อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
- Akajon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 532
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 31
อายุ 18 นี่ น่าจะราวๆ มหาลัยรึเปล่า ถ้าอย่างนั้น ตั้งใจเรียน แล้วค่อยๆ ศึกษาการลงทุนไปเรื่อยๆ
ถ้ามีเวลาว่าง ก็สมัครงานแบบไม่ประจำ (part time) ทำไปพลาง เก็บเงินไปพลาง แล้วเราจะรู้ค่าของเงิน ที่เราหามาได้เองด้วย
ถ้าทนไม่ไหว อยากลงทุนจริงๆ ก็เปิด Port ในชื่อคนรู้จักที่ไว้ใจได้ ก็น่าจะโอเค แต่ต้องเป็นเงินเราหามาได้เองนะครับ อย่าขอพ่อ-แม่มาลอง เจ็บจะได้จำครับ 555 (แต่ถ้าทำได้ดี เราก็ยิ่งภูมิใจเลย)
สมัยเรียนมัวแต่ทำงานร้านอาหาร กับขายของบน eBay เรียนไม่รู้เรื่องเลย เรียนไปเรียนมา 8 ปี ถึงจบ ป.ตรี คนอื่นจบโท อายุ 24-25 เราอายุเกือบ 30 เพิ่งจะจบตรี
ถึงว่าตั้งใจเรียน แล้วหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ น่าจะได้ประโยชน์กว่าครับ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เข้าใจอะไร ก็เข้ามาสอบถามในนี้ได้ครับ
อย่าลืมตั้งใจเรียนนะครับ
ถ้ามีเวลาว่าง ก็สมัครงานแบบไม่ประจำ (part time) ทำไปพลาง เก็บเงินไปพลาง แล้วเราจะรู้ค่าของเงิน ที่เราหามาได้เองด้วย
ถ้าทนไม่ไหว อยากลงทุนจริงๆ ก็เปิด Port ในชื่อคนรู้จักที่ไว้ใจได้ ก็น่าจะโอเค แต่ต้องเป็นเงินเราหามาได้เองนะครับ อย่าขอพ่อ-แม่มาลอง เจ็บจะได้จำครับ 555 (แต่ถ้าทำได้ดี เราก็ยิ่งภูมิใจเลย)
สมัยเรียนมัวแต่ทำงานร้านอาหาร กับขายของบน eBay เรียนไม่รู้เรื่องเลย เรียนไปเรียนมา 8 ปี ถึงจบ ป.ตรี คนอื่นจบโท อายุ 24-25 เราอายุเกือบ 30 เพิ่งจะจบตรี
ถึงว่าตั้งใจเรียน แล้วหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ น่าจะได้ประโยชน์กว่าครับ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เข้าใจอะไร ก็เข้ามาสอบถามในนี้ได้ครับ
อย่าลืมตั้งใจเรียนนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 32
akekarat เขียน:เนื่องจากน้องกำลังเข้ามหาวิทยาลัย พูดตรง ๆ นะครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ ผมอยากให้น้องให้ความสำคัญกับ "การเรียน" ให้มากที่สุดครับ เว้นเสียแต่ว่าเหตุผลเดียวคือ น้องมีเงินลงทุน มากกว่า 2-4 ล้านบาท เป็นอย่างต่ำ เพราะอะไร?
1. ถ้าน้องคิดจะทำงานประจำ ไม่เปิดกิจการเองหลังจากเรียนจบ ในสังคมไทยปัจจุบัน เกรดมีความสำคัญมากครับ (อย่าคิดว่าก็แค่ตัวเลขบนกระดาษเชียว) โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าน้องไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัย top 3 ของสาขาที่จบมา เอาเวลาไปตั้งใจเรียน ทำเกรดให้ดี ๆ ได้งานดี ๆ จะเป็นตัวช่วย backup เราอย่างดีตอนที่เริ่มลงทุนเมื่อเรียนจบครับ (อย่าอ่าน rich dad มากจนมองว่างานประจำไม่สำคัญ สิ่งที่เราได้รับจากงาน มีมากกว่าเงินเดือนครับ)
2. ถ้าน้องเรียนจบมางานทำ สมมติว่า start 20,000 บาทต่อเดือน ก็ได้ปีละ 240,000 บาทต่อเดือน เทียบเท่ากับการลงทุนแบบ Value Investing ในระดับมาตรฐาน (15% ต่อปี) ที่ต้องมีเงินทุนอยู่ประมาณ 1,600,000 บาท ถามว่าตอนนี้น้องมีเงินลงทุนเท่าไหร่ คุ้มมั๊ยกับการทุ่มเวลาให้กับเรื่องการลงทุนมากกว่าการเรียน? คิดจะลงทุน ลอง weight ความสำคัญและผลตอบแทนดูครับ แล้วจะรู้ทางที่เราควรเดิน
สรุปง่าย ๆ ละกันว่า อย่าเพิ่งรีบร้อนลงทุน ตลาดหุ้นไม่หนีใครไปไหนครับ ตอนนี้ ตั้งใจเรียนก่อนดีกว่า ไว้ซักปี 3-4 ให้อายุ 20 ค่อยเริ่มก็ได้ สนุกกับชีวิตมหาลัยสองปีแรกและตั้งใจเรียนก่อนดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียดายเวลาแก่ ๆ แล้วย้อนกลับมาพูดว่า "รู้งี้ใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนดีกว่า" เงิน ฐานะไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตนะครับ
ชอบความเห็นนี้มากครับ มีแนวคิดที่เป็นระบบดีมากๆ
ขอเพิ่มเล็กน้อย คือ
1. หากพ่อแม่ไม่สนับสนุน อย่าไปขอเงินพ่อแม่มาซื้อหุ้นเด็ดขาดครับ ไม่งั้นต่อไปถ้าขาดทุน จะถูกยกมาเป็นข้ออ้างในการห้ามซื้อหุ้นไปตลอด
2. หากเงินต้นไม่ถึงหมื่น อาจจะยังน้อยไปครับ(อย่าหาว่าบั่นทอนกำลังใจเลยนะครับ แต่เฉพาะลงทุนค่าหนังสือที่ผมซื้อมาอ่านในช่วง2 ปีแรกของการลงทุน ก็ปาเข้าไป 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษมาหลายเล่ม)
ผมว่าหางานพิเศษทำดีกว่า แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือการเรียนครับ
การเรียนถือเป็นการลงทุนระยะยาวอย่างหนึ่งนะครับ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเสียด้วยสิ
3. อย่าได้คิดไปเล่น click2win , การแข่งขันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ผู้ชนะจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงอย่างมหาศาลแบบที่คนปกติไม่สามารถรับได้ เช่น ซื้อ warrant ที่ gearing สูงๆ จนเต็มพอร์ท คือสรุปแล้ว เป็นการฝึกให้เป็นนักเก็งกำไรครับ
4. ถ้าคันไม้คันมือมาก ให้เปิดพอร์ทจำลองกับ settrade.com ครับ ฟรี แต่ไม่คำนวนปันผลกะเครดิตภาษีให้เรานะ ต้องบวกเงินปันผลเข้าไปเอง
"Many shall be restored that are now fallen and many shall fall that are now in honor."
