท คือกู้เงินเป็นบาท
โดยเงินดอลล์ที่ทะลักเข้า จะสวนกลับไป โดยเร่งใช้หนี้สกุลต่างชาติ
กลายๆว่า เร่งแปลงหนี้ดอลล์ ให้เป็นหนี้บาทแทน
แล้วดอลล์ที่ยังทะลักมาเกินหนี้ที่จะแปลงได้(คือ ประมาณว่าไม่มีใครทราบว่า เจ้าหนี้ทางนอกเขาจะยอมมั้ย ยอมหมดป่าว) คลังจะเร่งให้เอาดอลล์ สวนทางไปลงทุนนอก(สงสัยเลียนแบบเทมาเสคนะ สูตรนี้ :lol: ) และเร่งซื้อของที่จะนำมาลุยการลงทุนเมกะโปรเจคต่างๆ
ฟังไปมึนไป คิดตามไป นัวไปหมด
อืม เป็นแบงค์ชาติ เป็นคลัง นี่ไม่หมูเลย สถานการณ์งี้ ซับซ้อนจริงๆ
มิน่า งวดนี้แหยงกันหมด เลยต้องเอาหมอมาเป็นคลัง
เอาน่ะ จบหมอมาได้ ก็คงไม่หมูน่ะ
เอาใจช่วยแล้วกัน
^_^