ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
oatty
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2444
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โลกในมุมมองของ Value Investor                
 
ในช่วงนี้ทองดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อย  และเราก็กำลังจะมีตลาดซื้อขายทองล่วงหน้าภายในเวลาไม่เกินสองเดือน   แต่ทองเป็นการลงทุนที่ดีจริงหรือ?  ทองคืออะไร?   มันมีคุณสมบัติอย่างไรมองในแง่การลงทุนและเรื่องอื่น?    เรามาดูกัน

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าทองเป็นธาตุ  “มหัศจรรย์”  และคนรู้จักและใช้มันมาหลายพันปีแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ 4-5,000 ปีมาแล้ว   คุณสมบัติที่โดดเด่นมากของทองก็คือ  มันเป็นธาตุที่ไม่เป็นสนิมเพราะมันไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนดังนั้นสีทองที่แวววาวของมันจึงดำรงอยู่ตราบนานเท่านาน     ว่าที่จริงสัญลักษณ์ทางเคมีของทองก็คือ  AU  ซึ่งมาจากคำว่า  Aurora ซึ่งแปลว่าแสงแห่งรุ่งอรุณหรือแสงอรุโณทัย   นอกจากความงามของเนื้อทองแล้ว   ทองยังเป็นโลหะที่มีความเหนียวเป็นพิเศษและไม่เปราะ   เราจึงสามารถตีขึ้นรูปเป็นเส้นหรือแผ่นที่บางมากอย่างไม่น่าเชื่อทำให้คนสามารถนำทองมาทำเป็นเครื่องประดับที่หรูหรามาตั้งแต่โบราณอย่างที่พบในหลุมศพบรรจุมัมมี่   สภาพทองที่เห็นยังคงงดงามเหมือนเดิมทุกอย่างในขณะที่สิ่งอื่น ๆ  ต่างก็ผุพังทรุดโทรมลง   ดังนั้น   ทองจึงเป็นสิ่งที่คนใฝ่ฝันอยู่เสมอมาจนถึงวันนี้

นอกจากการเป็นเครื่องประดับที่ทรงค่าแล้ว   ทองยังเคยเป็น  “เงิน”  หรือเป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นเวลานาน  ต่อมาก็มีการพิมพ์ธนบัตรขึ้นมาใช้โดยมีทองหนุนหลัง   จนถึงวันนี้ที่ทองกับเงินถูกแยกจากกันหมดแล้ว    ทองก็ยังมีบทบาททั้งทางด้านของการทำเป็นเครื่องประดับและการเป็นทรัพย์สินทรงค่าที่รัฐบาลและประชาชนจำนวนมากเก็บไว้เพื่อใช้ในยามที่ต้องการ

แต่ในแง่ของการลงทุนที่เราเน้นที่ผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุนในทองแล้ว   สถิติผลตอบแทนของทองซึ่งวัดจากราคาของทองที่ปรับตัวขึ้นไปในแต่ละปีกลับพบว่าทองนั้นให้ผลตอบแทนที่น้อยมาก   ในช่วง 100 ถึง 200 ปีที่ผ่านมาทองนั้นให้ผลตอบแทนเพียงประมาณเท่ากับอัตราเงินเฟ้อคือน่าจะเฉลี่ยประมาณ 2-3 %  ต่อปีเท่านั้น   นั่นก็คือผลตอบแทนที่คิดเป็นเงินเหรียญสหรัฐซึ่งมีสถิติการซื้อขายทองมายาวนาน   อย่างไรก็ตาม  ราคาของทองที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอาจจะทำให้คนคิดว่าทองเป็นสิ่งที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงเพราะราคาทองปรับขึ้นไปเฉลี่ยแล้วนับเป็นสิบสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปีในขณะที่ความเสี่ยงที่ราคาจะตกลงมีน้อยมาก     แต่นี่อาจจะเป็นภาพลวงตา   นั่นก็คือ   ทองเองก็มีช่วงเวลาที่จะ  “ฉายแสงแวววาว”   คือเป็นช่วงที่ทองให้ผลตอบแทนสูงมากในช่วงเวลาหนึ่งอย่างในช่วงนี้    แต่หลังจากการปรับตัวขึ้นไปแรงแล้ว   ทองก็อาจจะหงอยเหงาไปอีกหลายปีซึ่งทำให้คนที่ลงทุนซื้อทองในช่วงนี้ขาดทุนหรือไม่ได้ผลตอบแทนไปอีกนาน    เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับทองมาแล้วเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับหุ้นซึ่งก็มีเวลาให้ผลตอบแทนดีและเวลาที่ให้ผลตอบแทนแย่เช่นเดียวกัน

ข้อดีของทองในแง่ของการลงทุนก็คือ   ราคาหรือผลตอบแทนของทองนั้น   โดยสถิติไม่มีความสัมพันธ์กับหุ้นหรือมีน้อยมาก   นั่นหมายความว่าช่วงที่หุ้นตกราคาทองอาจจะขึ้นหรือไม่ตก    นี่ทำให้การถือทองบางส่วนร่วมกับหุ้นเป็นพอร์ตโฟลิโอสามารถช่วยลดความเสี่ยงหรือกระจายความเสี่ยงเงินลงทุนของเราได้

ข้อดีของการถือทองลงทุนข้อสองก็คือ   ทองเป็น   “ของจริงที่จับต้องได้”   ไม่เหมือนหุ้นหรือตราสารการเงินอื่นที่เป็น  “กระดาษ”  หรือเป็น “ตัวเลข” ที่เรามองไม่เห็น     เราสามารถชื่นชมหรือนำทองมาลูบคลำและเกิดความอิ่มอกอิ่มใจได้ในขณะที่หลักทรัพย์นั้น  “ไม่มีตัวตน”   และเวลาที่ราคามันตกลงมามาก ๆ  เราจะพบแต่ความเศร้า    ตรงกันข้าม  ทองนั้นมักให้ความรู้สึกที่ดีและมั่นคงและราคาของมันไม่ค่อยจะตกลงมามากมายอย่างไม่มีเหตุผลเหมือนหุ้น

ข้อดีของทองทั้งสองข้อข้างต้นนั้น   โดยส่วนตัวผมเองไม่ค่อยเห็นด้วยนัก   เพราะผมรู้สึกว่าการลดความเสี่ยงโดยการถือทองนั้นไม่คุ้มกับผลตอบแทนน้อยนิดที่ทองจะทำให้เราในระยะยาว  ในด้านของความรู้สึกว่าทองเป็นของจริงที่จับต้องได้นั้น   ผมเองคิดว่าหุ้นนั้นถึงจะเป็น  “กระดาษ”  แต่มันก็เป็นของจริง   มันเป็นเครื่องบอกว่าเราเป็นเจ้าของโรงงาน   ร้านค้า   หรือธุรกิจที่มีทั้งอุปกรณ์และคนทำงานอยู่จริง   ดังนั้น   เราก็รู้สึกมีความภาคภูมิใจหรืออิ่มอกอิ่มใจได้เช่นกันจากการถือหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ข้อดีของทองที่ผมคิดว่ามีค่าก็คือ   มันสามารถเก็บมูลค่าทรัพย์สินหรือความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคงที่สุด   เพราะเราสามารถเก็บติดตัวหรือพกพามันไปที่ไหนก็ได้  พูดง่าย ๆ   ในยามที่เลวร้ายที่สุด   ทองนั้นจะยังอยู่กับเราเสมอในขณะที่ทรัพย์สินอย่างอื่นอาจจะสูญเสียหรือถูกทำลายไปได้  ดังนั้น   มันจึงเป็นเสมือน  “หลักประกัน”   ชิ้นสุดท้ายที่มีค่าที่สุด  ผมจะลองยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นได้ให้ดู

ถ้าเราเป็นคนยุโรปที่อยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง    หุ้นของเราที่ถืออยู่อาจจะหมดค่าลงได้เพราะโรงงานของบริษัทอาจจะถูกบอมบ์จนพังทลายหมด    เช่นเดียวกัน  บ้านที่เป็นทรัพย์สินมีค่ามหาศาลก็อาจจะถูกระเบิดทำลาย    ที่ดินเองนั้น  ถึงแม้ว่าจะยังอยู่   แต่ถ้าเราอาศัยอยู่ในประเทศที่กลายเป็นคอมมิวนิสต์  ที่ดินก็อาจจะถูกยึดเป็นของหลวง   แต่ถ้าเรามีทองอยู่   เราก็สามารถนำทองนั้นติดตัวและทองนั้นยังมีค่าที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือสิ่งจำเป็นอย่างอื่นได้ไม่ว่าเราจะยังอยู่ในยุโรปหรือหนีออกไปอยู่ในทวีปอื่น

ลองมาดูว่าถ้าเราอยู่ในประเทศไทยซึ่งโอกาสเจอสงครามแบบนั้นมีน้อย   แต่ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจและต้องกู้เงินมาลงทุน   วันหนึ่งธุรกิจอาจจะล้มละลายและคุณอาจถูกยึดทรัพย์   ทรัพย์สินต่าง ๆ  เช่นบ้าน  ที่ดิน  หรือหุ้นนั้นเป็นสิ่งที่มี   “ทะเบียน”  ดังนั้น  มันอาจถูกยึดไปได้   แต่ทองนั้นโอกาสที่จะถูกยึดแทบไม่มี   นี่ก็อาจจะปรับใช้ได้กับนักการเมืองที่อาจจะถูกยึดทรัพย์ได้   ในกรณีแบบนี้   ทองคือสิ่งที่จะยังอยู่   ด้วยเหตุผลดังกล่าว   สำหรับผมแล้ว   ประโยชน์ของทองนั้น   คือการที่มันเป็นเสมือนกรมธรรม์ประกันความมั่งคั่งที่เราจะต้องจ่าย  “เบี้ยประกัน”   เป็นผลตอบแทนที่น้อยลงจากการถือทอง
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ...
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ใครสนใจเรื่อง
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ทองหากเก็บไว้ที่ธนาคาร หากเกิดสงครามเราคงเข้าไปเอาในธนาคารออกมาไม่ได้

