ลงทุนเพชร
-
- Verified User
- โพสต์: 775
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 2
ถ้าซื้อเพชร ผมซื้อทองดีกว่าครับ
มีมาตรฐานกว่า
เพราะราคาเพชรมันไม่มีมาตรฐาน
เวลาจะขาย โดนร้านกดราคาอยู่เรื่อย
เพชรแต่ละเม็ดราคาไม่เท่ากันครับ แม้นน.จะเหมือนกัน
เพราะมันแบ่งเป็นสี ตำหนิ การเจียระไน มุมตกระทบของแสงอีก
ซื้อเพชร ก็เหมือนซื้องานศิลปะ แต่ละคนก็มองไม่เท่ากัน
ไม่เหมือนซื้อทอง 96.5% นน. 1 บาทยังไงก็ขายเท่ากัน
ไม่ปวดหัวดี :P :lol:
มีมาตรฐานกว่า
เพราะราคาเพชรมันไม่มีมาตรฐาน
เวลาจะขาย โดนร้านกดราคาอยู่เรื่อย
เพชรแต่ละเม็ดราคาไม่เท่ากันครับ แม้นน.จะเหมือนกัน
เพราะมันแบ่งเป็นสี ตำหนิ การเจียระไน มุมตกระทบของแสงอีก
ซื้อเพชร ก็เหมือนซื้องานศิลปะ แต่ละคนก็มองไม่เท่ากัน
ไม่เหมือนซื้อทอง 96.5% นน. 1 บาทยังไงก็ขายเท่ากัน
ไม่ปวดหัวดี :P :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 3
เพชรต้องดูเป็นครับ ถ้าจะลงทุนต้องเป็นเพชรที่เกรดสูงสุดเท่านั้นครับ จึงจะดี
และคุณค่าทางใจน่าจะดีกว่าทองแท่งนะครับ
ผมรู้จักรุ่นพี่คนนึงที่ไม่ซื้อทองแท่งเลย ซื้อแต่เพชรให้ภรรยา บอกว่าทองแท่งภรรยาเอาไปใส่บนแหวนไม่ได้ (รักภรรยาจริงๆ)
ปล. แต่ถ้าทองรูปพรรณก็คงอีกเรื่องนะครับ
และคุณค่าทางใจน่าจะดีกว่าทองแท่งนะครับ
ผมรู้จักรุ่นพี่คนนึงที่ไม่ซื้อทองแท่งเลย ซื้อแต่เพชรให้ภรรยา บอกว่าทองแท่งภรรยาเอาไปใส่บนแหวนไม่ได้ (รักภรรยาจริงๆ)
ปล. แต่ถ้าทองรูปพรรณก็คงอีกเรื่องนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 5
ผมก็เริ่มซื้อเหมือนกัน เห็นเขาบอกว่าน่าสนใจก็เลยไปซื้อมา พอซื้อมาก็เออแฮะ สวยดีเหมือนกัน เลยซื้อมาอีก 4-5 เม็ด...เสร็จแล้วก็เอ่อ..อ้าว เวลาขายไปขายที่ไหนล่ะ ไม่รู้เลย เพราะมันไม่มีตลาดเหมือนตลาดหุ้นหรือตลาดบ้านที่เราที่มี Broker Match คนซื้อกับคนขาย พอเป็นร้านเพชรนี่ผมรู้สึกว่า เราต้องไปขายถูกๆ เพื่อให้เขาเอาไปขายแพงๆ รู้สึกประหลาดยังไงก็ไม่รู้
คุณ Phobenius อย่างเพชร Color D (น้ำ 100) ขนาด 1 carat Clarity VS2 มีใบ Cer GIA นี่ราคาตอนนี้อยู่ประมาณเท่าไรครับ..ซื้อมาปีนึงแล้วอยากรู้ว่า ที่ซื้อมาผมมีกำไรหรือยังอ่ะ
คุณ Phobenius อย่างเพชร Color D (น้ำ 100) ขนาด 1 carat Clarity VS2 มีใบ Cer GIA นี่ราคาตอนนี้อยู่ประมาณเท่าไรครับ..ซื้อมาปีนึงแล้วอยากรู้ว่า ที่ซื้อมาผมมีกำไรหรือยังอ่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 8
เห็นมาจากเว็บ http://www.geleediamond.com เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ครับ ใครสนใจอ่านกระทู้เต็มๆได้ที่ :D
http://www.geleediamond.com/phpBB2/view ... ?f=8&t=173
โดยปกติแล้ว เพชรมักมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณเพชรก้อน โดยเฉพาะขนาดใหญ่มีน้อยลง แต่ถ้าหากต้องการซื้อลงทุนโดยหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างราคา ทำได้ยากครับ สำหรับผู้ซื้อเพชรโดยทั่วไป ด้วยเหตุผลดังนี้ครับ สมมติว่าคุณ kentucky ซื้อเพชรขนาด 2 กะรัต น้ำ 98 ราคา 1.2 ล้านบาทนะครับ พอผ่านไปสัก ห้าปี ราคาเพชร (ราคากลาง หรือราคาพอร์ท) ปรับขึ้นประมาณ 30% (อันนี้เป็นการสมมตินะครับ ในความเป็นจริง ไม่มีใครทราบว่าราคาจะขึ้นหรือลง เท่าไหร่แน่ เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนด้วยครับ) คุณ kentucky น่าจะสามารถขายเพชรเม็ดนี้ได้ในราคา 1.56 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงคือ แทบไม่มีโอกาสที่จะขายได้ราคาที่ว่าเลยครับ เพราะหากเรากลับไปขายร้านเดิมที่ซื้อมา เค้าก็มักจะหัก 10-15% จากราคาที่เราซื้อไป ไม่ใช่ราคาปัจจุบัน คือจะได้แค่ประมาณ 1.02-1.08 ล้านบาทเท่านั้นครับ หรือถ้าเราลองไปขายร้านอื่น โอกาสที่จะถูกกดราคาก็มีสูงมาก ร้านค้าอาจกดราคา 20-30% จากราคาที่ควรจะเป็น