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 33
น้องตั้งใจเรียนก่อนนะ จะเล่าไรให้ฟัง
คือ 1 มหาลัย น้องต้องทํากิจกรรมเยอะนะ หากไม่ทําสังคมมหาลัยก็จะมองแปลกๆ และการลงทุนใช้เวลา ศึกษาหุ้น นานครับ
อย่าง จุฬา หอการค้า ม กรุงเทพ มธ เค้ามีกิจกรรมบังคับให้เราต้องทําให้ครบ 8 นะ ถ้าไม่ครบ ก็อาจมีปัญญหาเวลายื่นจบ
2 ก่อนลงทุนจริง พี่เคยเข้ารอบ ได้ รางวัล ของหุ้นสินธร นานมาแล้ว ด้วยการที่ซื้อหุ้น อย่าง ple ewc bnt เพราะไม่มีข้อมูลพื้นฐานแจก มีแตgraph กับราคา วิ่งๆ ส่วนประสบการณ นํามาใช้จริง ไม่ได้เลยครับ เพราะของจริง การวิเคราะห์ช่วยได้ เยอะครับ และไม่เหมือนเกมส์ เพราะในเกมส์เค้า
เวลา 1 วันเหมือน 1 เดือน ราคาหุ้น เค้ากําหนดเองหมด
3 เรียนมหาลัย เครียดครับ พี่คิดแบบน้องและลองเล่นหุ้นตอน ปี 3 แล้วต้องมาทํา เกรด กับ กิจกรรม อีก มันเหมือน รับศึก 3 ด้าน เหนื่อยครับ แถม
ไม่มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆมากนัก ยังนึกเสียดายอยู่เลย พอปี 4 พี่เลยเลิกเล่นหุ้นไปพักใหญ่ ทุ่ม เรียน กับเที่ยวบ้างครับ
4 หากทางบ้านเราไม่สนับสนุน เนื่องจากมองว่า พนันหรือ จิปาถะ เรายิ่งควรจะเรียนให้เยอะเพราะเราต้องเพิ่งตนเอง หาเงินมาลงทุนเอง อย่า ไปมอง คนที่พ่อแม่ให้เงินมา 5 10 ล้าน คือ พวกนั้นเค้า รวย ครับเงิน 5 10 เสียไป ทางบ้านเค้ามีกิจการ หาใหม่ได้
5 พี่มีเพื่อนๆหลายคนคล้ายน้องและเมื่อ จบ มหาลัยไปแล้ว เสียดาย ครับ
ย้อนกลับ ไม่ได้แล้วครับ เพราะใช้ชีวิต นศ ไม่เร้าใจ พอ กลางคืนสังสรรค์ ควรไปบ้างนะ
สรุป ลองชั่งนําหนักดูนะ ตัดสินใจดูนะ ถ้าเลือกแล้วก็ต้อง ยอมรับ ผลของมันนะ
โชคดีครับ
คือ 1 มหาลัย น้องต้องทํากิจกรรมเยอะนะ หากไม่ทําสังคมมหาลัยก็จะมองแปลกๆ และการลงทุนใช้เวลา ศึกษาหุ้น นานครับ
อย่าง จุฬา หอการค้า ม กรุงเทพ มธ เค้ามีกิจกรรมบังคับให้เราต้องทําให้ครบ 8 นะ ถ้าไม่ครบ ก็อาจมีปัญญหาเวลายื่นจบ
2 ก่อนลงทุนจริง พี่เคยเข้ารอบ ได้ รางวัล ของหุ้นสินธร นานมาแล้ว ด้วยการที่ซื้อหุ้น อย่าง ple ewc bnt เพราะไม่มีข้อมูลพื้นฐานแจก มีแตgraph กับราคา วิ่งๆ ส่วนประสบการณ นํามาใช้จริง ไม่ได้เลยครับ เพราะของจริง การวิเคราะห์ช่วยได้ เยอะครับ และไม่เหมือนเกมส์ เพราะในเกมส์เค้า
เวลา 1 วันเหมือน 1 เดือน ราคาหุ้น เค้ากําหนดเองหมด
3 เรียนมหาลัย เครียดครับ พี่คิดแบบน้องและลองเล่นหุ้นตอน ปี 3 แล้วต้องมาทํา เกรด กับ กิจกรรม อีก มันเหมือน รับศึก 3 ด้าน เหนื่อยครับ แถม
ไม่มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆมากนัก ยังนึกเสียดายอยู่เลย พอปี 4 พี่เลยเลิกเล่นหุ้นไปพักใหญ่ ทุ่ม เรียน กับเที่ยวบ้างครับ
4 หากทางบ้านเราไม่สนับสนุน เนื่องจากมองว่า พนันหรือ จิปาถะ เรายิ่งควรจะเรียนให้เยอะเพราะเราต้องเพิ่งตนเอง หาเงินมาลงทุนเอง อย่า ไปมอง คนที่พ่อแม่ให้เงินมา 5 10 ล้าน คือ พวกนั้นเค้า รวย ครับเงิน 5 10 เสียไป ทางบ้านเค้ามีกิจการ หาใหม่ได้
5 พี่มีเพื่อนๆหลายคนคล้ายน้องและเมื่อ จบ มหาลัยไปแล้ว เสียดาย ครับ
ย้อนกลับ ไม่ได้แล้วครับ เพราะใช้ชีวิต นศ ไม่เร้าใจ พอ กลางคืนสังสรรค์ ควรไปบ้างนะ
สรุป ลองชั่งนําหนักดูนะ ตัดสินใจดูนะ ถ้าเลือกแล้วก็ต้อง ยอมรับ ผลของมันนะ
โชคดีครับ
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 34
เห็นด้วยกับพี่ฉัตรครับ ถ้าประสงค์จะลงทุนหุ้นแล้วก็ควรจะมุ่งเน้นที่หุ้นเท่านั้น การไปลงกองทุนรวมจะให้ความรู้และประสบการณ์คนละเรื่องกันซึ่งมาใช้ด้วยกันไม่ได้ ไม่แน่ถ้ากองทุนขาดทุนก็ยิ่งไปกันใหญ่
ถ้าพร้อมแล้วสำหรับการลงทุนหุ้น ผมคาดว่าน่าจะสามารถอธิบายให้ทางบ้านเข้าใจกระจ่างแจ้งได้ (โดยเค้าเถียงไม่ขึ้น) นะครับ พร้อมตัวอย่างประกอบ ไม่เช่นนั้นแล้วเกิดขืนไปลงทุนแล้วขาดทุนเข้า ท่านพ่อท่านแม่คงอัดแน่ว่า "ก็บอกแล้วไง" :lol:
อายุ 18 ก็อ่อนกว่าพี่พอใจ 10 ปีเอง ว้าว... :8)
ถ้าพร้อมแล้วสำหรับการลงทุนหุ้น ผมคาดว่าน่าจะสามารถอธิบายให้ทางบ้านเข้าใจกระจ่างแจ้งได้ (โดยเค้าเถียงไม่ขึ้น) นะครับ พร้อมตัวอย่างประกอบ ไม่เช่นนั้นแล้วเกิดขืนไปลงทุนแล้วขาดทุนเข้า ท่านพ่อท่านแม่คงอัดแน่ว่า "ก็บอกแล้วไง" :lol:
อายุ 18 ก็อ่อนกว่าพี่พอใจ 10 ปีเอง ว้าว... :8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 443
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 35
อยากให้เปลี่ยนเกณฑ์เป็นอายุ 18 ปีเปิดบัญชีได้ เหมือนเกณฑ์เลือกตั้ง
เพราะเด็กเดี๋ยวนี้หัวไว ตอนลูกอายุ 5-6 ขวบก็รู้จัก BBL แล้ว พอโตขึ้นมาหน่อยยื่นหน้ามาดูกราฟ เห็นขีดๆอยู่ข้างล่างเยอะๆบอกว่านี่ซื้อขายเยอะ ฟังแล้วอึ้งเลยเพราะไม่เคยสอนลูก เข้าใจว่าคงจะแอบฟังพ่อแม่คุยกัน ตอนนี้อายุ 20 แล้วเลยเปิดบัญชีให้ในชื่อเขา ใช้เงินเขาเอง แต่แม่ดูแลให้
แนะนำให้แสดงความตั้งใจจริงให้พ่อแม่เห็น พ่อแม่ใจอ่อนกับลูกอยู่แล้ว
เปิดในชื่อเขา เขาจะได้ดูแลให้ด้วย
เพราะเด็กเดี๋ยวนี้หัวไว ตอนลูกอายุ 5-6 ขวบก็รู้จัก BBL แล้ว พอโตขึ้นมาหน่อยยื่นหน้ามาดูกราฟ เห็นขีดๆอยู่ข้างล่างเยอะๆบอกว่านี่ซื้อขายเยอะ ฟังแล้วอึ้งเลยเพราะไม่เคยสอนลูก เข้าใจว่าคงจะแอบฟังพ่อแม่คุยกัน ตอนนี้อายุ 20 แล้วเลยเปิดบัญชีให้ในชื่อเขา ใช้เงินเขาเอง แต่แม่ดูแลให้
แนะนำให้แสดงความตั้งใจจริงให้พ่อแม่เห็น พ่อแม่ใจอ่อนกับลูกอยู่แล้ว
เปิดในชื่อเขา เขาจะได้ดูแลให้ด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 140
