ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
doodeemak
Verified User
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เพื่อนๆเคยใช้ ROIC ในการกรองหุ้นคร่าวๆมั๊ยครับ

โดย R คือ NOPAT = Adjusted EBIT x (1-T)

ที่ใช้คำว่า Adjusted เพราะควรจะมีการ adjust รายการที่ไม่เหมาะสมออกจากการตกแต่งบัญชี

ส่วน IC หรือ Invested Capital คือส่วนเงินทุน net ที่ผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ลงทุน

Invested capital = Adjusted Working capital + Adjusted Fixed asset

โดนเจ้าตัวนี้จะแตกต่างจาก Total asset ตรงที่ว่ามันจะ net ตัวเจ้าหนี้ที่เกิดขึ้นจากการค้าออก แล้วไปหลงจ้งใน working capital (คร่าวๆคือ Current Asset - Current Liability) ซึ่งที่ต้องมี adjusted ก็เพื่อ adjust working capital และ Fixed asset ให้เหมาะสม

เจ้าตัวนี้จะต่างจาก ROE ตรงที่มันจะเป็นตัววัดเมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ ในขณะที่ ROE จะมองผลตอบแทนต่อผู้ลงทุนเท่านั้น ดังนั้น ROIC จะไม่ถูกเล่นโดยการเปลี่ยนโครงสร้างเงินลงทุนจากการใช้หนี้น้อยมาเป็นหนี้เยอะ
อีกทั้งหากมีการบริหาร working capital ไม่ดี (เช่น มีลูกหนี้สูงขึ้นมาก หรือมี Inventory สูงขึ้นมาก) ก็จะทำให้ ROIC ไม่ดีตามไปด้วย

ROIC เมื่อนำมาลบออกด้วย WACC ก็จะได้เป็นส่วนต่างของ % กำไรทางเศรษฐศาสตร์

เพื่อนๆเคยใช้ ratio ตัวนี้บ้างมั๊ยครับ  :?  :?  :?
Inactive investor
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มีคำถามครับ

Adjusted Fixed asset นี่คิดยังไงหรอครับ แค่ลบเงินลงทุนในบริษัทอื่น กับ non operating fixed assets หรือเปล่าครับ

แล้ว Adjusted Working capital นี่เท่ากับ Current Asset - Current Liability - เจ้าหนี้การค้า แค่นี้หรือเปล่าครับ หรือต้องนำอะไรมาคิดอีก  :oops:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
tok
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 833
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ROIC = NOPAT / Invested Capital

Invested Capital  = Total assets - Excess cash - Non_interest_bearing_current liabilities

จากหนังสือ The Little Book That Builds Wealth บอกว่า Excess cash คือ cash not needed for day-to-day business needs

Excess cash ผมใช้ Cash and Equivalents (เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด)

Non_interest_bearing_current liabilities ผมใช้ Accounts Payable (เจ้าหนี้การค้า)

เวปนี้มีคำอธิบายไว้เหมือนกัน
http://www.valuebasedmanagement.net/methods_roic.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ  :D

ผมตีความแบบนี้ได้ไหมครับ เงินที่ไม่จำเป็นในการดำเนินการธุรกิจ (Excess cash) น่าจะเป็นเงินที่บริษัทเอาไปลงทุนอย่างอื่นๆ เช่น ซื้อหลักทรัพย์เผื่อขาย หุ้นกู้ พันธบัตร

ส่วน Cash and equivalents ในงบดุล น่าจะเป็น cash ที่จำเป็นในการดำเนินการธุรกิจ ไม่งั้นมันน่าจะถูกแปลสภาพเป็นอย่างอื่นแล้ว

เพราะถ้าไม่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจจริงๆ ก็ไม่น่าจะฝากไว้ที่บัญชีเดินสะพัดหรือฝากประจำ 3 เดือนเพราะดอกเบี้ยมันน้อย

คิดถูกไหมเนี้ย  :oops:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
tok
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 833
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เวปนี้มีคำอธิบาย พร้อมตัวอย่าง ROIC อย่างละเอียดถึง 6 บท

http://www.fool.com/School/Roic/Roic06.htm

ในบทที่่ 6 ข้างบนนี้บอกไว้ว่า

The compromise ROIC is thus: after-tax operating profit divided by assets minus non-interest-bearing current liabilities minus excess cash. Excess cash is cash beyond 0% to 20% of revenues.

เงินสดส่วนเกิน เป็นเงินสดตั้งแต่ 0%-20% ของรายได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ

บางธุรกิจ เช่น ร้านอาหาร ต้องการเงินสดไว้ใช้ดำเนินธุรกิจในแต่ละวันน้อยมาก เงินสดทั้งหมดถือเป็นเงินสดส่วนเกิน

ธุรกิจที่เปลี่ยนเงินสดเป็นสินค้าคงคลัง และขายสินค้าได้เป็นเงินสดอย่างรวดเร็ว เช่น Costco ต้องการเงินสดไว้ใช้ดำเนินธุรกิจน้อย เงินสดที่เกินจาก 5% ของรายได้ถือเป็นเงินสดส่วนเกิน
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 6

โพสต์

http://en.wikipedia.org/wiki/Return_on_Invested_Capital


ROIC = (Net Operating Profit − Taxes) / (Total Capital)


Net opearting profit นะครับไม่ใช่ EBIT
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Adjusted Fixed assets คือการแยกเอาเฉพาะสินทรัพย์ถาวรที่ใช้ดำเนินงานมาคิด ถ้าดูในงบการเงินต้องดูให้ดีๆ บางที่มีสินทรัพย์แต่Off-Balance sheetอยู่ต้องเอามาคิดด้วย

Adjusted working Capital คือการเอาworking Cap มาคิด โดยหักเอาหนี้สินระยะยาว และหนี้สินที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยออก

ROIC จะเป็นแนวคิดเดียวกับ ROA คือทุนทั้งหมดที่ใช้ทำมาหากำไร(สินทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ  = หนี้สิน + ส่วนผู้ถือหุ้น)  ROIC ใช้แนวคิดที่ว่าการดำเนินธุรกิจจะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน(working cap.) และสินทรัพย์ถาวรในการดำเนินงาน ดังนั้นถ้าไม่หา ROIC ก็หาROAก็ได้ แต่ROICจะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนกว่ามากกว่า

ที่นี้เวลาจะดูว่าบริษัทดำเนินการได้ดีหรือไม่ ให้เอามาเทียบกับต้นทุนของเงินทุนหมุนเวียนและสินทรัพย์ถาวร นั้นก็คือ WACC ถ้า ROIC หรือ ROA สูงกว่า WACC ก็แสดงว่าทำมาหาได้มีผลตอบแทนสูงกว่าต้นทุนเงินทุน ถ้าออกมาน้อยกว่าถึงROIC หรือ ROA สูงก็ตาม ไม่ถือว่ากิจการสร้างมูลค่า เพราะหาผลตอบแทนได้ต่ำกว่าต้นทุนเงินทุน

จะมองว่า ROIC เป็น Opering ROAก็ได้ เพราะใช้มุมมองในการคิดแบบoperating Base และ Financial base

ROA จะเป็นแบบ Accounting base ซึ่งอยู่ในกรอบข้อจำกัดทางบัญชี ต้องมีการปรับให้เป็นแบบ Financial base จะดีกว่า
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sorawut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2494
ผู้ติดตาม: 2

