ผมไม่ได้หมายถึง ธุรกิจเจ๊งนะครับ แค่บอกว่าเค้าต้อง manage cost เค้า การลดคนงานเป็นไปได้แน่นอนครับ เพราะเค้าบอกว่ามีแนวโน้มจะขึ้นอีกนี่ครับ แล้วอีกอย่าง ธุรกิจตอนนี้ เงียบเหงาลงไปแน่นอน ถ้า รายได้ลด รายจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม ยังไงองค์กรก็ต้องมีการปรับอยู่แล้วครับchatchai เขียน: การขึ้นดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% คงไม่ทำให้ธุรกิจต่างๆเจ๊งหรอกครับ อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยของไทยในปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่ไม่ได้สูงมากนัก
เงินเฟ้อมันมาแล้ว ตัวเร่งการขึ้นดอกเบี้ย
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเฟ้อมันมาแล้ว ตัวเร่งการขึ้นดอกเบี้ย
โพสต์ที่ 31
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
เงินเฟ้อมันมาแล้ว ตัวเร่งการขึ้นดอกเบี้ย
โพสต์ที่ 32
ผมยังคิดว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ยังสามารถประคองไปได้ด้วยดีครับ
ไม่เชื่อว่าจะมีการลดคนงานกันมากมาย
ไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยจะประสบปัญหา
สถานการณ์ตอนนี้ดีกว่าช่วงปี 40 มากมาย
ตัวเลขกำลังการผลิตยังอยู่ในระดับสูงมาก ยอดส่งออก ยอดนำเข้า สูงสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ใช่หรือครับ
ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ก็ยังคงมีลูกค้านั่งรอเรียกชื่ออยู่เลยครับ
ไม่เชื่อว่าจะมีการลดคนงานกันมากมาย
ไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยจะประสบปัญหา
สถานการณ์ตอนนี้ดีกว่าช่วงปี 40 มากมาย
ตัวเลขกำลังการผลิตยังอยู่ในระดับสูงมาก ยอดส่งออก ยอดนำเข้า สูงสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ใช่หรือครับ
ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ก็ยังคงมีลูกค้านั่งรอเรียกชื่ออยู่เลยครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
เงินเฟ้อมันมาแล้ว ตัวเร่งการขึ้นดอกเบี้ย
โพสต์ที่ 33
ถ้าบริษัทเสียดอกเบี้ยเพิ่มปีละ 1 ล้านบาทBHT เขียน:ปริมาณเงินกู้ยืมและต้นทุนทางการเงินของแต่ละบริษัทไม่เท่ากันนี่ครับ การเพิ่มขึ้นมา 0.25% อาจทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มหลายล้านก็ได้
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เงินเฟ้อมันมาแล้ว ตัวเร่งการขึ้นดอกเบี้ย
โพสต์ที่ 35
ผมกลับมองไม่เหมือนกันนะครับ เพราะไม่เห็นว่า การขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อเงินเฟ้ออย่างไร เพราะตอนนี้ ของแพง demand ลดด้วย การลดดอกเบี้ยก็เป็นการลด demand ต่ออีกรอบนึง ทำให้ เส้น demand shift ไปทางซ้ายมากขึ้นเกิด ศก. หดตัวมากกว่าความจำเป็น ทั้งๆที่ปล่อยให้ demand ลดลงจาก supply shift ขึ้นก็พอแล้วให้ ปรับสู่สมดุลใหม่ และผมมองว่า ในระยะสั้น เส้น supply เป็น เส้นแนวนอนได้ เนื่องจาก ศกในประเทศไม่ได้มีประสิทธิภาพเพียงพอ การบริหาร ศก short term กับ long term ก็ต่างกันนะครับ เพราะ long term เค้าจะมองว่า supply เป็น slope แต่ short term เป็นได้ทั้ง 3 แบบ ครับ
ประเด็นผมคือ การขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้มีผลร้ายแรง แต่จะมีผลให้ demand หดตัวลงโดยไม่จำเป็น ซึ่งเป็นตัว ฉุด GDP ให้ลดลงโดย เงินเฟ้อไม่ได้ลดลง เพราะ ผมมองว่า เส้น supply เป็นแนวนอนใน short term การลด demand ลงก็ไม่มีผลกระทบกับราคา
เหตุที่ผมมอง supply เป็นแนวเพราะ ถ้าจะให้เป็น slope ขึ้น การตัดกันของ demand กับ supply ต้องตัดกันที่ potential GDP นะครับ ไม่ใช่ GDP ที่รายงานกันอยู่ เหตุที่ผมว่าเป็นอย่างนี้เพราะ ไม่ใช่ประเด็นคนไม่มีงานทำอย่างเดียว ยังเกิดจากการที่ คนมีความรู้แต่ไม่ได้ทำงานที่ทำให้เค้าแสดงความสามารถได้มากที่สุด หรือการ ไม่ match กันของคนกับงานนั้นเองครับ
ประเด็นผมคือ การขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้มีผลร้ายแรง แต่จะมีผลให้ demand หดตัวลงโดยไม่จำเป็น ซึ่งเป็นตัว ฉุด GDP ให้ลดลงโดย เงินเฟ้อไม่ได้ลดลง เพราะ ผมมองว่า เส้น supply เป็นแนวนอนใน short term การลด demand ลงก็ไม่มีผลกระทบกับราคา
เหตุที่ผมมอง supply เป็นแนวเพราะ ถ้าจะให้เป็น slope ขึ้น การตัดกันของ demand กับ supply ต้องตัดกันที่ potential GDP นะครับ ไม่ใช่ GDP ที่รายงานกันอยู่ เหตุที่ผมว่าเป็นอย่างนี้เพราะ ไม่ใช่ประเด็นคนไม่มีงานทำอย่างเดียว ยังเกิดจากการที่ คนมีความรู้แต่ไม่ได้ทำงานที่ทำให้เค้าแสดงความสามารถได้มากที่สุด หรือการ ไม่ match กันของคนกับงานนั้นเองครับ
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment