คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
- maeteeb
- Verified User
- โพสต์: 783
- ผู้ติดตาม: 0
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 2
ประสบการณ์ที่มีคุณค่าครับ ดีในแง่เรียนรู้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ยังดีที่เลือกหุ้นตามคำสอนของอาจารย์ทั้งหลายไม่เช่นนั้นคงเครียดกว่านี้
ยอมรับว่าพอรท์เละครับ เละจริงๆ แต่คิดว่ามูลค่าตามพื้นฐานไม่ได้เละตาม ก็เลยยังทำใจได้
ยังดีที่เลือกหุ้นตามคำสอนของอาจารย์ทั้งหลายไม่เช่นนั้นคงเครียดกว่านี้
ยอมรับว่าพอรท์เละครับ เละจริงๆ แต่คิดว่ามูลค่าตามพื้นฐานไม่ได้เละตาม ก็เลยยังทำใจได้
การเป็นนักลงทุนไม่ต้องการอะไรเลยคุณต้องการแค่ความคิด ความกล้าและอารมณ์ (ดร. นิเวศน์ 2552)
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 5
ผมก็ยังมั่นคงและเชื่อในการถือหุ้นเต็มพอร์ทนะครับ
ถึงจะมีช่วงถือเงินซัก 30-40% เป็นเวลาประมาณ 15 วันก็อนุโลมให้ผม ว่าถือเต็มพอร์ทแล้วกันนะครับ :oops:
คือผมสังเกตุจากคนที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำจนเรียกได้ว่า"รวยจากหุ้น"จริงๆ ส่วนใหญ่
ไม่ได้อยู่ที่การซื้อหุ้นได้ถูกที่สุด
ไม่ได้อยู่ที่การขายหุ้นได้แพงที่สุด
และก็ไม่ได้อยู่ที่การเล่นรอบหรือล้างพอร์ทได้ถูกทางบ่อยๆ
แต่อยู่ที่การเอาตัวรอดได้(ไม่ลบมากเกินไป)ในตอนตลาดเดี้ยง(โดยการปรับพอร์ท)
และกำหุ้นติดมือได้แน่นมากๆตอนตลาดกระทิงกลับมา
คือผมเชื่อว่าคนที่เล่นรอบบ่อยๆจะมีแนวโน้มขายหมูอย่างมากช่วงตลาดกระทิงครับ
เพราะทำจนเป็นนิสัยไงครับ พอหุ้นขึ้นหลังจากลงนานๆมักจะไม่มีใครคิดว่าขึ้นจริงหรอกครับ
แล้วยิ่งคำพูดทำนองว่า"อย่าซื้อตอนลงเพราะไม่รู้ว่าลงสุดที่ไหน รอซื้อแพงกว่าหน่อยตอนเริ่มกลับตัวขึ้นดีกว่า"
ผมว่ายิ่งกว่าวาดวิมานในอากาสอีก เพราะใครจะรู้จริงว่ามันกลับตัวจริงหรือแค่รีบาวน์แล้วลงต่อให้คนซื้อเจอดอยลูกใหม่ :lol:
สุดท้ายมันก็กลับมาที่คำว่า Value กับ Margin of Safety ครับ
และที่สำคัญอีกอย่างก็ Money Management ครับ
ถ้าเห็นว่าถูกแล้วก็ซื้อเลยครับ แต่จัดสรรเงินในการเข้าซื้อให้ดีแล้วกัน
ถึงจะมีช่วงถือเงินซัก 30-40% เป็นเวลาประมาณ 15 วันก็อนุโลมให้ผม ว่าถือเต็มพอร์ทแล้วกันนะครับ :oops:
คือผมสังเกตุจากคนที่ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำจนเรียกได้ว่า"รวยจากหุ้น"จริงๆ ส่วนใหญ่
ไม่ได้อยู่ที่การซื้อหุ้นได้ถูกที่สุด
ไม่ได้อยู่ที่การขายหุ้นได้แพงที่สุด
และก็ไม่ได้อยู่ที่การเล่นรอบหรือล้างพอร์ทได้ถูกทางบ่อยๆ
แต่อยู่ที่การเอาตัวรอดได้(ไม่ลบมากเกินไป)ในตอนตลาดเดี้ยง(โดยการปรับพอร์ท)
และกำหุ้นติดมือได้แน่นมากๆตอนตลาดกระทิงกลับมา
คือผมเชื่อว่าคนที่เล่นรอบบ่อยๆจะมีแนวโน้มขายหมูอย่างมากช่วงตลาดกระทิงครับ
เพราะทำจนเป็นนิสัยไงครับ พอหุ้นขึ้นหลังจากลงนานๆมักจะไม่มีใครคิดว่าขึ้นจริงหรอกครับ
แล้วยิ่งคำพูดทำนองว่า"อย่าซื้อตอนลงเพราะไม่รู้ว่าลงสุดที่ไหน รอซื้อแพงกว่าหน่อยตอนเริ่มกลับตัวขึ้นดีกว่า"
ผมว่ายิ่งกว่าวาดวิมานในอากาสอีก เพราะใครจะรู้จริงว่ามันกลับตัวจริงหรือแค่รีบาวน์แล้วลงต่อให้คนซื้อเจอดอยลูกใหม่ :lol:
สุดท้ายมันก็กลับมาที่คำว่า Value กับ Margin of Safety ครับ
และที่สำคัญอีกอย่างก็ Money Management ครับ
ถ้าเห็นว่าถูกแล้วก็ซื้อเลยครับ แต่จัดสรรเงินในการเข้าซื้อให้ดีแล้วกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 7
อ่านความเห็นพี่ฉัตรแล้วเข้าใจความรู้สึกนะครับ
Buffett เองก็ไม่ได้ถือเงินสด ตลอดเวลา
อเมริกา กับไทย ก็ไม่ได้เหมือนกันเรื่องการขาดทุน - กำไร ค่า comฯ
Margin of Safety ของคุณอยู่ตรงไหนครับ
Friday, 17 October 2008
0078: MOS ตามอำเภอใจ
โดยพี่สุมาอี้ ครับ
http://api.settrade.com/blog/1001ii/2008/10/17/354
Buffett เองก็ไม่ได้ถือเงินสด ตลอดเวลา
อเมริกา กับไทย ก็ไม่ได้เหมือนกันเรื่องการขาดทุน - กำไร ค่า comฯ
Margin of Safety ของคุณอยู่ตรงไหนครับ
Friday, 17 October 2008
0078: MOS ตามอำเภอใจ
โดยพี่สุมาอี้ ครับ
http://api.settrade.com/blog/1001ii/2008/10/17/354
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 8
ผมเองไม่ได้ถือหุ้นเต็มพอร์ทนะครับ แต่อ่านบทความของพี่สุมาอี้แล้ว มีความเห็นขัดแย้งนิดหน่อย ตอนที่บัฟเฟตไม่ได้ถือหุ้นเลยช่วง dotcom ฟองสบู่แตกตอนนั้น pe ตลาด 45 เท่าครับ แต่เวลาที่เป็นวิกฤติผมเชื่อว่าแกคงถือหุ้นเสียไม่เต้มก็เกือบเต็มนะครับ เชื่อว่าแกคงเคยขาดทุนทางบัญชีมากเหมือนกันครับในบางวิกฤติ แต่ก็เห็นด้วยครับว่าตลาดไทยผันผวนกว่ามาก ถ้ากำไรขายออกบ้างและถือเงินสดเผื่อซื้อกลับตอนถูกบ้างซัก 30-40 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ทน่าจะเหมาะสมกว่าครับกับสภาพตลาดนะครับ ผมว่าแล้วแต่ความสบายใจแต่ละคนครับ แน่นอนบางครั้งคนถือเต็มพอร์ทอาจได้ผลตอบแทนสูงกว่า บางครั้ง คนถือเงินสดบ้างก็อาจสบายใจกว่าครับ แต่เท่าที่สังเกตุบัฟเฟตแกมักจะถือเงินสดน้อยครับnoooon010 เขียน:อ่านความเห็นพี่ฉัตรแล้วเข้าใจความรู้สึกนะครับ
Buffett เองก็ไม่ได้ถือเงินสด ตลอดเวลา
อเมริกา กับไทย ก็ไม่ได้เหมือนกันเรื่องการขาดทุน - กำไร ค่า comฯ
Margin of Safety ของคุณอยู่ตรงไหนครับ
Friday, 17 October 2008
0078: MOS ตามอำเภอใจ
โดยพี่สุมาอี้ ครับ
http://api.settrade.com/blog/1001ii/2008/10/17/354