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่มีโอกาสที่จะขายได้ราคาดีนะครับ ถ้าเป็นเพชรที่มีเซอร์ เจียรไนสวยๆ เกรด Very Good ขึ้นไป ก็มีโอกาสที่จะขายได้ราคาครับ เพราะเพชรสวยมักจะหายากเสมอ เพียงแต่ผู้ซื้อเพชรทั่วไป จะหาแหล่งที่ขายได้ราคาค่อนข้างลำบาก ต่างกับร้านค้า แต่คุณ kentucky อาจซื้อลงทุนไว้เผื่อลูกๆ ในอนาคตก็ได้ครับ (ซื้อตอนนี้ 1.2 ล้าน ถ้าซื้ออีกห้าปี อาจเป็น 1.56 ล้าน แต่นี่เป็นการสมมตินะครับ เพราะบางปี เพชรแทบไม่มีการปรับขึ้นราคาเลย แต่บางปีก็ปรับราคาทุกอาทิตย์)
โดยสรุปแล้ว ซื้อเพชรเพื่อการลงทุน ผมไม่แนะนำครับ เพราะ
1. คาดการณ์ ราคาในอนาคตลำบาก ถึงราคาขึ้นแน่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มกับอัตราดอกเบี้ย หรือเงินเฟ้อ รึป่าว ลงทุนในหุ้นน่าจะดีกว่า
2. ยากที่จะขายให้ได้ราคาดี
จากการสังเกต การปรับราคาของเพชรหลายๆปีนี้ ถ้าอยากจะลงทุนจริงๆ ให้ซื้อเพชรขนาดหนึ่งกะรัตขึ้นไปพร้อมเซอร์ สีสูงๆ D-F (100-98) ความสะอาดสูงถึงปานกลาง (IF, VVS1-2, VS1) เพชรกลุ่มนี้ราคาปรับตัวขึ้นบ่อยสุดครับ และให้เลือกเพชรที่คุณภาพเจียรไน very good ขึ้นไป ไม่มีฟลูออเรสเซนหรือมีแค่อ่อน (เพชรที่มีฟลู ปานกลางถึงเข้ม จะทำให้เพชรดูฝ้า ประกายหม่นลงครับ ราคาตก)(^_^)
http://www.geleediamond.com/phpBB2/view ... ?f=8&t=173
โดยปกติแล้ว เพชรมักมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณเพชรก้อน โดยเฉพาะขนาดใหญ่มีน้อยลง แต่ถ้าหากต้องการซื้อลงทุนโดยหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างราคา ทำได้ยากครับ สำหรับผู้ซื้อเพชรโดยทั่วไป ด้วยเหตุผลดังนี้ครับ สมมติว่าคุณ kentucky ซื้อเพชรขนาด 2 กะรัต น้ำ 98 ราคา 1.2 ล้านบาทนะครับ พอผ่านไปสัก ห้าปี ราคาเพชร (ราคากลาง หรือราคาพอร์ท) ปรับขึ้นประมาณ 30% (อันนี้เป็นการสมมตินะครับ ในความเป็นจริง ไม่มีใครทราบว่าราคาจะขึ้นหรือลง เท่าไหร่แน่ เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนด้วยครับ) คุณ kentucky น่าจะสามารถขายเพชรเม็ดนี้ได้ในราคา 1.56 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงคือ แทบไม่มีโอกาสที่จะขายได้ราคาที่ว่าเลยครับ เพราะหากเรากลับไปขายร้านเดิมที่ซื้อมา เค้าก็มักจะหัก 10-15% จากราคาที่เราซื้อไป ไม่ใช่ราคาปัจจุบัน คือจะได้แค่ประมาณ 1.02-1.08 ล้านบาทเท่านั้นครับ หรือถ้าเราลองไปขายร้านอื่น โอกาสที่จะถูกกดราคาก็มีสูงมาก ร้านค้าอาจกดราคา 20-30% จากราคาที่ควรจะเป็น
แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่มีโอกาสที่จะขายได้ราคาดีนะครับ ถ้าเป็นเพชรที่มีเซอร์ เจียรไนสวยๆ เกรด Very Good ขึ้นไป ก็มีโอกาสที่จะขายได้ราคาครับ เพราะเพชรสวยมักจะหายากเสมอ เพียงแต่ผู้ซื้อเพชรทั่วไป จะหาแหล่งที่ขายได้ราคาค่อนข้างลำบาก ต่างกับร้านค้า แต่คุณ kentucky อาจซื้อลงทุนไว้เผื่อลูกๆ ในอนาคตก็ได้ครับ (ซื้อตอนนี้ 1.2 ล้าน ถ้าซื้ออีกห้าปี อาจเป็น 1.56 ล้าน แต่นี่เป็นการสมมตินะครับ เพราะบางปี เพชรแทบไม่มีการปรับขึ้นราคาเลย แต่บางปีก็ปรับราคาทุกอาทิตย์)
