ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
- path2544
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
ความเห็นผม
โพสต์ที่ 31
ผมว่า ดู Demand ไม่ได้ และดูว่าขายหมด หรือไม่หมดก็ไม่ได้
เพราะบางแห่ง ขายแค่ 50% ก็คืนทุน หรือบางแหง่อาจต้องขาย 80% ถึงคืนทุน
แต่ ในความเห็นผม คือ ใครมีต้นทุน ที่ถูกกว่ากัน
คอนโดบางแห่ง บริษัทเจ้าของโครงการ ซื้อที่ไว้นานแล้ว หรือ ต้นทุนก่อสร้างถูกกว่า
ซึ่งจริงๆ มันดูยากจริงๆๆ อันนี้ต้อง Company Visit อย่างเดียว
เพราะบางแห่ง ขายแค่ 50% ก็คืนทุน หรือบางแหง่อาจต้องขาย 80% ถึงคืนทุน
แต่ ในความเห็นผม คือ ใครมีต้นทุน ที่ถูกกว่ากัน
คอนโดบางแห่ง บริษัทเจ้าของโครงการ ซื้อที่ไว้นานแล้ว หรือ ต้นทุนก่อสร้างถูกกว่า
ซึ่งจริงๆ มันดูยากจริงๆๆ อันนี้ต้อง Company Visit อย่างเดียว
ไม่เก่งทั้งวิเคราะห์เทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน แต่เราก็ยังรั้นที่จะรวยเพราะหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 592
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 32
ครับอันนี้มีทั้งdemand แท้และเทียมPn3um0n1a เขียน: เวบนี้ demand เทียม เป็นอัตราส่วนที่มากกว่าปกติ ซะอีกนะครับ
ลืมบอกอันนี้ดูได้แต่อันไหนเทียม
1.คอนโดไหนที่มีแต่คนจองแล้วแห่มาขายใบจอง
2.เจ้าของโครงการมาเนียนมาเนียนเป็นคนจองแล้วมาขายใบจอง
อันไหนแท้
อันไหนที่ราคาต่อตรม.ที่มาตั้งขายสูงกว่าตอนจอง อันนี้จะเกิดกับคอนโดที่ใกล้เสร็จแล้วขายหมดจริงครับ
ตอนยังสร้างไม่ใกล้เสร็จยากจะทราบจริงๆครับ ว่าแท้หรือเปล่าแต่เทียมนี่พอจะทราบได้
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเห็นผม
โพสต์ที่ 33
อืม ประเด็นเดียวกันรึเปล่าครับ ผมไม่แน่ใจpath2544 เขียน:ผมว่า ดู Demand ไม่ได้ และดูว่าขายหมด หรือไม่หมดก็ไม่ได้
เพราะบางแห่ง ขายแค่ 50% ก็คืนทุน หรือบางแหง่อาจต้องขาย 80% ถึงคืนทุน
แต่ ในความเห็นผม คือ ใครมีต้นทุน ที่ถูกกว่ากัน
คอนโดบางแห่ง บริษัทเจ้าของโครงการ ซื้อที่ไว้นานแล้ว หรือ ต้นทุนก่อสร้างถูกกว่า
ซึ่งจริงๆ มันดูยากจริงๆๆ อันนี้ต้อง Company Visit อย่างเดียว
อ่านหัวกระทู้แล้ว ตอบเลยรึเปล่า
แต่ผมก็ผิดเองที่ ลากออกนอกเรื่องครับ
พี่โชติ เห็นด้วยครับ ขอบคุณครับ
- Muffin
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 34
หากดูต้นทุนและผลประกอบการที่บันทึกลงเป็นตัวเลขทางบัญชีเป็นหลักนั้น อันตรายมาก
สมมติว่า ด้วยที่ดินราคาเท่ากัน และ gross margin เท่ากัน
คอนโด กับ บ้านเดี่ยว ที่ใช้เวลาก่อสร้างต่างกันถึงสามเท่า (และมี IRR ต่างกันมาก) กับความเสี่ยงที่ต่างกัน เราอาจจะมองไม่เห็นอะไร และเข้าใจอะไรผิดไปก็ได้ครับ
สมมติว่า ด้วยที่ดินราคาเท่ากัน และ gross margin เท่ากัน
คอนโด กับ บ้านเดี่ยว ที่ใช้เวลาก่อสร้างต่างกันถึงสามเท่า (และมี IRR ต่างกันมาก) กับความเสี่ยงที่ต่างกัน เราอาจจะมองไม่เห็นอะไร และเข้าใจอะไรผิดไปก็ได้ครับ
"Hope is not a strategy"