Small Details Make a Big Difference
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 13
ขาดทุน 30% สำหรับผมkmphol เขียน:ถ้า100% all time ตอน SET 900 กว่าจุด เมือ พย50
ถ้าถือถึงตอนนี้ขาดทุนเท่าไหร่แล้วครับ
แล้วถ้าตอนนนั้นขายเป็นCASH หมด แล้วมาซื้อใหม่ตอนนี้
เป็นหุ้น 100% คิดว่าจะได้กี่เด้งในอีก4-5 ปีหน้าครับ
ส่วนกำไรกี่เด้งนั้น ต้องถามคุณ beammy ครับ :lol:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 17
ผมว่าก่อนอื่นคงต้องแยกระหว่างดัชนีตลาดกับราคาหุ้นที่เราถือออกจากกันก่อนครับkmphol เขียน:ถ้า100% all time ตอน SET 900 กว่าจุด เมือ พย50
ถ้าถือถึงตอนนี้ขาดทุนเท่าไหร่แล้วครับ
แล้วถ้าตอนนนั้นขายเป็นCASH หมด แล้วมาซื้อใหม่ตอนนี้
เป็นหุ้น 100% คิดว่าจะได้กี่เด้งในอีก4-5 ปีหน้าครับ
ในระยะยาวแล้ว ผมกล้าพูดว่ามันไม่จริงเลยครับที่พอร์ทเราจะขึ้นลงตามดัชนี
ไม่ได้พูดมั่วๆตามคนอื่นเพื่อให้ฟังดูดีนะครับ
แต่เอาจากของจริงจากตัวผมเองเลย
ผมเข้าตลาดตอนช่วงปลายปี 46ต่อต้นปี 47 ดัชนีอยู่ที่ประมาณเกือบ 800
(น่าจะมีเพื่อนเข้าตลาดช่วงนั้นเยอะมาก เพราะตลาดปี 46 กระทิงสุดๆ :lol: )
และผมเป็นคนนึงที่ถือหุ้น 100% อยู่เกือบตลอดเวลาจากวันนั้นถึงวันนี้
ปัจจุบันดัชนีประมาณ 450 ถ้าคิดแบบ คุณ kmphol ผมคงขาดทุนเละ
แต่ปัจจุบันถ้าไม่รวมเงินทุนที่เพิ่มเข้าไประหว่างทาง
คิดเฉพาะต้นทุนก้อนแรก ผมก็ยังกำไรอยู่กว่าเท่าตัว
(ถ้าเฉพาะปีนี้ นับถึงวินาทีนี้ ลบอยู่ 18%)
คือสมมุติฐานที่บอกว่าให้ขายตอนแพงแล้วไปรับกลับตอนถูกนี่
ถ้าทำได้จริงตลอด ผมก็ทำครับ ป่านนี้ก็คงรวยเละไปแล้ว
แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้และทำได้อย่างนั้นทุกครั้งหรอกครับ
แต่การพยายามเล่นรอบบ่อยๆ ถ้าคุณพลาดกระทิงครั้งใหญ่ครั้งเดียว
ผลตอบแทนรวมก็คงไม่ดีแล้วครับ
ลงทุนในหุ้นต้องลองดูกันยาวครับ อีกซัก 10 ปีค่อยลองมาถกกันใหม่
มุมมองแต่ละคนก็คงเปลี่ยนไปอีกตามประสบการณ์ที่เจอ :lol:
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 20
เห็นด้วยครับchatchai เขียน:ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งครับ
ไม่ควรทำอะไรที่ตายตัวขนาดนั้น ควรจะปรับไปตามสถานการ
ถ้าเราตั้งกฎที่ fix มากแบบนั้น มันจะขาดความยืดหยุ่นครับ
ควรเป็น 100% ในสถานการณ์ปกติ อะไรแบบนี้ครับ
- kmphol
- Verified User
- โพสต์: 417
- ผู้ติดตาม: 0
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 21
ผมเห็นด้วยครับ ว่าการเลือกหุ้นนั้นสำคัญกว่าการดูดัชนีatsu เขียน: ผมว่าก่อนอื่นคงต้องแยกระหว่างดัชนีตลาดกับราคาหุ้นที่เราถือออกจากกันก่อนครับ
ในระยะยาวแล้ว ผมกล้าพูดว่ามันไม่จริงเลยครับที่พอร์ทเราจะขึ้นลงตามดัชนี
