ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2308 27 มี.ค. - 29 มี.ค. 2551
 


 

 
กฎทองคำเจ้าสัวธนินท์  
เจ้าสัวธนินท์ หรือ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นหนึ่งในผู้นำภาคธุรกิจที่พูดแล้วมีคนฟัง และอยากฟังมากที่สุดคนหนึ่ง ถ้าให้อธิบายว่าทำไม !!!!


เหตุผล ประการแรก คงเป็นเพราะความสำเร็จในการนำเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพีก้าวขึ้นสู่กลุ่มธุรกิจแถวหน้าของเอเชีย และ เป็นเจ้าโลกส่งออกกุ้ง ส่วนตัวเองนั้น ติดทำเนียบผู้มั่งคั่งแห่งเอเชียต่อเนื่องมาแล้วหลายปี ผลสำเร็จดังกล่าว เป็นหลักประกันชั้นดีว่า "แนวคิดของเจ้าสัว" นั้น ได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ไม่ใช่จินตนาการโดยขาดพื้นฐานข้อเท็จจริง ฉะนั้นหากใครนำไปประยุกต์ใช้โอกาสที่จะ"ทะลุ" จึงมีมากกว่า"แป็ก"


ประการต่อมาแนวคิดของเจ้าสัวธนินท์มักแปลกไปจากคนอื่น ล่าสุดกำลังขายความคิดเกี่ยวกับ เกษตรและเกษตรกร ให้คนไทยชุดใหญ่ คือ ควรกำหนดรายรับขั้นต่ำเกษตรกร ปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรสูงตามกลไกตลาด และตามแก้ด้วยการปรับเงินเดือนของคนทำงานให้สูงขึ้นโดยเริ่มจากข้าราชการก่อน หรือที่รู้จัดกันในชื่อ "สูตรสองสูง"


เมื่อเร็วๆ เจ้าสัวธนินท์ รับเชิญ สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปปาฐกถาในหัวข้อ " ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทย " แม้งานนี้ เจ้าสัวธนินท์หยิบเอาแนวคิดเก่าว่า ด้วย สูตร 2 สูง มาฉายซ้ำ หากมีขยายความเพิ่มเติม และให้มุมมองต่อเรื่องอื่นๆด้วยแง่มุม และกระบวนความคิดใหม่ๆ รวมทั้งวิธีระดมมันสมองเข้าประเทศ


เจ้าสัวธนินท์เชื่อว่าการเป็นเมืองเกษตรของไทยเป็นจุดแข็งไม่ใช่จุดอ่อนและไทยจะมั่งคั่งได้ถ้า " ทำเป็น " คำนี้เจ้าสัวไม่ได้พูดแต่พูดเขียนสรุปรวบยอดเอง โดยเจ้าสัว เสนอให้ปฏิรูปพื้นที่ทำนาใหม่ทั้งประเทศ


ปัจจุบันเมืองไทยมีพื้นที่เกษตร 130 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ทำนา 67 ล้านไร่ ในส่วนหลังเจ้าสัวธนินท์ เสนอให้แบ่งเป็น 3 ส่วนๆ แรก 25 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นดีระบบชลประทานเข้าถึง แล้วนำวิทยาการสมัยใหม่เข้าไปใส่เพื่อให้ผลผลิตข้าวเท่ากับ 67 ล้านไร่ (ประมาณ 60 ล้านตันต่อปี) ส่วนที่สอง 30 ล้านไร่เอาไปปลูกยางพารา และ ที่เหลืออีก 12 ล้านไร่ซึ่งเป็นที่ลุ่มจัดเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ชอบน้ำ


เจ้าสัวธนินท์ผู้มังคั่งขึ้นมาจากไก่ ให้เหตุผลที่เสนอจัดแบ่งพื้นที่เพาะปลูกใหม่ว่า หากในอนาคตข้าวราคาไม่ขึ้น เกษตรกรจะหันมาปลูกปาล์มกับยางแทนและฟันอย่างมั่นใจสุดๆว่า "ต่อไปยางจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก "





ในส่วนของการตลาดข้าวเจ้าสัวธนินท์มองว่าแนวทางที่น่าจะเป็นผลดีที่สุดคือ จับมือ กับ อินเดีย และเวียดนามเพื่อสร้างกลไกค้าข้าวในตลาดต่างประเทศขึ้นมา


นอกจากเรื่องเกษตรแล้ว ปาฐกถาวันนั้น เจ้าสัวธนินท์ ยังแตะลึกเข้าไปถึงเรื่องท่องเที่ยว และ ธุรกิจบริการ มุมมองของประธานซีพี ประเทศไทยและคนไทยมีโอกาสมากในเรื่องนี้ โดยเปรียบว่าท่องเที่ยวคืออุตสาหกรรมที่ไม่มีปล่องไฟ ซึ่งสามารถนำรายได้เข้าประเทศได้เป็นอย่างดี และยังชี้ช่องให้รัฐบาลเร่งสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจบริการไปต่างประเทศ


แนวคิดที่น่าสนใจอีกมุมของเจ้าสัวธนินท์ คือการเชิญชวนให้คนเก่งจากต่างชาติเข้ามาทำงานในไทย เพราะเป็นการดึงคนเก่งๆให้เข้ามาช่วยพัฒนาประเทศอีกทาง เพราะเทคโนโลยีไม่ได้หมายถึงแต่เพียงเครื่องจักร แต่หมายถึงคนและสมอง และการดูดเอาหัวสมองจากประเทศอื่นเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันทั่วโลกไม่ใช่เรื่อง "เสียเหลี่ยม"เช่นที่บางคนเข้าใจ ขนาดอภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ยังทำเป็นล่ำเป็นสันโดยใช้ทุนการศึกษาบังหน้า


แม้โอกาสทางการศึกษาและเศรษฐกิจประเทศไทยยังเป็นรองประเทศใหญ่แต่เจ้าสัวธนินท์มั่นใจว่า "..... ประเทศไทยมีอะไรดีๆที่สามารถดึงดูดคนเก่งในโลกให้มาอยู่ในเมืองไทย " และมั่นใจถึงขนาดยืนยันว่า หากชาวต่างชาติได้มาใช้ชีวิตในไทย1-2 ปีรับรองเสร็จประเทศไทย ถึงขั้นตัดสินใจลงหลักปักฐานเลยทีเดียว


แต่เพื่อความชัวร์เจ้าสัวธนินท์เสนอแนวทางให้รัฐบาลไปคิดต่อโดยยกเอา จังหวัด ภูเก็ตเป็นโมเดลว่า หากยกเกาะที่เลื่องชื่อด้านท่องเที่ยวของไทยเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษและเก็บภาษีเพียง 10 % ของรายได้ อาจจะทำให้บริษัทใหญ่ สนใจ ย้ายสำนักงานใหญ่มาตั้งในไทยก็ได้


เจ้าสัวธนินท์ประเมินอย่าง เล็งผลเลิศว่า หากทำตามแนวคิดข้างต้น ว่าจะสามารถดึงคนเก่งให้มาอยู่ในไทยได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน และถ้าจะให้ดี หากใครสมัครใจมายกสัญชาติไทยให้เลยไม่ต้องรอ 8 ปีแบบกฎหมายปัจจุบัน


ไอเดียสุดบรรเจิดนี้ เจ้าสัวธนินท์ ไม่ใช่ได้มาจากการดูงานที่ต่างประเทศ แต่ได้ความคิดมา ระหว่างตระเวนภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ และเจอเขยอีสานอยู่กันตรึม !!!
It's earnings that count
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ธนินท์ เจียรวนนท์ อ่านเกมการค้าโลก-ผ่ากลยุทธ์ประเทศไทย
ประชาชาติธุรกิจ  วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3984 (3184)

ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง เพราะประเทศไทยมีน้ำมันบนดินที่ใช้ได้ไม่มีวันหมด แต่น้ำมันในบ่อธรรมชาติมีวันหมด โดยผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกบอกว่าอีก 100 ปีหมดแน่

แต่ประเทศไทยมี 130 ล้านไร่มีที่เพาะปลูก ที่ทำนา 62 ล้านไร่ มีที่ชลประทานสูงสุดไม่เกิน 25 ล้านไร่ ถ้าเราเอา 25 ล้านไร่มาลงทุนเต็มที่ จัดรูปที่ดิน ปรับรูปที่ดิน ชลประทานให้ครบ เหมือนเราเลี้ยงไก่ ทำให้ทันสมัย สร้างโรงเรือน แต่ต้องลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญไปดูไต้หวัน ไปดูประเทศทำนาแบบเรา เขาลงทุนอย่างไร ลงทุนสูง ผลผลิตสูง คิดแล้วคุ้ม

ผมก็คิดไม่ถึง เมืองไทย เช่น เรื่องกุ้ง เราเป็นที่ 1 ของโลก เราเป็นผู้นำตั้งแต่พันธุ์ไปถึงการเลี้ยง ทำเกี๊ยวกุ้ง กุ้งทอด ไม่มีประเทศไหนทำได้ ต้องยกย่องว่าเราเป็นเบอร์ 1 ของโลก ข้าวเราก็เป็นเบอร์ 1 ของโลก ยางพาราก็เป็นเบอร์ 1 ของโลก รัฐบาลต้องวางแผนให้ดี คนเก่งๆ ชอบอยู่เมืองไทย ถ้าเราเอาคนเก่งมาแสนคน ให้เป็นคนไทยไปเลย เราเป็นที่ 1 ได้ ไฮเทคเป็นที่ 1 ได้ เพราะไฮเทคไม่ใช่เครื่องจักร แต่คือสมอง คือคน

เพราะคนมาอยู่เมืองไทย 2-3 ปี ติดใจเมืองไทย ผมไปอีสานมีลูกเขยต่างประเทศเยอะเลย หมู่บ้านเต็มด้วยลูกเขยต่างประเทศ ผมว่าประเทศไทยคนต่างประเทศชอบมาอยู่ ถ้าเรามีเงื่อนไข เหมาะสมกับเขา ถูกสเป็กเขา

อย่าง "ภูเก็ต" ถ้าเราจัดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ คนเก่งๆ ให้เสียภาษีถูกสัก 10% ของรายได้ เผลอๆ สำนักงานใหญ่ย้ายมาอยู่ภูเก็ตเลย ทำงานที่ภูเก็ตคอนโทรลได้ทั่วโลก สมัยนี้จะประชุมอะไรเห็นภาพกัน คุยกัน ไม่พอใจค่อยบินไป หรือเขาบินมา จะเชิญแขกมาเที่ยวภูเก็ต คนก็อยากมาประชุมที่นี่

ถ้าเราหาคนเก่งของโลกมาสักแสนคน หาบริษัทเยี่ยมๆ ของโลก บริษัทที่เราต้องการไม่ใช่ให้ 8 ปีด้วย ให้เป็นคนไทยไปเลย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ เหมือนอเมริกาวันนี้เขายังเที่ยวล่า คนเก่งๆ ของโลกให้มาเป็นคนอเมริกัน

ผมไปเยอรมันทุกปี แชร์แมนของ KFW บอกว่า เยอรมันเสียหายมาก สร้างคนเก่งลงทุนเป็นสิบล้านบาทส่งให้ไปเรียนต่อ แต่อเมริกามาชุบมือเปิบเลย ถ้าเก่งให้เป็นคนอเมริกันเลย นี่คือสงครามด้วยมนุษย์

สินค้าบนดินของเราที่ยอดเยี่ยมมากคือ ยาง ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย

เดี๋ยวนี้สินค้าเกษตรไม่ใช่อาหารของคนแล้ว เป็นอาหารเครื่องจักรด้วย วันนี้เครื่องจักรมาแย่งกินกับคนแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องดีที่สุดของประเทศไทย ในประวัติศาสตร์น้ำมันขึ้นราคา ไม่เคยฉุดเอาสินค้าเกษตรแพงขึ้น หลายท่านกลัวสินค้าเกษตรแพง เพราะคนในเมืองเดือดร้อน แพงแล้วการเมืองเดือดร้อน

ญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รวยได้ยังไง แน่นอนเขามีอุตสาหกรรมบวก แต่เขาต้องเอาข้าว เอาสินค้าเกษตรแพงก่อน เพราะผลิต 100% จากประเทศเขา อย่างอื่นต้องซื้อมาและผลิตขายออกไป แต่สินค้าเกษตรเวลาเราไปคุยกับญี่ปุ่น เรื่องเกษตรอย่ามาคุยกับผม เรื่องข้าวอย่ามาคุย เขาต้องการชาวญี่ปุ่นกินข้าว 100 บาท 200 บาท เราไปขายถูกอย่าไปคุยกับเขา เพราะอะไร เพราะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ

เหมือนน้ำมันของตะวันออกกลาง ลองน้ำมันถูก ผมรับรองว่าตะวันออกกลางจนกว่าคนไทยอีก ที่เขาร่ำรวยได้เพราะน้ำมันเขาแพง แต่น้ำมันของเราให้กับมนุษย์ มนุษย์สำคัญกว่าเครื่องจักรอีก มนุษย์ทรัพยากรที่สำคัญที่สุด แต่อาหารเลี้ยงมนุษย์ จนที่สุด ซึ่งผิดแล้ว

ลองศึกษาไปทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น รวยแล้วยังไม่ยอมให้สินค้าเกษตรตกต่ำ ยังทำทุกวิถีทางให้ขึ้น อย่างผมไปส่งกุ้ง ไปขายถูก เขาไม่ได้ดีใจ เขาจัดการเลย มาทำให้คนเลี้ยงกุ้งของเขาขาดทุน