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 35
ความจริง ผมว่ามูลค่างานตกแต่งคอนโดปัจจุบัน
มีมูลค่าสูงกว่าบ้านเดียว หรือเปล่าถ้าเทียบต่อตารางเมตร
อย่าง คอนโดขนาด60ตารางเมตร บางห้องตกแต่ง
แถว1-2ล้านบาท ผมว่าสูงมากทีเดียวแต่แปลกที่
การตกแต่งคอนโดบางทีดูดีกว่าบ้านเดียวเสียอีก
ไอเดียคนเราไม่มีสิ้นสุด
มีมูลค่าสูงกว่าบ้านเดียว หรือเปล่าถ้าเทียบต่อตารางเมตร
อย่าง คอนโดขนาด60ตารางเมตร บางห้องตกแต่ง
แถว1-2ล้านบาท ผมว่าสูงมากทีเดียวแต่แปลกที่
การตกแต่งคอนโดบางทีดูดีกว่าบ้านเดียวเสียอีก
ไอเดียคนเราไม่มีสิ้นสุด
- Muffin
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 36
พฤติกรรม ผู้ซื้อคอนโด ชอบแบบ all in one เข้าปุ๊บอยู่ได้ปั๊บ และทุกอย่างลงตัว ไม่เหมือนคนซื้อบ้าน ที่ชอบซื้อของเข้าบ้านทีละชิ้นสองชิ้น
คอนโด ก็มักขายพร้อม เฟอร์นิเจอร์ที่บางแห่ง ออกมา เพื่อโครงการนั้นๆโดยเฉพาะ ทำให้ลงตัวมากๆ และสามารถกู้ได้พร้อมกับตัว unit ไปเลย ซึ่งถูกกว่าไปซื้อเองค่อนข้างมาก (แถมมี leverage อีก)
ใครก็ได้ ซื้อให้สักหน่วยสิ
คอนโด ก็มักขายพร้อม เฟอร์นิเจอร์ที่บางแห่ง ออกมา เพื่อโครงการนั้นๆโดยเฉพาะ ทำให้ลงตัวมากๆ และสามารถกู้ได้พร้อมกับตัว unit ไปเลย ซึ่งถูกกว่าไปซื้อเองค่อนข้างมาก (แถมมี leverage อีก)
ใครก็ได้ ซื้อให้สักหน่วยสิ
"Hope is not a strategy"
- pong
- Verified User
- โพสต์: 361
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 37
ตอนนี้ผู้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น
ในแง่ผู้ขาย
การขายคอนโดปัจจุบัน หลายโครงการจะยังไม่ได้ใบอนุญาต หรือยื่นสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเจ้า ส.ว.ล. นั้นใช้เวลา 7-8 เดือน แต่ทำการขายก่อน
เพราะต้องการทั้งยอดขาย และ เป็นการแย่งลูกค้ามาก่อน (คอนโดเกิดขึ้นเร็วมาก) ผู้ประกอบการหลายบริษัท คิดว่า การที่ได้ลูกค้ามาในมือแล้ว เท่ากับเรามีรายได้แล้ว แต่ปัญหาคือ ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนไม่ได้ครับ ยกตัวอย่างหลายๆบริษัทที่ขายคอนโดเมื่อช่วงปีที่แล้ว (ไตรมาส 3-4 เยอะมาก) ได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา ฯลฯ โดยคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหา (รู้ว่าต้นทุนเป็นเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่) ที่ไหนได้ ราคาวัสดุก่อสร้างวันนี้ โดยเฉพาะเหล็ก ที่ขึ้นแบบพรวดๆๆๆๆ ผู้ประกอบการคิดว่าไม่ต้องแบกภาระครับ แต่ทำไงได้ผู้รับเหมามันเจ๊งสิ นั่นประเด็น แล้วคอนโดจะทำไง ผู้รับเหมาเจ๊ง หนี่บ้าง สุดท้ายมี 2 ทาง 1.ทิ้งร้าง 2.ผู้ประกอบการก็ต้องช่วยผู้รับเหมา (ใส่เงินทุนเข้าไปใหม่)
ในแง่ผู้ซื้อ
แน่นอน 1. คุณมีความเสี่ยงว่าจะได้คอนโดรึเปล่านี่ 2. คอนโดคุณอาจจะโดนลดสเปค 3. ในอนาคตคอนโดในเมือง ราคาต่อ ตรม.คงหนีไม่พ้น 100,000 up (หมายถึงที่ปัจจุบันหรือปีที่แล้วขาย 70,000-80,000 บาท)
กลับมาที่หุ้น...
ผมเป็นห่วงพวกบริษัทที่ขายคอนโดจัง ปีนี้จะมีบริษัทที่เจอปัญหาสร้างไม่เสร็จ หรือก่อสร้างไม่ได้กี่ที่นะ
ในแง่ผู้ขาย
การขายคอนโดปัจจุบัน หลายโครงการจะยังไม่ได้ใบอนุญาต หรือยื่นสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเจ้า ส.ว.ล. นั้นใช้เวลา 7-8 เดือน แต่ทำการขายก่อน
เพราะต้องการทั้งยอดขาย และ เป็นการแย่งลูกค้ามาก่อน (คอนโดเกิดขึ้นเร็วมาก) ผู้ประกอบการหลายบริษัท คิดว่า การที่ได้ลูกค้ามาในมือแล้ว เท่ากับเรามีรายได้แล้ว แต่ปัญหาคือ ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนไม่ได้ครับ ยกตัวอย่างหลายๆบริษัทที่ขายคอนโดเมื่อช่วงปีที่แล้ว (ไตรมาส 3-4 เยอะมาก) ได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา ฯลฯ โดยคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหา (รู้ว่าต้นทุนเป็นเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่) ที่ไหนได้ ราคาวัสดุก่อสร้างวันนี้ โดยเฉพาะเหล็ก ที่ขึ้นแบบพรวดๆๆๆๆ ผู้ประกอบการคิดว่าไม่ต้องแบกภาระครับ แต่ทำไงได้ผู้รับเหมามันเจ๊งสิ นั่นประเด็น แล้วคอนโดจะทำไง ผู้รับเหมาเจ๊ง หนี่บ้าง สุดท้ายมี 2 ทาง 1.ทิ้งร้าง 2.ผู้ประกอบการก็ต้องช่วยผู้รับเหมา (ใส่เงินทุนเข้าไปใหม่)
ในแง่ผู้ซื้อ
แน่นอน 1. คุณมีความเสี่ยงว่าจะได้คอนโดรึเปล่านี่ 2. คอนโดคุณอาจจะโดนลดสเปค 3. ในอนาคตคอนโดในเมือง ราคาต่อ ตรม.คงหนีไม่พ้น 100,000 up (หมายถึงที่ปัจจุบันหรือปีที่แล้วขาย 70,000-80,000 บาท)
กลับมาที่หุ้น...
ผมเป็นห่วงพวกบริษัทที่ขายคอนโดจัง ปีนี้จะมีบริษัทที่เจอปัญหาสร้างไม่เสร็จ หรือก่อสร้างไม่ได้กี่ที่นะ
- Muffin
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 39
ถ้าประมูล lump sum ไปตั้งแต่แรก ความเสี่ยงอยู่ที่ผู้รับเหมามากกว่าครับ
ความเสี่ยงหลักของ developer คงเป็นเรื่อง การขออนุญาตเปิดใช้อาคาร และ EIA มากกว่า
ความเสี่ยงหลักของ developer คงเป็นเรื่อง การขออนุญาตเปิดใช้อาคาร และ EIA มากกว่า
"Hope is not a strategy"
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 40
ผมมาอยู่ปักกิ่ง ด้วยมาตรฐานการครองชีพแบบคนจีน
ราคาคอนโด ที่เป็นระดับกลางอยู่ระดับ 10000-15000RMB/sqm แล้วครับ
ผมเช่าอยู่ 6500RMB/M, ที่ 140sqm อันนี้คือถูกแล้วนะครับ บางที่ในเมืองค่าเช่า 6500 เหมือนกัน แต่เป็น USD :shock:
