ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 1
ตอนนั้นมีเหตุการประท้วง แล้วมีการยิงกัน
การค้าทำอะไรไม่ได้ ก็เลยไปยืนดูจอที่วี ที่ JF ธนาคม ภาพ CNN ฉายซ้ำ มีคนเดินหนีที่ริมกำแพง แบบค่อยๆเดินนะ จำภาพได้ เดินแบบกลัวๆ และแล้วก็มีการถ่ายภาพจากด้านหลัง คือคนยิงอยู่ด้านหน้า
ปัง
คนก็ล้มลง แต่ภาพมีการฉายซ้ำไป ซ้ำมา
ผมเองไม่ขอยืนยันนะว่า เป็นภาพที่ยิงในเมืองไทย หรือที่ไหน หรือตัดต่อ หรืออย่างไร
คือ ผมเห็นในทีวี และก็เห็นกระดานหุ้นแดงหมดเลย
( ไม่คุยต่อประเด็นการเมืองนะ )
เอาเรือ่งหุ้น ผมเองก็มาคิดดูว่า โห บ้านเมืองลุกเป็นไฟขนาดนี้
หากกว่า ประเทศไทยเจ๊ง เงิน 1 ล้าน เหลือเท่าไร ผมคิดของผมเองนะ ว่าเหลือ 0
หากประเทศไทยไม่เจ๊ง แล้วสถานการณ์ กลับมาดี เงิน 1 ล้าน ก็เหลือ 1 ล้าน เท่าเดิม
ส่วนหุ้น 1 ล้าน ณ เวลานั้น ที่ฟลอ กันอยู่ ผมคิดว่า หากประเทศไทย เจ๊ง หุ้น 1 ล้านก็เหลือ 0
แต่หากประเทศไทยไม่เจ๊ง หุ้น 1 ล้าน น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้าน
ผมก็เลยซื้อไป 4 แสนบาท ซื้อ bbl ราคาประมาณ 60 เคาะที่ฟลอ จำได้แม่นว่า เดินไปที่เค๊าเตอร์ แล้วบอกพนักงานซื้อ bbl 4 แสนบาท ที่ฟลอ พนักงานถามว่า ขายเท่าไร ผมบอกว่า ซื้อ ซื้อ ซื้อ ซื้อไปกี่หุ้นจำไม่ได้ จำได้แต่ว่า ใช้เม็ดเงิน 4 แสนบาท
และไม่เคยเปิดดูหุ้น ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่เคยโทรไปถาม
ผ่านไป 7 เดือน ผมขายได้ที่ราคา ประมาณ 100 บาท
ก็เล่าให้ฟังเฉยๆ ลองต่อยอดความคิดกันเอง จะผิด จะถูก วิจารณ์ได้ จะได้ด้วยดวง หรือ ฝีมือ ก็ว่ากันไป
และอย่ามาต่อว่านะ คนกำลังจะตาย ยังมาคิดเรื่องหุ้นอีก
แน่นอนครับ ผมต้องคิดเรื่องหุ้นแน่นอน เพราะผมเป็นคนบ้า หุ้น คริๆ
การค้าทำอะไรไม่ได้ ก็เลยไปยืนดูจอที่วี ที่ JF ธนาคม ภาพ CNN ฉายซ้ำ มีคนเดินหนีที่ริมกำแพง แบบค่อยๆเดินนะ จำภาพได้ เดินแบบกลัวๆ และแล้วก็มีการถ่ายภาพจากด้านหลัง คือคนยิงอยู่ด้านหน้า
ปัง
คนก็ล้มลง แต่ภาพมีการฉายซ้ำไป ซ้ำมา
ผมเองไม่ขอยืนยันนะว่า เป็นภาพที่ยิงในเมืองไทย หรือที่ไหน หรือตัดต่อ หรืออย่างไร
คือ ผมเห็นในทีวี และก็เห็นกระดานหุ้นแดงหมดเลย
( ไม่คุยต่อประเด็นการเมืองนะ )
เอาเรือ่งหุ้น ผมเองก็มาคิดดูว่า โห บ้านเมืองลุกเป็นไฟขนาดนี้
หากกว่า ประเทศไทยเจ๊ง เงิน 1 ล้าน เหลือเท่าไร ผมคิดของผมเองนะ ว่าเหลือ 0
หากประเทศไทยไม่เจ๊ง แล้วสถานการณ์ กลับมาดี เงิน 1 ล้าน ก็เหลือ 1 ล้าน เท่าเดิม
ส่วนหุ้น 1 ล้าน ณ เวลานั้น ที่ฟลอ กันอยู่ ผมคิดว่า หากประเทศไทย เจ๊ง หุ้น 1 ล้านก็เหลือ 0
แต่หากประเทศไทยไม่เจ๊ง หุ้น 1 ล้าน น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้าน
ผมก็เลยซื้อไป 4 แสนบาท ซื้อ bbl ราคาประมาณ 60 เคาะที่ฟลอ จำได้แม่นว่า เดินไปที่เค๊าเตอร์ แล้วบอกพนักงานซื้อ bbl 4 แสนบาท ที่ฟลอ พนักงานถามว่า ขายเท่าไร ผมบอกว่า ซื้อ ซื้อ ซื้อ ซื้อไปกี่หุ้นจำไม่ได้ จำได้แต่ว่า ใช้เม็ดเงิน 4 แสนบาท