เมื่อสินค้าเกษตรราคาสูงขึ้นแล้วทำอย่างไร เพราะคนในเมืองเดือนร้อน ก็ต้องขึ้นเงินเดือน ปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกัน ผมไม่ถือว่าเป็นเงินเฟ้อ แต่ปรับให้สังคมเป็นธรรม ผมจำได้แม่นเลยปี 1960 ผมไปไต้หวัน เงินเดือน 800 เขาเงินเดือน 100 แต่ข้าวกิโลฯละ 10 บาท ของเราข้าวกิโลฯละ 3 บาท มีไหมในประเทศไทยเรา มีใครเคยคิดถึงไหมว่ารายได้ขั้นต่ำของเกษตรกรควรเท่าไร ผมโตมาถึงป่านนี้ยังไม่เคยได้ยิน

รายได้ขั้นต่ำของเกษตรกรควรเท่าไร มีแต่รายได้ขั้นต่ำของกรรมกร ก็ถูกต้องแต่คนส่วนใหญ่ของชาติเราลืมสนิท สินค้าแพงหน่อยกระทรวงพาณิชย์ก็กดราคา ทำไมไม่ขึ้นเงินเดือนละครับ สองสูง เราไม่ได้เป็นประเทศสังคมนิยม แต่เดินน้องๆ เหมือนสังคมนิยม

แต่ประเทศสังคมนิยมกลับไม่ใช่วิธีนี้ เพราะรู้แล้วว่าสุดท้ายหมดตัว สุดท้ายเขาใช้วิธีไหน เงินเดือนก็ไม่ต้องขึ้น สินค้าก็ไม่ต้องขึ้น สุดท้ายรัฐบาลก็ไม่มีภาษี เครื่องจักรเก่าแล้วก็ไม่มีเงินซื้อ จบเลยครับ เติ้ง เสี่ยว ผิง ถึงต้องมาปฏิวัติใหม่ วันนี้อย่าไปพูดกับจีนว่าคอนโทรลราคา ไม่มี

เหมือนกับหมูเที่ยวนี้ขึ้นราคาเท่าตัว นักวิชาการตื่นเต้นมาก คนในเมืองเดือดร้อน นายกฯลงไปศึกษาเอง บอกเงินเดือนต่ำกว่าเท่าไรให้ขึ้นเดือนละ 15 หยวน รวมทั้งที่รีไทร์ไปแล้วนักวิชาการตกใจ เอาน้ำมันพรมลงไปในไฟ ไม่ยิ่งไปกันใหญ่ หมูก็ยิ่งขาดตลาด แถมเงินให้คนไปซื้อหมู

แต่ไม่จริงครับ ยิ่งคนจนเงิน 15 หยวนมีค่ามาก เรื่องอะไรจะไปกินหมู ไปกินอย่างอื่น เผลอบางทีก็เก็บเอาไว้ดีกว่า เหมือนญี่ปุ่น ทำไมญี่ปุ่นเอาเงินไปฝากธนาคารไม่มีดอกเบี้ย ยังยินดี เพราะสินค้าเขาแพงมาก เกินกว่าค่าของแบงก์ เหมือนผมไปญี่ปุ่นไม่อยากซื้อ ถามแล้วราคาอย่างนี้เสียดายเงิน เซฟเงินดีกว่า ไม่ซื้อเหมือนกันครับ อย่าไปเข้าใจผิดว่าเราให้เขา 15 หยวนแล้ว เขาต้องไปกินหมูทั้ง 15 หยวน ไม่ใช่ แต่ถ้าเอา 15 หยวนไปซับซิไดซ์รับรองเขากินหมู เพราะหมูถูก

เวลาที่สินค้าเกษตรราคาสูง อะไรเกิดขึ้น เกษตรกรมีเงินไปจับจ่าย ธุรกิจบริการ อุตสาหกรรม ทุกอย่างเกิด แม่ค้าหาบเร่ พ่อค้า ทุกอย่างเกิด นั่นคือตรงๆ เลยครับ ดีกว่าเอาเงินไป ช่วงนี้ผมยังสนับสนุน ทุ่มเงินเข้าไปก่อนให้เศรษฐกิจมันเดิน เพราะเราเป็นหนี้เขามานานแล้ว เรากดราคาให้เขาจนมานานแล้ว พักหนี้ก็ไม่เห็นเสียหาย อย่าไปบอกว่าเสียนิสัย เพราะเขาจน แล้วเอาเงินอัดเข้าไปอีก

แต่ที่ดีที่สุดในระยะยาวต้องซื้อสินค้าเขาแพง เขาจะได้กระตือรือร้นไปเพิ่มผลผลิต ธนาคารก็กล้ากู้เงินให้ นักธุรกิจก็กล้าสนับสนุน จะเหมือนไก่ 90% แล้ว เปลี่ยนหน้าที่กัน เกษตรกร ไม่ต้องรับความเสี่ยง แต่ถ้าแบบนี้พอกำไร รัฐบาลจะไปคุมราคา ตอนขาดทุนไม่ช่วย ใครจะกล้าเข้าไป คนฉลาดไม่เอาหรอก ธุรกิจแบบนี้มีแต่ความเสี่ยง

ข้าราชการเงินเดือนต่ำไป ต้องสูง ข้าราชการก็มีเงินจับจ่าย เศรษฐกิจเกิด เอกชนต้องตาม ความจริงเขาทำล่วงหน้าอยู่แล้ว ของผมถามคนรถ ดีกว่า เอาของจริงเลย คนรถผมเงินเดือนเท่าไร 3 หมื่นบาท เขาเข้ามา 900 บาท อยู่กับผม 30 กว่าปี เพิ่มขึ้นมา กี่เท่า เกือบ 30 เท่า ทองคำ 37 เท่า ไล่เลี่ยกันนะ

ผมจะเอาตัวเลขมาแลก ลองมาศึกษาด้วยกัน ผมว่าเรามีพื้นที่ปลูกข้าว 25 ล้านไร่ มาทำเรื่องชลประทาน จัดรูปที่ดิน ปรับรูปที่ดิน หาพันธุ์ที่ดี เอาเทคโนโลยีมาใส่ ผลผลิตสูงขึ้น ผมว่าไม่ถึง 1,000 กิโลฯหรอก คิด 800 กิโลฯแล้วกัน เราปลูก 3 คอร์ปก็จะได้ผลผลิตรวม 60 ล้านตัน

เมื่อเป็นข้าวเปลือกผมคิด 15 บาท ผมกล้าพูดได้เลยถ้า 15 บาท มูลค่าที่เราเอา 25 ล้านไร่ เราจะได้เงิน 9 แสนล้านบาท