ถ้าเรียกบ้านเราเก็งกำไรเยอะ ที่นี่เยอะกว่ามากแบบเทียบกันไม่ได้เลย (ผมไม่รู้ว่าจุดที่เรียกว่าฟองสบู่จะอยู่ตรงไหนเหมือนกัน)
แต่ผมเห็น Trend ว่าคนจะอยู่คอนโดมากขึ้นมากในเมืองไทย เพราะเศรษฐกิจโลกส่วนมากในอนาคตจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะเมืองใหญ่ ถ้ายิ่งเมืองขยายเร็วเท่าไหร่ ตลาดคอนโดก็จะตามไป
ตอนนี้ราคาหุ้นรวมถึงราคาขายคอนโดแพงขึ้น แต่เสี่ยงมากขึ้นตามไปด้วย ผมมึนเหมือนกัน
ราคาคอนโด ที่เป็นระดับกลางอยู่ระดับ 10000-15000RMB/sqm แล้วครับ
ผมเช่าอยู่ 6500RMB/M, ที่ 140sqm อันนี้คือถูกแล้วนะครับ บางที่ในเมืองค่าเช่า 6500 เหมือนกัน แต่เป็น USD :shock:
ถ้าเรียกบ้านเราเก็งกำไรเยอะ ที่นี่เยอะกว่ามากแบบเทียบกันไม่ได้เลย (ผมไม่รู้ว่าจุดที่เรียกว่าฟองสบู่จะอยู่ตรงไหนเหมือนกัน)
แต่ผมเห็น Trend ว่าคนจะอยู่คอนโดมากขึ้นมากในเมืองไทย เพราะเศรษฐกิจโลกส่วนมากในอนาคตจะกระจุกตัวอยู่เฉพาะเมืองใหญ่ ถ้ายิ่งเมืองขยายเร็วเท่าไหร่ ตลาดคอนโดก็จะตามไป
ตอนนี้ราคาหุ้นรวมถึงราคาขายคอนโดแพงขึ้น แต่เสี่ยงมากขึ้นตามไปด้วย ผมมึนเหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 41
ครับ
เห็นด้วย ราคาคอนโดแพงจนยากที่
จะเก็งกำไรในสายตาเราๆ
แต่ทำไมเขาก็ยังขายได้ พวกเก็งกำไรก็กล้า
เก็ง เป็นผมก็ไม่เอาเหมือนกัน
คงจะเป็นไปตามtrend เมืองหลวงทั่วโลก
ที่ว่า demand เทียม ก็ต้องมีอยู่แล้วทุก
วงการที่มีการค้าขาย หุ้นก็ยังมี demand
เทียมเหมือนกันนะ ยอดซื้อ 10000 ล้าน
ไม่รู้ว่าซื้อลงทุนกันจริงๆเท่าไหร่
แต่อย่าลืมนะ ถึงแม้เป็น demand เทียม
แต่เวลาเขาซื้อ เขาใช้"เงินจริง"ซื้อ
ไม่ได้ใช้ "เงินเทียม"
เห็นด้วย ราคาคอนโดแพงจนยากที่
จะเก็งกำไรในสายตาเราๆ
แต่ทำไมเขาก็ยังขายได้ พวกเก็งกำไรก็กล้า
เก็ง เป็นผมก็ไม่เอาเหมือนกัน
คงจะเป็นไปตามtrend เมืองหลวงทั่วโลก
ที่ว่า demand เทียม ก็ต้องมีอยู่แล้วทุก
วงการที่มีการค้าขาย หุ้นก็ยังมี demand
เทียมเหมือนกันนะ ยอดซื้อ 10000 ล้าน
ไม่รู้ว่าซื้อลงทุนกันจริงๆเท่าไหร่
แต่อย่าลืมนะ ถึงแม้เป็น demand เทียม
แต่เวลาเขาซื้อ เขาใช้"เงินจริง"ซื้อ
ไม่ได้ใช้ "เงินเทียม"
เงินทองไม่เข้าใครออกใคร
จะซื้อจะขายหุ้นก็รับผิดชอบกันเองอย่าไปโทษใคร
จะซื้อจะขายหุ้นก็รับผิดชอบกันเองอย่าไปโทษใคร
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 42
ช่วยแนะนำกรณีซื้อคอนโดแล้วสร้างไม่เสร็จตามกำหนด แถมหยุดสร้างชั่วคราว อีกทั้งใช้วัสดุไม่ตรงกับห้องตัวอย่าง ทำอย่างไรดีคะ
เก็บเงินซื้อคอนโด โดยเอาแบบอยู่ใกล้ที่ทำงาน ผ่อนตั้งแต่ปี 2548 ผ่อนเสร็จตั้งแต่ ก.ค. 2550 ตามสัญญาเขียนไว้ว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จหลังจากผ่อนดาวน์เสร็จไม่เกิน 6 เดือน ผ่านไป 2 ปี 6 เดือนยังสร้างไม่เสร็จเลย
ล่าสุดมีจดหมายจากเจ้าของโครงการแจ้งว่าขอระงับงานก่อสร้างอาคารเป็นการชั่วคราว ด้วยสาเหตุ 2 ประการคือ
1.ได้มีผู้ร้องเรียนที่สำนักงานเขตฯ จากบ้านข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง
2.บริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขแบบเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการรออนุมัติจากสำนักงานโยธา
และแจ้งว่าเมื่อได้รับอนุมัติจะทำการสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน
ตอนนี้ก็ผิดสัญญามา 2 เดือนแล้ว ถ้าสมมติอนุมัติให้ก่อสร้าง 1 เมษายน 2551 จะสร้างแล้วเสร็จ 1 กันยายน 2551 ซึ่งจะผิดสัญญา 8 เดือน แต่ถ้าไม่ได้รับการอนุมัติแล้วจะเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
โครงการนี้สร้างผิดแบบจากห้องตัวอย่างด้วย ห้องตัวอย่างใช้ประตูไม้แบบมีโช๊คอย่างดี แต่ของจริงเป็นประตูกลอนธรรดา ห้องนอนผนังกำแพงเป็นกระจกล้วน แต่ของจริงเป็นคอนกรีตสูง 1 เมตร อึกครึ่งเป็นกระจกบานเลื่อน ความสูง ห้องตัวอย่าง 2.7 เมตร ของจริง 2.45 เมตรซึ่งถือว่าต่ำมาก สูงเท่าชั้นจอดรถเลย เครื่องครัว+ตู้แขวนห้องครัวที่โชว์ ก็คนละตัวกันกับที่ตกลงในวันซื้อ กระเบื้องห้องน้ำก็คนละแบบ พื้นก็คนละแบบ ...
อยากทราบว่าเราในฐานะผู้ซื้อสามารถทำอะไรได้บ้างคะ หรือทำได้แค่รอ และรอ นี่ก็รอมา 2 ปี 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้อยู่เลยค่ะ ช่วยแนะนำทางออกด้วยนะคะ
ที่ตั้งโครงการ : ถนนพระรามที่ 3 ซอย 73 (นางลิ้นจี่) แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม สไตล์รีสอร์ต สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร
เนื้อที่โครงการ : 2 ไร่ 2 งาน 73 ตร.ว.
ประเภทห้องชุด : 1-3 ห้องนอน
พื้นที่ใช้สอย : 36-132 ตารางเมตร
จำนวนห้องชุด : 214 ยูนิต (อาคาร A จำนวน 103 ยูนิต และ อาคาร B จำนวน 111 ยูนิต)
จำนวนที่จอดรถ : 183 คัน
คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ : สิ้นปี พ.ศ. 2550
ราคาเริ่มต้น : 1.7 ล้านบาท
ค่ากองทุนส่วนกลาง : 500 บาท/ตร.ม.
ค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง : 30 บาท/ตร.ม./เดือน
เจ้าของโครงการ : บริษัท เพาเวอร์พลัส พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด
สร้างโดย : บริษัท แอสคอน คอนสตรคชั่น จำกัด (มหาชน)
จากคุณ : ปลดปล่อย - [ 4 มี.ค. 51 16:26:14 ]
@@@@@@@@@@@@@
อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ขออนุญาตินำมาแปะเผื่อเป็นข้อมูลครับ
http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R ... 90895.html
อีกข่าวก็ PRIN กทม.ดำเนินคดี "ปริญสิริ"ไม่ขออนุญาต-สร้างคอนโดผิดแบบ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.a ... 0000027025
แต่จากกระแสล่าสุดจากมาตรการต่างๆ ทำให้คนอยากรีบโอนในปีนี้มากขึ้น และอาจกระตุ้น Demand ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้รีบตัดสินใจในปีนี้
ใครพร้อมก็ได้ไป 1 ปี :D
แต่(ความเห็นส่วนตัว)อาจไม่เท่าตอนปี 2544-45 ที่ตอนนั้นหลัง วิกฤตปี 2540 อสังหาอั้นมานานจริงๆครับ
เก็บเงินซื้อคอนโด โดยเอาแบบอยู่ใกล้ที่ทำงาน ผ่อนตั้งแต่ปี 2548 ผ่อนเสร็จตั้งแต่ ก.ค. 2550 ตามสัญญาเขียนไว้ว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จหลังจากผ่อนดาวน์เสร็จไม่เกิน 6 เดือน ผ่านไป 2 ปี 6 เดือนยังสร้างไม่เสร็จเลย
ล่าสุดมีจดหมายจากเจ้าของโครงการแจ้งว่าขอระงับงานก่อสร้างอาคารเป็นการชั่วคราว ด้วยสาเหตุ 2 ประการคือ
1.ได้มีผู้ร้องเรียนที่สำนักงานเขตฯ จากบ้านข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง
2.บริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขแบบเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการรออนุมัติจากสำนักงานโยธา
และแจ้งว่าเมื่อได้รับอนุมัติจะทำการสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน
ตอนนี้ก็ผิดสัญญามา 2 เดือนแล้ว ถ้าสมมติอนุมัติให้ก่อสร้าง 1 เมษายน 2551 จะสร้างแล้วเสร็จ 1 กันยายน 2551 ซึ่งจะผิดสัญญา 8 เดือน แต่ถ้าไม่ได้รับการอนุมัติแล้วจะเสร็จเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
โครงการนี้สร้างผิดแบบจากห้องตัวอย่างด้วย ห้องตัวอย่างใช้ประตูไม้แบบมีโช๊คอย่างดี แต่ของจริงเป็นประตูกลอนธรรดา ห้องนอนผนังกำแพงเป็นกระจกล้วน แต่ของจริงเป็นคอนกรีตสูง 1 เมตร อึกครึ่งเป็นกระจกบานเลื่อน ความสูง ห้องตัวอย่าง 2.7 เมตร ของจริง 2.45 เมตรซึ่งถือว่าต่ำมาก สูงเท่าชั้นจอดรถเลย เครื่องครัว+ตู้แขวนห้องครัวที่โชว์ ก็คนละตัวกันกับที่ตกลงในวันซื้อ กระเบื้องห้องน้ำก็คนละแบบ พื้นก็คนละแบบ ...
อยากทราบว่าเราในฐานะผู้ซื้อสามารถทำอะไรได้บ้างคะ หรือทำได้แค่รอ และรอ นี่ก็รอมา 2 ปี 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้อยู่เลยค่ะ ช่วยแนะนำทางออกด้วยนะคะ
ที่ตั้งโครงการ : ถนนพระรามที่ 3 ซอย 73 (นางลิ้นจี่) แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม สไตล์รีสอร์ต สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร
เนื้อที่โครงการ : 2 ไร่ 2 งาน 73 ตร.ว.
ประเภทห้องชุด : 1-3 ห้องนอน
พื้นที่ใช้สอย : 36-132 ตารางเมตร
จำนวนห้องชุด : 214 ยูนิต (อาคาร A จำนวน 103 ยูนิต และ อาคาร B จำนวน 111 ยูนิต)
จำนวนที่จอดรถ : 183 คัน
คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ : สิ้นปี พ.ศ. 2550
ราคาเริ่มต้น : 1.7 ล้านบาท
ค่ากองทุนส่วนกลาง : 500 บาท/ตร.ม.