:lol:
แต่ที่ยกตัวอย่างดัชนีเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ก็เพราะว่าปีที่แล้วหุ้นบ้านเรามันขึ้นมาแบบไม่มีพื้นฐานรองรับ แต่มันขึ้นมาจาก FUND FLOW ซึ่งถ้าเราเป็นผู้ไม่ประมาทต่อตลาดหุ้น เราควรขายทำกำไรแล้วเก็บ CASH ไว้บางส่วน
ถึงเราจะพลาดกระทิงสักรอบ ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร ถ้ามันเป็นตลาดของการเก็งกำไรแบบไร้เหตุผล ผมคิดว่ามีคนที่รวยถล่มทลายจากหุ้นก่อนปี 40 แบบถือหุ้น100%แถมด้วยMARGINเยอะนะครับ แต่สุดท้าย ก็มาล้มละลาย ฆ่าตัวตาย หลังปี40 มีให้เห็นอยู่เพราะผมคิดว่ากฏการลงทุนที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าขาดทุน
กำไรมาก กำไรน้อย ไม่เป็นไร แต่ว่าอย่าขาดทุนไม่ว่าสถานการณ์ใดใด เราจึงไม่ควรประมาทต่อนายตลาด
ต่อให้กิจการของเราจะดีเลิศ เพียงใด ถ้ามีแรงขายจากคนที่มีหุ้นมาก ราคามันก็ร่วงไดไม่ยั้งเหมือนกันครับ
เพราะเราไม่รู้ว่าวิกถตมันจะมาเมื่อไร เราจึงไม่ควรประมาทครับ
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 22
[quote="kmphol"]ผมเห็นด้วยครับ ว่าการเลือกหุ้นนั้นสำคัญกว่าการดูดัชนี
แต่ที่ยกตัวอย่างดัชนีเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ก็เพราะว่าปีที่แล้วหุ้นบ้านเรามันขึ้นมาแบบไม่มีพื้นฐานรองรับ แต่มันขึ้นมาจาก FUND FLOW ซึ่งถ้าเราเป็นผู้ไม่ประมาทต่อตลาดหุ้น เราควรขายทำกำไรแล้วเก็บ CASH ไว้บางส่วน
ถึงเราจะพลาดกระทิงสักรอบ ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร ถ้ามันเป็นตลาดของการเก็งกำไรแบบไร้เหตุผล ผมคิดว่ามีคนที่รวยถล่มทลายจากหุ้นก่อนปี 40 แบบถือหุ้น100%แถมด้วยMARGINเยอะนะครับ แต่สุดท้าย ก็มาล้มละลาย ฆ่าตัวตาย หลังปี40 มีให้เห็นอยู่เพราะผมคิดว่ากฏการลงทุนที่สำคัญที่สุดก็คือ
แต่ที่ยกตัวอย่างดัชนีเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ก็เพราะว่าปีที่แล้วหุ้นบ้านเรามันขึ้นมาแบบไม่มีพื้นฐานรองรับ แต่มันขึ้นมาจาก FUND FLOW ซึ่งถ้าเราเป็นผู้ไม่ประมาทต่อตลาดหุ้น เราควรขายทำกำไรแล้วเก็บ CASH ไว้บางส่วน
ถึงเราจะพลาดกระทิงสักรอบ ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร ถ้ามันเป็นตลาดของการเก็งกำไรแบบไร้เหตุผล ผมคิดว่ามีคนที่รวยถล่มทลายจากหุ้นก่อนปี 40 แบบถือหุ้น100%แถมด้วยMARGINเยอะนะครับ แต่สุดท้าย ก็มาล้มละลาย ฆ่าตัวตาย หลังปี40 มีให้เห็นอยู่เพราะผมคิดว่ากฏการลงทุนที่สำคัญที่สุดก็คือ
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 23
ลืมไปอย่าง
ยังไงผมก็ยังเชื่อว่าคนเราถ้าผ่านประสบการณ์ยังไง มันก็จะมีส่วนในความคิดและการตัดสินใจของเค้า