และไม่เคยเปิดดูหุ้น ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่เคยโทรไปถาม
ผ่านไป 7 เดือน ผมขายได้ที่ราคา ประมาณ 100 บาท
ก็เล่าให้ฟังเฉยๆ ลองต่อยอดความคิดกันเอง จะผิด จะถูก วิจารณ์ได้ จะได้ด้วยดวง หรือ ฝีมือ ก็ว่ากันไป
และอย่ามาต่อว่านะ คนกำลังจะตาย ยังมาคิดเรื่องหุ้นอีก
แน่นอนครับ ผมต้องคิดเรื่องหุ้นแน่นอน เพราะผมเป็นคนบ้า หุ้น คริๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1339
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 4
ในเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ตลาดหุ้นได้สร้างคนรวยใหม่ๆอยู่เสมอ
ผมเชื่อว่าคนที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำใน thaivi ก็เกิดขึ้นใน
สมัยเศรษฐกิจพังทลายในสมัยลดค่าเงินบาท หลายคน ได้แต่หวัง
ลึกๆว่าตนเองจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ประเทศไทยคงไม่ล่มจม
ตอนนี้หรอก
( แหะๆ ปลอบใจตัวเองเพราะตอนนี้ Port แดงเถือก)
ผมเชื่อว่าคนที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำใน thaivi ก็เกิดขึ้นใน
สมัยเศรษฐกิจพังทลายในสมัยลดค่าเงินบาท หลายคน ได้แต่หวัง
ลึกๆว่าตนเองจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ประเทศไทยคงไม่ล่มจม
ตอนนี้หรอก
( แหะๆ ปลอบใจตัวเองเพราะตอนนี้ Port แดงเถือก)
- Akajon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 532
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 5
ก่อนปี 40 มีญาติมาชวนที่บ้านเล่นหุ้น เอาตึกไปค้ำ เล่น Margin ยิ่งเล่นยิ่งได้
ตอนแรกที่ดินก่อน ได้เงินง่าย แต่ไม่เร็วพอ หุ้นมันเร็วกว่ามาก จิ้มขึ้นจิ้มขึ้น เงินมันหาได้ง่าย ก็เอาตึก 2 ตึกไปค้ำ เล่น Margin เกือบๆ 300 ล้าน แล้วก็วิกฤต หุ้นตกจาก 1700 จุด เหลือ 600 กว่าจุด ตอนนั้นที่บ้านถอยแล้ว ไม่อยู่ต่อ ญาติบอกใจไม่สู้ ถือไว้เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นไป
ตอนนั้นก็ไม่รู้ใครจะผิด ใครจะถูก แต่เราถอย ขายหมดเกลี้ยง เพราะแบกดอกไม่ไหว สุดท้ายต้องขายตึก 2 เหลือตึก 1 ไว้ จำได้ว่าเคยมีคนพูดว่า "ตัดอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต" กระชับ ได้ใจความ
หลังจากขายหมดแล้ว ก็อยู่แบบกระดิกแทบไม่ได้ เก็บเงินใช้หนี้อย่างเดียว ใช้หนี้เกือบ 8 ปี ถึงจะพอมีกระแสเงินสดให้เริ่มคิด เริ่มทำอะไรต่อ
แต่ช่วงนั้น มันไม่เหมือนตอนนี้ ตอนนั้นอะไรๆ ก็ดูจะง่ายไปหมด จับอะไร เป็นเงินเป็นทอง มันคือฟองสบู่ รอวันแตก คงคล้ายๆ เวียดนามตอนนี้
ตอนแรกที่ดินก่อน ได้เงินง่าย แต่ไม่เร็วพอ หุ้นมันเร็วกว่ามาก จิ้มขึ้นจิ้มขึ้น เงินมันหาได้ง่าย ก็เอาตึก 2 ตึกไปค้ำ เล่น Margin เกือบๆ 300 ล้าน แล้วก็วิกฤต หุ้นตกจาก 1700 จุด เหลือ 600 กว่าจุด ตอนนั้นที่บ้านถอยแล้ว ไม่อยู่ต่อ ญาติบอกใจไม่สู้ ถือไว้เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นไป