ค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง : 30 บาท/ตร.ม./เดือน
เจ้าของโครงการ : บริษัท เพาเวอร์พลัส พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด
สร้างโดย : บริษัท แอสคอน คอนสตรคชั่น จำกัด (มหาชน)
จากคุณ : ปลดปล่อย - [ 4 มี.ค. 51 16:26:14 ]
@@@@@@@@@@@@@
อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ขออนุญาตินำมาแปะเผื่อเป็นข้อมูลครับ
http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R ... 90895.html
อีกข่าวก็ PRIN กทม.ดำเนินคดี "ปริญสิริ"ไม่ขออนุญาต-สร้างคอนโดผิดแบบ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.a ... 0000027025
แต่จากกระแสล่าสุดจากมาตรการต่างๆ ทำให้คนอยากรีบโอนในปีนี้มากขึ้น และอาจกระตุ้น Demand ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้รีบตัดสินใจในปีนี้
ใครพร้อมก็ได้ไป 1 ปี :D
แต่(ความเห็นส่วนตัว)อาจไม่เท่าตอนปี 2544-45 ที่ตอนนั้นหลัง วิกฤตปี 2540 อสังหาอั้นมานานจริงๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 43
ASCON สู้ตายไว้ลายสู้ๆ :lol:
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 44
คอนโดส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะสร้างด้วย
พื้นโพทิชั่น นะผมว่าถึงสร้างได้เร็ว
แต่น่าจะมีคำเตือนตามชั้น เกี่ยวกับการห้าม
เจาะพื้น ไว้ทุกชั้น นะ เพราะเวลาผ่านไป
จะทำให้ลืมว่าถูกสร้างด้วยพื้นโพทิชั่นกัน
แล้วไปเจาะ พื้น เกิดไปโดดเส้นลวดพื้นละ
ก้อ ผมว่าน่าห่วงเหมือนกัน
พื้นโพทิชั่น นะผมว่าถึงสร้างได้เร็ว
แต่น่าจะมีคำเตือนตามชั้น เกี่ยวกับการห้าม
เจาะพื้น ไว้ทุกชั้น นะ เพราะเวลาผ่านไป
จะทำให้ลืมว่าถูกสร้างด้วยพื้นโพทิชั่นกัน
แล้วไปเจาะ พื้น เกิดไปโดดเส้นลวดพื้นละ
ก้อ ผมว่าน่าห่วงเหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 45
เงินเดือน 30000 บ. ไม่มีหนี้ใดๆอยากกู้ จะกู้ 2-2.3 ลบ.
แต่แบงค์ตีมากู้ได้1.5-1.8 ล้าน
ความจริงแบงค์น่าผ่อนกฏเรื่องปลอ่ยกู้นะผมว่า
เช่น วงเงินกู้สูงขึ้น แลกกับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหน่อย
คนจะได้มีโอกาสมีบ้านกันมากขึ้น
แต่แบงค์ตีมากู้ได้1.5-1.8 ล้าน
ความจริงแบงค์น่าผ่อนกฏเรื่องปลอ่ยกู้นะผมว่า
เช่น วงเงินกู้สูงขึ้น แลกกับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหน่อย
คนจะได้มีโอกาสมีบ้านกันมากขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 46
พวกคอนโดห่างรถไฟฟ้า เน้นราคาต่ำๆ
ผ่อนกัน 30-40 ปี เดือนละไม่กี่พัน
กลัวว่า ในอนาคตจะเป็น ชุมชนแออัดลอยฟ้า ครับ
คุณภาพผู้อาศัย อาจลดลง
ตามแนวรถไฟฟ้า รถใต้ดิน
ตร ม หนึ่ง คงไม่ต่ำกว่า 7-8 หมืน ตร ม
ย่าน ชั้นใน สุขุมวิทต้นๆ คงไม่ต่ำกว่า 1.1-1.2 แสน / ตร ม
ผ่อนกัน 30-40 ปี เดือนละไม่กี่พัน
กลัวว่า ในอนาคตจะเป็น ชุมชนแออัดลอยฟ้า ครับ
คุณภาพผู้อาศัย อาจลดลง
ตามแนวรถไฟฟ้า รถใต้ดิน
ตร ม หนึ่ง คงไม่ต่ำกว่า 7-8 หมืน ตร ม
ย่าน ชั้นใน สุขุมวิทต้นๆ คงไม่ต่ำกว่า 1.1-1.2 แสน / ตร ม