ฉะนั้นต้องเก็บไว้ที่บ้าน ก็มีความเสี่ยงจากความสูญหาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
ร่มไม้
Verified User
โพสต์: 6
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นบทความของดร. ในหน้าแรกๆของเวปเลยครับ?? :shock:
หุ้นคือฟาร์มของเรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ดร เขียนบทความออกมาตอนนี้ทำไมหนอ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
i_sarut
Verified User
โพสต์: 1808
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เห็นด้วยครับ ยิ่งช่วงนี้กองทุนทองเปิดกันเยอะมาก :lol:
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet

สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย

http://www.sarut-homesite.net/
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 8

โพสต์

i_sarut เขียน:เห็นด้วยครับ ยิ่งช่วงนี้กองทุนทองเปิดกันเยอะมาก :lol:
ก็คงคล้ายกับที่ปีก่อนเปิดกองทุนตลาดหุ้นจีน กับตอนต้นปีที่เปิดกองทุนโภคภัณฑ์แหละครับ
Eka
Verified User
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 9

โพสต์

Financial Engineer เขียน: ก็คงคล้ายกับที่ปีก่อนเปิดกองทุนตลาดหุ้นจีน กับตอนต้นปีที่เปิดกองทุนโภคภัณฑ์แหละครับ
พวกกองทุนนี้เหมือนว่าจะชอบเปิดกันที่ดอยอ่ะครับ
ไม่ดอยไม่เปิด


ที่คุณchatchai บอกว่าทองไม่มีปันผล นี้ผมมองว่าแล้วแต่บุคคลนะครับ
ถ้าเป็นคนที่ซื้อทองเก็บด้วย แล้วก็เอามาสวมใส่ด้วย
ความภูมิใจที่ได้มีทองใส่ นี้ก็เหมือนกับว่าได้ปันผลเป็นความสุข
ด้านจิตใจ เหมือนกันนะครับ  :wink:

แถมคะแนนจิตพิสัยเราจะเพิ่มขึ้นด้วยหากว่าซื้อให้แฟน    :lol:
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 10

โพสต์

Eka เขียน: พวกกองทุนนี้เหมือนว่าจะชอบเปิดกันที่ดอยอ่ะครับ
ไม่ดอยไม่เปิด
อันนี้จะโทษกองทุนอย่างเดียวก็คงไม่ได้นะครับ

เพราะถ้าไม่เปิดที่ดอย รายย่อยก็ไม่สนใจซื้อ  :lol:
Eka
Verified User
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 11

โพสต์

Financial Engineer เขียน:
อันนี้จะโทษกองทุนอย่างเดียวก็คงไม่ได้นะครับ

เพราะถ้าไม่เปิดที่ดอย รายย่อยก็ไม่สนใจซื้อ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 12

โพสต์

[quote="Eka"]ที่คุณchatchai บอกว่าทองไม่มีปันผล นี้ผมมองว่าแล้วแต่บุคคลนะครับ
ถ้าเป็นคนที่ซื้อทองเก็บด้วย แล้วก็เอามาสวมใส่ด้วย
ความภูมิใจที่ได้มีทองใส่ นี้ก็เหมือนกับว่าได้ปันผลเป็นความสุข
ด้านจิตใจ เหมือนกันนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
bankniti
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ราคาทองในประเทศจะหลุด 13,000 บาทแล้ว (ที่ต่างประเทศก็อยู่แถวๆ  800 เหรียญ) :shock: ลงตามราคาน้ำมันเลย
bomnaja
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1282
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
yy
Verified User
โพสต์: 6427
ผู้ติดตาม: 1

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 15

โพสต์

CEO เขียน:ดร เขียนบทความออกมาตอนนี้ทำไมหนอ
เหตุผลจริงๆไม่ทราบครับ .. แต่หัวข้อนี้ ดร. แกไปร่วมเป็นวิทยากร ร่วมกับ ดร. สุวรรณ เมื่อวันเสาร์ต้นเดือนนี้ .. ผมเลยคิดว่า ไหนๆท่านก็เตรียมข้อมูลเพื่อพูดแล้วก็เลยเอามาเขียนให้คนที่ไม่ได้ไปพังในงานสัมมนาได้ทราบข้อมูลและแนวคิดของท่านด้วย (เทปรายการนี้ เพิ่งออกทาง UBC ช่อง 8 เมื่อคืนก่อนนี้เอง .. ไม่ทราบว่าจะนำมาออกทางช่อง 80 เมื่อไหร่)
คนที่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ ย่อมมีโอกาสเรียนรู้
MKM
Verified User
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 16

โพสต์

:D  ขอบคุณที่นำข้อคิดดีๆมาเผยแพร่ครับ  :idea:
แนว VI ใช้นำทางชีวิต
sittc
Verified User
โพสต์: 109
ผู้ติดตาม: 0

ทอง ทอง ทอง by ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 11 สิงหาคม 2551

โพสต์ที่ 17

โพสต์

[quote="chatchai"]

ส่วนจุดที่น่าสนใจ
โพสต์โพสต์