เปิดเผยสดๆร้อนๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดเผยสดๆร้อนๆครับ
โพสต์ที่ 1
ข่าวมาเมื่อคืนครับ
Buffett's Berkshire Discloses Stake in NRG Energy (Update3)
By Josh P. Hamilton
Aug. 14 (Bloomberg) -- Billionaire Warren Buffett's Berkshire Hathaway Inc. took a stake in NRG Energy Inc., the second-biggest power producer in Texas. Buffett also made an undisclosed transaction involving ConocoPhillips, the second- largest U.S. refiner.
Berkshire had 3.24 million NRG shares as of June 30, the Omaha, Nebraska-based company said today in a regulatory filing disclosing equity investments at the end of the second quarter.
Buffett's Berkshire Discloses Stake in NRG Energy (Update3)
By Josh P. Hamilton
Aug. 14 (Bloomberg) -- Billionaire Warren Buffett's Berkshire Hathaway Inc. took a stake in NRG Energy Inc., the second-biggest power producer in Texas. Buffett also made an undisclosed transaction involving ConocoPhillips, the second- largest U.S. refiner.
Berkshire had 3.24 million NRG shares as of June 30, the Omaha, Nebraska-based company said today in a regulatory filing disclosing equity investments at the end of the second quarter.
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดเผยสดๆร้อนๆครับ
โพสต์ที่ 4
ด้วยความสัตย์จริงครับพี่พอใจ ภูมิผมมีไม่ถึงที่จะวิเคราะห์ครับ
แต่ผมสามารถย่อยสิ่งซึ่งผมอ่านมาจากความคิดของแก โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ก็คือ
1. ตอนสมัยน้ำมันแพงมากๆ (ขาขึ้นจากแถวๆ 110-147) แกบอกว่าแต่ก่อนแกก็ไม่เคยเชื่อว่ามันพลังงานหลักๆของโลกจะขาดแคลน เพราะมันมีอยู่อย่างเหลือเฟือ จนมาไม่กี่ปีมานี่เองที่แกเห็นการขยายตัวของ ศกโลก รวมถึงการใช้พลังงงานของโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้แกเคยบอกว่าการเก็งกำไรนั้นมีอยู่ ( Speculation โดยพวก Hedge Fund ขาใหญ่) แต่แกก็ไม่เคยเห็นการใช้พลังงานกันมากมายอย่างนี้มาก่อนตลอดชั่วชีวิตแก แกเป็นคนที่มองอะไรยาวมากๆ ถ้าใจไม่ถึง ตามแกระยะสั้นๆ หมดความอดทน อาจจะขาดทุนไปก่อนได้ครับ แต่สำหรับผม ผมเชื่อแกหมดหัวใจ อย่างกรณีนี้ แก long พลังงานแน่นอนครับ
2. ทุกๆคนก็ทราบว่าพอร์ทของแกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นพวกของมี brand awareness มากๆ พวก consumer products เนี่ยเยอะมาก แล้วก็มี Financial&Banking firms พวก consumer อย่าง Coke, P&G, Kraft,...etc เนี่ยก็กินไปกว่า 30% มีดีลใหญ่ๆที่เกี่ยวกับพลังงานก็เมื่อตอน 2003 ตอนซื้อ Petro China ไปเพราะแกเห็นว่าถูกเหลือเกิน และก็ขายออกไปปีที่แล้วเพราะว่าแพงเหลือเกิน (ได้ไปประมาณ 8 เท่า ภายใน 5 ปีอย่างที่เคยเรียนให้ทราบ)
3. CNBC เคยสัมภาษณ์แกว่าสนใจธุรกิจพลังงานมั๊ย แกบอกว่าแกสนใจตลอด ดังนั้น Conoco ก็ตอบโจทย์แก เพราะ PE ต่ำกว่าเพื่อนๆอย่าง Chevron หรือ Exxon Mobil โขอยู่ครับ
4. เรื่องไฟฟ้าที่แกซื้อผมขอผ่านครับเพราะถือว่า surprise จริงๆ ยังหาอ่านไม่เจอเลยครับ
5. แต่ที่ surprise กว่าคือแกเพิ่ม position ของแกใน IR (Ingersoll) ตั้ง 500% ถ้าเทียบกะ Q แรก IR เพิ่งซื้อแอร์ Trane ไปครับ เพราะคนอื่นไปเดาๆหรือโหวตกันว่าน่าจะเป็น เวล์ ฟาร์โก หรือไม่ก็คราฟท์กันเยอะ
สรุป ผมว่าแกมองว่าธุรกิจพลังงานนี่ของตายครับ แกเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็หวนกลับมาธุรกิจปิโตรอีกด้วย
อย่างนี้ Commodities ทั้ง hard แล้วก็ soft, โดยเฉพาะ ทองที่ลงๆกันอยู่นี่ น่าจะเป็นแค่ short-lived น่ะครับ???
