หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
V_accy
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0

หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ขอบคุณครับ
Noonino
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 876
ผู้ติดตาม: 0

หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ผมเรียนจบมาได้ยังไงเนี่ย :oops:
baannkk
Verified User
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0

หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

โพสต์ที่ 33

โพสต์

:D  สวัสดีคะ  :D

ข้อใช้ความรู้จากกระทู้นี้ไปประกอบการทำ IS ด้วยคนนะคะ

กำลังสับสนพอดี ว่าจะศึกษาเรื่องอะไร  :D
rattana
Verified User
โพสต์: 22
ผู้ติดตาม: 0

น่าสนใจมากมาก

โพสต์ที่ 34

โพสต์

เนื่องด้วยหนู๋ก็เป็นคน 1 ที่ต้องทำ IS ด้วยเหมือนกัน

แต่ตอนนี้ยังมองเห็นหนทางที่จะเริ่มต้นเลย
auspicja
Verified User
โพสต์: 404
ผู้ติดตาม: 0

หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ขออนุญาตลอกนะครับ  ขอบคุณก่อนเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Basketman
Verified User
โพสต์: 1208
ผู้ติดตาม: 1

หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

โพสต์ที่ 36

โพสต์

@DNA@ เขียน:การถามลักษณะนี้เป็นความมักง่ายของผู้ถามอย่างยิ่ง
เคยโดนอาจารย์ที่ปรึกษาว่าแบบนี้มาจริงๆ
ตอนนั้นจำได้ว่าตัวชาไปแว๊บนึง น้ำตาปริ่มๆเกือบไหลแล้วเชียว

ท่านPERFECT LUCKYเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาดีๆนะครับ
เป็นไปได้เลือกอาจารย์ที่ดูแก่ๆเขี้ยวๆมีประสบการณ์ เป็นระดับ ดร. รึ รศ. ศ. ได้ยิ่งดี
แล้ว IS ที่ทำออกมาจะมีคุณภาพจริงๆ
อาจารย์ที่ปรึกษาผม รับนักศึกษาทำ IS อยู่5คน(รวมผมด้วย) ทั้ง5คนนี้ไม่ได้รับปริญญาพร้อมเพื่อนรุ่นครับ

แต่ IS ของ5คนนี้มีคนหนึ่งได้รับรางวัลผลการวิจัยดีเด่นเป็นคนเดียวของรุ่นครับ(ไม่ใช่ผมหรอก)
@DNA@ เขียน:อาจารย์ส่วนใหญ่จึงพยายามเริ่มต้นด้วยการบังคัยนิสิตให้อ่านแต่ถ้าอาจารย์พูดเฉยๆ นักศึกษามักไม่ค่อยสนใจ และยังยึดความคิดตนเป็นใหญ่ อาจารย์หลายท่านจึงใช้วิธีรับเด็กที่พอมีแววหรือรู้จักนิสัยว่าทำงานจริงจังและพยายามโน้มน้าวให้อ่านมากขึ้น อาจารย์บางท่านใช้วิธีบังคับเด็กให้อ่านงานที่เกี่ยวข้องก่อนอย่างน้อย 50 เล่ม และสัญญาว่าระบุปัญหาได้หรือไม่ได้ก็จะรับ แต่จริงๆ แล้วอ่านไปถึงแค่ 10-20 เล่มก็จะมีความเชี่ยวชาญพอที่จะระบุปัญหาและได้ปัญหาเองโดยอัตโนมัติ อาจารย์บางท่านต้องลงทุนโยน proposal ที่ใช้วิธีนั่งเทียนเขียนทิ้งลงถังขยะต่อหน้าเพื่อลดอัตตาของเด็กลงไม่ให้เด็กคิดหรือทึกทักปัญหาเอาเองยอมกลับไปอ่าน ปัญหาที่สำคัญสุดของผู้ทำ IS จึงเป็นเรื่องที่ผู้ทำไม่มีปัญหาเนื่องจากไม่ยอมอ่านนั่นเอง
ในมหาวิทยาลัยของท่านPERFECT LUCKY มีอาจารย์แบบนี้อยู่จริง
อยากรู้ว่าเป็นอาจารย์ท่านไหน พาผมไปเลี้ยงหมูกะทะก่อน แล้วจะบอก  :lol:
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
to-rich
Verified User
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0

หัวข้อ independent study ใดเกี่ยวกับหุ้น ที่ท่านอยากให้มี?

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ผมได้อ่านคำแนะนำจากพี่ๆในบอร์ดแล้วได้แนวคิดเยอะเลย ผมเป็นคนหนึ่งที่กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ และเป็นคนที่อ่านน้อยมาก และไม่มีความรู้ด้านงานวิจัยเลย แต่จำเป็นต้องทำ ผมมีประเด็นที่สงสัยอยากถามพี่คือ
  จากที่ อ. DNA ได้บอกว่า "ประเด็นที่สำคัญสำหรับการระบุปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือสิ่งที่เรามีข้อมูล support ว่าเป็นปัญหาจริงหรือเป็นเพียงอาการ  (problem หรือ symptom)  ลักษณะที่ดูเหมือนปัญหา จริงๆ แล้วอาจเป็นแค่อาการที่เกิดจากปัญหาจริง เช่น ปัญหาข้าวราคาถูกเป็นเพียงอาการหรือไม่ ปัญหาที่แท้จริงอาจจะเป็นเรื่องโครงสร้างตลาดข้าว แหล่งเงินทุนของชาวนาชาวนาต้องกู้จากโรงสีจริงต้องกลับมาขายข้าวให้โรงสีราคาถูก หรือเป็นปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวจึงทำให้ข้าวราคาถูก  การ review งานและบทความจะช่วยให้เราเข้าใจได้"  สิ่งที่ผมสงสัยคือ ถ้าเรา review งานและบทความแล้วไม่สารถแยกได้ว่าอะไรคือปัญหาอะไรคืออาการ เช่น ข้าวราคาถูกจนทำให้ชาวนาต้องกู้เงินจากโรงสี หรือ ชาวนาต้องกู้จากโรงสีจริงต้องกลับมาขายข้าวให้โรงสีราคาถูก ผมคิดว่าการ review ข้อมูลจากงานหรือบทความไม่สามารถตอบได้(ถ้าผิดช่วยชี้แนะด้วยครับ) ถ้าเกิดแบบนี้ขึ้นจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรครับ