เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 1

โพสต์

นานๆจะมาตั้งกระทู้ซีเรียสๆในห้องนี้
ด้วยอยากจะถ่ายทอดบันทึกของคนอเมริกันรุ่นหนึ่ง
ในสมัยเกิด Great Depression ตั้งแต่ปี 1929

กำลังนึกอยู่ว่า จะถ่ายทอดอย่างไรดีที่ไม่ใช่เอามาแค่บันทึกทั้งหน้ามาแปลให้ฟัง
ก็เผอิญเพิ่งอ่านเจอข่าวใน CNN เช้านี้
"Fannie Mae forgives loan for woman who shot herself"
http://www.cnn.com/2008/US/10/03/evicti ... index.html

คุณยาย  Addie Polk อายุ 90 ปี เมือง Akron รัฐ Ohio
พยายามใช่ปืนยิงตัวเองตาย
เพื่อหลุดพ้นภาวะหนี้สินจากสินเชื่อบ้านที่อยู่อาศัย
ซึ่งตนกู้จาก Fannie Mae หลังจากผิดนัดชำระหนี้หลายครั้ง
ตัวบ้านก็ถูกยึดพร้อมกับการขับไล่เจ้าของบ้าน

โชคดีที่เพื่อนบ้านข้างเคียงได้ยินเสียงดัง
จึงปีนขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน
ช่วยคุณยาย ส่งเข้าโรงพยาบาลทันท่วงที
อาการคุณยายถึงวันนี้ยังวิกฤตอยู่

ขณะนี้ เพื่อนบ้านในละแวกนั้นกำลังเรียกร้องให้ทางการ
เข้ามาช่วยเหลือคุณยายอย่างเร่งด่วน

ในปี 2004 คุณยายได้ขอสินเชื่อ Mortgage ระยะเวลา 30 ปี
จำนวน 45,620 เหรียญ ดอกเบี้ย 6.375% จาก Countrywide Home Loan
(ซึ่งต่อมา สินเชื่อนี้ถูกโอนจัดการไปอยู่กับ Fannie Mae หลังจาก Countrywide Home ล้มละลาย)
และวันเดียวกันก็ได้วงเงินเครดิตอีก 11,380 เหรียญ


หลังจากนั้นไม่กี่ปีต่อมา คุณยายก็ผิดนัดชำระหนี้ติดต่อกัน
จนบ้านถูกยึด และถูกเรียกหมายศาลถึง 30 ครั้ง
จนเกิดโศกนาฎกรรมล่าสุด

ปรากฏการณ์ Addie Polk ไม่ได้เป็นกรณีเดียวที่กำลังขึ้นในชุมชนอเมริกัน
ยังคงจะมี Addie Polk อีกหลายๆคนที่กู้เงินซื้อบ้านมาแล้วชำระต่อไม่ได้
ทรัพย์สินที่เป็นตัวบ้านก็ลดมูลค่าลงเพียงข้ามคืน

หลายหน่วยงานประชุมเรื่องนี้ฉุกเฉิน ว่าจะทำอย่างไรคืบหน้าต่อดี
หนึ่งในทางเลือกก็คือ คืนบ้านหลังสุดที่รักให้เธอเสีย
และก็ยกหนี้ทั้งหลายที่เหลือให้ด้วย
"We're going to forgive whatever outstanding balance
she had on the loan and give her the house," Faith said.
"Given the circumstances, we think it's appropriate."
อา...แล้ว Fannie Mae จะปฏิบัติกับทุกกรณีอย่างนี้ได้หรือ  :roll:
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เรื่องเศร้าของคุณยาย Polk
คือผลสืบเนื่องจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินของเมืองมะกัน
ที่แม้แต่คนธรรมดาสามัญที่ไม่เคยเล่นหุ้น ก็ยังได้รับผลกระทบด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 80 ปี
เหตุการณ์ทำนองเดียวกันก็ปรากฏมากมายในบันทึกประวัติศาสตร์
แม้ความซับซ้อนของเครื่องมืออนุพันธ์ทางการเงิน
และพฤติกรรมการปกปิด ซ่อนเงื่อนของผู้คุมกฏเกณฑ์จะแตกต่างกันมาก

ผลท้ายสุด คนธรรมดาสามัญก็ต้องรับกรรมไปด้วย
แม้แต่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ชื่อ Clara Hancox

ก่อนจะเล่าเรื่องของเเด็กหญิง Clara Hancox
ขอกล่าวถึงที่มาแห่งบันทึกประวัติศาสตร์เล็กน้อย
เพื่อให้เครดิตกับต้นเรื่อง

When Father took my piggy bank :The Depresssion's darkest days
หรือที่กูรูแปลเป็นไทยพาดหัวว่า
เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป
เป็นหน้าบันทึกที่อยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนา "The Century"
ซึ่งเป็นการรวบรวมหน้าประวัติศาสตร์ของคนมะกันในรอบ 100 ปี ตั้งแต่1901-1999  
โดย Peter Jennings อดีตผู้ประกาศข่าวและบรรณาธิการคนดัง
ABC New's World News Tonight รายการข่าว Prime Time ของช่องโทรทัศน์ Rating ติดดาว
( เสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2005 ด้วยโรคมะเร็ง อายุ 67 ปี)
และ Todd Brewster อดีตบรรณาธิการ LIfe Magazine

หน้าตาหนังสือเป็นอย่างนี้
รูปภาพ


Clara Hancox เกิดปี 1918 ในละแวก Bronx
จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Iowa ในปี 1939
เคยเป็นนักเขียนคอลัมนิสต์ใน Daily News  Record
ปัจจุบันเกษียณแล้ว หันมามุ่งมั่นงานเขียนนิยายอย่างเดียว

เดี๋ยวคืนนี้มาเล่าต่อครับ ไปปฏิบัติงานตามหน้าที่สักพัก  :lol:
Quantum of Solace
Verified User
โพสต์: 155
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คุณยาย อายุ 90

ปี 2004 อายุ 86 ขอสินเชื่อ ได้ด้วยหรือครับ

มิน่า สถาบันการเงินถึงเจ๊ง

ถ้าคุณยาย กู้ได้ สักปี แล้วลาโลกไป
ใครจะมาผ่อนต่อครับ หรือว่าเค้าจะยึดบ้านไปเลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
krisy
Verified User
โพสต์: 736
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เข้ามารอฟังค่ะ เรื่องน่าสนใจดี ขอบคุณที่เอาฝาก

พูดถึงคุณยาย ท่านต้องแข็งแรงมากแน่ๆ กู้ตอนอายุ 86 ปี จ่ายคืนตอนอายุ 116 อายุยืนสุดๆ

เราว่าที่เค้ากล้าปล่อย เพราะไม่คิดว่าราคาบ้านจะตก ถ้าคุณยายเสียระหว่างทาง ได้ทั้งเงินดอกเบี้ย และได้สินทรัพย์ที่ถูกยึดมาพร้อมหวังว่าราคาน่าจะปรับขึ้น
.....Give Everything but not Give Up.....
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มารออ่านบทความดีๆต่อครับ  :D

วิกฤติที่เราได้ยินได้เห็นตัวเลขแดงๆอยู่ทุกวัน จริงๆแล้วมันมีอะไรมากมายเกินกว่านั้น มีคนจริงเดือดร้อนจริงซ่อนอยู่ใต้ตัวหนังสื่อข่าวที่เราอ่าน หลายคนสะใจหรือถึงกับสมน้ำหน้าสหรัฐที่ใช้จ่ายเกินตัวจนนำไปสู่ปัญหา

อ่านบทความของพี่กูรูแล้วอยากให้เปลี่ยนอารมณ์เหล่านั้นเป็นความเห็นใจเพื่อนร่วมโลกกันจะดีไหม...
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 6

โพสต์

กลับมาแล้ว ขอเล่าต่อ
บันทึกของหนูน้อย Clara Hancox จับใจความได้ดังนี้

พ่อแม่ของฉันอพยพจาก Ukraine สู่มหานครนิวยอร์คในปี 1916
แรกเริ่มมาอาศัยในเขตสลัมทางฝั่งตะวันออก  
แม้จะไม่ใช่ถิ่นพำพักที่ดูดีมีระดับ ออกจะซอมซ่อด้วยซ้ำ
แต่พวกเราก็ไม่เคยสิ้นหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น..สักวันหนึ่ง

