ปีนี้ทำไมหุ้นคนมีแบรนด์เชียร์ลงกันหมดเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ปีนี้ทำไมหุ้นคนมีแบรนด์เชียร์ลงกันหมดเลยครับ
โพสต์ที่ 4
จริง ๆ แล้วไม่ต้องมีแบรนด์ก็น่าจะวิเคราะห์ได้น่ะครับว่าหุ้นมีโอกาสลงมากกว่าขึ้น เพราะ ณ ตอนนั้น (2 อาทิตย์ก่อน) มีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น แต่ราคาหุ้นยังไม่ discount มากพอ ทำให้มีการขายกันมาก ถ้าคิดว่าราคาที่ลงมาตอนนี้ มีส่วนลดมากพอ และพอใจกับผลตอบแทนที่จะได้รับก้อซื้อลงทุนได้นี่ครับ
ปัจจัยเสี่ยงที่ใคร ๆ ก้อรู้ไม่จำเป็นต้องคนมีแบรนด์พูดหรอก เช่น การเมือง เงินเฟ้อ กำลังซื้อที่ลดลง ดอกเบี้ยขึ้น NPLรากหญ้า? ค่าเงินอ่อนต่างชาติขาย เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวหลังจากโตมาหลายปี และสถาบันการเงินในสหรัฐที่ยังมีแนวโน้มไม่ค่อยดีอยู่
เพื่อนผมที่เพิ่งกลับมาบอกว่า เศรษฐกิจที่อเมริกาแย่ ร้านอาหารไทยยอดขายตกลงเพราะเริ่มกลายเป็นของฟุ่มเฟื่อย อยู่บ้านทำกินเองมากขึ้น ลดการดูหนังลง บ้านถูกยึดจำนวนมาก เพราะให้คนทำงาน part time กู้เงินซื้อบ้านได้ ตอนนี้ไม่มีปัญญาจ่ายแล้ว เงินทีรัฐบาลคืนภาษีให้ก็ไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตหมด คือ จ่ายการบริโภคที่เกิดไปแล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดการบริโภคใหม่อย่างที่รัฐบาลตั้งใจ และ 300 เหรียญอยู่อย่างเขียม ๆ อาทิตย์เดียวก็หมดแล้ว ถ้าไม่ประหยัด 4 วันก้อหมด น้ำมันก็แพง ราคาที่เรารู้กันว่า 4 เหรียญต่อแกลลอนนั้นเป็นราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นบางที่น้ำมันเกือบ 5 เหรียญต่อแกลลอน
ปัจจัยเสี่ยงที่ใคร ๆ ก้อรู้ไม่จำเป็นต้องคนมีแบรนด์พูดหรอก เช่น การเมือง เงินเฟ้อ กำลังซื้อที่ลดลง ดอกเบี้ยขึ้น NPLรากหญ้า? ค่าเงินอ่อนต่างชาติขาย เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวหลังจากโตมาหลายปี และสถาบันการเงินในสหรัฐที่ยังมีแนวโน้มไม่ค่อยดีอยู่
เพื่อนผมที่เพิ่งกลับมาบอกว่า เศรษฐกิจที่อเมริกาแย่ ร้านอาหารไทยยอดขายตกลงเพราะเริ่มกลายเป็นของฟุ่มเฟื่อย อยู่บ้านทำกินเองมากขึ้น ลดการดูหนังลง บ้านถูกยึดจำนวนมาก เพราะให้คนทำงาน part time กู้เงินซื้อบ้านได้ ตอนนี้ไม่มีปัญญาจ่ายแล้ว เงินทีรัฐบาลคืนภาษีให้ก็ไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตหมด คือ จ่ายการบริโภคที่เกิดไปแล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดการบริโภคใหม่อย่างที่รัฐบาลตั้งใจ และ 300 เหรียญอยู่อย่างเขียม ๆ อาทิตย์เดียวก็หมดแล้ว ถ้าไม่ประหยัด 4 วันก้อหมด น้ำมันก็แพง ราคาที่เรารู้กันว่า 4 เหรียญต่อแกลลอนนั้นเป็นราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นบางที่น้ำมันเกือบ 5 เหรียญต่อแกลลอน