ยางพาราเราเอา 30 ล้านไร่ เพราะ 25 ล้านเราไปทำนาแล้ว เรามี 67 ล้านไร่ เอา 25 ไปทำนา 3 คอร์ป จำนวนจะได้เท่ากับหรือไม่น้อยกว่าที่เอา 60 ล้านไร่ไปทำนา เพราะอันนี้ 400 กิโลฯก็มี หรือแล้งเสียหายหมด เอา 30 ล้านไร่ไปปลูกยาง เอา 12 ล้านไร่ ไปปลูกปาล์มที่ลุ่มเพราะชอบน้ำ

ยางพาราผมกล้าพูดเลย ถ้าไปจัดการ 3 ประเทศมาฮั้วกัน ยางจีนกำลังใช้ อินเดียกำลังใช้ ยุโรปตะวันออกกำลังใช้ 150 บาท วันนี้เรา 80 กว่าบาท ถ้า 150 ใน 30 ล้านไร่ เราจะได้เงิน 1.2 ล้านล้านบาท นี่ยังไม่ได้เอาพันธุ์พิเศษนะ เรายังค้นคว้าได้อีก

และก็ปาล์มไม่ได้สูงมาก ตัวเลขผมยังไม่กล้ายืนยันเพียงแต่ยืนยันว่า 5.50 บาท จะได้ 19,8000 ล้านบาท เฉพาะ 67 ล้านไร่ รวมแล้ว ถ้าเราวางแผนให้ดีเราจะได้ 2.367 ล้านล้านบาท ลองช่วยกัน ผมอยากพูดกับสภาพัฒน์ว่าลองศึกษา ลองเจาะลึก อาจจะผมผิดบ้าง แต่เรื่องราคาที่ผมคาดคะเนไว้ไม่ผิด เกษตรกรไทยจะลืมตาอ้าปาก เงินเดือนข้าราชการก็สูงได้แล้วนั่นคือทองคำ คือน้ำมัน

ทำไมเราไม่รู้จักทำให้น้ำมันเราแพง เงินเดือนไม่ขึ้นราคาขึ้นน้อยแล้วมากดสินค้าเกษตรให้ต่ำ นั่นคือสองต่ำ สุดท้ายก็หัวใจวาย

ท่านลองศึกษาในต่างประเทศเขาทำกับเกษตรยังไง เขารวยแล้วยังปกป้องสินค้าเกษตร เหมือนโอเปกต้องพยายามให้น้ำมันขึ้น ทุกประเทศต้องซับซิไดซ์ไม่ให้สินค้าเกษตรต่ำ เอานมมาย้อมสีไม่ให้นมต่ำ ผมเลยฝากให้ท่านหัวกะทิที่อยู่ที่นี ช่วยกันวางแผนให้ชาวไทยเรารวยบ้าง

ข้าวมีเพียงไม่กี่ประเทศ เวียดนามวันนี้ไม่กล้าส่งออกแล้ว จีนจะไม่มีข้าวส่งออก อินเดียบางทีเหลือบางทีมี ทำไมเราไม่จับมือสามประเทศนี้ขึ้นราคาข้าว ให้เวียดนามขายของ ซี.พี.มีค้าทั่วโลก อาหารสัตว์ 20 กว่าล้านตัน ข้าวเราส่งออกนอกเพียง 7-8 ล้านตัน เราทำไม่เป็น ถ้าทำเป็นให้เวียดนามขายก่อนไม่ได้หรือ เราขายทีหลังแพงกว่า ที่เหลือในสต๊อกฟรีเงินยังได้มากกว่าอีก ยังดีมีสต๊อกฟรีอีก เอาไปขายประเทศที่มีอนาคต ขายผ่อนส่งก็ได้ หรือมาขายไปเลี้ยงสัตว์ออกนอก ส่งเสริมอุตสาหกรรม ส่งเสริมแปรสภาพ เอาข้าวแปรสภาพเป็นข้าวเจ้า ก๋วยเตี๋ยวตีตลาดทั่วโลก

ในโลกนี้ไม่มีใครหรอกไม่ขายแพง ถ้าเราให้เขาขายแพงเขาดีใจมาก เราทำตัวเป็นพี่เบิ้มหน่อย น่าสนใจมากถ้าเราวางแผนให้ดี ที่ผมพูดไม่ใช่ฝัน มีโอกาสเป็นจริง ถ้าสินค้าเกษตรราคาสูงขึ้นความเสี่ยงน้อยลง ผมว่าแบงก์ก็กล้ากู้เงินให้ นักธุรกิจก็กล้าลงทุน ส่งเสริม พัฒนา เหมือนกับที่ผมทำเรื่องกุ้ง ไก่ สุกร สู้กับทั่วโลกได้ คนไทยเลี้ยงสัตว์เก่งมาก นี่เป็นเรื่องจริง เราไม่ได้แพ้จีนเลย จีนเราสอนเขา เขาได้ 80 อีก 20 คิดเอง คนไทยสอน 100 เขาเอา 100 เหนือกว่าคนจีน เราได้ 100 เขาได้ 80 เราสู้กันไป

(นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี. ได้ไปบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ "ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทย" เมื่อ 6 มีนาคม 2551 ที่สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจเห็นว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ จึงได้ตัดทอนบางส่วนมาเรียบเรียงนำเสนอต่อผู้อ่าน)
It's earnings that count
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 3

โพสต์

5 มอเตอร์ฉุดเศรษฐกิจโลก

ประชาชาติธุรกิจ  วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3984 (3184)

ธนินท์ เจียรวนนท์ มองว่า ยุคสมัยนี้ผิดกับทุกยุค ยุคก่อนมีไม่กี่ร้อยล้านคนที่รวยขึ้น แต่ยุคนี้หลายพันล้านคน อย่างน้อยก็ 2 พันกว่าล้านคนกำลังมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เช่น จีน 1,300 ล้านคน จะไปถึง 1,600 ล้านคน อินเดียวันนี้ก็ตั้ง 1,300 ล้านคน แล้วยังจะเพิ่มอีก ยุโรปตะวันออกก็มีหลายร้อย ล้านคน รวมทั้งหมดเศรษฐกิจยุโรปตะวันออกดีขึ้น ก็ฉุดให้ยุโรปตะวันตกยิ่งดีขึ้น ถ้ารวมกันผมว่าพลังไม่น้อยกว่าอเมริกา

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเค้กก้อนเดียว มีแต่อเมริกาเป็นมอเตอร์ที่ฉุดเศรษฐกิจโลก แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว มอเตอร์ที่จะฉุดเศรษฐกิจมียุโรปตะวันออก ตะวันตก รวมกันเหนือกว่าอเมริกา เพราะครบทุกอย่างไม่แพ้อเมริกา คนเก่งไม่แพ้กัน ประชากรมาก กว่าอเมริกา พื้นฐานเศรษฐกิจตะวันตกแข็งแรงมากก็ไปฉุดเอาตะวันออกแข็งแรงขึ้นด้วย นี่คือเค้กก้อนที่ 2 ที่ใหญ่ไม่แพ้อเมริกา

