เคยคิดมั้ยครับ ว่าเวลาเล่นหุ้นได้กำไร เราได้เงินจากใคร เวลาขาดทุน เราเสียเงินให้ใคร
คำตอบคงไม่ยากนัก เราน่าจะคิดว่าเวลาได้กำไรเราได้มาจากคนที่มาซื้อหุ้นต่อจากเราในราคาที่สูงกว่าตอนเราซื้อ
เวลาเราขาดทุนเราขาดทุนให้แก่คนที่ขายหุ้นมาให้เราเพราะเราขายต่อได้ในราคาต่ำกว่าที่ซื้อมา ใช่ป่ะ
แหม่งๆป่ะ
งั้นถ้าเราขายหุ้นขาดทุนไปแล้ว แล้วดูหุ้นไปเรื่อยๆราคาหุ้นกลับมาที่เดิมและเท่าทุนแปลว่าถ้าเราไม่ขายถือมาจนถึงวันที่ราคาขึ้นมาเท่าทุนเราก็ไม่ขาดทุนนี่นา แต่เราขายหุ้นขาดทุนไปแล้วนี่นาแปลว่าคนที่ซื้อหุ้นจากเราไปต้องได้กำไรแน่เลย
ก็เลยเดาไปว่าบางทีการที่จะบอกว่า เราได้หรือเสียเงินให้ใคร จากการซื้อขายหุ้นนั้น
คำตอบก็ขึ้นอยู่กับว่า จะตอบแบบมองอดีต หรือจะตอบแบบมองอนาคต
ซึ่งดูเหมือนว่า มีคนได้กำไร หรือ ขาดทุน ในตลาดหุ้นเวลาที่ซื้อขายและเกิดผลต่างด้านราคาเสมอ
แปลว่า ถ้าซื้อขายทางด้านราคา มักจะมีฝ่ายได้และเสียเสมอ ขึ้นอยู่กับราคาที่เป็นของหุ้นในเวลานั้นๆ
เลยลองมาคิด
สมมุติเรามีหุ้น ซื้อหุ้นมาในราคาถูกเนื่องจากเรามีความรู้ และเราก็ถือไปเรื่อยๆ จนวันที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกินปัจจัยพื้นฐาน ซึ่ง เรารู้เพราะมีความรู้ เราจึงคิดที่จะขาย
เราจึงขาย แล้วบังเอิญซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนจะมาซื้อต่อจากเราคือใคร แต่ถ้าบังเอิญเป็นคนอายุมากที่คิดจะเกษียณแล้ว
แล้วนำเงินเก็บมาเล่นหุ้นโดยที่มีความรู้ไม่สูงนักหรือไม่มีความรู้เลย และรับซื้อหุ้นไป แล้วหวังที่ราคาหุ้นนั้นจะขึ้นต่อ
แต่ฝั่งเราซึ่งเป็นผู้ขายมีความรู้ และรู้ว่าความเสี่ยงที่หุ้นจะต้องลงในระยะสั้นถึงยาว มีโอกาสมากกว่าที่ราคาจะขึ้น
และในที่สุดราคาหุ้นนั้นก็ลดลง แปลว่ามีฝ่ายขาดทุนขึ้นแล้ว
นั่นแปลว่าเราได้กำไรจากคนที่มีอายุมากโดยบังเอิญและคนอายุมากก็ขาดทุนและคงต้องลำบากขึ้นแน่ถ้าจะต้องหาเงินใหม่เพื่อดูแลตัวเองเพราะ เข้าวัยเกษียณและความสามารถในการหาเงินลดลง
ซึ่งถามว่าเราอยากได้กำไรจากคนแบบคนสูงอายุแบบนี้หรือไม่ เราคงตอบกันว่าไม่อยากแต่มันบังเอิญ
แทนที่เราจะช่วยคนเหล่านี้ให้มีความรู้และใช้เงินที่มีอย่างจำกัดให้เป็นความมั่นคง กลับไปได้กำไรจากเขาอีกโดยบังเอิญ
จึงมองภาพได้ว่า มักมีคนได้กำไร หรือขาดทุนตลอดในการเล่นด้านราคา ซึ่งผู้มีความรู้อาจมีโอกาสได้มากกว่าเสีย
และผู้ไม่มีความรู้ ก็มีโอกาสเสียมากกว่าได้ ในระยะยาว วงจรได้เสีย ก็หมุนไปเรื่อยๆ
ทุกคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า win win มาบ้าง แต่จะมีวิธีนั้นในตลาดหุ้นหรือไม่
ผมก็ยังหาไม่เคยเจอเหมือนกัน แต่เคยเห็นการทำให้วงจรได้เสียหมุนช้าลง
การลงทุนในหุ้น ให้เหมือนซื้อธุรกิจ และเราเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นวิธีหนึ่ง
น่าเชื่อมั้ยเนี่ย
เมื่อเราซื้อหุ้นเพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจ วงจรได้เสียจะช้าขึ้น เพราะสิ่งที่เรากำลังต้องการไม่ใช่ส่วนต่างด้านราคา
แต่เมื่อเราต้องการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของธุรกิจ สิ่งที่เราต้องการคือผลของการดำเนินงานจริงๆ
ซึ่งผลการดำเนินงานก็จะมาจากการทำธุรกิจจริงๆ และส่วนใหญ่ธุรกิจที่เป็นที่ต้องการของสังคมถึงสามารถดำรงอยู่ได้
นั่นดูเหมือนว่าธุรกิจส่วนใหญ่ที่ดีก็จะสร้างประโยชน์ แก่สังคมไม่มากก็น้อย และได้กำไรเป็นผลตอบแทน
ซึ่งก็จะออกมาในรูปผลดำเนินงาน และปันผลส่วนหนึ่งให้กับเจ้าของบริษัท
ดังนั้น รูปแบบนี้ผลประโยชน์ที่เราแสวงหาเกิดจากการทำงานจริง ของบริษัทที่เราซื้อหุ้นนั้น
ถึงแม้เราจะยังคงต้องซื้อขายหุ้นอยู่ดี แต่วงจรได้เสียก็เกิดน้อยลงมาก