ตอนนั้นก็ไม่รู้ใครจะผิด ใครจะถูก แต่เราถอย ขายหมดเกลี้ยง เพราะแบกดอกไม่ไหว สุดท้ายต้องขายตึก 2 เหลือตึก 1 ไว้ จำได้ว่าเคยมีคนพูดว่า "ตัดอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต" กระชับ ได้ใจความ
หลังจากขายหมดแล้ว ก็อยู่แบบกระดิกแทบไม่ได้ เก็บเงินใช้หนี้อย่างเดียว ใช้หนี้เกือบ 8 ปี ถึงจะพอมีกระแสเงินสดให้เริ่มคิด เริ่มทำอะไรต่อ
แต่ช่วงนั้น มันไม่เหมือนตอนนี้ ตอนนั้นอะไรๆ ก็ดูจะง่ายไปหมด จับอะไร เป็นเงินเป็นทอง มันคือฟองสบู่ รอวันแตก คงคล้ายๆ เวียดนามตอนนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 6
BBL ผมขายไป 134
ว่าจะรับคืนนะครับ
แต่ เกรง กระชอนจะหัก
ว่าจะรับคืนนะครับ
แต่ เกรง กระชอนจะหัก
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 7
กำลังอยากจะตั้งกระทู้ แบบนี้อยู่พอดีครับผม
อยากให้พี่ๆที่มีประสบการณ์ มาช่วยเตือนสติกันอีกสักครับ กับเรื่องเก่าเล่าใหม่
ขอบคุณคุณ Jeng ที่นำประสบการณ์มาเล่าให้ฟังครับผม
ยิ่งอารมณ์ตอนนี้ เห็นภาพที่เคยเกิดเมื่อปี 40 นิดๆขึ้นมาเลย ทั้งที่ตอนนั้น
ผมยังเรียนอยู่ เล่นหุ้นไม่เป็นเลยครับฟังแต่เค้าเล่ามา
แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเล่นหุ้นอยู่ประมาณว่า
ทุ่มหมดตัวเลย เพราะช่วงก่อนหน้าแกได้มาเยอะมาก ตอนหลังเท่าที่ถามๆ
จากเพื่อนๆ เห็นว่าตอนปี 40 นี่ถึงขั้นเกือบหมดเนื้อหมดตัวเลย เสียทั้งเงิน
ทั้งชีวิตครอบครัวไปเลยทีเดียว ทั้งทีแกเป็นคนเก่ง ฉลาดแล้วก็มีความมั่น
ใจตัวเองสูงมากเลย....... ตอนหลังเคยฟังแกเล่าว่าตอนนั้นหุ้นตกจนตัวชา
คือไปห้องค้า หรือ โทรไปถามมาร์ก็ได้ยินแต่คำว่า หุ้นลงไปกี่ % กี่ floor
ฟังเค้าเล่าตอนนั้นยังไม่ค่อย อิน เท่าตอนนี้เลยครับผม ตื่นมาก็เจอแบบว่า
เปิด ลบ แล้ว ลบ แรงขึ้นเรื่อยๆ มีกระตุกระหว่างวัน แล้วปิด low ประมาณ
เนี้ยแหละ
ตอนนี้ดีหน่อยที่ยังเหลือเงินสดไว้ ประมาณครึ่งหนึ่ง ที่คงยังไม่ลงทุนใดๆทั้งสิ้น
ในตอนนี้ กับหุ้นที่หวังว่าน่าจะล่องเรือ ผ่านมรสุมใหญ่นี้ไปได้
ผมว่าวิกฤติครั้งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าจะยาวนานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าจะแย่ขนาดไหน
หรือไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบรูปแบบใด แต่ผมเชื่อว่า 10 ปีที่ผ่านมาหลายๆบริษัท
มีบทเรียน มีความพร้อม มากกว่าตอนเจอวิกฤติคราวที่แล้วมาก ยังไงก็หวังลึกๆ
ว่า วิกฤติคราวนี้คงไม่ยืดเยื้อยาวนาน และไม่รุนแรงมากกว่าความสามารถของ
เราๆท่านๆจะรับมือได้นะครับ
อยากรบกวนคุณ Jeng มาตั้งกระทู้ใหม่ตอนวันฟ้าใสที่ตลาดหุ้นไทย 1000 จุด
ด้วยจะได้ไหมครับ เพื่อว่าเป็นการเตือนว่าเคยผ่านอะไรมาแค่ไหน
กว่าจะมายืนถึงจุดนี้ได้นะครับ
ขอบคุณมากครับ
อยากให้พี่ๆที่มีประสบการณ์ มาช่วยเตือนสติกันอีกสักครับ กับเรื่องเก่าเล่าใหม่
ขอบคุณคุณ Jeng ที่นำประสบการณ์มาเล่าให้ฟังครับผม
ยิ่งอารมณ์ตอนนี้ เห็นภาพที่เคยเกิดเมื่อปี 40 นิดๆขึ้นมาเลย ทั้งที่ตอนนั้น
ผมยังเรียนอยู่ เล่นหุ้นไม่เป็นเลยครับฟังแต่เค้าเล่ามา
แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเล่นหุ้นอยู่ประมาณว่า
ทุ่มหมดตัวเลย เพราะช่วงก่อนหน้าแกได้มาเยอะมาก ตอนหลังเท่าที่ถามๆ
จากเพื่อนๆ เห็นว่าตอนปี 40 นี่ถึงขั้นเกือบหมดเนื้อหมดตัวเลย เสียทั้งเงิน
ทั้งชีวิตครอบครัวไปเลยทีเดียว ทั้งทีแกเป็นคนเก่ง ฉลาดแล้วก็มีความมั่น
ใจตัวเองสูงมากเลย....... ตอนหลังเคยฟังแกเล่าว่าตอนนั้นหุ้นตกจนตัวชา
คือไปห้องค้า หรือ โทรไปถามมาร์ก็ได้ยินแต่คำว่า หุ้นลงไปกี่ % กี่ floor
ฟังเค้าเล่าตอนนั้นยังไม่ค่อย อิน เท่าตอนนี้เลยครับผม ตื่นมาก็เจอแบบว่า
เปิด ลบ แล้ว ลบ แรงขึ้นเรื่อยๆ มีกระตุกระหว่างวัน แล้วปิด low ประมาณ
เนี้ยแหละ
ตอนนี้ดีหน่อยที่ยังเหลือเงินสดไว้ ประมาณครึ่งหนึ่ง ที่คงยังไม่ลงทุนใดๆทั้งสิ้น
ในตอนนี้ กับหุ้นที่หวังว่าน่าจะล่องเรือ ผ่านมรสุมใหญ่นี้ไปได้
ผมว่าวิกฤติครั้งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าจะยาวนานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าจะแย่ขนาดไหน
หรือไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบรูปแบบใด แต่ผมเชื่อว่า 10 ปีที่ผ่านมาหลายๆบริษัท
มีบทเรียน มีความพร้อม มากกว่าตอนเจอวิกฤติคราวที่แล้วมาก ยังไงก็หวังลึกๆ
ว่า วิกฤติคราวนี้คงไม่ยืดเยื้อยาวนาน และไม่รุนแรงมากกว่าความสามารถของ
เราๆท่านๆจะรับมือได้นะครับ
อยากรบกวนคุณ Jeng มาตั้งกระทู้ใหม่ตอนวันฟ้าใสที่ตลาดหุ้นไทย 1000 จุด
ด้วยจะได้ไหมครับ เพื่อว่าเป็นการเตือนว่าเคยผ่านอะไรมาแค่ไหน
กว่าจะมายืนถึงจุดนี้ได้นะครับ
ขอบคุณมากครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 9
ผมอยากรู้ว่าที่หุ้นลงรอบนี้แรง + เร็วเพราะการเมืองอย่างเดียวอย่างนั้นเหรอ
ผมว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักมากกว่าครับ แต่การเมืองเป็นตัวเร่ง + ทำให้ลงมากและเร็ว ปี 49 ที่ก็มีปัญหาการเมืองมีแนวโน้มจะรุนแรง และรัฐประหาร ฝรั่งก็ยังซื้อสุทธินี่ครับ
แต่เที่ยวนี้ผมว่าปัจจัยเศรษฐกิจโลก + ภายในประเทศเรา โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ กับการจะขึ้นดอกเบี้ย ฝรั่งก็ขายหุ้นทั้งภูมิภาค เวียดนามฟองสบู่ก็แตก จีนก็มีเรื่องเงินเฟ้อ ซับไพรม์ก็ยังไม่จบซึ่งผมว่าต้องดูกันถึงปีหน้า ว่าจะเพิ่มทุนกันไหวหรือไม่ ฯลฯ
แต่ประเทศเรามีปัญหาการเมืองเค้าก็เลยเลือกขายของเราก่อน และขายต่อเนื่อง เท่าที่เคยเห็นฝรั่งขายในช่วงก่อนปี 40 เค้าขายแบบถามว่ามี offer เท่าไรไม่ได้ถามราคานะครับ
แล้วอีกอย่างปี 35 ที่มีปัญหาการเมืองปัญหาเศรษฐกิจไม่มี ปี 36 37 หุ้นบูมใหญ่
ปี 40 มีปัญหาเศรษฐกิจแต่ปัญหาการเมืองไม่แรง เงินเฟ้อไม่แรงทั้งอาหาร + พลังงาน