โดยสรุปแล้ว ซื้อเพชรเพื่อการลงทุน ผมไม่แนะนำครับ เพราะ
1. คาดการณ์ ราคาในอนาคตลำบาก ถึงราคาขึ้นแน่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มกับอัตราดอกเบี้ย หรือเงินเฟ้อ รึป่าว ลงทุนในหุ้นน่าจะดีกว่า
2. ยากที่จะขายให้ได้ราคาดี
จากการสังเกต การปรับราคาของเพชรหลายๆปีนี้ ถ้าอยากจะลงทุนจริงๆ ให้ซื้อเพชรขนาดหนึ่งกะรัตขึ้นไปพร้อมเซอร์ สีสูงๆ D-F (100-98) ความสะอาดสูงถึงปานกลาง (IF, VVS1-2, VS1) เพชรกลุ่มนี้ราคาปรับตัวขึ้นบ่อยสุดครับ และให้เลือกเพชรที่คุณภาพเจียรไน very good ขึ้นไป ไม่มีฟลูออเรสเซนหรือมีแค่อ่อน (เพชรที่มีฟลู ปานกลางถึงเข้ม จะทำให้เพชรดูฝ้า ประกายหม่นลงครับ ราคาตก)(^_^)
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 10
สำหรับราคา rapaport คงต้องขอดูจากร้านเพชรนะครับ ไม่ได้มีเปิดเผยทั่วไป เค้าจะให้เฉพาะสมาชิกดูครับ :)
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 11
ช่วงนี้ ไม่ค่อยว่างเลย หลังๆเริ่มดูเพชรเป็นบ้างขึ้น เริ่มเอาเพชรที่ซื้อไว้มาเข้าคัดตัวเรือน ใครจะซื้อแหวนเพชรหรืออะไร ถ้าไปดูตามร้านค้า บอกให้เลยนะครับ อย่างต่ำก็หารสอง นั้นคือต้นทุนของร้านค้า หรือ 2.5 เพราะส่วนตัวผมก็คิดแบบนี้แหละ ฮิๆ
- edd
- Verified User
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 13
ผมเป็นคนนึงที่ซื้อเพชร แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นการลงทุน
ที่ซื้อเพราะภรรยาชอบ
เป็นแค่ความสุขทางใจ
ส่วนใหญ่ปีละครั้ง แล้วเอาไปขึ้นเรือนตามที่คุณเธอต้องการ
เพื่อกันการลดค่า ซื้อที่มีเซอร์ทุกเม็ด
พอทนนะผมว่า
ที่ซื้อเพราะภรรยาชอบ
เป็นแค่ความสุขทางใจ
ส่วนใหญ่ปีละครั้ง แล้วเอาไปขึ้นเรือนตามที่คุณเธอต้องการ
เพื่อกันการลดค่า ซื้อที่มีเซอร์ทุกเม็ด
พอทนนะผมว่า
คนเราไม่เคยเดินสะดุดภูเขาล้ม สิ่งที่เราสะดุดก็คือเหล่ากอหญ้าและก้อนหินทั้งหลาย ดังนั้น ถ้าเราสามารถเดินผ่านพวกมันไปได้ เราก็สามารถเดินข้ามภูเขาได้
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 14
นักลงทุนลดความเสี่ยงหันไปซื้อเพชรเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น หลังราคาทองในตลาดโลกผันผวนหนัก ด้านสมาคมเจียระไนเพชรชี้เป็นโอกาสทองสำหรับช้อนซื้อเพชรราคาถูก ชี้ความเสี่ยงน้อย แต่โกยกำไรเฉลี่ย 20-30%
นางสาวพิมพ์พินิจ กัลวทานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอนเทมโพรารี่ จิวเวลรี่ แอนด์ อาร์ต จำกัด ศูนย์กลางข้อมูลสำหรับการลงทุนเรื่องเพชร เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถานการณ์ความผันผวนของราคาทองคำในตลาดโลกทำให้คนไทยซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และเจ้าของกิจการหลายรายแสดงความสนใจที่จะเข้ามาซื้อเพชรเพื่อการลงทุนกับบริษัทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเพชรให้ผลตอบแทนสูงกว่าการเล่นหุ้น, ฝากเงินในธนาคาร โดยมีผลกำไรอัตราเฉลี่ยปีละ 20-30% รวมทั้งมีเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงในการขาดทุนน้อยกว่าการเก็งกำไรทองคำอีกด้วย