*ล่าสุดพวก Hedge Fund บางกลุ่ม Short หุ้น Gannett ซึ่งขายหนังสือพิมพ์ยี่ห้อ USA Today และอื่นๆอีกมาก กันใหญ่เลยครับ
ผมชอบแกตรงที่แกก็บอกผู้ถือหุ้นของ B&H ตรงๆว่านอกจากว่าธุรกิจประกันในปีนี้จะไม่ดีเหมือนเดิม ธุรกิจหนังสือพิมพ์ที่ได้ผ่านช่วงที่ดีที่สุดไปแล้ว ทุบหุ้นตัวเองประจำเลยครับ แกเนี่ย น่านับถือมาก*
แต่ผมสามารถย่อยสิ่งซึ่งผมอ่านมาจากความคิดของแก โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ก็คือ
1. ตอนสมัยน้ำมันแพงมากๆ (ขาขึ้นจากแถวๆ 110-147) แกบอกว่าแต่ก่อนแกก็ไม่เคยเชื่อว่ามันพลังงานหลักๆของโลกจะขาดแคลน เพราะมันมีอยู่อย่างเหลือเฟือ จนมาไม่กี่ปีมานี่เองที่แกเห็นการขยายตัวของ ศกโลก รวมถึงการใช้พลังงงานของโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้แกเคยบอกว่าการเก็งกำไรนั้นมีอยู่ ( Speculation โดยพวก Hedge Fund ขาใหญ่) แต่แกก็ไม่เคยเห็นการใช้พลังงานกันมากมายอย่างนี้มาก่อนตลอดชั่วชีวิตแก แกเป็นคนที่มองอะไรยาวมากๆ ถ้าใจไม่ถึง ตามแกระยะสั้นๆ หมดความอดทน อาจจะขาดทุนไปก่อนได้ครับ แต่สำหรับผม ผมเชื่อแกหมดหัวใจ อย่างกรณีนี้ แก long พลังงานแน่นอนครับ
2. ทุกๆคนก็ทราบว่าพอร์ทของแกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นพวกของมี brand awareness มากๆ พวก consumer products เนี่ยเยอะมาก แล้วก็มี Financial&Banking firms พวก consumer อย่าง Coke, P&G, Kraft,...etc เนี่ยก็กินไปกว่า 30% มีดีลใหญ่ๆที่เกี่ยวกับพลังงานก็เมื่อตอน 2003 ตอนซื้อ Petro China ไปเพราะแกเห็นว่าถูกเหลือเกิน และก็ขายออกไปปีที่แล้วเพราะว่าแพงเหลือเกิน (ได้ไปประมาณ 8 เท่า ภายใน 5 ปีอย่างที่เคยเรียนให้ทราบ)
3. CNBC เคยสัมภาษณ์แกว่าสนใจธุรกิจพลังงานมั๊ย แกบอกว่าแกสนใจตลอด ดังนั้น Conoco ก็ตอบโจทย์แก เพราะ PE ต่ำกว่าเพื่อนๆอย่าง Chevron หรือ Exxon Mobil โขอยู่ครับ
4. เรื่องไฟฟ้าที่แกซื้อผมขอผ่านครับเพราะถือว่า surprise จริงๆ ยังหาอ่านไม่เจอเลยครับ
5. แต่ที่ surprise กว่าคือแกเพิ่ม position ของแกใน IR (Ingersoll) ตั้ง 500% ถ้าเทียบกะ Q แรก IR เพิ่งซื้อแอร์ Trane ไปครับ เพราะคนอื่นไปเดาๆหรือโหวตกันว่าน่าจะเป็น เวล์ ฟาร์โก หรือไม่ก็คราฟท์กันเยอะ
สรุป ผมว่าแกมองว่าธุรกิจพลังงานนี่ของตายครับ แกเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็หวนกลับมาธุรกิจปิโตรอีกด้วย
อย่างนี้ Commodities ทั้ง hard แล้วก็ soft, โดยเฉพาะ ทองที่ลงๆกันอยู่นี่ น่าจะเป็นแค่ short-lived น่ะครับ???