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 36
ยังแนะนนำว่าเรียนให้จบก่อนแล้วกันครับ พี่เคยนะในอดีตตอนปี 3 มาเล่นหุ้นแบบเต็มตัว ซึ่งส่วนใหญ่ปี 3 นี่ก็จะเป็นปีที่โหดที่สุดในบรรดาทั้งหมด
ก็ทั้งเล่นหุ้น ทำกิจกรรม ทั้งเรียน สุดท้ายไม่รอดสักอย่าง
ก็เคยนะ วันไหนเห็นตลาดแดงๆ ต้องวิ่งเข้าห้องคอมไปดูจอเทรดแทนที่จะไปเข้าเรียน เคยโดดเรียนมาดูหุ้นจนเกือบจะไม่มีสิทธิ์สอบด้วยซ้ำ
คือจะบอกว่าซื้อหุ้นพื้นฐานดีลงทุนแบบ VI ก็ตามทีเถอะ แต่เวลาหุ้นแดงๆ นี่ใจปิ้วใจแป้วต้องมานั่งดูจอหาสาเหตุกันทั้งนั้นว่ามันลงเพราะอะไร อะไรทำให้มันลง
สุดท้ายเทอมนั้นเกรดได้อย่างอัปยศมากๆ จาก 3.2 + ลงเหลือ 2.1
ส่วนกิจกรรมนี่ บางทีกิจกรรมที่ภาคเค้านัดกันตอนกลางวันเราก็ขอเวลาไปนั่งดูหุ้น ไปนั่งอ่านหาข้อมูล สรุปเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในห้องคอม เพื่อนหายเกลี้ยง - -"
ส่วนเรื่องการลงทุนในหุ้น
ก็สุดบรรยายเช่นกันครับ เพราะตอนนั้น กิจกรรมก็จะทำ เรียนก็เรียนหนัก (สมัยนั้นวิทยาศาสตร์เคมี ปี 3 แลป 4 ตัว เขียนรายงานหัวฟูเลยครับ - -")
แถมมาดูหุ้น สุดท้ายได้ข้อมูลแบบโหลยโท่ย หรือเพราะเราวิเคราะห์ไม่ดีเอง ได้หุ้นปั่นไปเชยชม
สุดท้ายเทอมนั้นจบลงที่คราบน้ำตา เกรดตก พอร์ตแดง แฟนทิ้ง โอ้ละหนอชีวิต เฮ้อ สุดท้ายก็เลยกลั้นใจเรียนให้จบก่อนแล้วถึงค่อยมาลุยหุ้น
คือนี่พี่มาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอมานะครับ ว่าสมัยก่อนพี่เข้ามาเล่นหุ้นแบบเต็มตัวทั้งๆที่ยังเรียนอยู่แล้วผลออกมาเป็นเช่นไร
ก็ทั้งเล่นหุ้น ทำกิจกรรม ทั้งเรียน สุดท้ายไม่รอดสักอย่าง
ก็เคยนะ วันไหนเห็นตลาดแดงๆ ต้องวิ่งเข้าห้องคอมไปดูจอเทรดแทนที่จะไปเข้าเรียน เคยโดดเรียนมาดูหุ้นจนเกือบจะไม่มีสิทธิ์สอบด้วยซ้ำ
คือจะบอกว่าซื้อหุ้นพื้นฐานดีลงทุนแบบ VI ก็ตามทีเถอะ แต่เวลาหุ้นแดงๆ นี่ใจปิ้วใจแป้วต้องมานั่งดูจอหาสาเหตุกันทั้งนั้นว่ามันลงเพราะอะไร อะไรทำให้มันลง
สุดท้ายเทอมนั้นเกรดได้อย่างอัปยศมากๆ จาก 3.2 + ลงเหลือ 2.1
ส่วนกิจกรรมนี่ บางทีกิจกรรมที่ภาคเค้านัดกันตอนกลางวันเราก็ขอเวลาไปนั่งดูหุ้น ไปนั่งอ่านหาข้อมูล สรุปเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในห้องคอม เพื่อนหายเกลี้ยง - -"
ส่วนเรื่องการลงทุนในหุ้น
ก็สุดบรรยายเช่นกันครับ เพราะตอนนั้น กิจกรรมก็จะทำ เรียนก็เรียนหนัก (สมัยนั้นวิทยาศาสตร์เคมี ปี 3 แลป 4 ตัว เขียนรายงานหัวฟูเลยครับ - -")
แถมมาดูหุ้น สุดท้ายได้ข้อมูลแบบโหลยโท่ย หรือเพราะเราวิเคราะห์ไม่ดีเอง ได้หุ้นปั่นไปเชยชม
สุดท้ายเทอมนั้นจบลงที่คราบน้ำตา เกรดตก พอร์ตแดง แฟนทิ้ง โอ้ละหนอชีวิต เฮ้อ สุดท้ายก็เลยกลั้นใจเรียนให้จบก่อนแล้วถึงค่อยมาลุยหุ้น
คือนี่พี่มาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเจอมานะครับ ว่าสมัยก่อนพี่เข้ามาเล่นหุ้นแบบเต็มตัวทั้งๆที่ยังเรียนอยู่แล้วผลออกมาเป็นเช่นไร
- เจก
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 37
เปิดไปเลยครับ ให้พ่อหรือแม่เซ็นค้ำประกันครับ ผมก็เปิดตอนอายุ ๑๘ (แต่จริงๆลงทุนมาก่อนหน้านี้โดยใช้พอร์ตพ่อ คือซื้อขายก็โทรบอกพ่อ แต่พ่อรำคาญ เขาเลยติดต่อโบรคแล้วเปิดบช.ในชื่อผม) แต่นี่หลายปีมาแล้ว ไม่ทราบว่าเขาเปลี่ยนกฏเกณฑ์หรือยัง
ไอ้เรื่องเรียน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มีหลายๆอย่างทำ ไม่เบื่อดี ทั้งเรียน ทั้งหุ้น ทั้งเที่ยว ทั้งกิจกรรม ทั้งกิ๊ก โอ๊ย สนุกจะตาย แต่ยังไงก็ต้องแบ่งเวลาให้ถูกละกัน
ในความคิดผม อยากลงทุน เอาเลยครับ ไม่รอต้องเรียนให้จบหรอกครับ แต่เน้นว่าลงทุนนะ ไม่ใช่เล่นหุ้น
เจก
ไอ้เรื่องเรียน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มีหลายๆอย่างทำ ไม่เบื่อดี ทั้งเรียน ทั้งหุ้น ทั้งเที่ยว ทั้งกิจกรรม ทั้งกิ๊ก โอ๊ย สนุกจะตาย แต่ยังไงก็ต้องแบ่งเวลาให้ถูกละกัน
ในความคิดผม อยากลงทุน เอาเลยครับ ไม่รอต้องเรียนให้จบหรอกครับ แต่เน้นว่าลงทุนนะ ไม่ใช่เล่นหุ้น
เจก
- mineknight
- Verified User
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 38
เห็นกระทู้ตอนแรกตกใจ โห้...เด็กไทย ด้วยวัยแค่นี้สามารถคิดอะไรได้ไกลดี (ตัวเองตอน 18 ยังเย้วๆ สนุกไปวันๆเอง) ดีใจครับ อยากเห็นเด็กไทยมีความคิดอะไรดีๆ อย่างนี้มากๆ
แต่ก็ด้วยความคิดกับความจริง มันมักไม่ได้ไปในทางเดียวกัน ซึ่งในหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้ให้มุมมองมากมายกับน้องแล้ว แต่อีกหนึ่งอย่างที่อยากฝากน้องไว้ก็คือ ความรับผิดชอบครับ
พี่ไม่ห่วงหรอกว่าน้องจะไปลงทุนอย่างไร(จะเปิดพอร์ตอย่างไร จะลงทุนด้วยวิธีไหน อย่างไร เพราะมันมีวิธีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะบอกผู้ปกครองหรือไม่) แต่ที่สนใจคือ น้องสามารถรับผิดชอบสิ่งที่กำลังจะทำได้หรือไม่ เช่น
1.น้องสามารถรับผิดชอบเรื่องการเรียนได้หรือไม่ น้องสามารถแบ่งเวลาอ่านหนังสือ ทบทวน ทำรายงานต่างๆได้หรือไม่
2.น้องสามารถรับผิดชอบต่อเวลาทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยและคณะได้หรือไม่ เหมืองที่หลายๆคนบอก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ขณะเรียนอยู่คือการทำกิจกรรม ได้เพื่อน ได้ประสบการณ์ ได้แฟน หากน้องผ่านชีวิตมหา'ลัย โดยปราศจากกิจกรรม นับว่าเสียดายมาก
3.ความรับผิดชอบต่อการศึกษาหาความรู้ต่อการลงทุน น้องสามารถแบ่งเวลามาศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนได้หรือไม่อย่างไร
4.ความรับผิดชอบต่อแฟนๆ (ถ้าไม่มีก็ผ่านข้อนี้นะ อิอิ เสียดายๆ) ข้อนี้ไม่สำคัญเท่าไรหรอกครับ ถ้ามีก็แค่เวลาร้อยละ 80 อาจจะหายไป (ยอมให้เวลาหายไปอย่างไม่เสียดาย) ยิ่งตอนอกหัก โห้.... อืมๆ ข้อนี้ไ้ร้สาระนะน้อง :oops:
และยังมีอีกหลายๆ ข้อที่ต้องคำนึง แต่นี้ก็ไม่ใช่การห้ามหรืออย่างไร เพียงแค่อยากให้น้องทบทวนสิ่งที่กำลังจะทำ หาน้องสามารถทำได้(ไม่ใช่แค่บอกว่าจะทำนะ) ถ้าทำไ้ด้จริงๆ ก็ถือว่าน้องเป็นผู้ใหญ่คนนึงล่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรจะมาห้ามครับ การลงทุนประสบการณ์สำคัญครับ การที่เริ่มต้นเร็ว อาจจะมีประโยชน์ต่อการลงทุนในอนาคตได้(ด้วยวัยและทุนแค่นี้ ก็อย่างเพิ่งไปหวังรวยอะไรนะครับ ช่วงนี้เอาประสบการณ์ไปก่อน รวยอะเมื่อไรก็รวยได้ )
สุดท้ายก็เอาใจช่วยนะครับ เชื่อว่าน้องสามารถแบ่งเวลาและรับผิดชอบสิ่งที่ทำได้ และชีวิตมหา'ลัย มีความทรงจำมากมาย อย่าทิ้งมันไปล่ะ เก็บเกี่ยวไว้เยอะ เพราะเวลามันไม่สามารถย้อนกลับไปได้
แต่ก็ด้วยความคิดกับความจริง มันมักไม่ได้ไปในทางเดียวกัน ซึ่งในหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้ให้มุมมองมากมายกับน้องแล้ว แต่อีกหนึ่งอย่างที่อยากฝากน้องไว้ก็คือ ความรับผิดชอบครับ
พี่ไม่ห่วงหรอกว่าน้องจะไปลงทุนอย่างไร(จะเปิดพอร์ตอย่างไร จะลงทุนด้วยวิธีไหน อย่างไร เพราะมันมีวิธีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะบอกผู้ปกครองหรือไม่) แต่ที่สนใจคือ น้องสามารถรับผิดชอบสิ่งที่กำลังจะทำได้หรือไม่ เช่น
1.น้องสามารถรับผิดชอบเรื่องการเรียนได้หรือไม่ น้องสามารถแบ่งเวลาอ่านหนังสือ ทบทวน ทำรายงานต่างๆได้หรือไม่
2.น้องสามารถรับผิดชอบต่อเวลาทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยและคณะได้หรือไม่ เหมืองที่หลายๆคนบอก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ขณะเรียนอยู่คือการทำกิจกรรม ได้เพื่อน ได้ประสบการณ์ ได้แฟน หากน้องผ่านชีวิตมหา'ลัย โดยปราศจากกิจกรรม นับว่าเสียดายมาก
3.ความรับผิดชอบต่อการศึกษาหาความรู้ต่อการลงทุน น้องสามารถแบ่งเวลามาศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนได้หรือไม่อย่างไร
4.ความรับผิดชอบต่อแฟนๆ (ถ้าไม่มีก็ผ่านข้อนี้นะ อิอิ เสียดายๆ) ข้อนี้ไม่สำคัญเท่าไรหรอกครับ ถ้ามีก็แค่เวลาร้อยละ 80 อาจจะหายไป (ยอมให้เวลาหายไปอย่างไม่เสียดาย) ยิ่งตอนอกหัก โห้.... อืมๆ ข้อนี้ไ้ร้สาระนะน้อง :oops:
และยังมีอีกหลายๆ ข้อที่ต้องคำนึง แต่นี้ก็ไม่ใช่การห้ามหรืออย่างไร เพียงแค่อยากให้น้องทบทวนสิ่งที่กำลังจะทำ หาน้องสามารถทำได้(ไม่ใช่แค่บอกว่าจะทำนะ) ถ้าทำไ้ด้จริงๆ ก็ถือว่าน้องเป็นผู้ใหญ่คนนึงล่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรจะมาห้ามครับ การลงทุนประสบการณ์สำคัญครับ การที่เริ่มต้นเร็ว อาจจะมีประโยชน์ต่อการลงทุนในอนาคตได้(ด้วยวัยและทุนแค่นี้ ก็อย่างเพิ่งไปหวังรวยอะไรนะครับ ช่วงนี้เอาประสบการณ์ไปก่อน รวยอะเมื่อไรก็รวยได้ )
สุดท้ายก็เอาใจช่วยนะครับ เชื่อว่าน้องสามารถแบ่งเวลาและรับผิดชอบสิ่งที่ทำได้ และชีวิตมหา'ลัย มีความทรงจำมากมาย อย่าทิ้งมันไปล่ะ เก็บเกี่ยวไว้เยอะ เพราะเวลามันไม่สามารถย้อนกลับไปได้
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 39
ในฐานะรุ่นพี่ พี่ขอ share ประสบการณ์ให้รุ่นน้องก็แล้วกันนะคับ ^^
ตอนนั้นพี่อายุประมาณ 16-17 พี่ก็เคยขอให้แม่พี่เปิดพอร์ตให้
เหมือนกัน แม่พี่ก็ไม่ยอมเหมือนน้องนี่แหละ แต่พี่ก็ไม่เคยท้อ
สุดท้าย แม่พี่ก็ใจอ่อน ย่อมจนได้ (คุยกันประมาณ 6 เดือน)
ไม้เด็ดเลยคือ พี่บอกแม่ไปว่า เงินที่ไปลงทุนทั้งหมด
เป็นเงินพี่เอง พี่จะไม่แตะเงินแม่พี่เลยซักบาท และถ้ามีอะไรเกิด
ขึ้น พี่จะรับผิดชอบเองทั้งหมด (ตอนนั้นไม่รู้กินดีหมีมาจากไหน พูดไปได้:lol:)
แล้วก็ สิ่งสำคัญ นะคับ คือ ต้องคุยกันด้วยเหตุผล
และที่สำคัญ ต้องอดทน ใจเย็นๆ ค่อยอธิบายให้ทางบ้านเขาใจ
ถ้า เค้ามีคำถามอะไรก็ตาม ที่เราตอบไม่ได้ เราต้องหาคำตอบ
มาอธิบายให้ได้ ตอนนั้นพี่ โดนคำถาม เรื่องสัญญารับฝากใบหุ้น
พี่ตอบไม่ได้ แต่พี่ก็บอกไปว่า ขอเวลา 1 วัน เดี๋ยวมาตอบให้
ก็ประมาณนี้แหละ แต่ตอนนั้น พี่ศึกษาเรื่องหุ้นมา ประมาณ 2-3 ปีแล้ว
ก็เลยพอจะเถียงกับทางบ้านได้บ้าง
แต่ถ้าถามความเห็นพี่นะ
พี่อยากจะบอกว่า ถ้าไม่พร้อมจริงๆ น้องอย่าเพิ่งเริ่มเลย
ทำตามคำแนะนำที่พี่ๆในบอร์ดแนะนำดีกว่านะ
เพราะ ของจริง เราต้องหนักแน่นพอ แต่ถ้าน้องมั่นใจ พี่ก็ไม่ห้าม
แต่พี่ขอเตือนไว้อย่างหนึ่งนะว่า ชีวิตจริง มันไม่เหมือน ในเกมส์
ที่มี saveload ถ้าเราพลาด เราก็แค่โหลดเกมส์ เล่นใหม่
แต่ของจริง คือ พลาดแล้ว พลาดเลย เราไม่สามารถหวนคืนได้
ทำได้อย่างเดียว คือ จำมันไว้เป็นบทเรียน และ ไม่เดินซ้ำรอยเดิม เท่านั้น
แต่พี่ ก็ดีใจนะ ที่เห็นน้อง เด็กรุ่นใหม่ มีความใฝ่รู้ในเรื่องเหล่านี้
และพี่อยากจะบอกว่า สมัยนี้ น้องสามารถหาความรู้ด้านนี้ ร่วมกับ
การทำกิจกรรมในมหาลัยควบคู่ไปได้ เพราะในมหาวิทยาลัย
หลายที่ จะมีชมรมนักลงทุนรุ่นใหม่อยู่ น้องสามารถสมัครเข้า
ชมรมแล้ว ขอคำแนะนำจากพวกๆรุ่นพี่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุนนะ
เรื่องอื่นๆ ทั้งการเรียน กิจกรรม ฯลฯ ได้หมด อย่างตอนนี้พี่ทำ
ชุมนุมนักลงทุน อยู่ที่ ม.เกษตร (ถ้าน้องเข้า KU ก็ลองมาปรึกษาพี่ก็ได้)
ก็มีน้องๆ หลายคนมาปรึกษาเรื่องพวกนี้เหมือนกัน
พี่ก็ถามกลับไปทุกคนว่า "น้องพร้อมแล้วหรอ" ถ้ายังไม่พร้อม
พี่ก็จะแนะนำไปว่า สิ่งที่น้องทำสำหรับการเริ่มต้น น้องเริ่มสะสม
2 อย่าง อย่างแรก คือ สะสมเงิน เริ่มจากการออม เพื่อเป็นทุนสำหรับการลงทุน
สองคือ สะสมความความรู้ หรือ ทุนทางปัญญา โดยการหาความรู้
เช่นอ่านหนังสือ เว็บไซบ์ หรือปรึกษาผู้รู้ เหมือนอย่างที่น้องทำตอนนี้
และเมื่อน้องมี พร้อมทั้งสองอย่าง
ทั้งทุนทางการเงิน และ ทุนทางปัญญา
เมื่อนั้นแหละ คือ เวลาที่น้องจะเริ่มลงทุน
ปล. ถ้าน้องอยากปรึกษาอะไร ก็ออน m มาคุยกันได้ นี่เมลล์พี่
[email protected]
ประสบการณ์ตรงเลยคับ1. ใช้ชื่อพ่อ-แม่ ในการเปิดพอร์ต เพื่อสะสมหุ้นไปเรื่อยๆ ครับ
- แต่ผมควรจะขอ,อ้อน พ่อ-แม่ ยังไงดีครับ - -'
ตอนนั้นพี่อายุประมาณ 16-17 พี่ก็เคยขอให้แม่พี่เปิดพอร์ตให้
เหมือนกัน แม่พี่ก็ไม่ยอมเหมือนน้องนี่แหละ แต่พี่ก็ไม่เคยท้อ
สุดท้าย แม่พี่ก็ใจอ่อน ย่อมจนได้ (คุยกันประมาณ 6 เดือน)
ไม้เด็ดเลยคือ พี่บอกแม่ไปว่า เงินที่ไปลงทุนทั้งหมด
เป็นเงินพี่เอง พี่จะไม่แตะเงินแม่พี่เลยซักบาท และถ้ามีอะไรเกิด
ขึ้น พี่จะรับผิดชอบเองทั้งหมด (ตอนนั้นไม่รู้กินดีหมีมาจากไหน พูดไปได้:lol:)
แล้วก็ สิ่งสำคัญ นะคับ คือ ต้องคุยกันด้วยเหตุผล
และที่สำคัญ ต้องอดทน ใจเย็นๆ ค่อยอธิบายให้ทางบ้านเขาใจ
ถ้า เค้ามีคำถามอะไรก็ตาม ที่เราตอบไม่ได้ เราต้องหาคำตอบ
มาอธิบายให้ได้ ตอนนั้นพี่ โดนคำถาม เรื่องสัญญารับฝากใบหุ้น
พี่ตอบไม่ได้ แต่พี่ก็บอกไปว่า ขอเวลา 1 วัน เดี๋ยวมาตอบให้
ก็ประมาณนี้แหละ แต่ตอนนั้น พี่ศึกษาเรื่องหุ้นมา ประมาณ 2-3 ปีแล้ว
ก็เลยพอจะเถียงกับทางบ้านได้บ้าง
แต่ถ้าถามความเห็นพี่นะ
พี่อยากจะบอกว่า ถ้าไม่พร้อมจริงๆ น้องอย่าเพิ่งเริ่มเลย
ทำตามคำแนะนำที่พี่ๆในบอร์ดแนะนำดีกว่านะ
เพราะ ของจริง เราต้องหนักแน่นพอ แต่ถ้าน้องมั่นใจ พี่ก็ไม่ห้าม
แต่พี่ขอเตือนไว้อย่างหนึ่งนะว่า ชีวิตจริง มันไม่เหมือน ในเกมส์
ที่มี saveload ถ้าเราพลาด เราก็แค่โหลดเกมส์ เล่นใหม่
แต่ของจริง คือ พลาดแล้ว พลาดเลย เราไม่สามารถหวนคืนได้
ทำได้อย่างเดียว คือ จำมันไว้เป็นบทเรียน และ ไม่เดินซ้ำรอยเดิม เท่านั้น
แต่พี่ ก็ดีใจนะ ที่เห็นน้อง เด็กรุ่นใหม่ มีความใฝ่รู้ในเรื่องเหล่านี้
และพี่อยากจะบอกว่า สมัยนี้ น้องสามารถหาความรู้ด้านนี้ ร่วมกับ
การทำกิจกรรมในมหาลัยควบคู่ไปได้ เพราะในมหาวิทยาลัย
หลายที่ จะมีชมรมนักลงทุนรุ่นใหม่อยู่ น้องสามารถสมัครเข้า
ชมรมแล้ว ขอคำแนะนำจากพวกๆรุ่นพี่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุนนะ
เรื่องอื่นๆ ทั้งการเรียน กิจกรรม ฯลฯ ได้หมด อย่างตอนนี้พี่ทำ
ชุมนุมนักลงทุน อยู่ที่ ม.เกษตร (ถ้าน้องเข้า KU ก็ลองมาปรึกษาพี่ก็ได้)
ก็มีน้องๆ หลายคนมาปรึกษาเรื่องพวกนี้เหมือนกัน
พี่ก็ถามกลับไปทุกคนว่า "น้องพร้อมแล้วหรอ" ถ้ายังไม่พร้อม
พี่ก็จะแนะนำไปว่า สิ่งที่น้องทำสำหรับการเริ่มต้น น้องเริ่มสะสม
2 อย่าง อย่างแรก คือ สะสมเงิน เริ่มจากการออม เพื่อเป็นทุนสำหรับการลงทุน
สองคือ สะสมความความรู้ หรือ ทุนทางปัญญา โดยการหาความรู้
เช่นอ่านหนังสือ เว็บไซบ์ หรือปรึกษาผู้รู้ เหมือนอย่างที่น้องทำตอนนี้
และเมื่อน้องมี พร้อมทั้งสองอย่าง
ทั้งทุนทางการเงิน และ ทุนทางปัญญา
เมื่อนั้นแหละ คือ เวลาที่น้องจะเริ่มลงทุน
ปล. ถ้าน้องอยากปรึกษาอะไร ก็ออน m มาคุยกันได้ นี่เมลล์พี่
[email protected]
-
- Verified User
- โพสต์: 280
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 40
จากประสบการณ์จริง
ผมก็เปิดแบบแรกครับ ตอนอายุ 18 ปี ตอนนั้นเข้าปี 1 แล้ว
เปิดไม่ได้ ก็ใช้ชื่อแม่เปิด พูดกับท่านๆ ดี บอกเหตุผลแล้วกระบวนการ
ในการลงทุน ว่าเราใช้เงินออมของเรา ไม่ได้เป็นหนี้เป็นสินใครมาลงทุน
แล้วถ้าเลวล้มเหลว เราจะไม่เป็นหนี้ เราแค่เป็นศูนย์
ที่สำคัญเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย คือให้ท่านทำน้อยที่สุด (แค่เซ็นต์เอกสารอย่างเดียว)
ที่เหลือเรายืนกรอกรายละเอียดให้เสร็จ โอนเงินฝาก ก็ทำเองได้เลย
ผมทำแบบนี้ ทะยอยเติมเงินๆ ปีละหมื่นกว่าๆ
ครบสี่ปี จบแล้วมีงานทำก็ปันเงินเดือนไปออมไว้ในหุ้น
ช่วงเรียนก็อ่านหนังสือเยอะๆ เข้าเวป อัพเดทข่าว
ดูการคิดของพี่ๆ แต่ละคน อ่านและคิดเยอะๆ
ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ครับ
เริ่มต้นเร็วก็ดีนะครับ
กว่าผมจะตั้งหลักได้ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ก็เรียนปีสามนั่นแหละ
ทุกวันนี้เรียนจบทำงานมาปีนึงแล้ว
ชือ่บัญชีในพอรต์ยังเป็นชือ่คุณแม่อยู่เลยครับ
โชคดีนะครับ
ผมก็เปิดแบบแรกครับ ตอนอายุ 18 ปี ตอนนั้นเข้าปี 1 แล้ว
เปิดไม่ได้ ก็ใช้ชื่อแม่เปิด พูดกับท่านๆ ดี บอกเหตุผลแล้วกระบวนการ
ในการลงทุน ว่าเราใช้เงินออมของเรา ไม่ได้เป็นหนี้เป็นสินใครมาลงทุน
แล้วถ้าเลวล้มเหลว เราจะไม่เป็นหนี้ เราแค่เป็นศูนย์
ที่สำคัญเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย คือให้ท่านทำน้อยที่สุด (แค่เซ็นต์เอกสารอย่างเดียว)
ที่เหลือเรายืนกรอกรายละเอียดให้เสร็จ โอนเงินฝาก ก็ทำเองได้เลย
ผมทำแบบนี้ ทะยอยเติมเงินๆ ปีละหมื่นกว่าๆ
ครบสี่ปี จบแล้วมีงานทำก็ปันเงินเดือนไปออมไว้ในหุ้น
