สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 3
สองสิ่งที่เฟดกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดคือ
1. ความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ
ถ้ามองประเทศอเมริกาเป็นบริษัท เมื่อผู้ถือหุ้นไม่มั่นใจในบริษัท ราคาหุ้นของบริษัทก็จะลดลง ราคาหุ้นของประเทศก็คือค่าของเงิน
เฟดเองต้องพิมพ์เงินออกมาเพิ่มเพื่ออุ้มสถาบัน 2FM อีกมากมาย ซึ่งก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณเงินในระบบ สุดท้ายแล้วผลมันจะไปโผล่ที่เงินเฟ้อ
2. ความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคาร
ตอนนี้มีธนาคารระดับ Regional อีกหลายแห่งที่กำลังถูกจับตาถึงสภาพคล่องและมีโอกาสล้มละลาย แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อเนื่องจากกลัวว่าคนจะตื่นกลัวแล้วแห่ไปถอนเงิน (แม้ว่าเฟดจะรับประกันเงินฝากบัญชีละ $100,000 ก็ตาม) (ถ้าคิมรู้ว่าธนาคารที่คิมฝากเงินไว้อยู่ในบัญชีที่เฟดจับตามอง แม้ว่าจะมีการรับประกันเงินฝาก คิมก็คงต้องไปถอนออกมาค่ะ)
ถ้าเป็นแบบ worst case ที่ขนาดคนแห่ไปถอนเงินล่ะก็ ราคาของ precious metals ก็จะพุ่งเป็นประวัติการณ์
แต่สถานการณ์คงไม่เป็นแบบไทยปี 40 แน่นอน เพราะขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่ามาก วิกฤติครั้งนี้เกิดเฉพาะสถาบันการเงินกับ housing (แถวที่คิมอยู่ ราคาบ้านยังแทบไม่ลดเลยค่ะ -_-" ) แต่ sector อื่นๆของระบบเศรษฐกิจยังมีแรงมากพอที่จะ generate เงิน และทำให้เงินหมุนไปได้โดยยังไม่ชะงักค่ะ
ถ้าให้เปรียบเทียบกับค่าเงินยูโร คิมคงไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนค่ะ เพราะคิมไม่มีข้อมูลว่าธนาคารในยุโรปลงทุนในตราสารที่โยงกับ housing ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหามากน้อยแค่ไหน ถ้าลงมากจนมีนัยสำคัญ ระบบการเงินของยุโรปก็คงโดนลากลงไปพร้อมๆกับของอเมริกาค่ะ
1. ความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ
ถ้ามองประเทศอเมริกาเป็นบริษัท เมื่อผู้ถือหุ้นไม่มั่นใจในบริษัท ราคาหุ้นของบริษัทก็จะลดลง ราคาหุ้นของประเทศก็คือค่าของเงิน
เฟดเองต้องพิมพ์เงินออกมาเพิ่มเพื่ออุ้มสถาบัน 2FM อีกมากมาย ซึ่งก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณเงินในระบบ สุดท้ายแล้วผลมันจะไปโผล่ที่เงินเฟ้อ
2. ความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคาร
ตอนนี้มีธนาคารระดับ Regional อีกหลายแห่งที่กำลังถูกจับตาถึงสภาพคล่องและมีโอกาสล้มละลาย แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อเนื่องจากกลัวว่าคนจะตื่นกลัวแล้วแห่ไปถอนเงิน (แม้ว่าเฟดจะรับประกันเงินฝากบัญชีละ $100,000 ก็ตาม) (ถ้าคิมรู้ว่าธนาคารที่คิมฝากเงินไว้อยู่ในบัญชีที่เฟดจับตามอง แม้ว่าจะมีการรับประกันเงินฝาก คิมก็คงต้องไปถอนออกมาค่ะ)
ถ้าเป็นแบบ worst case ที่ขนาดคนแห่ไปถอนเงินล่ะก็ ราคาของ precious metals ก็จะพุ่งเป็นประวัติการณ์
แต่สถานการณ์คงไม่เป็นแบบไทยปี 40 แน่นอน เพราะขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่ามาก วิกฤติครั้งนี้เกิดเฉพาะสถาบันการเงินกับ housing (แถวที่คิมอยู่ ราคาบ้านยังแทบไม่ลดเลยค่ะ -_-" ) แต่ sector อื่นๆของระบบเศรษฐกิจยังมีแรงมากพอที่จะ generate เงิน และทำให้เงินหมุนไปได้โดยยังไม่ชะงักค่ะ
ถ้าให้เปรียบเทียบกับค่าเงินยูโร คิมคงไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนค่ะ เพราะคิมไม่มีข้อมูลว่าธนาคารในยุโรปลงทุนในตราสารที่โยงกับ housing ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหามากน้อยแค่ไหน ถ้าลงมากจนมีนัยสำคัญ ระบบการเงินของยุโรปก็คงโดนลากลงไปพร้อมๆกับของอเมริกาค่ะ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 4
อ่านที่พี่ฉ้ตรโพสแล้ว
ผมก็เลยนำมาฝากคุณคิมว่า
นอกจาก washington mutualแล้ว
ยังมีอีกหลายเจ้า เข้าคิวอยู่
ผมก็เลยนำมาฝากคุณคิมว่า
นอกจาก washington mutualแล้ว
ยังมีอีกหลายเจ้า เข้าคิวอยู่
chatchai เขียน:วันนี้ผมได้อ่านบทความในกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันนี้ เขียนโดย คุณอุไรวรรณ ภู่วิจิตรสุทิน
ชื่อหัวบทความ พิษสง ' ซับไพร์ม' แรง ฉุด 'เฟรดดี-แฟนนี-เลแมน' ทรุด
มีตารางสรุปผลขาดทุนซับไพร์มของวาณิชธนกิจชั้นนำ จาก เอเอฟฟี
1. ซิตี้กรุ๊ป ขาดทุน 55,100 ล้านเหรียญ
2. เมอร์ริล ลินซ์ ขาดทุน 52,200 ล้านเหรียญ
3. ยูบีเอส ขาดทุน 44,200 ล้านเหรียญ
4. เอชเอสบีซี ขาดทุน 27,400 ล้านเหรียญ
5. วาโซเวีย ขาดทุน 22,700 ล้านเหรียญ
6. แบงค์ ออฟ อเมริกา ขาดทุน 21,200 ล้านเหรียญ
7. วอชิงตัน มูชวล ขาดทุน 14,800 ล้านเหรียญ
8. ไอเคบี ดอยซ์ อินดัสตรีแบงก์ ขาดทุน 14,500 ล้านเหรียญ
9. มอร์แกน สแตนเลย์ ขาดทุน 14,400 ล้านเหรียญ
10. เจ.พี.มอร์แกน เชส ขาดทุน 14,300 ล้านเหรียญ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 6
ไม่แน่นะ อาจจะเป็นเจ้านี้ก็ได้
FNM Major Shareholder
AllianceBernstein L.P. 12.5% :vm:
Dodge & Cox 11.2%
Capital Research Global Investors 10.9%
Fidelity Management & Research 5.6%
FRE Major Shareholder
Capital Research Global Investors 10.0%
Legg Mason Capital Management, Inc. 8.2%
AllianceBernstein L.P. 6.3% :vm:
Pzena Investment Management, LLC 5.2%
LEH Major Shareholder
AllianceBernstein L.P. 9.5% :vm:
Fidelity Management & Research 6.1%
ClearBridge Advisors 5.6%
Wellington Management Company, LLP 3.7%
Barclays Global Investors, N.A. 3.2%
MER Major Shareholder
Temasek Holdings Pte. Ltd. 5.7%
State Street Global Advisors (US) 5.4%
Davis Selected Advisers, L.P. 3.9%
AllianceBernstein L.P. 3.2% :vm:
Barclays Global Investors, N.A. 2.0%
สี่เด้ง... ดูไม่จืด :8)
FNM Major Shareholder
AllianceBernstein L.P. 12.5% :vm:
Dodge & Cox 11.2%
Capital Research Global Investors 10.9%
Fidelity Management & Research 5.6%
FRE Major Shareholder
Capital Research Global Investors 10.0%
Legg Mason Capital Management, Inc. 8.2%
AllianceBernstein L.P. 6.3% :vm:
Pzena Investment Management, LLC 5.2%
LEH Major Shareholder
AllianceBernstein L.P. 9.5% :vm:
Fidelity Management & Research 6.1%
ClearBridge Advisors 5.6%
Wellington Management Company, LLP 3.7%
Barclays Global Investors, N.A. 3.2%
MER Major Shareholder
Temasek Holdings Pte. Ltd. 5.7%
State Street Global Advisors (US) 5.4%
Davis Selected Advisers, L.P. 3.9%
AllianceBernstein L.P. 3.2% :vm:
Barclays Global Investors, N.A. 2.0%
สี่เด้ง... ดูไม่จืด :8)
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 8
เอ.. ตอนนี้ไม่แน่เหมือนกันว่าใครจะไปก่อน
ระหว่างมุมแดง WaMu กับมุมน้ำเงิน AIG
ฝ่ายแดงเป็นธนาคารที่รับฝากเงินและปล่อยสินเชื่ออสังหาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอเมริกา ฝ่ายน้ำเงินเป็นสถาบันประกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฝ่ายน้ำเงินโดน Fed ปฏิเสธความช่วยเหลือเรื่องเงินอัดฉีดฉุกเฉิน 4 หมื่นล้านเหรียญ ตอนนี้ต้องหันไปพึ่งกองทุนที่ตั้งใหม่สด ๆ ร้อน ๆ มูลค่า 7 หมื่นล้านเหรียญ ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า ล่าสุดเพิ่งโดน S&P และ Fitch ลดอันดับรวดเดียว 3 ระดับ จาก AA- เหลือ A- และมีมุมมองเป็นลบต่อไป (ไม่รู้จะโดนอีกเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า)
ฝ่ายแดงก็พอกัน หล่นจาก BBB- (ต่ำสุดที่ลงทุนได้) ไปที่ BB- (Junk status) เรียบโร้ย
น่าติดตามว่าผลกระทบจะรุนแรงไปกว่านี้อีกซักเท่าไหร่, DJIA จะต่ำกว่าหมื่นหรือไม่, ตลาดหุ้นบ้านเราจะโดนกี่มากน้อย, ใครจะมีอิทธิพลต่อตลาดมากกว่ากันระหว่างฝรั่ง กับการเมืองไทย :8)
ระหว่างมุมแดง WaMu กับมุมน้ำเงิน AIG
ฝ่ายแดงเป็นธนาคารที่รับฝากเงินและปล่อยสินเชื่ออสังหาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอเมริกา ฝ่ายน้ำเงินเป็นสถาบันประกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฝ่ายน้ำเงินโดน Fed ปฏิเสธความช่วยเหลือเรื่องเงินอัดฉีดฉุกเฉิน 4 หมื่นล้านเหรียญ ตอนนี้ต้องหันไปพึ่งกองทุนที่ตั้งใหม่สด ๆ ร้อน ๆ มูลค่า 7 หมื่นล้านเหรียญ ไม่รู้จะสำเร็จหรือเปล่า ล่าสุดเพิ่งโดน S&P และ Fitch ลดอันดับรวดเดียว 3 ระดับ จาก AA- เหลือ A- และมีมุมมองเป็นลบต่อไป (ไม่รู้จะโดนอีกเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า)
ฝ่ายแดงก็พอกัน หล่นจาก BBB- (ต่ำสุดที่ลงทุนได้) ไปที่ BB- (Junk status) เรียบโร้ย
น่าติดตามว่าผลกระทบจะรุนแรงไปกว่านี้อีกซักเท่าไหร่, DJIA จะต่ำกว่าหมื่นหรือไม่, ตลาดหุ้นบ้านเราจะโดนกี่มากน้อย, ใครจะมีอิทธิพลต่อตลาดมากกว่ากันระหว่างฝรั่ง กับการเมืองไทย :8)
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- tok
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 833
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 9
มีเงินฝากอยู่กับ WaMu สองวันก่อนเห็นหุ้นดิ่งเหวก็เสียวๆอยู่ ยังไม่อยากใช้บริการ FDIC ถ้ามีเงินเกิน 100,000 USD คงถอนไปแล้ว
แบงค์นี้ให้ดอกเบี้ย 4% (หลายเดือนก่อนให้ 5%) ไม่ต้องมีขั้นต่ำ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ แถมโอนเงินต่างประเทศฟรี เป็นที่พักเงินก่อนซื้อหุ้นอย่างดี
ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ :(
แบงค์นี้ให้ดอกเบี้ย 4% (หลายเดือนก่อนให้ 5%) ไม่ต้องมีขั้นต่ำ ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ แถมโอนเงินต่างประเทศฟรี เป็นที่พักเงินก่อนซื้อหุ้นอย่างดี
ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ :(
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 10
AIA ที่เมืองไทยจะได้รับผลกระทบจาก AIG ไหมครับ
แบบว่า บ. แม่โดนลดเครดิต บ. ลูกจะโดนลดด้วยไหม
แบบว่า บ. แม่โดนลดเครดิต บ. ลูกจะโดนลดด้วยไหม
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 12
เป็นเหลี่ยมมุมที่ควรมองจริงๆครับKimberly เขียน:ขอบคุณ คุณ crazyrisk ค่ะ สำหรับข้อมูล
แต่คิมไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีนำเสนอตัวเลขแบบนี้เลย ถ้าคิมบอกว่า PTT ขาดทุน 10,000 ล้าน กับ GRAMMY ขาดทุน 5,000 ล้าน คุณว่าบ.ไหนจะยื่นขอล้มละลายก่อนกันคะ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 13
ไม่แน่ใจว่า AIA นั้นได้ใช้บริการ บ.จัดอันดับแยกต่างหากหรือเปล่า เพราะปกติการจัดอันดับขึ้นกับ บ.นั้น ๆ ว่าจะจ้างให้เขามาทำหรือไม่MO101 เขียน:AIA ที่เมืองไทยจะได้รับผลกระทบจาก AIG ไหมครับ
แบบว่า บ. แม่โดนลดเครดิต บ. ลูกจะโดนลดด้วยไหม
โดยปกติ rating ของ บ.แม่จะครอบคลุม บ.ลูกด้วย แต่ถ้าจัดแยกกัน บ.ลูกไม่จำเป็นต้องมี rating แย่เหมือน บ.แม่
ถ้ามีการจัดจริง อาจจะไม่โดนกระทบครับ เพราะว่าเงินกองทุนของกฏหมายประกันของเมืองไทยค้ำอยู่แล้วว่าต้องดำรงสัดส่วนไว้เท่าไหร่ อีกอย่าง AIA ก็ไม่ได้ expose ต่อความเสี่ยงพวก CDO, MBS หรือไปค้ำประกันความเสี่ยงพวกตราสารอนุพันธ์เหล่านี้ เพราะกฏหมายไม่เปิดให้ไปรับประกันของพวกนี้ (คือทำได้แค่ธุรกิจประกันชีวิตอย่างเดียว) และกองทุนสำรองประกันชีวิตสามารถลงทุนได้แค่พันธบัตรรัฐบาลเป็นหลัก และส่วนน้อยเป็นหุ้น
อย่าง Lehman ที่ล้มไปจริง ๆ แล้วล้มเฉพาะ Holding company และเขาก็ยังมีของดีเหลืออยู่นะครับ อย่าง Neuberger Berman ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่า อันนี้ไม่ได้ล้มตามไปด้วย อย่างมากก็ขายให้คนอื่น หรือ spin-off ออกมาเป็น IPO เข้าตลาด
สถานการณ์ร้ายแรงสุดอย่างมาก AIG ก็แยก AIA ออกมาเป็นบริษัทต่างหาก ขายหุ้นให้คนอื่น หรือไม่ก็เข้าตลาดหุ้น เอาเงินมาใช้หนี้
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 14
อาจารยฺ์ครับถึงชินไป แอ๊ดว๊านซ์ยังอยู่อย่าง Lehman ที่ล้มไปจริง ๆ แล้วล้มเฉพาะ Holding company และเขาก็ยังมีของดีเหลืออยู่นะครับ อย่าง Neuberger Berman ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่า อันนี้ไม่ได้ล้มตามไปด้วย อย่างมากก็ขายให้คนอื่น หรือ spin-off ออกมาเป็น IPO เข้าตลาด
ยังไงก็กระเิืทือนครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 15
คืองี้ครับเฮีย.. มันขึ้นกับว่า บ.ลูกพึ่งพา บ.แม่หรือไม่ ถ้า บ.ลูกประกอบกิจการเป็นเอกเทศจาก บ.แม่ โดยที่ บ.แม่เขาเป็นแค่ holding company จริง ๆ เลย อันนี้ บ.แม่เน่าไป บ.ลูกก็ไม่มีปัญหา เพราะอย่างมากเขาก็ขายทอดตลาดหุ้น บ.ลูก ส่วนที่ บ.แม่ถืออยู่ ใครอยากได้ก็มาซื้อไป บ.ลูกก็จะเปลี่ยนเจ้าของpor_jai เขียน: อาจารยฺ์ครับถึงชินไป แอ๊ดว๊านซ์ยังอยู่
ยังไงก็กระเิืทือนครับ
แต่ถ้า บ.ลูกต้องพึ่งพา บ.แม่ เช่น สิทธิบัตร, technical know-how, หรือเงินลงทุนส่วนเสริมจาก บ.แม่ด้วย กรณีอย่างนี้มีปัญหาแน่ครับ
ถ้าดูโมเดลของ AIA/AIG แล้ว AIG ไม่ได้มีผลอะไรกับ AIA นอกจากจะใช้ AIA เป็นแหล่งทำกำไรแล้วเอาเงินกลับประเทศ (ประเทศไทยมันมีข้อกำหนดกฏหมายเยอะ ก่อนหน้านี้คนก็ด่าว่าล้าหลังไปไม่ทัน บ.ประกันข้ามชาติที่ขยายธุรกรรมออกไปเหมือน บ.การเงินไปหมดแล้ว พอเกิดเรื่องพวกนี้ตอนนี้มาคิดว่า เออ.. ถ้าเชื่อฝรั่งหมด เปิดเสรีตามก้น IMF ป่านนี้คงเน่าตามกันไป)
ส่วน ADVANC กับ SHIN ถ้า บ.ลูกต้องพึ่งเงินอัดฉีดจาก บ.แม่ (ตัวจริง โดยผ่าน SHIN) อันนี้อาจจะมีผล
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 16
ธปท.ชี้แบงก์ไทยรอดตาย
นาย บัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเสถียรภาพสถาบันการเงินเปิดเผยถึงการขอพิทักษ์ทรัพย์เพื่อล้มละลายของ บริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐฯ ว่า การล้มละลายของเลห์แมนจะกระทบต่อระบบการเงินสหรัฐฯไม่มากนัก เพราะตลาดปรับตัวรองรับการล้มละลายระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนั้น การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปล่อยให้มีการขอพิทักษ์ทรัพย์ แสดงว่าได้ประเมินผลกระทบต่อระบบการเงิน และคาดแล้วว่ากรณีนี้อยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้
สำหรับ ผลกระทบโดยตรงต่อระบบสถาบันการเงินไทยนั้น ผู้ฝากเงินไม่มีผลกระทบ เพราะเลห์แมนไม่มีสาขาในไทย ส่วนการให้สินเชื่อและการลงทุนในพันธบัตรของเลห์แมน รวมทั้งการทำสัญญาอนุพันธ์ซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าระหว่างธนาคาร พาณิชย์ไทย 14 แห่ง กับเลห์แมนนั้น มีผลกระทบไม่มากนัก โดยสิ้นเดือน ก.ค.51 ทั้ง 14 แห่งมียอดคงค้างปล่อยสินเชื่อโดยตรง และซื้อพันธบัตรเลห์แมน 4,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะถือเป็นส่วนที่มีความเสียหายจริง ขณะที่มีสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าข้ามสกุลระหว่างธนาคาร พาณิชย์ไทยกับเลห์แมน 5,300 ล้านบาท
“ความเสียหายหากจะเกิดขึ้น จะเกิดกับการลงทุนโดยตรงในการให้สินเชื่อ และการซื้อพันธบัตรของเลห์แมน 4,300 ล้านบาท โดยต้องพิจารณาว่า มูลค่าสินทรัพย์เลห์แมนจะเหลือเท่าไร และจะมีสิทธิ์ได้คืนเท่าไร ส่วน 5,300 ล้านบาทนั้น น่าจะเสียหายไม่เกิน 100 ล้านบาท เพราะส่วนที่เสียหายคือ ส่วนต่างของดอกเบี้ยที่ซื้อขายล่วงหน้า มูลค่ารวมของเงินที่ซื้อขายจะไม่เสียหาย คงต้องติดตามว่า ความเสียหายของธนาคารพาณิชย์ไทยจะต้องกันสำรองหนี้เพิ่มเท่าไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ความเสียหายของระบบการเงินสหรัฐฯจะไม่กระทบฐานะการเงินของสถาบันการเงินไทย เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ไทย สิ้นเดือน ก.ค.51 ยังต่ำมากหรือมีเพียง 102,000 ล้านบาทเท่านั้น”.
ก๊อปมาจากสินธรเช่นกัน
นาย บัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเสถียรภาพสถาบันการเงินเปิดเผยถึงการขอพิทักษ์ทรัพย์เพื่อล้มละลายของ บริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐฯ ว่า การล้มละลายของเลห์แมนจะกระทบต่อระบบการเงินสหรัฐฯไม่มากนัก เพราะตลาดปรับตัวรองรับการล้มละลายระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนั้น การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปล่อยให้มีการขอพิทักษ์ทรัพย์ แสดงว่าได้ประเมินผลกระทบต่อระบบการเงิน และคาดแล้วว่ากรณีนี้อยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้
สำหรับ ผลกระทบโดยตรงต่อระบบสถาบันการเงินไทยนั้น ผู้ฝากเงินไม่มีผลกระทบ เพราะเลห์แมนไม่มีสาขาในไทย ส่วนการให้สินเชื่อและการลงทุนในพันธบัตรของเลห์แมน รวมทั้งการทำสัญญาอนุพันธ์ซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าระหว่างธนาคาร พาณิชย์ไทย 14 แห่ง กับเลห์แมนนั้น มีผลกระทบไม่มากนัก โดยสิ้นเดือน ก.ค.51 ทั้ง 14 แห่งมียอดคงค้างปล่อยสินเชื่อโดยตรง และซื้อพันธบัตรเลห์แมน 4,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะถือเป็นส่วนที่มีความเสียหายจริง ขณะที่มีสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าข้ามสกุลระหว่างธนาคาร พาณิชย์ไทยกับเลห์แมน 5,300 ล้านบาท
“ความเสียหายหากจะเกิดขึ้น จะเกิดกับการลงทุนโดยตรงในการให้สินเชื่อ และการซื้อพันธบัตรของเลห์แมน 4,300 ล้านบาท โดยต้องพิจารณาว่า มูลค่าสินทรัพย์เลห์แมนจะเหลือเท่าไร และจะมีสิทธิ์ได้คืนเท่าไร ส่วน 5,300 ล้านบาทนั้น น่าจะเสียหายไม่เกิน 100 ล้านบาท เพราะส่วนที่เสียหายคือ ส่วนต่างของดอกเบี้ยที่ซื้อขายล่วงหน้า มูลค่ารวมของเงินที่ซื้อขายจะไม่เสียหาย คงต้องติดตามว่า ความเสียหายของธนาคารพาณิชย์ไทยจะต้องกันสำรองหนี้เพิ่มเท่าไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ความเสียหายของระบบการเงินสหรัฐฯจะไม่กระทบฐานะการเงินของสถาบันการเงินไทย เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ไทย สิ้นเดือน ก.ค.51 ยังต่ำมากหรือมีเพียง 102,000 ล้านบาทเท่านั้น”.
ก๊อปมาจากสินธรเช่นกัน
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 17
ตอนนี้มีคำถามว่า Is anyone left to help WaMu?
ประมาณว่าเงินช่วยเหลือมีจำกัด ใครขอก่อนได้ก่อน
BoA คงไม่มีปัญญาช่วยอีกแน่, FED ก็ยังต้องอุ้ม 2FM
WaMu แตกต่างจากสถาบันการเงินที่ล้มก่อนหน้านี้ เพราะสถาบันพวกนั้นเป็นลักษณะวาณิชธนกิจ แต่ WaMu เป็นธนาคารที่มีเงินจากบัญชี Saving อันดับต้นๆ
คงได้รู้กันเร็วๆนี้ค่ะว่าเฟดจะทำยังไง
ประมาณว่าเงินช่วยเหลือมีจำกัด ใครขอก่อนได้ก่อน
BoA คงไม่มีปัญญาช่วยอีกแน่, FED ก็ยังต้องอุ้ม 2FM
WaMu แตกต่างจากสถาบันการเงินที่ล้มก่อนหน้านี้ เพราะสถาบันพวกนั้นเป็นลักษณะวาณิชธนกิจ แต่ WaMu เป็นธนาคารที่มีเงินจากบัญชี Saving อันดับต้นๆ
คงได้รู้กันเร็วๆนี้ค่ะว่าเฟดจะทำยังไง
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 18
วันนี้มีแต่ข่าว AIG ไม่รู้คนลืม WaMu ไปแล้วหรือยัง :roll:
WaMu 1.81 -0.18 (-9.50%)
AIG 2.60 -2.16 (-45.38%)
จะล้มทั้งคู่หรือเปล่า.. ใครจะล้มก่อน.. หรือล้มแค่บ.เดียว ใครจะล้ม... หรือรอดทั้งคู่ :?:
น่าติดตาม
WaMu 1.81 -0.18 (-9.50%)
AIG 2.60 -2.16 (-45.38%)
จะล้มทั้งคู่หรือเปล่า.. ใครจะล้มก่อน.. หรือล้มแค่บ.เดียว ใครจะล้ม... หรือรอดทั้งคู่ :?:
น่าติดตาม
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 19
AIG น่าเป็นห่วงมากครับเพราะถูกดาวน์เกรดจนอาจสร้างความตื่นตระหนกให้เกิดการเร่งไถ่ถอนหน่วยลงทุนเป็นสาเหตุให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนักอาจถึงขั้นล้มทั้งยืนได้ครับถ้าไม่เงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารกลางอย่างพอเพียง
ชิตี้กรุ๊ปน่าเป็นห่วงแต่อาจล้มบนฟูบครับ
ที่เลห์แมนต้องล้มเพราะFEDไม่ยอดใส่เงิน20000กว่าล้านเหรียญเหมือนอย่างแบร์สเติร์นตามที่barclayได้ร้องขอ
ชิตี้กรุ๊ปน่าเป็นห่วงแต่อาจล้มบนฟูบครับ
ที่เลห์แมนต้องล้มเพราะFEDไม่ยอดใส่เงิน20000กว่าล้านเหรียญเหมือนอย่างแบร์สเติร์นตามที่barclayได้ร้องขอ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 21
อาจารย์ครับดูจากกราฟ
เอไอจี กับ วามู มีคนมาสวนเยอะเลยนะครับ ดูจากโวลุ่ม
ตอนนี้สงสัยต้องฟังเพลงนี้ครับ
ฝนที่ตกทางโน้น
เอไอจี กับ วามู มีคนมาสวนเยอะเลยนะครับ ดูจากโวลุ่ม
ตอนนี้สงสัยต้องฟังเพลงนี้ครับ
ฝนที่ตกทางโน้น
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 23
AIA มีสิทธิ์ในการลงทุนได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลหรือ หุ้นกู้
สามารถลงในสารตราแห่งทุนได้ไม่เกิน 10% ของเงินกองทุน
แต่ตอนนี้ AIG บริษัทแม่มีความต้องการเงินสูงมาก
อาจจะดึงเงินจากบริษัทลูกเข้าช่วยเหลือ
คือปันผลจากบริษัทลูก แบบรีดเลือดปูเลยก็ได้
ประเด็นเรื่อง AIA ล้มตาม AIG นั้น เป็นไปได้ หากมีการ
ถือหุ้นไขว้กัน แบบบริษัทแม่ถือลูก แล้วลูกไปถือแม่ แบบเจ้า Fin-1 เป็นต้น จุดนี้ต้องดูที่กองทุนของบริษัทประกันว่า เสียหายมากแค่ไหน
ส่วนคนที่ถือกรมธรรม์ หากบริษัทล้มจริงๆ งานนี้ต้องเปิดย้อนหลังไปดู ว่ากรมการประกันภัย เคยช่วยเหลือเหตุการณ์แบบนี้อย่างไงล่ะ
จำได้ว่า เคยเกิดเมื่อปี 2539 ครั้งหนึ่ง เป็นบริษัทประกันชีวิต
แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทาง คปภ เตรียมรับมือแล้วหรือยัง
แต่งานนี้บอกได้ว่า
ฝนที่ตกทางโน้น หนาวว่าฝนที่ตกทางนี้
สามารถลงในสารตราแห่งทุนได้ไม่เกิน 10% ของเงินกองทุน
แต่ตอนนี้ AIG บริษัทแม่มีความต้องการเงินสูงมาก
อาจจะดึงเงินจากบริษัทลูกเข้าช่วยเหลือ
คือปันผลจากบริษัทลูก แบบรีดเลือดปูเลยก็ได้
ประเด็นเรื่อง AIA ล้มตาม AIG นั้น เป็นไปได้ หากมีการ
ถือหุ้นไขว้กัน แบบบริษัทแม่ถือลูก แล้วลูกไปถือแม่ แบบเจ้า Fin-1 เป็นต้น จุดนี้ต้องดูที่กองทุนของบริษัทประกันว่า เสียหายมากแค่ไหน
ส่วนคนที่ถือกรมธรรม์ หากบริษัทล้มจริงๆ งานนี้ต้องเปิดย้อนหลังไปดู ว่ากรมการประกันภัย เคยช่วยเหลือเหตุการณ์แบบนี้อย่างไงล่ะ
จำได้ว่า เคยเกิดเมื่อปี 2539 ครั้งหนึ่ง เป็นบริษัทประกันชีวิต
แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทาง คปภ เตรียมรับมือแล้วหรือยัง
แต่งานนี้บอกได้ว่า
ฝนที่ตกทางโน้น หนาวว่าฝนที่ตกทางนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 25
ต้องจำตาดูเรื่อง forward ค่าเงินไว้ด้วยก็ดี
เพราะว่า ธนาคารดังกล่าวทำเรื่องค่าเงินไว้ด้วย
ไม่รู้ว่า ธปท ออกมาบอกหรือยังว่า กระทบมากน้อยขนาดไหน
แต่ไม่กระทบเลยก็ไม่ได้หรอก
แต่ไม่ยอมบอกความจริงกันตรง เหมือนปี 2540 หรือเปล่าหรอก
ส่วนธนาคารไทย น่ามีการถือหุ้นบริษัทดังกล่าวอยู่ด้วย
เพราะ เป็นหุ้นพวก Blue Chip นั้นเอง ซื้อง่ายขายคล่องนั้นเอง
by the way
มองดูเรื่องคนตกงาน ตอนนี้มีการประเมินกันคร่าวๆก็แสนคนเป็นอย่างต่ำ สำหรับในแวดวงธนาคารที่US
เพราะว่า ธนาคารดังกล่าวทำเรื่องค่าเงินไว้ด้วย
ไม่รู้ว่า ธปท ออกมาบอกหรือยังว่า กระทบมากน้อยขนาดไหน
แต่ไม่กระทบเลยก็ไม่ได้หรอก
แต่ไม่ยอมบอกความจริงกันตรง เหมือนปี 2540 หรือเปล่าหรอก
ส่วนธนาคารไทย น่ามีการถือหุ้นบริษัทดังกล่าวอยู่ด้วย
เพราะ เป็นหุ้นพวก Blue Chip นั้นเอง ซื้อง่ายขายคล่องนั้นเอง
by the way
มองดูเรื่องคนตกงาน ตอนนี้มีการประเมินกันคร่าวๆก็แสนคนเป็นอย่างต่ำ สำหรับในแวดวงธนาคารที่US
-
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 27
เลแมน อยู่มา 158 ปี อันดับ 4 พนักงาน สองหมื่นกว่า
คุณๆ คิดว่าผู้บริหารเขาจะ โง่กว่าวานิชธนกิจอื่นๆมากไหม
บริหารจัดการ ลงทุนสุดแสนเน่า จนต้องเจ๊ง
ไม่รู้อะไรเอาซะเลยเลย จบมหาลัยหลังภูเขา