แต่ปีนี้
1.ปัญหาการเงินโลก ความเสียหายที่ยังไม่ชัดเจน กองทุนอาจต้องขายหุ้นอีก
2.เงินเฟ้อ อาหาร พลังงาน ทั้งโลก กำลังซื้อหดตัวลง
3.เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว เช่น สิงคโปร์เดือน พ.ค. การส่งออกไปยุโรป สหรัฐ เริ่มลดลง ตอนนี้หวังว่าจีนยังคงไปได้ก็แล้วกัน
4.การเมือง ถ้ามีเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ต้องมีรัฐบาลรักษาการณ์ล่ะก็ คงจะแย่ เพราะจะทำได้แต่งานประจำ อนุมัติโครงการนโยบายต่าง ๆ ไม่ได้อีก
ผมว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักมากกว่าครับ แต่การเมืองเป็นตัวเร่ง + ทำให้ลงมากและเร็ว ปี 49 ที่ก็มีปัญหาการเมืองมีแนวโน้มจะรุนแรง และรัฐประหาร ฝรั่งก็ยังซื้อสุทธินี่ครับ
แต่เที่ยวนี้ผมว่าปัจจัยเศรษฐกิจโลก + ภายในประเทศเรา โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ กับการจะขึ้นดอกเบี้ย ฝรั่งก็ขายหุ้นทั้งภูมิภาค เวียดนามฟองสบู่ก็แตก จีนก็มีเรื่องเงินเฟ้อ ซับไพรม์ก็ยังไม่จบซึ่งผมว่าต้องดูกันถึงปีหน้า ว่าจะเพิ่มทุนกันไหวหรือไม่ ฯลฯ
แต่ประเทศเรามีปัญหาการเมืองเค้าก็เลยเลือกขายของเราก่อน และขายต่อเนื่อง เท่าที่เคยเห็นฝรั่งขายในช่วงก่อนปี 40 เค้าขายแบบถามว่ามี offer เท่าไรไม่ได้ถามราคานะครับ
แล้วอีกอย่างปี 35 ที่มีปัญหาการเมืองปัญหาเศรษฐกิจไม่มี ปี 36 37 หุ้นบูมใหญ่
ปี 40 มีปัญหาเศรษฐกิจแต่ปัญหาการเมืองไม่แรง เงินเฟ้อไม่แรงทั้งอาหาร + พลังงาน
แต่ปีนี้
1.ปัญหาการเงินโลก ความเสียหายที่ยังไม่ชัดเจน กองทุนอาจต้องขายหุ้นอีก
2.เงินเฟ้อ อาหาร พลังงาน ทั้งโลก กำลังซื้อหดตัวลง
3.เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว เช่น สิงคโปร์เดือน พ.ค. การส่งออกไปยุโรป สหรัฐ เริ่มลดลง ตอนนี้หวังว่าจีนยังคงไปได้ก็แล้วกัน
4.การเมือง ถ้ามีเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ต้องมีรัฐบาลรักษาการณ์ล่ะก็ คงจะแย่ เพราะจะทำได้แต่งานประจำ อนุมัติโครงการนโยบายต่าง ๆ ไม่ได้อีก
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 11
Dimsum เขียน:เท่าที่เคยเห็นฝรั่งขายในช่วงก่อนปี 40 เค้าขายแบบถามว่ามี offer เท่าไรไม่ได้ถามราคานะครับ
รบกวนช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยครับ
อ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ
ตอนผมขายผมมักดูbid
ไม่ค่อยไปวางoffer
ต่อรองกับใครซักเท่าไหร่
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 12
ขออภัยครับ พิมพ์ผิด :oops: คือ
เวลาฝรั่งขายจะดูว่ามี bid กี่หุ้น แล้วโยนขายเลยครับ ราคาห่างกันช่อง 2 ช่องเค้าไม่ค่อยเกี่ยง ขอให้ขายได้ทั้งจำนวนที่ต้องการก็พอ ดังนั้น ถ้าฝรั่งช่วยกันโยนขาย และขายทุกวันก็จะเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ในทางกลับกันถ้าช่วยกันซื้อ ก็...