ช่วงเรียนก็อ่านหนังสือเยอะๆ เข้าเวป อัพเดทข่าว
ดูการคิดของพี่ๆ แต่ละคน อ่านและคิดเยอะๆ
ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ครับ
เริ่มต้นเร็วก็ดีนะครับ
กว่าผมจะตั้งหลักได้ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ก็เรียนปีสามนั่นแหละ
ทุกวันนี้เรียนจบทำงานมาปีนึงแล้ว
ชือ่บัญชีในพอรต์ยังเป็นชือ่คุณแม่อยู่เลยครับ
โชคดีนะครับ
- LeoNiDas
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
-*-
โพสต์ที่ 41
น้องครับ *โดยส่วนตัว*น่ะ อันดับแรก หาที่เรียน ก่อน ต้องเป็น ม ที่ดีๆหน่อย
พอได้เสร็จเนี่ย เทอมแรกทำเกรด ให้ห่วยสุดๆ แบบ รีทาย 1.5 ทำเกรด 1.6ห้ามติด F เดียวไม่ได้เกียรตินิยม
พอเข้าเทอม 2 โชพลัง อัพเกรดขึ้นมา แต่อย่าขึ้นมาก ไล่เกรดมาเรื่อยๆให้จบ 3.00 อัพ ก็ok และทำได้ ห้ามทำเกรดมีความผันผวนสูง ห้ามขึ้นลง ให้ทำแบบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แลดูมีอนาคตที่สดใสรออยู่
ทำไมทำแบบนี้??
น้องจะได้แสดงศักยภาพ ว่าลงได้ ก็ขึ้นได้ (มันจะเท่กว่า 3.5 แล้วเหลือ1.5 )
2. น้องจะเสียวมากในเทอมแรก (ทริกแนะนำ ห้ามลง เกิน 30 หน่วย ในปีแรกเพราะรีทายส่วนใหญ่จะนับหลัง30หน่วย **อ่านในคู่มือที่แจกตอนเข้าเรียนด้วย)
3.มันจะดูเป็นว่าน้องมีการพัฒนา (ทั้งๆที่เป็นแผนสุดโฉด)
4.ผลพ่วงความเชื่อมั่น โอกาสขอตังลงทุนได้มากกว่าครับ(ลองคิดเล่นๆ ถ้า4.00 พอได้ตังลงทุนเกรด เหลือ 3.5 เงินลงทุนน้องจะถูกสั่งเก็บในทันตา)
5.อีกอย่างที่สำคัญคือทำให้เห็นว่าเราทำได้ (พี่ลงแข่งC2W แล้วเกือบได้รางวัล-*-ไปติดสัปดาห์สุดท้าย) จะยิ่งเรียกความเชื่อมั่นจากผู้ปกครองได้อีกมากโข
ตอนนี้ก็ลงของจริงอยู่ บอกได้อย่างเดียวว่าไม่ต่างกันมาก แต่สิ่งที่ต่างไปคือความมั่นใจ จากเคยมั่นใจ100 เหลือ 50 นี้ก็หรูแล้ว ไหนโบรกจะมาบอกให้เกิดความไม่แน่ใจ จากไร้ศาสนาเลยเข้าหาพระเจ้า และสมาธิแบบพุทธ วิธีข้างต้นอาจโฉดไปหน่อย แต่วันที่น้องยืนได้มันเจ๋งมาก เงินลงทุนจะถูกอัดเข้ามาเรื่อยๆ ตามความสามารถและความเชื่อมั่น (ทำได้เจ๋งเงินก็จะเข้ามาอีก)
พี่จะลงทุนตั้งแต่ ม.4แล้ว -*- โดนลากมา 5-6ปี ได้ลงตอนปี 3 อายุ20ปี 11 เดือน เพราะที่บ้าน และญาติพี่น้อง เพื่อน ไม่มีคนเล่นหุ้นสักคน กว่าจะทำความเชื่อมั่นได้ใช้เวลานานมักๆ ตอนนี้ก็เพิ่งขึ้นปี4 (ตั้งแต่ร่ายมา เหมือน เล่นมานานนับ20ปี) ห้ามลงทุนตอนปี1เป็นอันขาด อันดับแรก เชื่อมั่นน้อย = ได้เงินน้อยไปด้วย ช่วงนี้ต้องมีเพื่อน และหาเพื่อนไว้มากๆ ถ้าเกิดเจอเพื่อนที่เล่นหุ้นด้วยจะเล่นได้สบายใจมากขึ้นเพราะมีคนคุยด้วย และเพื่อนไว้ทำงานกลุ่ม-*-
ประโยคเด็ดใช้เป็นไม้ตาย ยามขาดทุน หรือ ยังไม่ได้เงินทุน
*ส่งเรียนหมดเป็นล้าน ได้เพียงแค่การจำลองสังคมในรูปแบบของโรงเรียน แต่นี้ลงทุน ของจริง ไม่มีปราณี ไม่มีคำว่าเด็ก ดีกว่าฝึกงานซึ่งจะได้ไปแบกน้ำ ไปจัดสมุดบัญชี ด้วยเงินเพียงเล็กน้อย จะได้เจอกับของจริง เจ็บปวดจริง ความกดดัน ที่ถล่มเข้ามา ที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอ โอ้..เย่-*-
*ขาดทุนเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำลายความฝันผมได้หลอกT-T
*พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
*ท่านแม่ ฝากธนาคารให้ดอกน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ท่านแม่ไม่น่าให้คนอื่นใช้ตังของเรา ให้ผมใช้ดีกว่า555+
*ดีกว่าซื้อรถน่า.... เพราะรถมันก็ลด
*พลังจงอยู่กับท่าน
อีกนิดคือ หาสไตให้เจอ พี่เป็นสายโมเมนตั้มแอบVIเล็กน้อยเพื่อความมั่นใจและสบายใจ
สุดท้าย
-จงเรียนรู้ให้หมด แล้วลืมทุกอย่าง หาเส้นทางของตนเอง(คมบาดใจ)
-เข้าให้ไว ไปให้เร็ว เผ่นกระจาย คลายกังวล คนกันเอง แล้วทำไมขาดทุน
-หาได้แล้วใช้บ้าง อย่า งก อย่าทำงานหาเงิน แต่ให้เงินหาเงิน
-หุ้นเศษตัง มันมาก ไม่ค่อยมีเนื้อ ระวังอ้วน หรือโรค
-ครอบครัวต้องมาก่อน หุ้นอย่าไปดูมันมาก มันกินสมอง
-ทำตามแผน แผนควรมีแผนสำรอง 2-3 ขั้นเสมอ
-เงินทองนะของมายา ข้าวปลาสิของจริง
-ขอเงินลงทุนให้สมเหตุผล ถ้าจะให้ดี จ่ายดอกเบี้ยให้ท่านผู้ปกครองด้วย (พี่จ่ายร้อยล่ะ6 แพงมัก-*- ทำกันได้)
-นั่งหน้าคอมมาก สายตาเสีย
-ถึงมีบัญชีอินเตอเน็ท ก็สามารถไปเทรดในห้องค้าได้ กล้าๆหน่อย ถึงแม้จะมีแต่อาแปะ ลองตามอาแปะบ้างครั้งจะรู้ว่าเก๋าเกมเป็นไง (ได้กินของฟรีกะพี่มาร์สุดฉวย แค่คิดก็จี๊ดเลย)
-เรียน ร.ด. ด้วย ตอนเป็นทหารเกณท์ มันเล่นหุ้นไม่ได้(โอ้...เย่ เรียนไปแล้ว)
-ห้ามเดินเล่นคนเดียวแถว 3 จ. ชายแดนภาคใต้
-No nominee ยกเว้น เล่นแบบยืมตัง(จะตื่นเต้นเป็น2เท่า)
-อย่าเชื่อที่บอก ไปคิดแล้วทำเอง
***อย่าลืม ทำให้เชื่อได้ว่าทำได้ ถ้าไม่ได้แปลว่าน้องไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้ใจ ที่สำคัญอีกอย่างคือ ห้ามโกหก เพราะมันเสียเคดิส***ทำได้จริงไม่จริงว่ากันทีหลังเอาตังออกมาให้ได้ก่อนจะได้ลองว่าความมันส์ เป็นอย่างไร...(จะบาปไหมเนี่ยสอนให้ลูกเขามีแผนร้าย)
พอได้เสร็จเนี่ย เทอมแรกทำเกรด ให้ห่วยสุดๆ แบบ รีทาย 1.5 ทำเกรด 1.6ห้ามติด F เดียวไม่ได้เกียรตินิยม
พอเข้าเทอม 2 โชพลัง อัพเกรดขึ้นมา แต่อย่าขึ้นมาก ไล่เกรดมาเรื่อยๆให้จบ 3.00 อัพ ก็ok และทำได้ ห้ามทำเกรดมีความผันผวนสูง ห้ามขึ้นลง ให้ทำแบบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แลดูมีอนาคตที่สดใสรออยู่
ทำไมทำแบบนี้??