เนื่องจากช่วงนี้ทั่วโลกมีการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอย่างต่อเนื่อง เช่น งานจิวเวลรี่แฟร์ที่ประเทศเยอรมนี งานฮ่องกงจิวเวลรี่ และงานบางกอกเจมส์ในไทย ส่งผลให้สถานการณ์ราคาเพชรในตลาดโลกเริ่มขยับตัวสูงขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจซื้อเพชร หากลงทุนซื้อเพชรในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีมากเพราะภาวะราคาเพชรโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การซื้อเพชรเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุกปี แค่มีเงินลงทุนประมาณ 350,000 บาทขึ้นไปก็สามารถซื้อเพชรขนาดตั้งแต่ 0.5-1 กะรัตไว้เก็งกำไรได้แล้ว
นายจีรกิตติ ตังครัช นายกสมาคมผู้ประกอบการเจียระไนเพชร เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2008 ราคาเพชรปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 15% แต่หลังจากทั่วโลกประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปริมาณความต้องการซื้อเพชรซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยก็ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยราคาเพชรเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว สังเกตได้จากราคาเพชรในตลาดขายปลีกปรับตัวลดลง 20-30% เพชรร่วงที่ผ่านการเจียระไนแล้วในกลุ่มตลาดค้าส่งปรับตัวลดลง 30-40% ส่วนเพชรดิบ (rough diamonds) ราคาร่วงลงถึง 30-50%
ตามปกติตลาดการค้าเพชรทั่วโลกจะมีมูลค่าการซื้อขายเพชรโดยเฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าเพชรส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ต้องแบกรับภาระปัญหาสินค้าเพชรล้นสต๊อก (overall inventory) เป็นมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปริมาณเพชรที่มีอยู่ในสต๊อกขณะนี้เพียงพอสำหรับใช้ไปได้ถึง 3 ปีข้างหน้า
ปัญหาสินค้าเพชรล้นสต๊อกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้ผู้ค้าเพชรส่วนใหญ่ในสหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู) ต้องแบกรับปัญหาหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สถาบันการเงินต่างๆ พยายามเร่งรัดให้มีการเร่งชำระหนี้เพราะเกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเจอปัญหาหนี้สูญ ทำให้ผู้ประกอบการค้าเพชรต้องเร่งระบายเพชรในสต๊อก เพื่อให้มีเงินสดเข้ามาชำระหนี้แบงก์ทำให้ราคาเพชรในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
จากการที่กำลังซื้อเพชรปรับตัวลดลงทั่วโลก คาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมค้าเพชร จะมีมูลค่าการค้าเพชรเหลือเพียง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าธุรกิจค้าปลีกเพชรจะมียอดขายน้อยลง 20-30% ส่วนตลาดค้าส่งเพชรที่ผ่านการเจียระไนแล้วคาดว่ามียอดขายลดลง 30-50% ส่วนธุรกิจค้าเพชรดิบคาดว่าจะมีรายได้ลดลงถึง 60% ทำให้มีโรงงานประกอบการเจียระไนเพชรในประเทศจีน อินเดีย ไทย ต้องทยอยปิดโรงงานไปอย่างต่อเนื่อง
"เหมืองเพชรทั่วโลกกำลังพยายามแก้ไขปัญหาวิกฤตตกต่ำในอุตสาหกรรมค้าเพชร โดยลดกำลังการผลิตเพชรดิบในปีนี้ลดลง 50% ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คาดว่าราคาเพชรในตลาดโลกจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในกลางปี 2553 โดยราคาเพชรน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเท่ากับราคาซื้อขายเพชรในปี 2551 ดังนั้นช่วงนี้จึงน่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อเพชรราคาถูกเพื่อเก็งกำไรในอนาคต" นายจีรกิตติกล่าวในที่สุด