เวลาฝรั่งขายจะดูว่ามี bid กี่หุ้น แล้วโยนขายเลยครับ ราคาห่างกันช่อง 2 ช่องเค้าไม่ค่อยเกี่ยง ขอให้ขายได้ทั้งจำนวนที่ต้องการก็พอ ดังนั้น ถ้าฝรั่งช่วยกันโยนขาย และขายทุกวันก็จะเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
ในทางกลับกันถ้าช่วยกันซื้อ ก็...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 876
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 13
ผมว่าตอนนี้ยังต่างกับปี 40 เยอะครับ
บริษัทยังทำกำไรได้ มีพื้นฐานการเงินที่แข็งแกร่งมากกว่าตอนนั้นเยอะ ส่วนประเด็นเรื่องเงินเฟ้อ เศรษฐกิจนั้น ผมว่าควรจะโฟกัสเป็นตัวๆหุ้นไปมากกว่า ว่าตัวไหนจะมีผลกระทบมากน้อยต่างกันอย่างไรบ้าง
ผมว่าตอนนี้ Mr. Market กำลังทำงานให้พวกเราอย่างขมักเขม้นทีเดียว หน้าที่ของเราก็คือ ศึกษาๆๆๆๆๆๆ ธุรกิจที่สนใจ ซื้อไว้ในวันที่ราคามันตกต่ำมากๆ แล้วก็.....
รอวันฟ้าใสอีกครั้ง
ดังที่หลายๆท่านเคยกล่าวไว้ว่า " แล้วมันก็จะผ่านไป "
แต่รอบนี้ตลาดอาจจะไม่กลับตัวแบบเร็วๆเหมือนๆรอบที่ผ่านมา เราอาจจะต้องอยู่ในช่วงหมีที่นานสักหน่อย เพราะสถานะการณ์รอบๆมันช่างเอื้ออำนวยให้นายตลาดอารมณ์ไม่ดีเสียเหลือเกินครับ
บริษัทยังทำกำไรได้ มีพื้นฐานการเงินที่แข็งแกร่งมากกว่าตอนนั้นเยอะ ส่วนประเด็นเรื่องเงินเฟ้อ เศรษฐกิจนั้น ผมว่าควรจะโฟกัสเป็นตัวๆหุ้นไปมากกว่า ว่าตัวไหนจะมีผลกระทบมากน้อยต่างกันอย่างไรบ้าง
ผมว่าตอนนี้ Mr. Market กำลังทำงานให้พวกเราอย่างขมักเขม้นทีเดียว หน้าที่ของเราก็คือ ศึกษาๆๆๆๆๆๆ ธุรกิจที่สนใจ ซื้อไว้ในวันที่ราคามันตกต่ำมากๆ แล้วก็.....
รอวันฟ้าใสอีกครั้ง
ดังที่หลายๆท่านเคยกล่าวไว้ว่า " แล้วมันก็จะผ่านไป "
แต่รอบนี้ตลาดอาจจะไม่กลับตัวแบบเร็วๆเหมือนๆรอบที่ผ่านมา เราอาจจะต้องอยู่ในช่วงหมีที่นานสักหน่อย เพราะสถานะการณ์รอบๆมันช่างเอื้ออำนวยให้นายตลาดอารมณ์ไม่ดีเสียเหลือเกินครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 238
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 15
ผมเห็นด้วยกับคุณ Dimsum ว่า มันถึงรอบที่ฝรั่งขาย และหอบดอลล่าร์หนีจากเอเซีย เพียงแต่การเมืองไทยทำให้เค้าต้องหนีเร็วอีกนิด ปล่อยให้รายย่อยไทย(หลง)พากันด่าม๊อบทีทำให้หุ้นตกDimsum เขียน:ผมอยากรู้ว่าที่หุ้นลงรอบนี้แรง + เร็วเพราะการเมืองอย่างเดียวอย่างนั้นเหรอ
ผมว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักมากกว่าครับ แต่การเมืองเป็นตัวเร่ง + ทำให้ลงมากและเร็ว ปี 49 ที่ก็มีปัญหาการเมืองมีแนวโน้มจะรุนแรง และรัฐประหาร ฝรั่งก็ยังซื้อสุทธินี่ครับ
แต่เที่ยวนี้ผมว่าปัจจัยเศรษฐกิจโลก + ภายในประเทศเรา โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ กับการจะขึ้นดอกเบี้ย ฝรั่งก็ขายหุ้นทั้งภูมิภาค เวียดนามฟองสบู่ก็แตก จีนก็มีเรื่องเงินเฟ้อ ซับไพรม์ก็ยังไม่จบซึ่งผมว่าต้องดูกันถึงปีหน้า ว่าจะเพิ่มทุนกันไหวหรือไม่ ฯลฯ
แต่ประเทศเรามีปัญหาการเมืองเค้าก็เลยเลือกขายของเราก่อน และขายต่อเนื่อง เท่าที่เคยเห็นฝรั่งขายในช่วงก่อนปี 40 เค้าขายแบบถามว่ามี offer เท่าไรไม่ได้ถามราคานะครับ
แล้วอีกอย่างปี 35 ที่มีปัญหาการเมืองปัญหาเศรษฐกิจไม่มี ปี 36 37 หุ้นบูมใหญ่
ปี 40 มีปัญหาเศรษฐกิจแต่ปัญหาการเมืองไม่แรง เงินเฟ้อไม่แรงทั้งอาหาร + พลังงาน
แต่ปีนี้
1.ปัญหาการเงินโลก ความเสียหายที่ยังไม่ชัดเจน กองทุนอาจต้องขายหุ้นอีก
2.เงินเฟ้อ อาหาร พลังงาน ทั้งโลก กำลังซื้อหดตัวลง
3.เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว เช่น สิงคโปร์เดือน พ.ค. การส่งออกไปยุโรป สหรัฐ เริ่มลดลง ตอนนี้หวังว่าจีนยังคงไปได้ก็แล้วกัน
4.การเมือง ถ้ามีเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ต้องมีรัฐบาลรักษาการณ์ล่ะก็ คงจะแย่ เพราะจะทำได้แต่งานประจำ อนุมัติโครงการนโยบายต่าง ๆ ไม่ได้อีก
กลางปีที่แล้ว ตอนที่ตลาดหุ้นจีนและเวียตนามกำลังรุ่งๆอยู่ มีนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกคนหนึ่ง เตือนให้ระวัง และทำนายว่าจะร่วง (collapse)ก่อนโอลิมปิคที่ปักกิ่ง เค้าคงมองเห็นว่า เกม"ค่าดอลล่าร์อ่อน"มันใกล้จะจบแล้ว ฝรั่งชนะอีกตามเคย
คุณเจ๋ง เก่งจังที่กล้าซื้อครับ วันนั้นผมยืนตะลึงอยู่หน้าเคานเต้อร์ ทำอะไรไม่ถูก พอผ่านไปสักชั่วโมง เริ่มได้คิด จะไปซื้อ หุ้นดีๆหลายตัวก้อขึ้นจากฟลอร์แล้ว
อ้อ ต้องบอกน้องๆด้วยว่า ตอนนั้น เค้ากำหนดฟลอร์ไว้แค่ 10 %
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 20
โค้ด: เลือกทั้งหมด
คุณเจ๋ง เก่งจังที่กล้าซื้อครับ วันนั้นผมยืนตะลึงอยู่หน้าเคานเต้อร์ ทำอะไรไม่ถูก พอผ่านไปสักชั่วโมง เริ่มได้คิด จะไปซื้อ หุ้นดีๆหลายตัวก้อขึ้นจากฟลอร์แล้ว
อ้อ ต้องบอกน้องๆด้วยว่า ตอนนั้น เค้ากำหนดฟลอร์ไว้แค่ 10 %
ก่อนหน้านั้นก็เลิกเล่นไปแล้ว คือได้กำไรไปแล้ว ในช่วงปี 2532 - 2533 แต่ว่าเลิกเล่น เหตุผลคือไม่ทราบว่าได้กำไรมาเพราะอะไร แค่นั้นครับ
...................................................
เรื่องเศรษฐกิจ ที่หลายๆท่านเตือนว่า ไม่เหมือนสมัยนั้น ผมเห็นด้วยนะ ผมก็เลยเปลี่ยนแผน เป็น ซื้อ ซื้อ ซื้อ ตลอด 3 ปี นี้ คือ ซื้อทุกเดือน ตั้งแต่ ปี 2551-2553
ตัวไหนลง แล้วยังดี ในเรื่องยอดขาย กำไร ปันผล ผมก็ซื้อเพิ่ม
ตัวไหนขึ้น แล้ว pe สูง ยอดขายไม่น่าจะโตมาก ก็ขาย
ว่ากันแบบ กลยุธ สะสมหุ้น 3 ปี
เอาแบบเงินฝากประจำอะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 21
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เรื่องเศรษฐกิจ ที่หลายๆท่านเตือนว่า ไม่เหมือนสมัยนั้น ผมเห็นด้วยนะ ผมก็เลยเปลี่ยนแผน เป็น ซื้อ ซื้อ ซื้อ ตลอด 3 ปี นี้ คือ ซื้อทุกเดือน ตั้งแต่ ปี 2551-2553
แต่ผมเห็นโอกาสในการเป็นเจ้าของกิจการดีๆครับ
หากไม่มีเรื่องแย่ๆ แบบนี้ ใครจะเอากิจการดีๆมาขายในราคา discount ให้เราหละ
ผมเองก็เลยใช้กลยุธ สะสมหุ้น 3 ปี
ประมาณว่า 3 ปีชีวิตเปลี่ยน อิอิ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 22
หุ้นตก 100 จุดเคยเกิดขึ้น 2 ครั้ง ครั้งแรก... รู้ๆ กันอยู่