ด้วยความบากบั่น อดทน หนักเอา เบาสู้ตามแบบฉบับของคนงานอพยพทั่วไป
พ่อได้ก่อร่างสร้างตัวจนสามารถประกอบอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจทำพื้นอาคาร (Flooring Business)
มีงานรับผิดชอบการปูพื้นอาคารตึกใหม่ๆซึ่งแข่งกันสร้างรองรับเมืองที่กำลังขยาย

ตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดอะไรในเวลาต่อมา

พ่อเริ่มมีเงินเก็บและลืมตาอ้าปากได้  จึงโยกย้ายไปพำนักถิ่นที่อยู่ที่ดีขึ้น
คือเขต Bronx  ซึ่งอยู่นอกเมืองออกมา
อพาร์ทเม้นท์ 4 ห้องของเราเริ่มดูเป็นรูปเป็นร่าง
ด้วยเฟอร์นิเจอร์งานฝีมือและการตกแต่งอย่างมีรสนิยม
ทั้งนี้พ่อฝันเสมอว่าอยากจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างมีฐานะ
เพื่อชดเชยกับความยากลำบากครั้งเก่าก่อน

วันหนึ่งพ่อกลับมาพร้อมกับผืนพรมสีแดงเชอรี่ นุ่มสวยจนแทบจะชวนให้เกลือกกลิ้งทั่วผืน
แม่ถามว่าพ่อจ่ายไปเท่าไหร่  พ่อตอบว่า 250 เหรียญ แม่บอกให้เอาไปคืน
แต่พรมเชอรี่ก็ยังอยู่ที่พื้นอพาร์ตเม้นท์เรามาตลอด

ธุรกิจของพ่อยิ่งนานวัน ก็ยิ่งดีขึ้นตามลำดับ
พอๆกับการขยายตัวของตึกสูงระฟ้าที่แข่งพุ่งทะยานไม่หยุด
พ่อไปที่แบ็งก์เพื่อขอกู้เงินสำหรับซื้อวัสดุ  สิ่งของที่เอามาใช้งานปูพื้น

แต่ไม่ทันจะได้เริ่มงาน ตลาดหุ้นก็ถูกถล่ม
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 7

โพสต์

พวกเราผู้ห่างไกลจากวงจรของ Wall Street
ไม่เคยสนใจตลาดหุ้น ไม่เคยแม้แต่คิดจะซื้อจะขายด้วยซ้ำ
เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นขณะนั้น

มันเหมือนเมืองทั้งเมืองถูกถล่มด้วยระเบิดลูกแล้วลูกเล่า
เพียงชั่วข้ามคืน  โศกนาฎกรรมปรากฏทั่วทุกครัวเรือน
จากหายนะหนึ่งไปสู่อีกหายนะหนึ่ง
เหมือนเกมส์โดมิโนที่ล้มกลิ้งไปสู่ถนนอเวจี
คนที่จ้างให้พ่อทำงานปูพื้น สูญเสียเงินทั้งหมด ไม่สามารถจ่ายเงินพ่อได้
พ่อเองก็ติดหนี้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างท่วมท้น
อีกทั้งติดหนี้เงินกู้จากแบ็งก์ก้อนใหญ่ซึ่งตามทวงไม่ลดละ
พูดอีกนัยหนึ่ง พ่อล้มละลาย และน่าเสียดาย ไม่ได้ฟื้นกลับมาอีกเลย

สะพานจอร์ช วอชิงตัน ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ
ปกติจะเป็นสถานที่เดินเล่นชมวิวของชาวมหานครที่อยากจะหลีกลี้ใต้เงาตึกสูงใหญ่
แต่ ณ วินาทีคือสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์สำหรับจบชีวิตของบรรดาผู้คนที่เกี่ยวข้องกับ Wall Street
พวกคนที่เล่นหุ้นด้วย Margin และไม่สามารถจ่ายหนี้คืนได้

Margin คืออะไรนะ เป็นศัพท์ใหม่ที่เราเพิ่งเคยได้ยินในตอนนั้น
ใครๆก็พูดกันหนาหูมาก  เขาคนนั้น คุณคนนี้ตายเพราะมาร์จิ้น
มันร้ายแรงเหมือนโรคระบาดชนิดหนึ่งหรือเปล่านะ :roll:

หลายคนที่ไม่อาจอยู่สู้หน้าใครได้อีก
ก็เลือกหนทางสุดท้ายคือ ฆ่าตัวตาย
ด้วยหวังว่าอย่างน้อยก็พอมีเงินประกันสักก้อนหนึ่ง
จ่ายให้ภรรยาและลูกๆที่อยู่ข้างหลังได้
ไม่น่าเชื่อ การจบชีวิตเยี่ยงนี้
กลายเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง สมเกียรติ
ในสังคมและอารมณ์ของผู้คน ณ ห้วงเวลานั้น

นักธุรกิจผู้เคยมีหน้ามีตาในสังคม
เดินแบกตะกร้าขายผลแอปเปิ้ลสีแดงก่ำตามท้องถนนลูกล่ะ 5 เซนต์
ช่างเป็นเรื่องหดหู่เสียจริงๆ

และที่หดหู่ยิ่งกว่าก็คือ
แม้แต่เงิน 5 เซ็นต์ เราก็ไม่มีเลย
 :oops:
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ฉันมีกระปุกออมสินอยู่ใบหนึ่ง สะสมเศษเหรียญมากกว่า 5 ปี
ใส่ทั้งเหรียญนิคเกิ้ล เพ็นนีและไดม์ปะปน
ทุกครั้งที่หยอดกระปุกเสร็จ ฉันมักจะเขย่าๆ
เพื่อฟังเสียงเหรียญกระทบกันหนักแน่น
ฟังซิ เสียงแห่งความมั่งคั่งในอนาคต
ฉันไม่รู้หรอกว่า จำนวนเหรียญเล็กเหรียญน้อยที่อยู่ในกระปุกนั้นมีเท่าไหร่
หากอยากรู้ก็ต้องแคะให้เหรียญตกลงมาทีละเหรียญๆ
หรือไม่ก็ทุบกระปุกออก

วันหนึ่งฉันกลับมาถึงบ้าน  
ตรงไปหยิบกระปุกขึ้นมาเขย่า ปรากฏว่าเบาโหวง
เกิดอะไรขึ้นกับกระปุกออมเงินของฉัน
เหรียญทั้งหมดถูกแคะไปเกลี้ยง

ขณะที่ฉันนั่งตะลึงแล้วร้องไห้
แม่เดินมาที่ประตู บอกว่า พ่อขอยืมเงินในกระปุกไปทั้งหมด
เพื่อใช้เป็นค่าเดินทางออกไปหางานทำในเมือง
ฉันถามว่า เงินทั้งหมดมีเท่าไหร่  แม่ตอบว่า สิบดอลล่าร์
โอ้โฮ พ่อเอาเงินจากกระปุกออมสินของฉันไปหมดตั้ง 10 ดอลล่าร์เลยเชียวหรือ
เมื่อพ่อกลับมา อย่าพูดอะไรทั้งสิ้น แค่นี้พ่อก็เสียใจมากพอแล้ว แม่กำชับ
พ่อกลับถึงบ้าน รอยหมองคล้ำเต็มดวงหน้า ตาแห้งอิดโรย ปากสั่นซีดเซียว
พ่อสัญญาจะคืนเงินที่เอาจากกระปุกให้ฉันทั้งหมด
แต่จนแล้ว จนเล่า พ่อก็ไม่ได้คืน

เป็นช่วงวันคืนที่เลวร้ายที่สุดของครอบครัวเรา
เป็นช่วงวิกฤตแห่งชีวิตของคนผู้เป็นพ่อ
ที่ไม่สามารถนำแสงสว่าง  ความอบอุ่น  
ไม่สามารถนำครอบครัวฝ่าความหิวโหยออกไปได้

พ่อทำผิดอะไรหรือถึงต้องมาประสบชะตากรรมแบบนี้

ไม่มีใครอยู่นิ่งเฉย พ่อออกเดินไปหางานทำทุกวัน
แม่ก็เช่นกัน ฉันเองก็หางานพิเศษทำ
รับเล่นเปียโนที่โรงเรียนสอนเต้นรำด้วยค่าจ้าง ชั่วโมงล่ะ 50 เซนต์
เศษตังค์ที่เหลือติดก้นกระเป๋าเพียงพอที่เราจะไปตลาดตอนวาย
ซื้อมันฝรั่งแคะแกร็นหรือแคร็อทที่เริ่มนิ่มเอามาต้มกินเป็นมื้ออาหาร
ซื้อข้าวบาร์เลย์มาต้มเป็นน้ำซุปอิ่มได้ 3-4 มื้อ
พอประทังความอดอยากให้ผ่านพ้นไปทีละวัน

วันหนึ่งฉันกลับจากโรงเรียน
เห็นเฟอร์นิเจอร์รูปลักษณ์คุ้นตาวางเรียงรายข้างทางเดิน
จึงรู้ว่า เราถูกไล่ออกจากอพาร์ทเม้นท์
ไม่มีแล้วบ้านที่คุ้มหัวอีกต่อไป
สายตาที่ปวดร้าวของพ่อ แม่ ขณะดูพวกเขายกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นออกมา    
ทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะสบตาท่าน

เราย้ายมาอยู่ร่วมกับอีกครอบครัวหนึ่งซึ่งมีอพาร์ทเม้นท์อยู่ 2 ห้อง
พวกเขาอยู่ห้องเดิม  พวกเราอยู่รวมกันในห้องนั่งเล่น พร้อมเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนเก่า
ซึ่งหลายชิ้นถูกขโมย สูญหายระหว่างการเคลื่อนย้าย
หากชิ้นหนึ่งที่ยังความสว่างสดใสแก่ห้องเล็กๆก็คือ พรมเชอรี่สีแดงผืนนั้น

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พ่อ  ถึงเงินในกระปุกไม่อยู่แล้ว
แต่เรายังอยู่
อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบทั้ง  3 คน  :oops:
E-man
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 135
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 9

โพสต์

รออ่านต่อครับ พี่กูรู  :D
แพ้หรือชนะเริ่มต้นที่ความคิด
Quantum of Solace
Verified User
โพสต์: 155
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 10

โพสต์

พอดูหนังเกี่ยวกับ สงคราม ต่างๆนาๆ
ก็เคยคิด ว่าเราโชคดีแค่ไหน ที่ไม่ได้เกิดมาในยุคนั้น

ประมาณ ผู้ชายทั้งหมด ถูกเกณฑ์ไปรบ
เพียงเพื่อ สนองคนบ้าอำนาจ ไม่กี่คนเท่านั้น

อ่านแล้ว เหมือนช่วงนั้น มีสงครามเกิดขึ้น ยังงั้นเลย
earthcu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 348
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณครับ K.กูรูขอบสนาม เป็นบทความที่ดีมากๆเลย อ่านแล้วทำให้รู้เลยว่าบางทีปัญหาของเราที่ว่าหนักแล้ว ได้อ่านเรื่องอย่างนี้เข้าไป ทำให้เรารู้สึกว่าปัญหาของเรากลายเป็นเรื่องเล็กเลยครับ ขอภาวนาให้ทุกๆคน ผ่านช่วงวิกฤติไปได้นะครับสำหรับคนในโลกนี้ทุกๆคน
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
ภาพประจำตัวสมาชิก
น้ำครึ่งแก้ว
Verified User
โพสต์: 1098
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เข้ามารอฟังครับผม
เหมือนที่เพื่อนๆ พี่ๆ หลายท่านกล่าวไว้ว่า บ้านเรายังดีกว่าอีกหลายที่



ขอบคุณครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
V_accy
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ฟังด้วยคนครับ
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="E-man"]รออ่านต่อครับ พี่กูรู
ภาพประจำตัวสมาชิก
bankniti
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 15

โพสต์

[quote="กูรูขอบสนาม"][quote="E-man"]รออ่านต่อครับ พี่กูรู
กูรูขอบสนาม
Verified User
โพสต์: 987
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 16

โพสต์

[quote="bankniti"][quote="กูรูขอบสนาม"][quote="E-man"]รออ่านต่อครับ พี่กูรู
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

เมื่อพ่อเอาเงินทั้งหมดในกระปุกออมสินฉันไป

โพสต์ที่ 17

โพสต์

มาอ่านด้วยคนครับ  

ปัญหาเงินๆ ทองๆ อ่านแล้วนึกถึงวงเวียนชีวิตช่อง 3  :roll:
โพสต์โพสต์