ดังนั้นผ่านไปอีก 10 ปี ผมอาจจะเป็นคนมาโพสต์ก็ได้ว่า
"ถือหุ้นเต็มพอร์ทตลอดร้อยเปอร์เซ็นท์ เป็นหนทางแห่งหายนะ"
:lovl: :lovl: :lovl:
ยังไงผมก็ยังเชื่อว่าคนเราถ้าผ่านประสบการณ์ยังไง มันก็จะมีส่วนในความคิดและการตัดสินใจของเค้า
ดังนั้นผ่านไปอีก 10 ปี ผมอาจจะเป็นคนมาโพสต์ก็ได้ว่า
"ถือหุ้นเต็มพอร์ทตลอดร้อยเปอร์เซ็นท์ เป็นหนทางแห่งหายนะ"
:lovl: :lovl: :lovl:
-
- Verified User
- โพสต์: 21
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยครับ
โพสต์ที่ 24
ดั้งนั้นคำว่าลงทุนระยะยาว เราก็ควรดู ด้วยว่าหุ้นที่เราถืออยู่ ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า ใช่หรือไม่ครับ
ถ้าอย่างกรณีหุ้นที่เราถืออยู่ ไม่ถึงปี มีคนมาเก็งกำไรทำให้ราคาหุ้นที่เป็นอยู่แพงเกินไป เราควรตัดสินใจอย่างไรครับ รบกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
-------------------------------------------
เด็กใหม่หัดลงทุนครับ
ถ้าอย่างกรณีหุ้นที่เราถืออยู่ ไม่ถึงปี มีคนมาเก็งกำไรทำให้ราคาหุ้นที่เป็นอยู่แพงเกินไป เราควรตัดสินใจอย่างไรครับ รบกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
-------------------------------------------
เด็กใหม่หัดลงทุนครับ
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สงสัยครับ
โพสต์ที่ 25
ขอยกคำตอบของพี่ฉัตรชัยที่เคยตอบไว้ประมาณนี้ครับว่าkaninsaeko เขียน:ดั้งนั้นคำว่าลงทุนระยะยาว เราก็ควรดู ด้วยว่าหุ้นที่เราถืออยู่ ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า ใช่หรือไม่ครับ
ถ้าอย่างกรณีหุ้นที่เราถืออยู่ ไม่ถึงปี มีคนมาเก็งกำไรทำให้ราคาหุ้นที่เป็นอยู่แพงเกินไป เราควรตัดสินใจอย่างไรครับ รบกวนหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
-------------------------------------------
เด็กใหม่หัดลงทุนครับ
"ผมไม่เคยตั้งเป้าว่าจะถือหุ้นนานแค่ไหนเพราะ
ถ้าหุ้นที่ผมซื้อราคาวิ่งเกินมูลค่าหลังจากซื้อไว้ 1 วัน ผมก็จะขายทันที"
น่าจะพอตอบคำถามนี้ได้นะครับ
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 26
วอร์เรน บัฟเฟต แนะนำให้ถือเงินสดไว้บ้างนะครับ เค้าบอกว่าการลงทุนเหมือนการจับช้างป่าหายากที่วิ่งได้อย่างว่องไว คุณจะต้องถือปืนพร้อมไว้เสมอ
เบน แกรแฮม แนะนำให้นักลงทุนทั่วไป ควรลงทุนโดยถือหุ้นและตราสารหนี้ในอัตรา 25%-75%
ดอกเตอร์นิเวศน์บอกว่าตัวท่านเองลงทุนในหุ้น 100%
ผมเองในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเน้นลงทุนในหุ้น100% ครับ ยิ่งตอนนี้ หุ้นดีๆถูกๆมีหลายตัว ก็เลยยังถือหุ้น 100%ครับ แต่ในอนาคตเมื่อหุ้นแพงขึ้น ผมคิดว่า การถือเงินสดไว้บ้างก็เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะบางครั้ง ตลาดก็มองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป ตัวผมเองจะได้มีเงินเพื่อซื้อหุ้นที่ดีเพิ่มครับ