ทำให้มี เซอร์กิตเบรกเกอร์ คือถ้าตลาดลง 10% จะหยุดการซื้อขาย
และ เซอร์กิตเบรกเกอร์ นั้นได้ถูกนำมาใช้ในวันที่ .... รู้ๆกันอยู่
ทำให้มี เซอร์กิตเบรกเกอร์ คือถ้าตลาดลง 10% จะหยุดการซื้อขาย
และ เซอร์กิตเบรกเกอร์ นั้นได้ถูกนำมาใช้ในวันที่ .... รู้ๆกันอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 24
พี่เจ๋ง ซื้อสวนกับม๊อบหนนี้จะดีจริงเหรอ เมื่อไหร่ดี
ปัจจัยปัจจุบันมันเหมือนกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วจริงหรือคะ
จริงๆ การวัด kpi ของผลงาน คือ ต้องระบุแผน
ที่มี criteria ที่วัดเป็นตัวเลขได้ และอยู่ในTime frameที่ชัดเจนนี่
ถ้าซื้อจริงๆ ไปแล้ว เกิด bbl 60บาทพาร์ 100 มันไม่ขึ้นซะที
ดันเจอเมกาบู่แตกขึ้นมาอีก เงินมันก็หดหมดจิคะ
มันเป็นความเสี่ยงที่ไม่ได้รับการควบคุมเกินไปหรือเปล่า
ถ้าอยากซื้อตอนนี้ ได้ยินเค้าเล่ามาว่า
ถ้าจะสวน ก็เพราะใกล้แนวรับ
ถ้าจะสวน ก็เพราะปิดงบครึ่งปีธนาคาร
ถ้าจะสวน ก็เพราะ nav สวยๆ ของกองทุน
ปัจจัยปัจจุบันมันเหมือนกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วจริงหรือคะ
จริงๆ การวัด kpi ของผลงาน คือ ต้องระบุแผน
ที่มี criteria ที่วัดเป็นตัวเลขได้ และอยู่ในTime frameที่ชัดเจนนี่
ถ้าซื้อจริงๆ ไปแล้ว เกิด bbl 60บาทพาร์ 100 มันไม่ขึ้นซะที
ดันเจอเมกาบู่แตกขึ้นมาอีก เงินมันก็หดหมดจิคะ
มันเป็นความเสี่ยงที่ไม่ได้รับการควบคุมเกินไปหรือเปล่า
ถ้าอยากซื้อตอนนี้ ได้ยินเค้าเล่ามาว่า
ถ้าจะสวน ก็เพราะใกล้แนวรับ
ถ้าจะสวน ก็เพราะปิดงบครึ่งปีธนาคาร
ถ้าจะสวน ก็เพราะ nav สวยๆ ของกองทุน
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 27
โค้ด: เลือกทั้งหมด
พี่เจ๋ง ซื้อสวนกับม๊อบหนนี้จะดีจริงเหรอ เมื่อไหร่ดี
อย่าไปสวนเค๊าเลย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 28
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ขอถามพี่เจ๋งหน่อยครับ
อยากรู้เหตุผลว่าทำไมตอนนั้นถึงเลือก bbl
แล้วถ้าเป็นตอนนี้ยังจะเลือก bbl อยู่ไหม หรือตัวอื่น เพราะอะไรครับ
และสมัยนั้น bank เอง คุมเศรษฐกิจ bbl เป็น แบงค์ใหญ่สุดครับ
พี่ก็เลยเลือก bbl แค่นั้นเองครับ ตัวอื่นไม่มีครับ พวก ptt pttep หรือว่ามีหว่า ไม่เห็นรู้จักเลย รู้จัก แต่ bbl
อิอิ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 29
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ขอถามพี่เจ๋งหน่อยครับ
อยากรู้เหตุผลว่าทำไมตอนนั้นถึงเลือก bbl
แล้วถ้าเป็นตอนนี้ยังจะเลือก bbl อยู่ไหม หรือตัวอื่น เพราะอะไรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์ซื้อหุ้น ตอนเกิดพฤษภาทมิฬ เอามาเล่าให้น้องใหม่ฟัง
โพสต์ที่ 30
เอางั้นหรือคะ อืมก็แล้วแต่Jeng เขียน:น้องกล้วยทอด พี่ไม่ได้บอกให้ซื้อสวนกะม๊อบนะครับ อิอิโค้ด: เลือกทั้งหมด
พี่เจ๋ง ซื้อสวนกับม๊อบหนนี้จะดีจริงเหรอ เมื่อไหร่ดี
อย่าไปสวนเค๊าเลย
แต่ละคนจะตีความกันเอาเองและกันค่ะ
ไปดีกว่า
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..