ตัวที่ 3 คือ จีน จีนมี 1,300 ล้านคน ซื้ออะไรโลกสะเทือนหมด ถ้าจีนออกมาซื้ออะไร จะไม่พอ อย่างจีนเพิ่งมาใช้รถยนต์ น้ำมันราคาขึ้นเป็นเรื่องเป็นราว นี่เพิ่งเริ่มใช้รถยนต์นะครับ อินเดียก็เพิ่งเริ่ม ถ้าจีนบวกอินเดีย สองประเทศนี้เกือบจะ 3 พันล้านคน ฉะนั้นเครื่องจักรฉุดเศรษฐกิจตัวที่ 2 คือ จีน บวกไต้หวัน บวกฮ่องกง

ถ้าอินเดีย อาเซียน ญี่ปุ่น รวมแล้วผมคิดว่าเป็นเครื่องฉุดเศรษฐกิจตัวที่ 4 อย่างอินโดนีเซียถ้าการเมืองสงบ ผมก็คิดว่ามีทรัพยากรเต็มที่ ก๊าซในบ่อมีอีกมหาศาล ในผืนดินมหาศาล

ตัวที่ 5 คือบราซิล ซึ่งทั่วโลกเริ่มไปลงทุนมหาศาล เพราะต่อไปประเทศที่มีบ่อน้ำมันจะสู้ประเทศที่มีน้ำมันบนดินไม่ได้ เพราะใช้ไม่รู้จักจบ ใช้แล้วเกิดใหม่

"สมัยก่อนเราพูดว่า อเมริกาจาม ทั่วโลกเป็นไข้หวัดใหญ่ วันนี้ไม่ใช่แล้วครับ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจากนี้ไป เมืองไทยจะค้ากับจีนยังไง อินเดียยังไง อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า ยังไง ลาว เขมร เวียดนาม รวมทั้งรัสเซีย ยุโรปตะวันออก เป็นโอกาสของเราทั้งนั้น"
It's earnings that count
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คิดยังไงกันครับ ผมว่าน่าสนใจมากๆเลย ... หรือว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทยจริงๆ ...
It's earnings that count
anakinnet
Verified User
โพสต์: 520
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมเห็นด้วยนะครับ ถึงแม้จะกินข้าวแพงหน่อย แต่ให้ประเทศเจริญ ไม่ใช่มาโดน โอเปก จูงจมูกไปตลอด เรามีอะไรก็ต้องเอามาสู้ครับ

เรื่อง 15 หยวน ที่เอาไปขึ้นเงินเดือน ผมว่าเห็นภาพนะ ใช้เงินเท่ากันแต่ให้กับคนต่างกัน สุดท้ายเห็นผลต่างกันมาก
In the long run, We are all dead.
ภาพประจำตัวสมาชิก
dino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1286
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 6

โพสต์

:8) แหะ แหะ น่าลอง น่าลอง ถ้าสำเร็จ อิ อิ ไม่อยากคิด...แต่ถึงไม่สำเร็จ
ก็ยังกลับมาจนเหมือนเดิมก็ไม่สายเนอะ :wink:
KB
Verified User
โพสต์: 1558
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ดูทางช่องสามน่าติดตามจริงๆ ต่อจันทร์หน้าครับ เป็นการปฏิวัติอุสาหกรรมเกษตรครั้งใหญ่เลยถ้าจะทำกันจริงๆ เห็นด้วยครับ ลงทุนเลย แต่ยางจะขึ้นถึง 150 บาทเลยหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางผมจะรอดปะเนี่ย
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ที่หาตัวจับยากคนนึงเลยครับ  :8)  ...
Oatarm
Verified User
โพสต์: 1266
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 9

โพสต์

มีคำถาม :?:

๑  จะขายสินค้าเกษตรราคาสูง  ถ้าประเทศอื่นที่ผลิตสินค้าเกษตรเหมือนกัน  เขาส่งออกราคาต่ำกว่าเรา  จะทำอย่างไร  การจับมือกันระหว่างประเทศผู้ส่งออกข้าวพูดกันมาตั้งแต่ผมยังเด็ก มากกว่าสามสิบปีแล้วกระมัง  ยังไม่ประสบผลสำเร็จเลย  
๒  น้ำมันดิบ กับ สินค้าเกษตร ต่างกัน  สินค้าเกษตร  หลายประเทศในโลกผลิตได้เหมือนๆกัน  และหาสินค้าทดแทนการบริโภคได้ง่าย  แตกต่างจาก น้ำมัน ถ่านหิน
ถ้าตอบคำถามสองข้อนี้ได้เคลียร์ ก็เห็นด้วยครับ
ความรู้คู่เปรียบด้วย
Popmc
Verified User
โพสต์: 217
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เป็นวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมครับ แต่คงต้องการการศึกษาเพิ่มเติมพอสมควร

ผมว่ากระแสสินค้าเกษตรราคาสูงอิงอยู่กับกระแสน้ำมันดิบราคาแพงอยู่พอสมควร ... ไม่รู้ว่ามันจะยังอยู่ต่อไปอีกนานหรือเปล่า  :?
... No more hobbies! Remember!
magician
Verified User
โพสต์: 143
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 11

โพสต์

Reuters มีหัวข้อพิเศษเกี่ยวกับเรื่องราคาอาหารพอดีเลย
http://www.reuters.com/news/globalcoverage/agflation
asdas_civ
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ยังจำสมัยที่คนไทยต้องซื้อน้ำตาลในประเทศ ราคากิโลกรัมละ 13 บาท ขณะที่ราคาส่งน้ำตาลออกนอกประเทศกิโลกรัมละ 5 บาทได้ ตอนนั้นบอกว่าคนไทยต้องช่วยเหลือคนปลูกอ้อย พอต่อมา ราคาน้ำตาลในตลาดโลกสูงกว่า คนในประเทศก็ต้องซื้อน้ำตาลในราคาแพงขึ้น

ตอนนี้ราคาข้าวดี บอกให้ขึ้นราคาไปอีก คนที่ได้ประโยชน์ก็จำกัดแค่คนไม่กี่กลุ่มอยู่ดี ชาวนาที่ปลูกข้าวมีกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นเจ้าของที่ดินเองเท่าไหร่ คนที่ได้ประโยชน์เต็มๆ ก็คือพ่อค้า

เกษตรกร ไม่ได้หมายถึงชาวนาเท่านั้นนะ
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมว่าเข้าท่ามากนะ แต่จริง ๆ จะฟังดูง่ายอย่างเจ้าสัวว่าเปล่าก็ไม่รู้ อุปสรรคหลาย ๆ อย่างมันเยอะ อย่างน้อยก็เรื่องผลประโยชน์
terati20
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ปัญหาของสินค้าเกษตรคือ เราควบคุม  supply  ได้ไหม
เราจับมือ กับ เวียดนาม อินเดียเรื่องข้าว เเล้วเราควบคุมข้าวที่เราผลิตได้เป่า?