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่มนนะครับ แต่ยังสงสัยอีกนิด  :oops:
Mon money เขียน:Adjusted Fixed assets คือการแยกเอาเฉพาะสินทรัพย์ถาวรที่ใช้ดำเนินงานมาคิด ถ้าดูในงบการเงินต้องดูให้ดีๆ บางที่มีสินทรัพย์แต่Off-Balance sheetอยู่ต้องเอามาคิดด้วย
สินทรัพย์แต่Off-Balance sheet นี่เป็นประเภทสัญญาเช่าระยะยาวหรือเปล่าครับ ที่ต้องปรับจากค่าเช่าเป็นสินทรัพย์แล้วหักค่าเสื่อมแทน...
Mon money เขียน:Adjusted working Capital คือการเอาworking Cap มาคิด โดยหักเอาหนี้สินระยะยาว และหนี้สินที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยออก
คือ Current Asset - Current Liability - หนี้สินทั้งหมด (ทั้งสั้นและยาว) ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยใช่ไหมครับ ว่าแต่ทำไมต้องลบหนี้สินระยะยาวด้วยล่ะครับ  :oops:

จริงๆผมอยากนำ ROIC มาใช้แทน ROC ของสูตรนี้ในหนังสือของคุณสุมาอี้น่ะครับ

FCF = (1 - g / ROC) x NOPAT

ไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือเปล่า  :roll:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
อินทรีทอง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 9

โพสต์

รบกวนถามพี่มนนะครับว่า ถ้าสมมุติเป็นกิจการที่เงินทุนหมุนเวียนหลักๆมาจากการปล่อยบัญชีของ supplier ตัว Adjusted working cap ควรเอาหนี้สินในส่วนที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยกลับมาคำนวนรวมด้วยหรือเปล่าครับ คิดเล่นๆครับ  :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

ROIC กับการวัดประสิทธิภาพของการบริหารการดำเนินงาน

โพสต์ที่ 10

โพสต์

Mon money wrote:
Adjusted Fixed assets คือการแยกเอาเฉพาะสินทรัพย์ถาวรที่ใช้ดำเนินงานมาคิด ถ้าดูในงบการเงินต้องดูให้ดีๆ บางที่มีสินทรัพย์แต่Off-Balance sheetอยู่ต้องเอามาคิดด้วย



สินทรัพย์แต่Off-Balance sheet นี่เป็นประเภทสัญญาเช่าระยะยาวหรือเปล่าครับ ที่ต้องปรับจากค่าเช่าเป็นสินทรัพย์แล้วหักค่าเสื่อมแทน...
สัญญาเช่าทางการเงิน ที่พยายามทำให้เป็นสัญญาเช่าดำเนินงาน ตัวนี้ไม่บันทึกสินทรัพย์ หนี้สิน
Mon money wrote:
Adjusted working Capital คือการเอาworking Cap มาคิด โดยหักเอาหนี้สินระยะยาว และหนี้สินที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยออก


คือ Current Asset - Current Liability - หนี้สินทั้งหมด (ทั้งสั้นและยาว) ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยใช่ไหมครับ ว่าแต่ทำไมต้องลบหนี้สินระยะยาวด้วยล่ะครับ
เอา CA - CL ก็พอ เพราะหนี้สินระยะยาวมันไปสะท้อนใน Fixed Assets แล้ว ในกรณีWorking cap. คือเงินทุนหมุนเวียน ใช้เงินกู้ระยะสั้น หรือ เงินที่Supplierให้มาใช้ก่อน
รบกวนถามพี่มนนะครับว่า ถ้าสมมุติเป็นกิจการที่เงินทุนหมุนเวียนหลักๆมาจากการปล่อยบัญชีของ supplier ตัว Adjusted working cap ควรเอาหนี้สินในส่วนที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยกลับมาคำนวนรวมด้วยหรือเปล่าครับ คิดเล่นๆครับ
มันเป็นข้อได้เปรียบของบางอุตสาหกรรม กรณีอย่างนี้ working cap. ติดลบ ทำให้ operating Assets ลดลง หากNOPATสูง ROICก็สูง แถม WACC ต่ำอีกเพราะได้ Free rideจาก supplier  ส่วนคำถามนี้ ถ้าคิดว่า สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน  ---หนี้สินที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยได้ถูกคิดต้นทุนค่าเสียโอกาสลงในcost of goods soldไปแล้ว เอามาคิดอีกก็คิดสองรอบ ผิดถูกคิดเอาครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
โพสต์โพสต์