ทางด้านนายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมอัญมณีไทยและเครื่องประดับไทย ให้ความเห็นว่า ราคาเพชรในตลาดโลกขณะนี้ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แม้ว่าผู้ประกอบการค้าเพชรในตลาดโลกบางส่วนทยอยปล่อยเพชรออกสู่ตลาดมากขึ้น เพราะประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง แต่ก็ยังไม่ถึงกับทำให้ราคาเพชรปรับลดลงมากนัก เพราะยังมีเดอ เบีย เป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่มอนิเตอร์ราคาเพชรอยู่ ส่วนราคาเพชรในประเทศไม่ได้หวือหวาเหมือนราคาทองคำจึงไม่นิยมเก็งกำไรมากนัก
นางสาวพิมพ์พินิจ กัลวทานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอนเทมโพรารี่ จิวเวลรี่ แอนด์ อาร์ต จำกัด ศูนย์กลางข้อมูลสำหรับการลงทุนเรื่องเพชร เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถานการณ์ความผันผวนของราคาทองคำในตลาดโลกทำให้คนไทยซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และเจ้าของกิจการหลายรายแสดงความสนใจที่จะเข้ามาซื้อเพชรเพื่อการลงทุนกับบริษัทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเพชรให้ผลตอบแทนสูงกว่าการเล่นหุ้น, ฝากเงินในธนาคาร โดยมีผลกำไรอัตราเฉลี่ยปีละ 20-30% รวมทั้งมีเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงในการขาดทุนน้อยกว่าการเก็งกำไรทองคำอีกด้วย
เนื่องจากช่วงนี้ทั่วโลกมีการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอย่างต่อเนื่อง เช่น งานจิวเวลรี่แฟร์ที่ประเทศเยอรมนี งานฮ่องกงจิวเวลรี่ และงานบางกอกเจมส์ในไทย ส่งผลให้สถานการณ์ราคาเพชรในตลาดโลกเริ่มขยับตัวสูงขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจซื้อเพชร หากลงทุนซื้อเพชรในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีมากเพราะภาวะราคาเพชรโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การซื้อเพชรเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุกปี แค่มีเงินลงทุนประมาณ 350,000 บาทขึ้นไปก็สามารถซื้อเพชรขนาดตั้งแต่ 0.5-1 กะรัตไว้เก็งกำไรได้แล้ว
นายจีรกิตติ ตังครัช นายกสมาคมผู้ประกอบการเจียระไนเพชร เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2008 ราคาเพชรปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 15% แต่หลังจากทั่วโลกประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปริมาณความต้องการซื้อเพชรซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยก็ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยราคาเพชรเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว สังเกตได้จากราคาเพชรในตลาดขายปลีกปรับตัวลดลง 20-30% เพชรร่วงที่ผ่านการเจียระไนแล้วในกลุ่มตลาดค้าส่งปรับตัวลดลง 30-40% ส่วนเพชรดิบ (rough diamonds) ราคาร่วงลงถึง 30-50%