น้องจะได้แสดงศักยภาพ ว่าลงได้ ก็ขึ้นได้ (มันจะเท่กว่า 3.5 แล้วเหลือ1.5 )
2. น้องจะเสียวมากในเทอมแรก (ทริกแนะนำ ห้ามลง เกิน 30 หน่วย ในปีแรกเพราะรีทายส่วนใหญ่จะนับหลัง30หน่วย **อ่านในคู่มือที่แจกตอนเข้าเรียนด้วย)
3.มันจะดูเป็นว่าน้องมีการพัฒนา (ทั้งๆที่เป็นแผนสุดโฉด)
4.ผลพ่วงความเชื่อมั่น โอกาสขอตังลงทุนได้มากกว่าครับ(ลองคิดเล่นๆ ถ้า4.00 พอได้ตังลงทุนเกรด เหลือ 3.5 เงินลงทุนน้องจะถูกสั่งเก็บในทันตา)
5.อีกอย่างที่สำคัญคือทำให้เห็นว่าเราทำได้ (พี่ลงแข่งC2W แล้วเกือบได้รางวัล-*-ไปติดสัปดาห์สุดท้าย) จะยิ่งเรียกความเชื่อมั่นจากผู้ปกครองได้อีกมากโข
ตอนนี้ก็ลงของจริงอยู่ บอกได้อย่างเดียวว่าไม่ต่างกันมาก แต่สิ่งที่ต่างไปคือความมั่นใจ จากเคยมั่นใจ100 เหลือ 50 นี้ก็หรูแล้ว ไหนโบรกจะมาบอกให้เกิดความไม่แน่ใจ จากไร้ศาสนาเลยเข้าหาพระเจ้า และสมาธิแบบพุทธ วิธีข้างต้นอาจโฉดไปหน่อย แต่วันที่น้องยืนได้มันเจ๋งมาก เงินลงทุนจะถูกอัดเข้ามาเรื่อยๆ ตามความสามารถและความเชื่อมั่น (ทำได้เจ๋งเงินก็จะเข้ามาอีก)
พี่จะลงทุนตั้งแต่ ม.4แล้ว -*- โดนลากมา 5-6ปี ได้ลงตอนปี 3 อายุ20ปี 11 เดือน เพราะที่บ้าน และญาติพี่น้อง เพื่อน ไม่มีคนเล่นหุ้นสักคน กว่าจะทำความเชื่อมั่นได้ใช้เวลานานมักๆ ตอนนี้ก็เพิ่งขึ้นปี4 (ตั้งแต่ร่ายมา เหมือน เล่นมานานนับ20ปี) ห้ามลงทุนตอนปี1เป็นอันขาด อันดับแรก เชื่อมั่นน้อย = ได้เงินน้อยไปด้วย ช่วงนี้ต้องมีเพื่อน และหาเพื่อนไว้มากๆ ถ้าเกิดเจอเพื่อนที่เล่นหุ้นด้วยจะเล่นได้สบายใจมากขึ้นเพราะมีคนคุยด้วย และเพื่อนไว้ทำงานกลุ่ม-*-
ประโยคเด็ดใช้เป็นไม้ตาย ยามขาดทุน หรือ ยังไม่ได้เงินทุน
*ส่งเรียนหมดเป็นล้าน ได้เพียงแค่การจำลองสังคมในรูปแบบของโรงเรียน แต่นี้ลงทุน ของจริง ไม่มีปราณี ไม่มีคำว่าเด็ก ดีกว่าฝึกงานซึ่งจะได้ไปแบกน้ำ ไปจัดสมุดบัญชี ด้วยเงินเพียงเล็กน้อย จะได้เจอกับของจริง เจ็บปวดจริง ความกดดัน ที่ถล่มเข้ามา ที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอ โอ้..เย่-*-
*ขาดทุนเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำลายความฝันผมได้หลอกT-T
*พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
*ท่านแม่ ฝากธนาคารให้ดอกน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ท่านแม่ไม่น่าให้คนอื่นใช้ตังของเรา ให้ผมใช้ดีกว่า555+
*ดีกว่าซื้อรถน่า.... เพราะรถมันก็ลด
*พลังจงอยู่กับท่าน
อีกนิดคือ หาสไตให้เจอ พี่เป็นสายโมเมนตั้มแอบVIเล็กน้อยเพื่อความมั่นใจและสบายใจ
สุดท้าย
-จงเรียนรู้ให้หมด แล้วลืมทุกอย่าง หาเส้นทางของตนเอง(คมบาดใจ)
-เข้าให้ไว ไปให้เร็ว เผ่นกระจาย คลายกังวล คนกันเอง แล้วทำไมขาดทุน
-หาได้แล้วใช้บ้าง อย่า งก อย่าทำงานหาเงิน แต่ให้เงินหาเงิน
-หุ้นเศษตัง มันมาก ไม่ค่อยมีเนื้อ ระวังอ้วน หรือโรค
-ครอบครัวต้องมาก่อน หุ้นอย่าไปดูมันมาก มันกินสมอง
-ทำตามแผน แผนควรมีแผนสำรอง 2-3 ขั้นเสมอ
-เงินทองนะของมายา ข้าวปลาสิของจริง
-ขอเงินลงทุนให้สมเหตุผล ถ้าจะให้ดี จ่ายดอกเบี้ยให้ท่านผู้ปกครองด้วย (พี่จ่ายร้อยล่ะ6 แพงมัก-*- ทำกันได้)
-นั่งหน้าคอมมาก สายตาเสีย
-ถึงมีบัญชีอินเตอเน็ท ก็สามารถไปเทรดในห้องค้าได้ กล้าๆหน่อย ถึงแม้จะมีแต่อาแปะ ลองตามอาแปะบ้างครั้งจะรู้ว่าเก๋าเกมเป็นไง (ได้กินของฟรีกะพี่มาร์สุดฉวย แค่คิดก็จี๊ดเลย)
-เรียน ร.ด. ด้วย ตอนเป็นทหารเกณท์ มันเล่นหุ้นไม่ได้(โอ้...เย่ เรียนไปแล้ว)
-ห้ามเดินเล่นคนเดียวแถว 3 จ. ชายแดนภาคใต้
-No nominee ยกเว้น เล่นแบบยืมตัง(จะตื่นเต้นเป็น2เท่า)
-อย่าเชื่อที่บอก ไปคิดแล้วทำเอง
***อย่าลืม ทำให้เชื่อได้ว่าทำได้ ถ้าไม่ได้แปลว่าน้องไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้ใจ ที่สำคัญอีกอย่างคือ ห้ามโกหก เพราะมันเสียเคดิส***ทำได้จริงไม่จริงว่ากันทีหลังเอาตังออกมาให้ได้ก่อนจะได้ลองว่าความมันส์ เป็นอย่างไร...(จะบาปไหมเนี่ยสอนให้ลูกเขามีแผนร้าย)
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 42
ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากๆครับ พอดีมีธุระไปต่างจังหวัด 3 - 4 วัน
เลยไม่ได้เข้าเนทเลยครับ
ประกาศผล ADMISSION แล้วครับ
ผมได้ เศรษฐศาสตร์ เกษตรฯครับ
ส่วนเรื่องพอร์ทหุ้นผมคุยกับคุณพ่อผมแล้วครับ
โดยอธิบายให้ท่านฟังว่าการลงทุนแนว vi - ปันผลแบบนี้เป็นยังไง
ต่างกับการเก็งกำไรอย่างไร ต้องศึกษาอะไรบ้าง ต้องเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุนขนาดไหน ผลตอบแทนได้มาจากไหนบ้าง
ซึ่งท่านก็เห็นดีด้วยและอนุญาตให้ผมเปิดพอร์ทได้ครับ :D
และในอนาคตอาจจะให้เงินสนับสนุนมาก้อนนึงด้วยครับ
สุดท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านสำหรับทุกความเห็นครับ
ผมเข้าบอร์ดนี้เป็นประจำครับ ถ้าผมมีมีปัญหาจะมาปรึกษากับพี่ๆอีกนะครับ
เลยไม่ได้เข้าเนทเลยครับ
ประกาศผล ADMISSION แล้วครับ
ผมได้ เศรษฐศาสตร์ เกษตรฯครับ
ส่วนเรื่องพอร์ทหุ้นผมคุยกับคุณพ่อผมแล้วครับ
โดยอธิบายให้ท่านฟังว่าการลงทุนแนว vi - ปันผลแบบนี้เป็นยังไง
ต่างกับการเก็งกำไรอย่างไร ต้องศึกษาอะไรบ้าง ต้องเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุนขนาดไหน ผลตอบแทนได้มาจากไหนบ้าง
ซึ่งท่านก็เห็นดีด้วยและอนุญาตให้ผมเปิดพอร์ทได้ครับ :D
และในอนาคตอาจจะให้เงินสนับสนุนมาก้อนนึงด้วยครับ
สุดท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านสำหรับทุกความเห็นครับ
ผมเข้าบอร์ดนี้เป็นประจำครับ ถ้าผมมีมีปัญหาจะมาปรึกษากับพี่ๆอีกนะครับ
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 43
ยินดีด้วยครับสำหรับ freshy คนใหม่ ขอให้ประสบความสำเร็จในทุก ๆ เรื่องนะครับ คำแนะนำของรุ่นพี่ข้างบนดี ๆ ทั้งนั้นi_sarut เขียน:ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านมากๆครับ พอดีมีธุระไปต่างจังหวัด 3 - 4 วัน
เลยไม่ได้เข้าเนทเลยครับ
ประกาศผล ADMISSION แล้วครับ
ผมได้ เศรษฐศาสตร์ เกษตรฯครับ
ส่วนเรื่องพอร์ทหุ้นผมคุยกับคุณพ่อผมแล้วครับ
โดยอธิบายให้ท่านฟังว่าการลงทุนแนว vi - ปันผลแบบนี้เป็นยังไง
ต่างกับการเก็งกำไรอย่างไร ต้องศึกษาอะไรบ้าง ต้องเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุนขนาดไหน ผลตอบแทนได้มาจากไหนบ้าง
ซึ่งท่านก็เห็นดีด้วยและอนุญาตให้ผมเปิดพอร์ทได้ครับ :D
และในอนาคตอาจจะให้เงินสนับสนุนมาก้อนนึงด้วยครับ
สุดท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านสำหรับทุกความเห็นครับ
ผมเข้าบอร์ดนี้เป็นประจำครับ ถ้าผมมีมีปัญหาจะมาปรึกษากับพี่ๆอีกนะครับ
เด็กรุ่นใหม่นี่เก่งจริงๆ
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
ครับ
โพสต์ที่ 46
เฮ้อ........ ทำไมเราไม่มาเจอไทยวีไอก่อนเข้ามาเล่นหุ้นยังงี้มั่งน๊า
-
- Verified User
- โพสต์: 42
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 48
สุดยอดเลยครับน้อง อายุ 18 ลงทุนเเล้ว สู้ต่อไปครับ ภายภาคหน้าจะสบาย
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
Re: -*-
โพสต์ที่ 49
สุรัตน์ลูกผม ....เรียนเก่งครับ ตอนนี้เอนติดเศรษฐศาสตร์เกษตรไปแล้ว คงไม่เล่นมุขนี้กับผม :8)LeoNiDas เขียน:น้องครับ *โดยส่วนตัว*น่ะ อันดับแรก หาที่เรียน ก่อน ต้องเป็น ม ที่ดีๆหน่อย
พอได้เสร็จเนี่ย เทอมแรกทำเกรด ให้ห่วยสุดๆ แบบ รีทาย 1.5 ทำเกรด 1.6ห้ามติด F เดียวไม่ได้เกียรตินิยม
พอเข้าเทอม 2 โชพลัง อัพเกรดขึ้นมา แต่อย่าขึ้นมาก ไล่เกรดมาเรื่อยๆให้จบ 3.00 อัพ ก็ok และทำได้ ห้ามทำเกรดมีความผันผวนสูง ห้ามขึ้นลง ให้ทำแบบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แลดูมีอนาคตที่สดใสรออยู่
ทำไมทำแบบนี้??
น้องจะได้แสดงศักยภาพ ว่าลงได้ ก็ขึ้นได้ (มันจะเท่กว่า 3.5 แล้วเหลือ1.5 )
...(จะบาปไหมเนี่ยสอนให้ลูกเขามีแผนร้าย)
...เพราะ ถ้าได้เกรดแค่นั้น ผมจะให้ออกมาขายเต้าฮวยครับ ใครๆก็ชอบพูด"ว่าขายเต้าฮวยดีกว่า"
(อะ ย้อเย่น)
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
อายุ 18 ครับ รบกวนขอคำแนะนำพี่ๆนิดนึงครับ
โพสต์ที่ 50
ขอแนะนำน้องว่า i_sarut ว่าเริ่มลงทุนด้วยเงินน้อย ๆ ก่อน เพิ่มเงินลงทุนตามความเชื่อมั่น บอกคุณพ่อ คณแม่ ให้รู้ล่วงหน้าก่อนเลยว่า ลงทุนหุ้น 100 ตัว คงไม่ทำกำไรทั้ง 100 ตัว แต่เวลาได้จะได้มาก ๆ เวลาเสียจะเสียน้อย ๆ และที่สำคัญโดยรวม ๆ แล้วกำไรมากกว่าฝากเงินมาก ๆ ครับ
เนื่องจากน้องต้องเรียนหนังสือ ด้วย ผมเห็นว่า น่าจะให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นหลัก การลงทุนในหุ้นเป็นอันดับรอง เพราะว่าช่วงแรก เปรียบเสมือนการ test run ช่วง run-in เงินยังน้อยได้เสียไม่มาก ประสบการณ์เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน หลายคนเสียในช่วงแรกเปนจำนวนมาก บางคนก็ไม่รอด บางคนก็รอดมาเพราะว่ามีก็อก 2
น้องเริ่มต้นได้ดี ผมเชื่อว่าคงจะประสบความสำเร็จเหมือน VI ท่านอื่น ๆ ครับ
เนื่องจากน้องต้องเรียนหนังสือ ด้วย ผมเห็นว่า น่าจะให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นหลัก การลงทุนในหุ้นเป็นอันดับรอง เพราะว่าช่วงแรก เปรียบเสมือนการ test run ช่วง run-in เงินยังน้อยได้เสียไม่มาก ประสบการณ์เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน หลายคนเสียในช่วงแรกเปนจำนวนมาก บางคนก็ไม่รอด บางคนก็รอดมาเพราะว่ามีก็อก 2
น้องเริ่มต้นได้ดี ผมเชื่อว่าคงจะประสบความสำเร็จเหมือน VI ท่านอื่น ๆ ครับ