เบน แกรแฮม แนะนำให้นักลงทุนทั่วไป ควรลงทุนโดยถือหุ้นและตราสารหนี้ในอัตรา 25%-75%
ดอกเตอร์นิเวศน์บอกว่าตัวท่านเองลงทุนในหุ้น 100%
ผมเองในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเน้นลงทุนในหุ้น100% ครับ ยิ่งตอนนี้ หุ้นดีๆถูกๆมีหลายตัว ก็เลยยังถือหุ้น 100%ครับ แต่ในอนาคตเมื่อหุ้นแพงขึ้น ผมคิดว่า การถือเงินสดไว้บ้างก็เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะบางครั้ง ตลาดก็มองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป ตัวผมเองจะได้มีเงินเพื่อซื้อหุ้นที่ดีเพิ่มครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 28
เรากำลังเอาเหตุการณ์ที่นานๆเกิดขึ้นที (ทุกๆสิบปี หรือมากกว่านั้น) มาตั้งบรรทัดฐานในการลงทุนหรือเปล่าครับ :roll:
สมมติว่าเราเปลี่ยนเป็นถือหุ้น 70% ถือเงินสด 30% และหลังจากปีหน้าเป็นต้นไปอีก 5 ปี 7 ปี เป็นตลาดกระทิงตลอด ถ้าเรา็รอจะใช้เงินสดที่เก็บไว้ 30% เวลาที่ตลาดกลับมา new low อีกครั้ง เราอาจจะต้องรอไปจนถึงวิกฤตเศรษฐกิจรอบหน้าเลยก็เป็นไปได้นะครับ :lol:
ถ้าหุ้นที่เราซื้อ หรือถืออยู่ ราคาต่ำกว่ากระแสเงินสดที่เราจะได้ัรับจากกิจการพอสมควร (มี MOS)
มันก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายนี่ครับ
สมมติว่าเราเปลี่ยนเป็นถือหุ้น 70% ถือเงินสด 30% และหลังจากปีหน้าเป็นต้นไปอีก 5 ปี 7 ปี เป็นตลาดกระทิงตลอด ถ้าเรา็รอจะใช้เงินสดที่เก็บไว้ 30% เวลาที่ตลาดกลับมา new low อีกครั้ง เราอาจจะต้องรอไปจนถึงวิกฤตเศรษฐกิจรอบหน้าเลยก็เป็นไปได้นะครับ :lol:
ถ้าหุ้นที่เราซื้อ หรือถืออยู่ ราคาต่ำกว่ากระแสเงินสดที่เราจะได้ัรับจากกิจการพอสมควร (มี MOS)
มันก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายนี่ครับ
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- tummeng
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3665
- ผู้ติดตาม: 0
คิดไง กับ 100% หุ้น All Time !!!!
โพสต์ที่ 29
สัดส่วนการถือหุ้นน่าจะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ลงทุนด้วยน่ะครับ
ของผมตอนนี้ 34 ก็ลงเต็มเกือบ 100% เลยครับ แต่ตั้งใจไว้ว่าตอน 40 นี่สัดส่วนการลงทุนในหุ้นต้องลดลงไปเยอะเลยครับ
(ผ่านรอบนี้ให้ได้ไปก่อนละกันเรา :8) )
ของผมตอนนี้ 34 ก็ลงเต็มเกือบ 100% เลยครับ แต่ตั้งใจไว้ว่าตอน 40 นี่สัดส่วนการลงทุนในหุ้นต้องลดลงไปเยอะเลยครับ
(ผ่านรอบนี้ให้ได้ไปก่อนละกันเรา :8) )