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 47
ผมคิดว่า การอยู่คอนโด
เป็นเรื่องของคนมีกำลังซื้อ ต้องการความสะดวก
เหมือนคนที่มีกำลังซื้อรถส่วนตัวใช้
บางคนใช้ toyota
รวยหน่อยก็ซื้อ benz
คอนโดไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเงินเหลือใช้
เหลือเก็บ
เป็นเรื่องของคนมีกำลังซื้อ ต้องการความสะดวก
เหมือนคนที่มีกำลังซื้อรถส่วนตัวใช้
บางคนใช้ toyota
รวยหน่อยก็ซื้อ benz
คอนโดไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเงินเหลือใช้
เหลือเก็บ
เงินทองไม่เข้าใครออกใคร
จะซื้อจะขายหุ้นก็รับผิดชอบกันเองอย่าไปโทษใคร
จะซื้อจะขายหุ้นก็รับผิดชอบกันเองอย่าไปโทษใคร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 48
คงขึ้นอยู่กับทำเล และระดับของโครงการมั๊งครับjune1500 เขียน:ผมคิดว่า การอยู่คอนโด
เป็นเรื่องของคนมีกำลังซื้อ ต้องการความสะดวก
เหมือนคนที่มีกำลังซื้อรถส่วนตัวใช้
บางคนใช้ toyota
รวยหน่อยก็ซื้อ benz
คอนโดไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเงินเหลือใช้
เหลือเก็บ
แต่เท่าที่เห็นเปิดโครงการใหม่ๆ จะเน้นระดับกลางถึงล่างไม่ใฃ่หรือครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้เท่าไรนัก
ถ้าตัวคนเดียว หรือเพิ่งแต่งงานใหม่ๆ คอนโดก็คงเหมาะกับชีวิตประจำวัน แต่พอเริ่มมีลูกซักคนสองคน ก็น่าจะเริ่มขยับขยายไปสู่บ้านเดียวมากกว่า ถ้ามีกำลังซื้อ ยิ่งจะมีการขยายรถไฟฟ้าไปชานเมืองมากขึ้น
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 49
คือคิดกันในแง่ซื้อลงทุน ความคุ้มค่าครับ
ถ้าเงินไม่เหลือจริง ผมคิดว่าน่าจะซื้อพวก
บ้านที่มีที่ดินชานเมือง ทำเลดีๆ ดีกว่า
ซื้อพวกคอนโด เพราะอยู่ไปนานๆ
ก็ยังเหลือทีดินที่มีมูลค่าสูงขึ้น
อยู่ไปสัก 10-20 ปี ถ้าซื้อทำเลดี
ผมว่าอยู่ฟรี แถมบางทีอาจจะมีกำไร
จากราคาที่ดินด้วยซ้ำ
แต่คอนโดเหลือที่ดินนิดเดียว
คิดว่าคนที่ซื้อคอนโดคือคนที่มีเงินเหลือ
ใช้ ต้องการซื้อความสะดวกสบายมากกว่า
คิดในแง่การลงทุน
ถ้าเงินไม่เหลือจริง ผมคิดว่าน่าจะซื้อพวก
บ้านที่มีที่ดินชานเมือง ทำเลดีๆ ดีกว่า
ซื้อพวกคอนโด เพราะอยู่ไปนานๆ
ก็ยังเหลือทีดินที่มีมูลค่าสูงขึ้น
อยู่ไปสัก 10-20 ปี ถ้าซื้อทำเลดี
ผมว่าอยู่ฟรี แถมบางทีอาจจะมีกำไร
จากราคาที่ดินด้วยซ้ำ
แต่คอนโดเหลือที่ดินนิดเดียว
คิดว่าคนที่ซื้อคอนโดคือคนที่มีเงินเหลือ
ใช้ ต้องการซื้อความสะดวกสบายมากกว่า
คิดในแง่การลงทุน
เงินทองไม่เข้าใครออกใคร
จะซื้อจะขายหุ้นก็รับผิดชอบกันเองอย่าไปโทษใคร
จะซื้อจะขายหุ้นก็รับผิดชอบกันเองอย่าไปโทษใคร
-
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
ถึงตอนนี้ คิดยังไงกับ หุ้นที่ขายคอนโดติดรถไฟฟ้าครับ
โพสต์ที่ 50
ผมว่า supply มันเกินคนอยู่ไปเยอะแล้วครับ
ที่จองส่วนมากก็เก็งกำไร
รอดูใกล้ๆ โอนดีกว่าครับ
จะรู้กันว่าโอนไม่ไหวมาขายดาวน์ถูกๆ กันอีกขนาดไหน
ที่จองส่วนมากก็เก็งกำไร
รอดูใกล้ๆ โอนดีกว่าครับ
จะรู้กันว่าโอนไม่ไหวมาขายดาวน์ถูกๆ กันอีกขนาดไหน