ตามปกติตลาดการค้าเพชรทั่วโลกจะมีมูลค่าการซื้อขายเพชรโดยเฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าเพชรส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ต้องแบกรับภาระปัญหาสินค้าเพชรล้นสต๊อก (overall inventory) เป็นมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปริมาณเพชรที่มีอยู่ในสต๊อกขณะนี้เพียงพอสำหรับใช้ไปได้ถึง 3 ปีข้างหน้า
ปัญหาสินค้าเพชรล้นสต๊อกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้ผู้ค้าเพชรส่วนใหญ่ในสหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียู) ต้องแบกรับปัญหาหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สถาบันการเงินต่างๆ พยายามเร่งรัดให้มีการเร่งชำระหนี้เพราะเกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะเจอปัญหาหนี้สูญ ทำให้ผู้ประกอบการค้าเพชรต้องเร่งระบายเพชรในสต๊อก เพื่อให้มีเงินสดเข้ามาชำระหนี้แบงก์ทำให้ราคาเพชรในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
จากการที่กำลังซื้อเพชรปรับตัวลดลงทั่วโลก คาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมค้าเพชร จะมีมูลค่าการค้าเพชรเหลือเพียง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าธุรกิจค้าปลีกเพชรจะมียอดขายน้อยลง 20-30% ส่วนตลาดค้าส่งเพชรที่ผ่านการเจียระไนแล้วคาดว่ามียอดขายลดลง 30-50% ส่วนธุรกิจค้าเพชรดิบคาดว่าจะมีรายได้ลดลงถึง 60% ทำให้มีโรงงานประกอบการเจียระไนเพชรในประเทศจีน อินเดีย ไทย ต้องทยอยปิดโรงงานไปอย่างต่อเนื่อง
"เหมืองเพชรทั่วโลกกำลังพยายามแก้ไขปัญหาวิกฤตตกต่ำในอุตสาหกรรมค้าเพชร โดยลดกำลังการผลิตเพชรดิบในปีนี้ลดลง 50% ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คาดว่าราคาเพชรในตลาดโลกจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในกลางปี 2553 โดยราคาเพชรน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเท่ากับราคาซื้อขายเพชรในปี 2551 ดังนั้นช่วงนี้จึงน่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อเพชรราคาถูกเพื่อเก็งกำไรในอนาคต" นายจีรกิตติกล่าวในที่สุด
ทางด้านนายวิชัย อัศรัสกร นายกสมาคมอัญมณีไทยและเครื่องประดับไทย ให้ความเห็นว่า ราคาเพชรในตลาดโลกขณะนี้ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แม้ว่าผู้ประกอบการค้าเพชรในตลาดโลกบางส่วนทยอยปล่อยเพชรออกสู่ตลาดมากขึ้น เพราะประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง แต่ก็ยังไม่ถึงกับทำให้ราคาเพชรปรับลดลงมากนัก เพราะยังมีเดอ เบีย เป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่มอนิเตอร์ราคาเพชรอยู่ ส่วนราคาเพชรในประเทศไม่ได้หวือหวาเหมือนราคาทองคำจึงไม่นิยมเก็งกำไรมากนัก
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนเพชร
โพสต์ที่ 15
เรื่องการลงทุนกับเพชรในตอนนี้
ผมไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ
เพราะ ตอนนี้เริ่มมีเพชรสังเคราะห์มาในตลาด ราคาถูกกว่าเพชรแท้มากครับ
คุณสมบัติต่างๆก็ใกล้เคียงกัน ขนาดเซียนเพชรยังพลาดครับ
ถ้าจะตรวจสอบจริงต้องใช้เครื่องราคาแพงน่ะครับ
ถ้าจะหวังลงทุนในเพชรนานๆ ผมคิดว่าเสี่ยงมากครับ
ผมไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ
เพราะ ตอนนี้เริ่มมีเพชรสังเคราะห์มาในตลาด ราคาถูกกว่าเพชรแท้มากครับ
คุณสมบัติต่างๆก็ใกล้เคียงกัน ขนาดเซียนเพชรยังพลาดครับ
ถ้าจะตรวจสอบจริงต้องใช้เครื่องราคาแพงน่ะครับ
ถ้าจะหวังลงทุนในเพชรนานๆ ผมคิดว่าเสี่ยงมากครับ