*ล่าสุดพวก Hedge Fund บางกลุ่ม Short หุ้น Gannett ซึ่งขายหนังสือพิมพ์ยี่ห้อ USA Today และอื่นๆอีกมาก กันใหญ่เลยครับ
ผมชอบแกตรงที่แกก็บอกผู้ถือหุ้นของ B&H ตรงๆว่านอกจากว่าธุรกิจประกันในปีนี้จะไม่ดีเหมือนเดิม ธุรกิจหนังสือพิมพ์ที่ได้ผ่านช่วงที่ดีที่สุดไปแล้ว ทุบหุ้นตัวเองประจำเลยครับ แกเนี่ย น่านับถือมาก*
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
เปิดเผยสดๆร้อนๆครับ
โพสต์ที่ 5
NRG นี่ผมแอบไปดูเวบเค้ามา เข้าใจว่าผลิตไฟฟ้านะครับ
วอร์เรนเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาว่าเค้ามีเงินสดเหลือเยอะ แล้วเค้าก็สนใจหุ้นโรงไฟฟ้า ซึ่งเค้าบอกว่ามันให้ผลตอบแทนปีละราวๆ 15% แล้วก็มีความแน่นอนสูงมาก
ผมคิดว่า 15% ดูไม่มากสำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และมีพลังรวมถึงสติปัญญาเป็นเลิศ แต่สำหรับนักลงทุนที่จริงจัง แล้วก็มีเงินสดหลายหมื่นล้านเหรียญอย่างวอร์เรน ผลตอบแทนขนาดนี้ก็น่าสนใจมาก อันที่จริงดอกเตอร์นิเวศน์ก็ตั้งเป้าว่าในอนาคต ดอกเตอร์ก็หวังว่าจะได้ปีละ15% ครับ
สำหรับวอร์เรน ถ้าเค้ายังสามารถหาซื้อธุรกิจประกัน ที่มีโฟลตมากกว่าเงินที่ใช้สำหรับซื้อกิจการมากพอสมควร เค้าก็น่าจะได้ผลตอบแทนรวม สูงกว่า 15% ต่อปี จากการซื้อโรงไฟฟ้าที่ให้ผลตอบแทนปีละ 15% ครับ
ที่แน่ๆ วอร์เรนต้องคิดว่า เค้าเข้าใจบริษัทนี้เป็นอย่างดี แล้วบริษัทต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน มาพร้อมกับผู้บริหารที่ดี แล้วก็เสนอขายในราคาที่ไม่แพงครับ
ผมคิดว่าเค้ามองแบบนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ^^
วอร์เรนเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาว่าเค้ามีเงินสดเหลือเยอะ แล้วเค้าก็สนใจหุ้นโรงไฟฟ้า ซึ่งเค้าบอกว่ามันให้ผลตอบแทนปีละราวๆ 15% แล้วก็มีความแน่นอนสูงมาก
ผมคิดว่า 15% ดูไม่มากสำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และมีพลังรวมถึงสติปัญญาเป็นเลิศ แต่สำหรับนักลงทุนที่จริงจัง แล้วก็มีเงินสดหลายหมื่นล้านเหรียญอย่างวอร์เรน ผลตอบแทนขนาดนี้ก็น่าสนใจมาก อันที่จริงดอกเตอร์นิเวศน์ก็ตั้งเป้าว่าในอนาคต ดอกเตอร์ก็หวังว่าจะได้ปีละ15% ครับ
สำหรับวอร์เรน ถ้าเค้ายังสามารถหาซื้อธุรกิจประกัน ที่มีโฟลตมากกว่าเงินที่ใช้สำหรับซื้อกิจการมากพอสมควร เค้าก็น่าจะได้ผลตอบแทนรวม สูงกว่า 15% ต่อปี จากการซื้อโรงไฟฟ้าที่ให้ผลตอบแทนปีละ 15% ครับ
ที่แน่ๆ วอร์เรนต้องคิดว่า เค้าเข้าใจบริษัทนี้เป็นอย่างดี แล้วบริษัทต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน มาพร้อมกับผู้บริหารที่ดี แล้วก็เสนอขายในราคาที่ไม่แพงครับ
ผมคิดว่าเค้ามองแบบนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ^^
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 186
- ผู้ติดตาม: 0
โรงกลั่นกำลังขาลงแน่หรือ
โพสต์ที่ 6
ข่าวเรื่องค่าการกลั่นตั้งแต่ปลายปีนี้ รวมทั้งปิโตรเคมี ที่มีกำลังผลิตเริ่มจะล้น
จากโรงกลั่นใหม่ในอินเดีย และจีน จะทำให้เกิดเข้าสู่ขาลง
ดูจากราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีในไทยได้
หรือวอเรน เห็นแตกต่างไป
จากโรงกลั่นใหม่ในอินเดีย และจีน จะทำให้เกิดเข้าสู่ขาลง
ดูจากราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีในไทยได้
หรือวอเรน เห็นแตกต่างไป
เดินให้ถึงจุดหมาย
อย่างมีความสุข
อย่างมีความสุข