เราบังคับชาวนาให้ ผลิตข้าวเท่านี้ ห้ามเกินได้ บ่ ?
ตอนนี้ชาวนาอยากทำนา กันมากขึ้นมากๆ ปีหน้าราคาจะตกหรือเปล่าก็ ไม่รู้
เเล้วปัญหาเรื่อง ลมฟ้าอากาศ เราควบคุมได้ไหม?



น้ำมันมันคุมการผลิตได้เอา มาก เอาน้อยได้

เเต่ชื่นชม วิสัยทัศน์เจ้าสัว ได้มุมมองใหม่ๆดี
:8)
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 15

โพสต์

หุหุ คุยเรื่องเมืองไทย วกไปวนมา ยังไงก็เข้าเรื่องการเมือง / ภาครัฐอยู่ดี
ปลงแล้วครับ...

ผมอยู่ยูเออี มา 7 ปี เค้าพัฒนา มากมายกว่าที่อยู่เมืองไทย มา 30 ปีซะอีกครับ
เดี๋ยวจะหาว่า ว่าแต่เมืองไทย ผมว่า บราซิลก็พอๆกัน
พท.ใหญ่กว่าไทยตั้งเยอะ ใกล้อเมริกา ผู้บริโภค รายใหญ่ซะด้วย
ยังไม่เห็นไปไหนเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
Verified User
โพสต์: 4886
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เดี๋ยวนี้สินค้าเกษตรไม่ใช่อาหารของคนแล้ว เป็นอาหารเครื่องจักรด้วย วันนี้เครื่องจักรมาแย่งกินกับคนแล้ว ผมว่าเป็นเรื่องดีที่สุดของประเทศไทย ในประวัติศาสตร์น้ำมันขึ้นราคา ไม่เคยฉุดเอาสินค้าเกษตรแพงขึ้น หลายท่านกลัวสินค้าเกษตรแพง เพราะคนในเมืองเดือดร้อน แพงแล้วการเมืองเดือดร้อน



คิดถึงไบโอดีเซลกับก๊าสครับกระแสมาแรงด้วย
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 17

โพสต์

จิงๆ ทฤษฏี สองสูง นี่ก็เข้าทำนอง ทฤษฏี The Secret นะ

คือ ถ้าเราอยากสบาย ก็จงมุ่งพลังที่มี ไปจดจ่อไว้ที่ความสบาย อยู่ดีมีสุข
ไม่ใช่ มุ่งไปสนใจแต่เรื่องจะทำไงให้ลำบากน้อยลง

เพราะมันจะลำบากไปตลอดอยู่อย่างงั้นแหละ

ถ้าเรามีสองมือ เอามือทั้งสองข้าง พร้อมใจกันไปกดให้ต่ำ แล้วจะเอาสองมือไหนมายกให้สูง

ทฤษฏีสองต่ำ คล้ายการทุ่มพลังไปยัง ทำไงให้ลำบากน้อยลง(ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดทาง สำหรับ ทฤษฏี the secret)

เมื่อพุ่งความสนใจทั้งหมด ไปยังความกลัวลำบาก พลังก็ไม่เหลือ ที่จะนำไปใช้เพื่อที่จะมุ่งไปยัง ความสุขสบาย

ทฤษฏีสองสูง เป็นวิธีที่ถ้าทำจริงๆ น่าจะเป็นการทุ่มพลัง ไปยังความเป็นอยู่ที่ดีเท่านั้น แล้วความเป็นอยู่สบายจึงจะเกิดขึ้นได้
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ให้คุณธนินท์เป็นนายกท่าจะดีแฮะ ...  :P
It's earnings that count
ภาพประจำตัวสมาชิก
gradius173
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ทฤษฎีนี้มีข้อบกพร่องหลายจุดในทางปฏิบัติครับ
หากภาคการเกษตรรายได้ดีมากก็จะมาแย่งแรงงานภาคอุตสาหกรรม เราเอาแรงงานต่างชาติเข้ามาจะจ้างถูกก็ไม่ได้ เพราะค่าครองชีพเราคงสูงมาก เขาอยู่ไม่ได้ก็คงไม่เข้ามา ถ้าสินค้าที่ผลิตเรานำเข้าวัตถุดิบมาแปรรูปส่งออกหรือใช้เองก็ไม่มีปัญหา แล้วถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในประเทศแล้วส่งออกจะทำยังไงเพราะต้นทุนวัตถุดิบคงสูง ถ้าเงินเดือนสูงสินค้าราคาสูงประชาชนจะได้อะไรเช่นผมได้เงินเดือน100บาทต่อวันกินข้าวจานละ25ได้4จาน ต่อมาผมได้ค่าจ้าง200บาทต่อวันแต่ค่าข้าวกลายเป็นจานละ50ผมก็กินได้4จานเท่าเดิม แต่ถ้าจะให้ได้ประโยชน์ผมคงต้องไปซื้อข้าวที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ราคา25บาทเท่าเดิม ทีนี้เกิดปัญหาแล้วสินค้าเราส่งออกไม่ได้เพราะต้นทุนสูง แต่ต้องไปซื้อสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเพราะถูก ประเทศก็ขาดดุลการค้าไปเรื่อยๆเหมือนอเมริกา แต่ต่างกันที่อเมริกาพิมพ์ธนบัตรเท่าไหร่ก็ได้ ผลค่าเงินบาทก็จะอ่อนตัวลงเรื่อยๆ เหมือนดอลล่าตอนนี้ ไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่ให้สินค้าเกษตรแพงก่อน แล้วค่อยให้ค่าแรงงานแพง ในอเมริกา ในญี่ปุ่นภาคอุตสาหกรรมภาคบริการรายได้เพิ่มก่อนจึงไปดึงภาคการเกษตรให้สูงขึ้น ลองไปดูประเทศเขาสิครับเกษตรกรก็ไม่ได้รวยน่ะครับ เทียบกับคนในประเทศแค่พออยู่พอกินมีเงินเก็บเล็กน้อย ดังนั้นผมว่าทางที่ดีเราควรพัฒนาคนและเทคโนโลยีก่อน พอเราสามารถผลิตสินค้าราคาแพงได้ อาจเป็นสินค้าการเกษตรระดับpremium หรืออุตสาหกรรมที่เกือบผูกขาดได้เราก็สามารถเพิ่มเงินเดือนได้ พอเงินเดือนเพิ่มภาคการเกษตรก็ได้เพิ่มด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ไปเพิ่มเงินเดือน เพราะสินค้าการเกษตรแพง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ผมว่าเค้าฉลาดที่มาพูดช่วงที่สินค้าเกษตรแพง พูดก่อนหน้านี้ซัก 2-3 ปีคงไม่มีใครฟัง

เจ้าสัวน่าจะรู้ว่า cartel มันไม่มีทางสำเร็จขนาด opec ก็ไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำมันของแต่ละประเทศสมาชิกได้ มีใครรับรองได้ว่าทุกคนผลิตเท่าที่ได้รับ quota?

ผมจำได้ว่าช่วงนี้หลายๆประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรมีปัญหาจากสภาวะอากาศทำให้พืชผลเสียหาย ก็แน่อยู่แล้วว่าพอ supply หด demand โต ราคาก็ขึ้น ลองเจอปีที่ฝนฟ้าดีหรือมีหลายๆประเทศพร้อมใจกันเพิ่มพื้นที่ปลูก (ใครจะไปห้ามอีกฝ่ายได้ตาม Game Theory) เรื่องนี้คงไม่มีใครฟังหรอกครับ

ในวัฏจักรของสินค้าโภคภัณฑ์เราจะมองแค่ปัจจุบันไม่ได้ ต้องเข้าใจอดีตด้วยว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราจะได้มองเห็นอนาคตครับ
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ทฤษฎีจัดสรรที่ดิน  เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการลงทุนด้าน ชลประทาน อันนี้ผมว่าแก้ปัญหาได้จริงแท้แน่นอน

สนับสนุนครับ

ส่วน 2 สูง ผมไม่ทราบครับ เพราะมันบังคับกันไม่ได้ มันมาพร้อมๆกับการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆเหมือนกัน
. . .
Likhit
Verified User
โพสต์: 270
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ทฤษฏีคุณธนินท์ เป็นเรื่องเพ้อฝัน ถ้ามีเวลาผมจะทยอยค้านเป็นข้อๆไป เริ่มจากเรื่องเพิ่มผลผลิตข้าว ยางพาราและปาล์ม  ข้าวนั้นเป็นพืชอายุสั้นปีหนื่งปลูกได้3รอบถ้าเร่งผลิตเต็มที่ ถ้าปีใหนสภาพแวดล้อมอำนวยแต่ละประเทศเร่งผลืตข้าวภายใน3-4เดือนก็ล้นตลาดโลกแล้วทีนี้ก็จะมาตัดราคากันเองเหมือนอดีตที่ผ่านมา นอกจากที่เป็นพืชอายุสั้นทำให้การปลูกพืชไร้ดินแบบhydrophobicมีความเป็นไปได้สูง สิ่งที่ผมกลัวกลับตรงกันข้ามกับคุณธนินท์คิดผมกลับกลัวว่าอีกไม่นานข้าวที่ต้นทุนถูกกว่าเราจะถูกนำเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยมากกว่า ก็ไม่ต่างจากไก่ที่ใช้เวลาเลี้ยงแค่45วันก็จับขายได้ คุณจะเอาไก่กี่ตันผมขอเวลาแค่ประมาณ2เดือนส่งมอบได้ตามกำหนดแน่นอน ต่อมาก็เรื่องยางพารากับปาล์มสองตัวนี้ไปด้วยกันยางพารานั้นก็มียางธรรมชาติ(NBR)และยางสังเคราะห์(SBR)ยางสังเคราะห์นั้นได้มาจากน้ำมัน  เมื่อน้ำมันแพงยางสังเคราะห์แพงคนก็หันมาใช้ยางธรรมชาติซึ่งถูกกว่าราคายางธรรมชาติจืงปรับตัวสูงขึ้นผมถามว่านำมันที่แพงขึ้นเพราะอะไรแพราะมีคนไปปั่นมันใช่หรือเปล่าopecเขาก็ประกาศแล้วว่าน้ำมันที่ผลิตออกมาเพียงพอกับความต้องการใช้เขาจึงไม่เพิ่มกำลังการผลิต ผมจะบอกให้ต้นทุนจริงๆในการผลิตCRUDE OILประมาณ10เหรียญเอง วันใดที่สงครามสงบการปั่นราคาเลิกหรืออเมริกาซึ่งมีน้ำมันมากไม่แพ้ชาติอื่นเกิดสูบขึ้นมาใช้เองพร้อมกับมีเหลือส่งออกด้วยวันนั้นจะเกิดอะไรขื้น ทุนเขา10เหรียญ ขาย20เหริยญก็กำไรเท่าตัวแล้ววันนั้นราคานำมันปาล์มกับยางพาราจะเหลือกี่บาทเกษตรกรที่ลงทุนไปแล้วใครจะรับผิดชอบ วิธีแก้ผมเห็นมีทางเดียวคือทำอย่างคุณธนินท์บอกแล้วให้แกรับซื้อในราคาประกันให้หมดโดยกำหนดอายุสัญญาสัก30ปีเป็นอย่างน้อย ส่วนเรื่องขึ้นเงินเดือนข้าราชการสูงๆแกก็ก็ขึ้นเงินเดือนพนักงานบริษัทของแกก่อนซิไปกดให้ต่ำๆอยู่ทำไมล่ะ พวกเขาจะได้มีกำลังซื้อไง แล้วแกก็เอาไก่แกมาขายตัวละ500-700บาทดูซิมีคนซื้อใหม บริษัทTRUEบริหารให้มีกำไรก่อนเถอะเห็นขาดทุนทุกปีห้นเคยสูงสุดถ้าจำไม่ผืด70บาทตอนนี้จะหลุด5บาทอยู่แล้ว AISและDTACขายทิ้งไปแล้วคุณคิดว่าผู้บริหารทั้งสองบริษัทเขาไม่รู้หรือว่าธุรกิจสื่อสารอณาคตมันจะเป็นอย่างไร
terati20
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ยัง งงๆกับการขึ้นเงินเดือนราชการสูงๆ จะเอาเงินที่ไหนมาให้  


เเต่ยังชื่นชมที่เจ้าสัว ออกมาพูดอะไรบ้างอย่างน้อย ก็กระตุ้นใสห้รัฐบาลนี้ทำอะไรบ้าง

:wink:
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
artvr4
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 24

โพสต์

[quote="Radio"]เจ้าสัวมีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก
หุ้นนี่ เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต จริงๆ
AuI_a VI
Verified User
โพสต์: 413
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 25

โพสต์

[quote="Blueblood"]ให้คุณธนินท์เป็นนายกท่าจะดีแฮะ ...
Even Sir Isaac Newton loss in stock market

"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."

ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่  นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
Radio
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1339
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมเคยจำคำพูดของเจ้าสัวได้ เคยพูดไว้เกือบ 30 ปีที่แล้ว
ว่า  " เราไม่ต้องผลิตคนขึ้นมาหรอก เสียเวลาและเงินทุน
สู้เอาเงินไปซื้อตัวคนเก่งๆเลยดีกว่า" เป็นวิสัยทัศน์ที่เห็น
แก่ตัวสุดๆ  ความจริงบริษัทยักษ์ใหญ่ควรเสียสละผลิตคน
เพื่อความก้าวหน้าโดยส่วนรวมของประเทศชาติ  แต่กลับ
มีความคิดที่จะเอาเปรียบบริษัทอื่น ใช้วิธีซื้อคนเก่ง  
 หลังจากนั้นผมก็คิดในแง่ลบทันที ไม่ว่าเจ้าสัวพูดอะไร
ต้องมีความคิดที่จะเอาเปรียบคนอื่นเสมอ  ต้องตรอง
หลายๆตลบ
kit556
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 274
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 27

โพสต์

[quote="Radio"]ผมเคยจำคำพูดของเจ้าสัวได้ เคยพูดไว้เกือบ 30 ปีที่แล้ว
ว่า
Kritsada
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 28

โพสต์

กลายเป็นเรื่องบุคคลไปซะแล้ว เอาแนวคิดดีกว่าครับ เราว่าเป็นไปได้เป็นไปไม่ได้ยังไงกันบ้างครับ ?

เรื่องการทำธุรกิจ เนื่องจากผมไม่รู้จักคุณธนินท์เป็นการส่วนตัว จึงไม่รู้จะออกความเห็นยังไง (แต่ที่รู้แน่ๆคือหุ้นแกกินเงินแกยาก :P) แต่เรื่องระดับ operation อาจจะเป็นไปได้ที่ไม่ใช่ความคิดของท่านเจ้าสัวก็ได้ครับ เพราะเคยอ่านที่ไหนจำไม่ได้ว่าเค้าจะปล่อยให้ ceo ของเค้าคิดเองลองผิดลองถูกเองครับ ไม่งั้นจะเป็นเจ้าของธุรกิจเป็นแสนล้านจะเอาเวลาที่ไหนไปดูครับ ...

ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยครับ ด้วยความเคารพทุกความเห็นครับ :)
It's earnings that count
artvr4
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 29

โพสต์

Blueblood เขียน:กลายเป็นเรื่องบุคคลไปซะแล้ว เอาแนวคิดดีกว่าครับ เราว่าเป็นไปได้เป็นไปไม่ได้ยังไงกันบ้างครับ ?

เรื่องการทำธุรกิจ เนื่องจากผมไม่รู้จักคุณธนินท์เป็นการส่วนตัว จึงไม่รู้จะออกความเห็นยังไง (แต่ที่รู้แน่ๆคือหุ้นแกกินเงินแกยาก :P) แต่เรื่องระดับ operation อาจจะเป็นไปได้ที่ไม่ใช่ความคิดของท่านเจ้าสัวก็ได้ครับ เพราะเคยอ่านที่ไหนจำไม่ได้ว่าเค้าจะปล่อยให้ ceo ของเค้าคิดเองลองผิดลองถูกเองครับ ไม่งั้นจะเป็นเจ้าของธุรกิจเป็นแสนล้านจะเอาเวลาที่ไหนไปดูครับ ...

ผิดถูกยังไงชี้แนะด้วยครับ ด้วยความเคารพทุกความเห็นครับ :)
 เอ่อ  ขออภัย ความเห็นผมก็อาจจะ เป็นเรื่องส่วนตัวเจ้าสัวไป

แต่ หากจะว่าทฤษฎีแล้ว ผมว่า มันเป็นไปได้เฉพาะตอนราคาพืชผลมันสูงครับ   หากว่า ราคาต่ำ  ก็ตัวใครตัวมัน เจ้าสัวคงเอาตัวรอด ไม่ซื้อในราคาค้ำประกันเหมือนเดิม    หากว่าสินค้าขาดตลาดก็ดีไป แต่หากว่าล้นตลาด ก็ยากครับ สินค้าเกษตร ยังไงก็เอาไปเทียบกับน้ำมันไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้ น้ำมันมัน แพงหูตูบจริงๆ  พวกเกษตร เลยได้อานิสงค์

เอางี้

 สมมติไทย ผลิตข้าวได้ปีละ 10 ล้านตัน  กินในประเทศเหลือ ส่งออกปีละ 2ล้านตัน

  จีน ผลิตข้าวได้ 100 ล้านตัน  ไม่ค่อยเหลือส่งออก เรียกว่าผลิตพอเพียงกับในประเทศบริโภค

 เกิดปีนี้ ผลผลิต ข้าวโลกเติบโต 10%

 ไทย มีข้าวเพิ่ม1 ล้านตัน ส่งออก

แต่จีน เหลือข้าวจากการบริโภคในประเทศ 10 ล้านตัน   แค่จีน เอาข้าวในปีที่ผลผลิตดีเหลือเฟือ ออกสู่ตลาด ข้าวไทยก็ตายหยังเขียดแล้วครับ

ผมว่าทฤษฏีนี้ เป็นไปได้ตอนพืชผลขาดแคลนเท่านั้น (อ้อ ที่เปรียบเทียบนี่ผมเคยฟังนักวิชาการท่านนึงพูดครับ เค้าบอกว่าอย่าเน้นปริมาณ เน้นคุณภาพดีกว่า  ฯลฯ )

  ทฤษฎีที่ว่าเพิ่มเงินเดือน ข้าราชการ   ยังไง เจ้าสัวน่าจะลองก่อนโดยเพิ่มเงินเดือน ให้ ลูกจ้างพนักงานตัวเองก่อนน่าจะดีครับ   ทำเองก่อน ดีกว่ารอให้รัฐทำให้   เห็นใครก็บอกว่าทำงานกับเจ้าสัวเงินเดือนน้อยกว่าชาวบ้านเหมือนกัน

 บอกตรงๆ ผมก็อคติกับเจ้าสัวนะ  ญาติพ่อ ก็เป็นบอร์ด ของเจ้าสัว พวก อาแป๊ะ   นิสัย  เห็นแก่ได้ ทำนาบนหลังคนคล้ายเจ้าสัวเลย
หุ้นนี่ เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต จริงๆ
trainn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 69
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 30

โพสต์

เห็นด้วยบางส่วน และไม่เห็นด้วยบางส่วนครับ

เห็นด้วยที่ไม่ควรกดราคาผลผลิต เพื่อการเกษตร เพราะมันจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นจากเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้น

และควรวางยุทธศาสตร์การพัฒนาการเกษตร  ให้ชัดเจน ... พืชอะไรควรส่งเสริม พืชอะไรไม่ควรส่งเสริม
และทำการต่อยอดพืชที่มีศักยภาพ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างครบวงจร



แต่มุมมองเรื่องการเกษตร ของเจ้าสัวมีข้อเสียอยู่ที่ ใคไม่มีทุน ไม่มีที่ดิน และไม่มีความรู้ จะอยู่ไม่ได้ในภาวะที่อะไรๆ ก็แพงขึ้น

(ช่วยเหลือตัวเองให้รอด ดีที่สุดครับ )
ความล้มเหลว ให้การเรียนรู้ได้มากกว่า

ความสำเร็จ ...
โพสต์โพสต์