คนอื่นเขาไปลงทุนอะไรกัน เจ้าเลแมนไม่รู้เรื่อง
เลยต้องลงทุนแต่ของเน่าๆ แล้วก็เจ็ง
จริง หรือ ? :?: :roll:
ถ้าจริง ต่อนี้ไปคงไม่มีใครเจ็งอีก ทุกอย่างสงบ ช่วยเหลือควบคุมได้
ถ้าไม่จริง วานิชธนกิจอื่นๆก็ไม่ได้เก่งกาจ สามารถกว่าเลแมนซักเท่าไร
สภาพแท้จริงคงไม่ต่างกันมาก อยู่ที่เขาจะบอกกับคุณๆกันหรือยัง
แล้วใครจะช่วยกันไหวหละครับ
ถ้าเป็นวงไพ่ก็ต้อง โล๊ะทิ้ง ล้างไพ่ แจกกันใหม่ครับ
:lol:
คุณๆ คิดว่าผู้บริหารเขาจะ โง่กว่าวานิชธนกิจอื่นๆมากไหม
บริหารจัดการ ลงทุนสุดแสนเน่า จนต้องเจ๊ง
ไม่รู้อะไรเอาซะเลยเลย จบมหาลัยหลังภูเขา
คนอื่นเขาไปลงทุนอะไรกัน เจ้าเลแมนไม่รู้เรื่อง
เลยต้องลงทุนแต่ของเน่าๆ แล้วก็เจ็ง
จริง หรือ ? :?: :roll:
ถ้าจริง ต่อนี้ไปคงไม่มีใครเจ็งอีก ทุกอย่างสงบ ช่วยเหลือควบคุมได้
ถ้าไม่จริง วานิชธนกิจอื่นๆก็ไม่ได้เก่งกาจ สามารถกว่าเลแมนซักเท่าไร
สภาพแท้จริงคงไม่ต่างกันมาก อยู่ที่เขาจะบอกกับคุณๆกันหรือยัง
แล้วใครจะช่วยกันไหวหละครับ
ถ้าเป็นวงไพ่ก็ต้อง โล๊ะทิ้ง ล้างไพ่ แจกกันใหม่ครับ
:lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 29
AIA โชว์ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ยันไม่ล้มตามบริษัทแม่ในสหรัฐฯ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2551 15:05 น.
เลขาฯ คปภ. การันตีฐานะการเงิน AIA แข็งแกร่ง เผยเงินกองทุนสำรองสูงถึง 1,107% เชื่อไม่มีปัญหาตาม AIG บริษัทแม่ แม้จะเข้าถือหุ้น 1.36% แต่ก็แยกการบริหารงานที่ชัดเจน ผู้บริหารฯ ยอมรับ เรียกตัวแทนทั่วประเทศเข้าชี้แจงสถานการณ์ด่วน ยันวางเงินประกันภัยและเงินสำรองกว่า 2.7 แสนล้าน สูงเพียงพอ มั่นใจครอบคลุมกรมธรรม์ของลูกค้าได่ทุกราย รมช.คลัง สั่งตรวจสอบการลงทุนทั้งหมดของกลุ่ม AIG ในไทย และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
วันนี้ ( 16 ก.ย.) นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงก์ (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันของสหรัฐมีปัญหาขาดสภาพคล่องและอาจทำให้บริษัทลูกในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย บริษัท AIA อาจมีปัญหาการขาดสภาพคล่องว่าทาง คปภ.มีกฎหมายควบคุมให้บริษัทประกันภัยต้องตั้งเงินสำรองกองทุนให้เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมาย โดยต้องมีเงินกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 150 ของการประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AIA มีเงินทุนสำรองมากถึงร้อยละ 1,107 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ โดยภาพร่วมฐานะของบริษัท AIA ประเทศไทยปี 2550 มีสินทรัพย์รวมตามบัญชีมากกว่า 300,000 ล้านบาท และในปีนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค.ถึงเดือน ก.ค. ผลการดำเนินงานมีสินทรัพย์รวม 380,000 ล้านบาท และมีผลกำไรสะสมปี 2550 กว่า 65,000 ล้านบาท และในช่วงปี 2551 ตั้งแต่เดือน ม.ค.ถึงเดือน ก.ค.มีกำไรสะสมรวมกว่า 70,000 ล้านบาท
ดังนั้น บริษัท AIA จึงไม่มีปัญหาการขาดสภาพคล่อง และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือกรมธรรม์ นอกจากนี้หากดูสัดส่วน AIA ประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับ AIG ของสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนหุ้นเพียงร้อยละ 1.36 เท่านั้น ซึ่งถือว่าสัดส่วนน้อยมากดังนั้นจึงฝากเตือนถึงผู้เอาประกันภัยไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารฯ AIA (ประเทศไทย) ก็ได้ออกมายืนยันว่า บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากบริษัทแม่ AIG ซึ่งกำลังมีปัญหาขาดทุนเป็นจำนวนมาก โดยยืนยันว่า AIA (ประเทศไทย) อยู่ภายใต้กฎหมายของ บอร์ด คปภ. ที่ต้องวางเงินสำรองในการรับประกันภัย ซึ่งบริษัทได้วางเงินประกันภัยและเงินสำรองกว่า 270,000 ล้านบาท เป็นวงเงินสูงมากเพียงครอบคลุมกรมธรรม์ของลูกค้าทุกราย
นอกจากนี้ AIA (ประเทศไทย) รวมถึง AIA ในประเทศอื่นๆ ยังมีอิสระในการบริหารงาน แยกจากบริษัทแม่อยู่แล้ว จึงไม่ได้ส่งผลกระทบถึงกัน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก AIA แจ้งว่า เนื่องจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ได้สร้างความกังวลต่อลูกค้าและสื่อ ที่ให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างมาก บริษัทจึงได้แจ้งไปยังสำนักงานที่ฮ่องกง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่สร้างความกังวลไปยังบริษัทแม่ ที่นิวยอร์ก เพื่อจะได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป
"ขณะนี้ เราคงไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้ แต่เราได้มีการประสานงานกับสนง.ที่ฮ่องกง เพื่อสอบถามประเด็นต่างๆ ที่เป็นกังวลไปแล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้ที่นิวยอร์คยังเป็นช่วงเช้ามืด สนง.ยังปิดทำการอยู่ ดังนั้น คาดว่าเร็วๆ นี้ จะได้รับคำตอบกลับมา และจะมีการชี้แจงเรื่องนี้ต่อไป"
ทั้งนี้ AIG ซึ่งบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กำลังประสบปัญหาขาดทุนเป็นวงเงินสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 620,000 ล้านบาท ในช่วง 3Q/51 จากการเข้าไปค้ำประกันให้กับตลาดสินเชื่อบ้านในสหรัฐ
นายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้บริหารอาวุโส ประกันชีวิตภูมิภาคเอเชีย AIA เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทได้เรียกพนักงานและตัวแทนขายประกันระดับหัวหน้าหน่วยมาประชุมรับทราบเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะของบริษัท หลังจากลูกค้าเกิดความตื่นตระหนกกับกรณีปัญหาการขาดทุนจำนวนมากของ AIG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และลูกค้าได้โทรศัพท์มาสอบถามเรื่องดังกล่าวจำนวนมาก
"เราได้ชี้แจงให้ตัวแทนขายประกันเข้าใจถึงฐานะการเงินของบริษัทที่ยังแข็งแกร่งมั่นคง มีสินทรัพย์รวมกว่า 3.83 แสนล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย (กรณีลูกค้ามาขอคืนกรมธรรม์) 286,600 ล้านบาท"
นายโทมัส ยืนยันว่า คปภ.ได้รับรองถึงฐานะการเงินของบริษัทที่ยังมั่นคง และมีเงินสำรองอยู่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และชี้แจงว่าแม้บริษัทแม่ในสหรัฐฯ มีปัญหา ก็ไม่สามารถเรียกเงินจากบริษัทลูกกลับคืนไปได้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจาก คปภ.ก่อน เพราะถือเป็นการดำเนินธุรกิจภายใต้กฎหมายไทย
อย่างไรก็ดี การชี้แจงของผู้บริหาร AIA ครั้งนี้ เพื่อให้ตัวแทนขายได้ชี้แจงทำความเข้าในกับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจต่อลูกค้าของบริษัทถึงสถานะทางการเงินที่ยังมั่นคง
ล่าสุดมีรายงานว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมช.คลัง ได้สั่งตรวสอบการลงทุนกลุ่ม AIG ในไทยอย่างใกล้ชิด และให้แบงก์ชาติเตรียมรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน พร้อมระบุว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงและกังวล คือ กรณีของที่กลุ่ม AIG เข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก ตนเองจึงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบว่า การลงทุนของ AIG ในประเทศไทย มีจำนวนมากน้อยเพียงใด เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้
ส่วนปัญหาการล้มละลายของบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส นั้น ไม่ได้สร้างความกังวลใจมากนัก เพราะเลห์แมนฯ มีการลงทุนในไทยค่อนข้างน้อย
http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000109895
-------------------------------------------------
ต้องดูว่าปีหน้ากำไรสะสมที่บอกไว้ 65พันล้านบาท
ปันผลให้บริษัทแม่หรือเปล่า
by the way
ถ้าจำไม่ผิด
AIG ลงทุนใน TMB หรือเปล่าหนอ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2551 15:05 น.
เลขาฯ คปภ. การันตีฐานะการเงิน AIA แข็งแกร่ง เผยเงินกองทุนสำรองสูงถึง 1,107% เชื่อไม่มีปัญหาตาม AIG บริษัทแม่ แม้จะเข้าถือหุ้น 1.36% แต่ก็แยกการบริหารงานที่ชัดเจน ผู้บริหารฯ ยอมรับ เรียกตัวแทนทั่วประเทศเข้าชี้แจงสถานการณ์ด่วน ยันวางเงินประกันภัยและเงินสำรองกว่า 2.7 แสนล้าน สูงเพียงพอ มั่นใจครอบคลุมกรมธรรม์ของลูกค้าได่ทุกราย รมช.คลัง สั่งตรวจสอบการลงทุนทั้งหมดของกลุ่ม AIG ในไทย และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
วันนี้ ( 16 ก.ย.) นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงก์ (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันของสหรัฐมีปัญหาขาดสภาพคล่องและอาจทำให้บริษัทลูกในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย บริษัท AIA อาจมีปัญหาการขาดสภาพคล่องว่าทาง คปภ.มีกฎหมายควบคุมให้บริษัทประกันภัยต้องตั้งเงินสำรองกองทุนให้เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมาย โดยต้องมีเงินกองทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 150 ของการประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AIA มีเงินทุนสำรองมากถึงร้อยละ 1,107 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ โดยภาพร่วมฐานะของบริษัท AIA ประเทศไทยปี 2550 มีสินทรัพย์รวมตามบัญชีมากกว่า 300,000 ล้านบาท และในปีนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค.ถึงเดือน ก.ค. ผลการดำเนินงานมีสินทรัพย์รวม 380,000 ล้านบาท และมีผลกำไรสะสมปี 2550 กว่า 65,000 ล้านบาท และในช่วงปี 2551 ตั้งแต่เดือน ม.ค.ถึงเดือน ก.ค.มีกำไรสะสมรวมกว่า 70,000 ล้านบาท
ดังนั้น บริษัท AIA จึงไม่มีปัญหาการขาดสภาพคล่อง และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือกรมธรรม์ นอกจากนี้หากดูสัดส่วน AIA ประเทศไทยเมื่อเปรียบเทียบกับ AIG ของสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนหุ้นเพียงร้อยละ 1.36 เท่านั้น ซึ่งถือว่าสัดส่วนน้อยมากดังนั้นจึงฝากเตือนถึงผู้เอาประกันภัยไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารฯ AIA (ประเทศไทย) ก็ได้ออกมายืนยันว่า บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากบริษัทแม่ AIG ซึ่งกำลังมีปัญหาขาดทุนเป็นจำนวนมาก โดยยืนยันว่า AIA (ประเทศไทย) อยู่ภายใต้กฎหมายของ บอร์ด คปภ. ที่ต้องวางเงินสำรองในการรับประกันภัย ซึ่งบริษัทได้วางเงินประกันภัยและเงินสำรองกว่า 270,000 ล้านบาท เป็นวงเงินสูงมากเพียงครอบคลุมกรมธรรม์ของลูกค้าทุกราย
นอกจากนี้ AIA (ประเทศไทย) รวมถึง AIA ในประเทศอื่นๆ ยังมีอิสระในการบริหารงาน แยกจากบริษัทแม่อยู่แล้ว จึงไม่ได้ส่งผลกระทบถึงกัน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก AIA แจ้งว่า เนื่องจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ได้สร้างความกังวลต่อลูกค้าและสื่อ ที่ให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างมาก บริษัทจึงได้แจ้งไปยังสำนักงานที่ฮ่องกง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่สร้างความกังวลไปยังบริษัทแม่ ที่นิวยอร์ก เพื่อจะได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป
"ขณะนี้ เราคงไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้ แต่เราได้มีการประสานงานกับสนง.ที่ฮ่องกง เพื่อสอบถามประเด็นต่างๆ ที่เป็นกังวลไปแล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้ที่นิวยอร์คยังเป็นช่วงเช้ามืด สนง.ยังปิดทำการอยู่ ดังนั้น คาดว่าเร็วๆ นี้ จะได้รับคำตอบกลับมา และจะมีการชี้แจงเรื่องนี้ต่อไป"
ทั้งนี้ AIG ซึ่งบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กำลังประสบปัญหาขาดทุนเป็นวงเงินสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 620,000 ล้านบาท ในช่วง 3Q/51 จากการเข้าไปค้ำประกันให้กับตลาดสินเชื่อบ้านในสหรัฐ
นายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้บริหารอาวุโส ประกันชีวิตภูมิภาคเอเชีย AIA เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทได้เรียกพนักงานและตัวแทนขายประกันระดับหัวหน้าหน่วยมาประชุมรับทราบเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานะของบริษัท หลังจากลูกค้าเกิดความตื่นตระหนกกับกรณีปัญหาการขาดทุนจำนวนมากของ AIG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และลูกค้าได้โทรศัพท์มาสอบถามเรื่องดังกล่าวจำนวนมาก
"เราได้ชี้แจงให้ตัวแทนขายประกันเข้าใจถึงฐานะการเงินของบริษัทที่ยังแข็งแกร่งมั่นคง มีสินทรัพย์รวมกว่า 3.83 แสนล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย (กรณีลูกค้ามาขอคืนกรมธรรม์) 286,600 ล้านบาท"
นายโทมัส ยืนยันว่า คปภ.ได้รับรองถึงฐานะการเงินของบริษัทที่ยังมั่นคง และมีเงินสำรองอยู่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และชี้แจงว่าแม้บริษัทแม่ในสหรัฐฯ มีปัญหา ก็ไม่สามารถเรียกเงินจากบริษัทลูกกลับคืนไปได้จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจาก คปภ.ก่อน เพราะถือเป็นการดำเนินธุรกิจภายใต้กฎหมายไทย
อย่างไรก็ดี การชี้แจงของผู้บริหาร AIA ครั้งนี้ เพื่อให้ตัวแทนขายได้ชี้แจงทำความเข้าในกับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจต่อลูกค้าของบริษัทถึงสถานะทางการเงินที่ยังมั่นคง
ล่าสุดมีรายงานว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมช.คลัง ได้สั่งตรวสอบการลงทุนกลุ่ม AIG ในไทยอย่างใกล้ชิด และให้แบงก์ชาติเตรียมรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน พร้อมระบุว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงและกังวล คือ กรณีของที่กลุ่ม AIG เข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก ตนเองจึงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบว่า การลงทุนของ AIG ในประเทศไทย มีจำนวนมากน้อยเพียงใด เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้
ส่วนปัญหาการล้มละลายของบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส นั้น ไม่ได้สร้างความกังวลใจมากนัก เพราะเลห์แมนฯ มีการลงทุนในไทยค่อนข้างน้อย
http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000109895
-------------------------------------------------
ต้องดูว่าปีหน้ากำไรสะสมที่บอกไว้ 65พันล้านบาท
ปันผลให้บริษัทแม่หรือเปล่า
by the way
ถ้าจำไม่ผิด
AIG ลงทุนใน TMB หรือเปล่าหนอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
สถาบันการเงินต่อไปที่จะสร้างปัญหา
โพสต์ที่ 30
ตอนแรกเป็นห่วงเหมือนเฮียเลยครับ ปรากฏว่าไอ้กฏระเบียบคร่ำครึแบบเมืองไทย ทำให้ AIG มันโยกอะไรไม่ได้ (เพราะจะส่งเงินออกไป บ.แม่ต้องผ่านการยินยอมของ คปภ.ก่อนเสมอ และที่ผ่านมาก็ไม่ยอมให้ส่งเงินส่วนที่เกินจากกำไรออกไปเลย เงินกองทุนเลยบวมเป่ง สำรองไว้พันกว่าเปอร์เซ็นต์ สำรองไว้ทำไมเยอะแยะหว่า.. ถ้าไม่เกิดเรื่องก็ไม่รู้) ส่วนกองทุนก็ลงทุนแบบหุ้นไขว้ก็ไม่ได้ พอร์ทหุ้น (คิดว่า) ทั้งหมดก็อยู่ในเมืองไทย (พวก LH, HMPRO และอื่น ๆ อีกเยอะ)miracle เขียน:AIA มีสิทธิ์ในการลงทุนได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลหรือ หุ้นกู้
สามารถลงในสารตราแห่งทุนได้ไม่เกิน 10% ของเงินกองทุน
แต่ตอนนี้ AIG บริษัทแม่มีความต้องการเงินสูงมาก
อาจจะดึงเงินจากบริษัทลูกเข้าช่วยเหลือ
คือปันผลจากบริษัทลูก แบบรีดเลือดปูเลยก็ได้
ประเด็นเรื่อง AIA ล้มตาม AIG นั้น เป็นไปได้ หากมีการ
ถือหุ้นไขว้กัน แบบบริษัทแม่ถือลูก แล้วลูกไปถือแม่ แบบเจ้า Fin-1 เป็นต้น จุดนี้ต้องดูที่กองทุนของบริษัทประกันว่า เสียหายมากแค่ไหน
ส่วนคนที่ถือกรมธรรม์ หากบริษัทล้มจริงๆ งานนี้ต้องเปิดย้อนหลังไปดู ว่ากรมการประกันภัย เคยช่วยเหลือเหตุการณ์แบบนี้อย่างไงล่ะ
จำได้ว่า เคยเกิดเมื่อปี 2539 ครั้งหนึ่ง เป็นบริษัทประกันชีวิต
แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทาง คปภ เตรียมรับมือแล้วหรือยัง
แต่งานนี้บอกได้ว่า
ฝนที่ตกทางโน้น หนาวว่าฝนที่ตกทางนี้
บางทีไอ้กฏระเบียบที่ใคร ๆ ว่าล้าสมัยไม่ยืดหยุ่น กลับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในช่วงวิกฤตอย่างนี้
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------